|
หัวข้อ: ความเห็น..............? เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 ธันวาคม 2552 09:15:03 (http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/26%20july%202007/IMG-0025.jpg)
ถ้าความเห็นนั้นไม่ตรงตามความเป็นจริงชื่อว่าเห็นผิด (:-_-:)มิจฉาทิฏฐิเพราะ............................. ความจริง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีปัจจัยหลายอย่างแม้แต่รูปยังมีสมุฏฐานให้เกิดถึง 4 ประเภท.............คือ..............เกิดจากกรรมก็มีเกิดจากอุตุก็มีเกิดจากจิตก็มีเกิดจากอาหาร ก็มี ส่วนนามธรรมก็มีปัจจัยเป็นจำนวนมากทำให้เกิดขึ้นเช่นเหตุปัจจัยอารัมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย เป็นต้น (:88:)ยังไม่มีตัวอย่างในขณะนี้แต่ถ้าพิจารณา แล้วก็รู้ได้ว่าเห็นไม่ตรงตามความเป็นจริง ไม่มีทางเป็นความจริงได้เพราะอดีตก็ล่วงไปแล้ว ดับไปหมดแล้ว ส่วนอนาคตก็ยังไม่เกิดขึ้นขณะนี้มีสภาพธรรมกำลังปรากฏให้ศึกษาให้พิสูจน์ ว่าเป็นเพียงธัมมะอย่างหนึ่งเท่านั้น ขออธิบายธรรมะง่ายๆ การที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่างนั้นควรมีความไม่ประมาท คือการทำกุศลความดีต่าง ๆ เช่นการให้ (:LOVE:) ทาน (:LOVE:)ก็ถือว่า ทำสิ่งที่ไม่ประมาท คือการสละทรัพย์ของตนเองในการบริจาคทาน การรักษาศีลก็ถือว่าเป็นกุศลอย่างหนึ่ง การเจริญภาวนาที่กล่าวมาถือว่าเป็นการทำกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาแต่ไม่สามารถทำ ให้ออกจากสังสารวัฏได้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ให้ประมาท ธรรมะขั้นสูงคือวิปัสสนาสามารถทำให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏได้ แต่ว่าการที่จะให้หลุดพ้นไปได้นั้นต้องมีการสะสมไปเรื่อยๆ จนกว่ากุศลในด้านวิปัสสนา พร้อมที่จะให้หลุดพ้นแล้ว เปรียบเหมือน มีแท้งค์น้ำถังหนึ่งสูงประมาณยอดเขาหิมาลัย มีความกว้างประมาณ 100 โยชน์[/color] หัวข้อ: Re: ความเห็น เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 ธันวาคม 2552 09:18:23 (http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/26%20july%202007/IMG-0025.jpg)
มีหยดน้ำหยดลงมาใส่ถังน้ำ ต้องมีการสะสมมาเป็นหลายพันปีกว่าจะเต็ม วิปัสสนา (:LOVE:)ก็เช่นกัน (:LOVE:)ก็ต้องมีการสะสม ถึงแม้ว่าชาตินี้จะยังไม่ถึงนิพพานแต่กุศล ที่ได้สะสมมานั้น ก็เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดการสะสมต่อไป จนกว่าจะเต็มบางท่านอย่าคิดว่าเจริญวิปัสสนามานานแล้ว ทำไมถึงยังไม่ได้ผลสักทียกตัวอย่างเช่น............................................. องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบำเพ็ญบารมีมา 20 อสงไขย (:PL:)กำไรแสนกัป โดยนับตั้งแต่ท่านได้คิดในใจโดยไม่บอกใคร ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าจนได้รับพุทธพยากรณ์ นานถึงขนานนี้ ต้องใช้เวลานานมากๆ ฉะนั้นจึงควรที่จะสะสมบารมีไม่ว่าจะเป็นการฟังธรรม การเจิญวิปัสสนาก็ถือว่าเป็นการสะสมทั้งนั้น อย่าไปท้อแท้กับการทำกุศล (:LOVE:)สักวันหนึ่งหรือชาติหนึ่งเราอาจจะนิพพานก็ได้ และไม่รู้อีกว่าชาติก่อนนั้นเราได้สะสมบารมี ในการเจริญวิปัสสนา มามากน้อยแค่ไหนไม่แน่ ถ้าเราเจริญปัญญไปเรื่อยๆเราอาจจะเป็น ผู้รู้ในธรรมะคนหนึ่งก็เป็นได้อย่าเพิ่งดูถูกตัวเองว่าการศึกษาธรรมะยากเกินไปสำหรับเรา เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราสะสมปัญญามาขนาดไหน ไม่แน่อาจจะสะสมมาเยอะอาจจะเป็นผู้รู้ฉานในธรรมก็ได้ ความรู้ทางโลกกับทางธรรมนั้นต่าง ๆ กัน บางคนไม่มีความรู้ทางโลกเรียนหนังสือก็ไม่เก่งสอบได้ที่โหล่ (:HIT:) การศึกษาก็จบแค่ปประถม 2 แต่เก่งธรรมะก็มี (:LOVE:) หัวข้อ: Re: ความเห็น เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 ธันวาคม 2552 09:20:48 (http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/26 july 2007/IMG-0025.jpg)
(:LOVE:)ฉะนั้นอย่าคิดว่าการศึกษาพระอภิธรรมนั้นยากเกินไปสำหรับเรา ถ้าเราไม่ได้ศึกษาธรรมะเจริญวิปัสสนาแล้ว ก็จะไม่มีการสะสมเลย ถึงแม้เราจะศึกษาถึงจะยังไม่เข้าใจแต่ว่า ก็เป็นการสะสมฉะนั้นถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง (:LOVE:) Chinese Buddhist Morning Ceremony 佛教 早課 (5) (http://www.youtube.com/watch?v=bOAnPYAP1xA#) |