[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ => ข้อความที่เริ่มโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2555 02:27:23



หัวข้อ: ฟังทางนี้ สามีมีเมียน้อย บริหารความรักให้ได้ แก้ไขปัญหาให้ถูกทาง
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2555 02:27:23
ฟังทางนี้ สามีมีเมียน้อย บริหารความรักให้ได้ แก้ไขปัญหาให้ถูกทาง

(http://images.thaiza.com/29/29_20101207162459..jpg)

เผอิญอ่านข้อเขียนของน้องมาลีหรือไรนี่ ปรึกษาว่า สามีไปมีเมียน้อยเป็นนักศึกษาฝึกงานแล้วแอบได้เสียกันแล้วฝ่ายหญิงไปเมืองนอกแป๊ปเดียวกลับมา ดันมาสมัครงานในสถานที่สามีเป็นเจ้านายอยู่ด้วยจะทำใจอย่างไร...

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าสงสารและเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง "สำหรับลูกผู้หญิง"

หากถือคติ "เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร" ก็มีหวังเกิดทุกข์ใหญ่หลวงแน่ๆ ในครอบครัวและสังคม
หากถือคติ "แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้" ก็น่าจะเข้าหลัก "เมตตา" ได้
หากถือคติ "ไม่ซื่อสัตย์ ไม่รักเราคนเดียวฯลฯ" ก็อาจจะเกิด... ไม่ฝ่ายชายตายเพราะฝ่ายหญิงฆ่า
ก็ฝ่ายหญิงฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจในวาสนาของตนเอง หรือเกิดการหย่าร้าง ฯลฯ

นี่ถ้าใช้ฆาราวาสธรรม ธรรมสำหรับผู้ครองเรือนแล้วอาจจะสุขได้ แต่บางครั้งใช้ก็ได้กับบางคน บางครอบครัวเท่านั้นแต่เรื่องแบบนี้ แทบจะร้อยทั้งร้อยจะเกิด "ทุกข์" ต่างๆนาๆ ทั้งสิ้น มันน่าจะเกิดจากกระบวนการหล่อหลอมทางสังคมของชายไทยที่มีคตินิยมมีเมียน้อยเพราะแสดงอำนาจบารมีเหมือนระบบศักดินาสมัยก่อน เหมือนระบบโชกุน เหมือนระบบฮ่องเต้ที่นิยมมีเมียน้อย มีสนม มีข้าทาสบริวาร

สังคมดั้งเดิมที่ถูกถ่ายทอดกันมาเยี่ยงนี้มันยังไม่จางหายไป ชายไทยยังคงยึดมั่นถือมั่นกันอยู่อย่างนี้เป็นส่วนใหญ่ เป็นการถ่ายทอด "พันธุกรรม" หรือ "กรรมทางเผ่าพันธ์" นั่นเอง ส่วนคตินิยมของฝ่ายหญิงที่ถูกถ่ายทอดมาคือ "การเป็นช้างเท้าหลัง" ยอมให้ชายที่ออกรบเป็นใหญ่ส่วนตัวเองอยู่บ้านเลี้ยงลูกไกวเปล

ซึ่งต่อมาก็เปลี่ยนสิทธิสตรีเป็นมือก็ไกว ดาบก็แกว่ง คือเริ่มออกทำงานนอกบ้านบ้าง...
ดังนั้นพอปัญหาทางเศรษฐกิจรุมเร้า ทั้งชายและหญิงต่างก็ต้องออกหางานทำทั้งคู่ในสังคมความสัมพันธ์ก็เริ่มมีโอกาสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ตัวคตินิยมเอย ตัวแรงขับทางเพศที่มีพลังมากกว่าศีลธรรมจรรยาก็ผลักดันทำให้ทั้งคู่สร้าง "กรรมร่วมกัน" ขึ้นมา ซึ่งถ้าเป็นโสดต่อโสดก็ยังพอว่า แต่ดันกลายเป็นไม่โสดกับโสด ไม่โสดกับไม่โสดฯลฯ เรื่องคู่ผัวตัวเมียจึงเกิดปัญหาตามมาดังกล่าว

วิธีทำใจนั้นเป็นสิ่งสุดท้าย..แต่วิธีพูดจากันคือสิ่งแรกว่า..
ต้องไม่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน เช่นการแบ่งปันทรัพย์สิน มรดก เวลา แบ่งปันความรัก ความสุขทางเพศ ความสุขกับครอบครัวลูกเต้าต่างๆ การส่งเสียครอบครัวลูกเต้าการศึกษา ฯลฯ แต่ถ้าทำไม่ได้ตามนี้ ก็เชื่อว่าเกิดทุกข์ด้านต่างๆแน่นอน

อันที่จริงเรื่องของความรักนี้ถ้าจะใช้วิธีคิดที่ว่า...
"เมื่อเรา รัก ใครคนหนึ่งแล้ว เราต้องทุ่มใจรักให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หมายความว่าคนรักสามารถตอบสนองเราได้แค่ 80 เปอร์เซ็นต์ ขัดใจเรา 20 เปอร์เซ็นต์ เช่นการมีชู้ แต่การขัดใจนั้น ก็ไม่สามารถลบความรักที่เหลืออีก 80 เปอร์เซ็นต์ได้เลย เราคงยังรักเขาอยู่ใน 80 เปอร์เซ็นต์นั่น เพราะรักนั้นต้องครอบคลุมทุกมิติของความรักและความทุกข์ใน 100 เปอร์เซ็นต์ของดวงใจรักหากเราเอา 20 เปอร์เซ็นต์มาเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อนั้นชีวิตรักครอบครัวเป็นทุกข์ ใช้หลักเมตตาให้ใน 20 เปอร์เซ็นต์ของความชั่วของคนรักของเราจะดีกว่า"

นี่คือวิธีใช้หลักเมตตาแก้ความรักที่เป็นสมุทัยในใจดังนี้แล...