[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
07 พฤษภาคม 2567 04:06:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เกาะขอบสนามฟุตบอลพีเมียร์ลีก "ศึกแดงเดือด" : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด & ลิเวอร์พูล  (อ่าน 11309 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5472


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 31 มีนาคม 2557 18:22:27 »

.

บรรยากาศเกาะขอบสนามโอล์ดแทรฟฟอร์ด


บินลัดฟ้า...เกาะขอบสนามฟุตบอลพีเมียร์ลีก (Premier League)
ศึกแดงเดือด
ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด & ลิเวอร์พูล
ณ สนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ถ่ายภาพ : Kimleng

หลังจากฟุตบอลถือกำเนิดอย่างเป็นทางการในอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๙ ประเทศต่างๆก็จัดการแข่งขันระหว่างกันเพื่อเชี่อมสัมพันธไมตรี กระทั่งวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๗ เริ่มมีการก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า และในปี พ.ศ. ๒๔๖๓ เมื่อจูลส์ ริเมต์  นายกสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสได้รับตำแหน่งประธานฟีฟ่า ก็เริ่มมีการพูดคุยถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างจริงจัง และได้ฤกษ์เบิกโรงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ซึ่งถือว่าจูลส์ ริเมต์ มีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนให้มีการจัดฟุตบอลโลก และถ้วยบอลโลกก็ตั้งชื่อว่า จูลส์ ริเมต์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ผลักดันคนสำคัญนั่นเอง

ฟุตบอลโลกครั้งแรกจัดที่ประเทศอุรุกวัย ทีมเจ้าภาพคว้าแชมป์โลกมาครองชนะอาร์เจนตินาไป ๔-๒ ประตู
...นสพ.ข่าวสด


   

ด้านนอกสนามโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด ก่อนการแข่งขัน

ประวัติสนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ด
เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

ย้อนกลับไปกว่าหนึ่งศตวรรษที่แล้ว “แทร็ฟฟอร์ด ปาร์ค” ซึ่งตอนนั้นมีสถานะเป็นเพียงผืนดินว่างเปล่าบนนิคมอุตสาหกรรม แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค ถูกซื้อด้วยเงินจำนวน ๖๐,๐๐๐ ปอนด์ และนำมาเนรมิตให้กลายเป็นบ้านแห่งใหม่ของสโมสร สนาม “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ที่ทุกวันนี้ได้แปรสภาพเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลชั้นดีที่สุดในโลกของเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ มีความจุผู้ชมได้สูงถึงกว่า ๘๐,๐๐๐ คน และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของ “โรงละครแห่งความฝัน” หรือ “Theatre of Dream

เมื่อครั้งที่สมัยยอดทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังใช้ชื่อเดิมว่า “นิวตัน ฮีธ” พวกเขายังเป็นเพียงสโมสรฟุตบอลเล็กๆ ทีมหนึ่ง ซึ่งได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปี ๑๘๙๒ และมีสนามที่เข้าขั้นแย่ที่สุดอย่าง “นอร์ท โร้ด” ในมอนซอลล์ ซึ่งสนามมีสภาพราวกับปลักโคลก และห้องแต่งตัวก็อยู่ห่างไกลออกไปกว่าครึ่งไมล์ที่ผับ ทรีคราวน์ส

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ย้ายสนามจาก “นอร์ท โร้ด” มาสู่ “แบงค์ สตรีท” นั้น แต่ทั้งสองสนามก็มีสภาพไม่แตกต่างกันมากนัก และก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์กันว่า พื้นสนามนั้นย่ำแย่มากเช่นเดิม ด้วยเหตุนี้ ประธานสโมสร จอห์น เดวีส์ จึงได้ตัดสินใจย้ายห่างจากตัวเมืองไปอีก ๕-๖ ไมล์ ที่นั่นคือ “แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค” ย่านชานเมืองแมนเชสเตอร์

“โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” เริ่มออกมาให้ได้ยินกันเป็นครั้งแรกในระหว่างฤดูกาล ๑๙๐๙/๑๐ โดยพื้นที่ซึ่งใช้ในการสร้างสนามนั้นซื้อโดยบริษัท แมนเชสเตอร์ บริวเวอรี่ (จอห์น เฮนรี่ เดวีส์) และให้สโมสรเช่าต่ออีกที เดวีส์เองเป็นคนจ่ายเงินค่าก่อสร้างด้วยเงินจำนวน ๖๐,๐๐๐ ปอนด์ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี ๑๙๐๘ ภายใต้การควบคุมของอาร์ชิบัลล์ ลีทช์ สถาปนิกชื่อดัง เมื่อย่างเข้าปี ๑๙๑๐ สโมสรก็ขนย้ายข้าวของจากสนามเดิมที่แบงค์สตรีทเข้ามาปักหลักที่นี่แทน และเนรมิตให้กลายบ้านแห่งใหม่ของสโมสร สนาม “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด”



UNITED TRINITY
DESIGNED AND SCULPTED BY PHILIP JACKSON CVO
UNVEILED BY SIR  ALEX FERGUSON
ON
29 TH MAY 2008

ภาพมืดค่ะ ท้องฟ้าไม่เปิด อากาศหนาวจัดและมีละอองฝนเล็กน้อย

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เริ่มเปิดประตูต้อนรับแฟนบอลเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. ๑๙๑๐ แต่ก็เป็นควาทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อทีมพ่ายให้กับลิเวอร์พูล ๔-๓ ในช่วงนั้นแฟนบอลส่วนใหญ่ต้องยืนดูเกมการแข่งขัน แต่ก็ถือเป็นความสำเร็จของสนามแห่งใหม่ที่สามารถรองรับคนดูได้ถึง ๘๐,๐๐๐ คนในเกมดังกล่าว ทั้งยังเป็นสังเวียนฟาดแข้งที่ให้ความสะดวกสบาย แฝงด้วยความหรูหราโดยไม่มีสนามแห่งใดในยุคเดียวกันจะเทียบเท่าได้ ไม่ว่าจะในเรื่องเก้าอี้พับเก็บได้ มีห้องจิบน้ำชา และคนคอยบริการชี้ทาง พาไปหาที่นั่ง พร้อมทั้งยังมีห้องเล่นเกม โรงยิม และอ่างอาบน้ำขนาดยักษ์สำหรับนักเตะอีกด้วย

หลังจากรองรับฝูงชนมากหน้าหลายตามาเป็นระยะเวลา ๓๐ ปี "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" ก็ห่างหายจากเกมลูกหนังอยู่เกือบ ๑ ทศวรรษเต็มๆ รวมถึงฟุตบอลลีก ต้องหยุดชะงักหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในปี ๑๙๓๙ จากนั้นในคืนวันที่ ๑๑ มีนาคม ปี ค.ศ. ๑๙๔๑ "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" ก็ต้องพังทลายลงหลังโดนกองทัพอากาศของเยอรมัน ทิ้งระเบิดใกล้ๆ กับนิคมอุคสาหกรรม แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค ระเบิดหลายลูกตกลงที่สนาม "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" อัฒจันทร์ เมนสแตนด์ ถูกทำลายย่อยยับ เช่นเดียวกับตัวพื้นสนามก็ได้รับความเสียหายไปด้วย หลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลอังกฤษ ได้มอบเงินให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวน ๒๒,๒๗๘ ปอนด์ เพื่อบูรณะสนามขึ้นใหม่ ระหว่างนั้นเอง ทีมปีศาจแดงต้องย้ายไปเล่นที่ "เมน โร้ด" สนามของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นานถึง ๔ ปี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการสนามใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อรองรับผู้ชมจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ คน ให้ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่มีงบประมาณพอที่จะก่อสร้างได้ ซึ่งทำได้เพียงแค่สร้าง เมน สแตนด์ ขึ้นใหม่แทนที่ของเดิมที่ถูกทำลายเท่านั้น ในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ปี ค.ศ. ๑๙๔๙ ทีมปีศาจแดงได้กลับมายังถิ่นของพวกเขาอีกครั้ง ท่ามกลางฝูงชนกว่า ๔๑,๐๐๐ คน และสามารถเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ได้ในเกมนัดแรกของรอบ ๑๐ ปีที่กลับมาเล่น ณ สนามแห่งนี้

