[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 05 ตุลาคม 2564 16:18:12



หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๖๖ อุมมาทันตีชาดก : นางผู้ทำให้ชายเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 ตุลาคม 2564 16:18:12


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg)

พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๖๖ อุมมาทันตีชาดก
นางผู้ทำให้ชายเป็นบ้า

          พระกุมารสีวี ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติต่อจากพระบิดาในแคว้นสีวี พระองค์ทรงแต่งตั้งอภิปารกะลูกชายของเสนาบดีที่ร่ำเรียนหนังสือด้วยกันมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก
           อุมมาทันตี เป็นบุตรสาวของเศรษฐีติริฏิวัจฉะ แห่งพระนครสีวี นางมีรูปร่างหน้าตาสวยงามยิ่งนัก ปานเทพยาดาบนชั้นฟ้า ใครได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเธอถึงกับเพ้อไปทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
          เศรษฐีผู้เป็นบิดาของนางอุมมาทันตี ไปเข้าเฝ้าพระราชาให้ส่งพราหมณ์ไปที่บ้านของตน เพื่อทำนายลักษณะและอัตถีรัตนะ แล้วถ้าพระองค์มีความประสงค์ก็จะยกลูกสาวให้
          พระราชาจึงส่งพราหมณ์ไปยังบ้านเศรษฐี พอพวกพราหมณ์เห็นนางเข้าเท่านั้น ก็เกิดอาการลุ่มหลงแทบจะเป็นบ้า แสดงท่าทางน่าเกลียดต่างๆ 
          นางจึงให้คนใช้ไล่พราหมณ์ออกจากบ้านไป เมื่อพวกพราหมณ์ถูกไล่ก็เกิดความอับอายและโกรธอุมมาทันตี กลับไปกราบทูลพระราชาว่า “นางอุมมาทันตี เป็นหญิงกาลกิณี ไม่คู่ควรแก่พระองค์เลย”
          พระราชาไม่ได้ตรัสอะไร และก็มิได้คิดสนพระทัยนางอีกเลย
          อุมมาทันตี ทราบว่าถูกพราหมณ์ใส่ร้ายว่าเป็นกาลกิณี ทำให้ตนอดเป็นราชินี จึงผูกใจเจ็บพวกพราหมณ์และพระราชา
          ต่อมาบิดาของนางได้ยกนางให้กับเสนาบดีอภิปารกะ นางเป็นหญิงที่เสนาบดีชอบพอเหลือเกิน อยู่มาวันหนึ่ง มีงานมหรสพในพระนคร เสนาบดีได้สั่งอุมมาทันตีว่า “วันนี้พระราชาจะเสด็จมาทางบ้านของเรา น้องอย่าให้พระราชาเห็นหน้านะ ถ้าเกิดเห็นแล้วอาจเป็นบ้าไปก็ได้”
          เมื่อเสนาบดีไปแล้ว นางสั่งคนรับใช้ว่าถ้าพระราชาเสด็จมาถึงให้บอกด้วย
          ครั้นถึงตอนเย็น พระอาทิตย์ได้ลับฟ้า พระจันทร์ลอยเด่นมาแทนที่ พระนครตกแต่งประดับประดาดูสวยงาม ไฟสว่างไสวทุกทิศ
          พระราชาประดับตกแต่งเครื่องอิสริยยศอลังการ แวดล้อมด้วยหมู่อำมาตย์ขุนนาง ทรงเสด็จเลียบพระนคร ด้วยเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ และได้เสด็จมาถึงเรือนของเสนาบดีอภิปารกะ
          นางหญิงรับใช้ได้แจ้งให้นางอุมมาทันตีทราบ
          นางให้คนรับใช้ จัดเตรียมดอกไม้ให้แล้วยืนพิงหน้าต่าง โปรยดอกไม้ใส่พระราชา
พระราชามองเห็นนางเกิดความหลงใหลอย่างรุนแรง ไม่อาจจะดำรงสติไว้ได้ จึงตรัสถามคนขับรถว่า “เรือนหลังนี้ของใครหนอ หญิงผู้นี้เป็นลูกสาวใคร มีผู้หวงแหนหรือไม่”
          พนักงานขับรถทูลว่า “นางเป็นภริยาของเสนาบดีอภิปารกะ ชื่อว่า อุมมาทันตี”
          นางอุมมาทันตีรู้ว่าพระราชาทรงพระทัยหวั่นไหวแล้ว จึงปิดหน้าต่างกลับเข้าบ้านไป
พระราชาไม่มีแก่ใจจะเสด็จต่อ รับสั่งให้คนขับรถพากลับตำหนักทันที และทรงเพ้อถึงนางอุมมาทันตีตลอดเวลา
          พอเสนาบดีทราบเรื่องจากเจ้าหน้าที่ก็กลับบ้านไปถามภริยาว่าได้แสดงตัวให้พระราชาเห็นหรือเปล่า
          นางอุมมาทันตียอมรับ   
          เสนาบดีกล่าวว่า “เกิดเรื่องวุ่นวายแน่คราวนี้”
          รุ่งเช้าเสนาบดีเข้าเฝ้าพระราชา กราบทูลจะถวายนางให้แก่พระองค์ และบอกให้พระราชารับไว้
          พระราชาทรงยอมรับว่าหลงใหลได้ปลื้ม แต่จะไม่รับนางมา เพราะไม่อยากให้คนตำหนิ และไม่อยากทำผิดหลักธรรมของราชา ทรงยืนยันจะเป็นพระราชาที่ดี ไม่ให้ใครตำหนิได้ และจะขอดำรงในพระราชาธรรมต่อไป
 

นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“เป็นผู้นำที่ดี ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง”

พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เอวเมว มนุสฺเสสุ โย โหติ เสฏฺฐสมฺมโต
โส เจ อธมฺมํ จรติ ปเคว อิตรา ปชา

ในหมู่มนุษย์ก็เหมือนกัน
ถ้าผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นใหญ่ประพฤติไม่เป็นธรรม
ปวงประชาที่เหลือก็จะประพฤติไม่เป็นธรรมไปด้วย (๒๗/๖๓๕)