นับตั้งแต่ ปี ค.ศ. ๑๙๕๗ "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" เริ่มสว่างไสวบนเวทีลูกหนังยุโรป เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป เกมกลางสัปดาห์ซึ่งต้องเล่นในช่วงเย็น นั่นหมายถึงพวกเขาต้องมีไฟสนาม และเกมนัดแรกภายใต้แสงไฟคือก็คือเกมลีก เมื่อ ๒๕ มีนาคม ปี ค.ศ. ๑๙๕๗ ในขณะที่ทีมใหญ่อย่าง รีล มาดริด คือ ทีมแรกจากยุโรปที่มาเล่นภายใต้ไฟสนามใหม่ชั้นยอดที่นี่

นอกจากนั้น แฟนบอลรุ่นเก๋าคงยังจำได้ดีถึงความรู้สึกที่เปียกปอนไปด้วยเม็ดฝนพร้อมๆ กับนักเตะในสนาม เพราะอัฒจันทร์ "สเตรตฟอร์ด เอนด์" ชื่อดัง ไม่มีแม้หลังคาไว้บังแดดบังฝน จนกระทั้งใน ปี ค.ศ. ๑๙๕๙ การจัดแข่งขันฟุตบอลโลก ณ สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำให้สนามได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้นในช่วงยุค ๖๐ อัฒจันทร์แบบแคนติลิเวอร์ (แบบอย่างต้นกำเนิดของอัฒจันทร์ในปัจจุบันที่ไม่ต้องใช้เสาค้ำยันให้บังทัศนียภาพในเกมการแข่งขัน) ถูกเปิดใช้ใน ปี ค.ศ. ๑๙๖๔ ด้วยงบประมาณในก่อสร้าง จำนวน ๓๕๐,๐๐๐ ปอนด์ ขณะที่แฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเพิ่มมากขึ้นตามความจุของสนาม

ใน ปี ค.ศ ๑๙๙๒ ประเพณีการยืนเชียร์เกมการแข่งขันฝั่ง "สเตรตฟอร์ด เอนด์" มาถึงจุดสิ้นสุดลง เมื่อมันถูกบูรณะใหม่และแทนที่ด้วยเก้าอี้นั่ง จนกระทั่งใน ปี ค.ศ. ๑๙๙๔ สนาม "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" ก็กลายเป็นสนามที่นั่งทั้งหมดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยที่ความจุสำหรับแฟนบอลกลับลดลงไป ดังนั้นความจุแค่ ๔๓,๐๐๐ ที่นั่ง ย่อมไม่เพียงพอแน่ต่อความต้องการของแฟนบอลที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้ อัฒจันทร์ฝั่งนอร์ท สแตนด์ ก็ถูกปรับปรุงใหม่ในฤดูกาล ๑๙๙๕/๙๖ ถึงตอนนั้นความจุของสนามเท่ากับ ๕๖,๓๘๗ ที่นั่ง แต่มีแฟนบอลอีกจำนวนหนึ่ง ไม่พอใจเกี่ยวกับสแตนด์ใหม่นี้กับความสูงในระดับ ๔๘ เมตร



ในปัจจุบัน ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสนามใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ๒๘ ล้านปอนด์  ยูฟ่า ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมเกมฟุตบอลของยุโรป เรียก "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" ว่าเป็นสนามที่ดีที่สุดในอังกฤษ และใช้รองรับเกมการแข่งขันฟุตบอลยูโร ๙๖ ถึง ๕ นัด แต่ด้วยความสำเร็จในช่วงทศวรรษที่ ๙๐ จำนวนแฟนบอลที่ต้องการเข้าชมเกมมีมากขึ้น ปลายฤดูกาล ๑๙๙๙/๒๐๐๐ อัฒจันทร์ฝั่ง อีสต์ สแตนด์ ได้ถูกปรับปรุงใหม่จนสามารถเพิ่มความจุผู้ชมเป็น ๖๑,๐๐๐ ที่นั่ง หลังจากนั้นต้นฤดูกาล ๒๐๐๐/๐๑ อัฒจันทร์ฝั่ง สเตรตฟอร์ด เอนด์ ก็ได้ถูกปรับปรุงใหม่เช่นกันโดยเพิ่มที่นั่งเป็น ๒ ชั้น จนกระทั่งปัจจุบันความจุของสนามสุทธิคือ ๖๘,๒๑๗ ที่นั่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสโมสรฟุตบอลทั้งหมดในเกาะอังกฤษ

แม้จะครองสถิติเป็นสนามที่มีความจุใหญ่ที่สุดบนเกาะอังกฤษในปัจจุบัน แมนเชนเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังมี แผนการขยายความจุผู้ชมของสนาม "โอล์ด แทรฟฟอร์ด" ในอนาคตให้เป็น ๙๐,๐๐๐ ที่นั่ง ที่มุมสนามทั้ง ๒มุม ของอัฒจันทร์ฝั่ง นอร์ท สแตนด์ ต่อกันกับ สเตรตฟอร์ด เอนด์ และ อีสต์ สแตนด์ โดยที่อัฒจันทร์ฝั่ง เซาธ์ สแตนด์ แต่การขยายความจุนั้นต้องถือว่าเป็นไปได้ยากเพราะอยู่ใกล้กับทางรถไฟ ซึ่งเคยมีผู้เสนอให้ขยายโดยสร้างอัฒจันทร์ชั้นที่ ๓ คร่อมทางรถไฟ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมสมัยใหม่และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนแฟนบอลที่เพิ่มขึ้นมากมายจากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างปรารถนาจะมาชมเกมการแข่งขัน ณ โรงละครแห่งความฝัน ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นรูปลักษณ์ใหม่ของ "โอล์ด แทร็ฟฟอร์ด" ในอนาคต ที่อาจเป็นสนามฟุตบอลแห่งแรกในโลกที่มีอัฒจันทร์คร่อมรางรถไฟก็เป็นได้
 ...ข้อมูล www.glory-manutd.com

บอลยูโร-บอลโลก
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งจะมีแข่งกันแต่ในทีมชาติของทวีปยุโรปเท่านั้น ผู้จัดการแข่งขันก็คือ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือยูฟ่า  ส่วนบอลโลกจะมีทีมชาติจากทุกทวีปเข้าร่วม เช่น จากเกาหลีใต้ บราซิล ไนจีเรีย ฝรั่งเศส เป็นต้น ซึ่งทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เป็นผู้กำหนดโควต้า ว่าจะให้แต่ละทวีปคัดทีมเข้าแข่งขันได้กี่ทีม

ที่สับสนอาจเป็นเพราะยูฟ่า จัดการแข่งขันรายการใหญ่อีก ๒ รายการ คือ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” และ “ยูฟ่า คัพ” ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างสโมสรของทีมต่างๆในยุโรป ในสโมสรต่างๆ ในยุโรปเหล่านี้ จะมีนักเตะต่างทวีปร่วมทีมอยู่ด้วย เช่น จากบราซิล อาร์เจนตินา หรือญี่ปุ่น จึงทำให้มีบรรยากาศสหประชาชาติแบบบอลโลก

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร เกิดจากไอเดียของเลขาธิการสมาคมยูฟ่า เป็นชาวฝรั่งเศสชื่อนายอองรี เดอโลเนย์  เสนอให้จัดทุก ๔ ปี โดยเว้นช่วงให้ห่างจากบอลโลก ๒ ปี  แต่ไม่ทันที่นายเดอโลเนย์จะได้เห็นการแข่งขันที่เป็นรูปร่าง เจ้าตัวชิงลาโลกไปก่อนในปีค.ศ. ๑๙๕๗ ส่วนการแข่งขันฟุตบอลยูโรมาเปิดสนามนัดปฐมฤกษ์เอาเมื่อปี ๑๙๖๐ ปีนั้นเรียกว่าถ้วยยูโรเปี้ยน เนชั่นส์ คัพ มีทีมชาติแค่ ๔ ทีมที่เข้าแข่งขันรายการนี้ได้แก่ สหภาพโซเวียต ฝรั่งเศส เชกโกสโลวะเกีย และยูโกสลาเวีย



บรรยากาศระหว่างการแข่งขันฟุตบอลพีเมียร์ลีก
ณ สนามโอล์ดแทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗
ปัจจุบันสนามแห่งนี้มีที่นั่งสำหรับผู้เข้าชม ๗๖,๐๐๐ คน
ระบบการบริหารการจัดการหลังการแข่งขัน สามารถระบายผู้คนออกจากสนาม
ที่มีประตูเข้าออกรอบทิศได้หมดอย่างเรียบร้อยและรวดเร็วมาก



















สีเขียวตองอ่อน คือประตูทางเข้าออกของสนามแต่ละจุด
และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สวมใส่เสื้อคลุมสีเขียวตองอ่อนเช่นกัน








"ยิ้มแย้มแจ่มใส" สีหน้ากองเชียร์ทีมแมนเชสเตอร์ เจ้าภาพการแข่งขัน


"อารมณ์บูด" หลังทีมแมนเชสเตอร์พ่ายแพ้ทีมลิเวอร์พูล 3-0
แต่ยังเก็บกิริยาตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ


บัตรเข้าชมฟุตบอล ๑ ที่นั่ง ราคา ๒๐,๐๐๐ บาท
ต้องจองล่วงหน้า มิฉะนั้นจะไม่ได้เข้าชมเพราะจำนวนผู้ประสงค์เข้าชมฟุตบอลมีมากกว่าที่นั่งในสนาม
และบัตรนี้ต้องคืนแก่เจ้าหน้าที่เมื่อออกจากสนาม
ด้านหลังบัตรระบุให้เข้าประตู N 42 Block N 3403 แถวที่ 30 ที่นั่งลำดับ 180




สถานีรถไฟความเร็วสูงที่พวกเรานั่งไปชมฟุตบอลศึกแดงเดือดที่เมืองแมนเชสเตอร์
เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงจากลอนดอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง
หากเดินทางโดยรถยนต์ธรรมดาจะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง




ร้านขายของที่ระลีกของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นเจ้าภาพและผู้ท้าชิง
ดังนั้น แม็ตซ์นี้จึงมีแต่สินค้าโลโกผีแดงจำหน่ายเท่านั้น ราคาก็แสนจะแพง แต่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า





เมืองแมนเชสเตอร์ เมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก
และเป็นเมืองที่มีสโมสรที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการฟุตบอลโลกหลายทีมด้วยกัน
เช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, และสโมสรคริกเก็ต แลงคาเชียร์ เคาน์ตี้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 กันยายน 2558 09:22:07 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5472


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 31 มีนาคม 2557 18:45:32 »

.

โลโก้ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ผีแดง)

โลโก้ปีศาจแดง ฝรั่งใช้คำว่า badge (แบดจ์) ที่แปลว่าเครื่องหมาย หรือ ตรา มากกว่าคำว่า logo ดังนั้น หากจะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ต แนะนำให้ใช้คำว่า Manchester United badge
            
ข้อมูลจากเว็บไซต์แฟนคลับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่าที่มาว่า โลโก้แรกของทีมมาจากตราของสภาเมืองแมนเชสเตอร์ ที่เป็นตราเครื่องหมายของตระกูลขุนนาง (coat of arms) ใช้เย็บติดเสื้อแข่งของสโมสรในนัดสำคัญ เช่น รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เมื่อปีค.ศ. ๑๙๖๓ และยูโรเปี้ยน คัพ ปีค.ศ. ๑๙๖๘

ในตรานี้ ตรงกลางเป็นรูปเรือใบ สื่อถึงการค้าอันรุ่งเรืองทางน้ำ ส่วนลูกโลกสื่อถึงอำนาจทางการค้าระดับโลกของเมืองอีกเช่นกัน ภายในลูกโลกถ้าส่องดีๆ จะเห็นรูปผึ้งบินว่อนอยู่ สื่อถึงผึ้งงาน ความอุตสาหะและอุตสาหกรรม เพราะการปฏิวัติอุตสาห กรรมของอังกฤษเริ่มต้นที่เมืองแมนเชสเตอร์แห่งนี้

ในตรานี้ยังมีกวางสีขาวใส่โซ่ทอง สื่อถึงความสง่างามปราดเปรื่องด้านนวัตกรรม วิศวกรรม ในขณะที่สิงโตด้านขวาใส่มงกุฎ บอกถึงประวัติศาสตร์ของเมืองที่เติบโตในยุคการตั้งถิ่นฐานของโรมันที่แคสเซิลฟิลด์ สัตว์ทั้งสองตัวมีกุหลาบแดงติดอยู่ ตอกย้ำสัญลักษณ์ของแคว้นแลงคาเชียร์

ส่วนคำขวัญที่เขียน "Consilio et Labore" หมายถึง "สติปัญญาและความพยายาม" ทำนองว่าต้องทั้งฉลาดและขยันด้วย

ต่อมาในยุค ๖๐ สโมสรออกแบบตราขึ้นเอง เป็นแนวคิดของเซอร์แมตต์ บัสบี้ ตำนานผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยคงเรือใบและโล่สีแดงคาดแถบเหลืองไว้ ให้มีชื่อ "Manchester United" ด้านบน และ "Footbal Club" ด้านล่าง

ในยุค ๗๐ สโมสรดึงเอาฉายา "ปีศาจแดง" ที่ เซอร์แมตต์ ตั้งให้สโมสรไว้ขู่คู่แข่ง มาออกแบบเป็นโลโก้ โดยใส่ลงไปกลางโล่ ดูเด่นกว่าเรือ

เซอร์แมตต์ปิ๊งชื่อ "ปีศาจแดง" จากฉายาที่สื่อฝรั่งเศสตั้งให้ทีมรักบี้ ซาลฟอร์ด ซิตี้ เรด ของแมนเชสเตอร์ ช่วงไปทัวร์ที่ฝรั่งเศส ว่า Les Diables Rouges (เลส์ ดิอาบส์ รูจส์) หรือ The Red Devils นั่นเอง

ในปี ค.ศ. ๑๙๗๒-๗๓ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ตรานี้ติดบนเสื้อแข่งถาวร และจะติดตราเดิมของสภาเมืองแมนเชสเตอร์เพิ่มไปด้วยในเสื้อทีมที่ลงแข่งชิงชนะเลิศถ้วยต่างๆ

ตราดังกล่าวใช้มานาน ๒๘ ปี จนกระทั่งถึงกลางยุค ๘๐ บริษัทอาดิดาส ผู้ผลิตเสื้อให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนั้นปรับใส่รองเท้าเตะลงไปคู่หนึ่ง แต่ใช้อยู่ไม่นานก็กลับมาเป็นแบบเดิมไนเต็ด

จนปี ค.ศ. ๑๙๙๘ สโมสรปรับโลโก้อีกนิด เอาคำว่า "Football Club" ด้านล่างออก และแบ่งใช้คำว่า "United" จากด้านบนลงไปแทน เพราะเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องบอกว่า นี่คือสโมสรฟุตบอลอีกแล้ว ในเมื่อชื่อเสียงของ Manchester United โด่งดังจนรู้จักไปทั่วโลกแล้ว
... ข้อมูล นสพ.ข่าวสด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 กันยายน 2558 16:54:28 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ไทยรัฐ] - "คลอปป์" คอนเฟิร์ม "ลิเวอร์พูล" ไร้ 3 แข้งดัง เกมดวล เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 433 กระทู้ล่าสุด 05 มีนาคม 2565 11:41:30
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - ภาพมันฟ้อง "แม็คไกวร์" โดนจับผิดทำ แมนยูฯ พ่ายยับ ลิเวอร์พูล ศึกแดงเดือด
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 206 กระทู้ล่าสุด 21 เมษายน 2565 03:02:57
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - สาวก "ผีแดง" รุ่นเยาว์ โชว์ทรงผมเพื่อเกม “แมนยูฯ” บู๊ “ลิเวอร์พูล” ศึกแดงเดือ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 180 กระทู้ล่าสุด 12 กรกฎาคม 2565 17:57:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - คลอปป์จะไหวมั้ย "ลิเวอร์พูล" ระส่ำไร้ 7 แข้งดังก่อนบุกรัง "แมนยูฯ" ศึกแด
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 151 กระทู้ล่าสุด 18 สิงหาคม 2565 21:22:47
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - ลิเวอร์พูลระวังไว้ "เทน ฮาก" เผยข่าวดีก่อน แมนยูฯ ฉะ ลิเวอร์พูล ศึกแดงเดือด
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 141 กระทู้ล่าสุด 20 สิงหาคม 2565 08:55:00
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.859 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 26 มีนาคม 2567 06:28:14