4 องค์กรสิทธิ์เรียกร้องรัฐบาล ‘เศรษฐา’ แก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนคดีการเมือง แก้ม.112
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-09-05 14:47</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพโดย แมวส้ม ประชาไท</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>4 องค์กรสิทธิ์มีจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเศรษฐาเพื่อเร่งดำเนินการแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งการยกเลิกคดีการเมือง แก้ไขม.112 และกฎหมายละเมิดสิทธิอื่นๆ เตรียมการยกเลิกโทษประหาร โดยหวังว่าไทยจะได้รับการเลือกเข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น</p>
<p>5 ก.ย.2566 เว็บไซต์ของ
สหพันธ์สากลเพื่อสิทธิมนุษยชน (International Federation for Human Rights-FIDH)เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสินร่วมกับอีก 3 องค์กรคือ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.), โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อประชาชน (iLaw), และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินงานแก้ไขและดำเนินการใน 10 ประเด็นสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน เช่น ปัญหาการละเมิดสิทธิประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่กำลังเผชิญปัญหาการถูกดำเนินคดีและถูกคุมขัง การยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 การลดความแออัดในเรือนจำ และการลดการใช้โทษประหารและดำเนินการเพื่อยกเลิกต่อไป</p>
<p>จดหมายระบุว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมุนษยชนที่มีอยู่ได้และความล้มเหลวเช่นนี้ส่งผลให้สถิติด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยเลวร้ายลงอย่างมาก จนกระทบต่อการเข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในวาระปี 2558-2560 ที่ประเทศไทยไม่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก</p>
<p>ในจดหมายยังระบุอีกว่าข้อเรียกร้องทั้ง 10 ประเด็นนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยมักจะได้รับจากกลไกสหประชาชาติเพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านม โดยประเด็นทั้งหมดมีดังนี้</p>
<ol>
<li>ดำเนินการให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนและปลอดภัย ปลอดจากการข่มขู่ คุกคาม และการตอบโต้ไม่ว่าในรูปแบบใด ต่อองค์กรภาคประชาสังคม, นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และผู้ที่ใช้หรือพยายามใช้สิทธิอันชอบธรรมของตน เพื่อการ แสดงออกอย่างเสรีและการชุมนุมอย่างสงบ </li>
<li>ยกเลิกการดำเนินคดีต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชน, นักกิจกรรม และผู้ประท้วง รวมทั้งเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมทั้งให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังโดยพลการ เนื่องจากการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพด้านการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ</li>
<li>ดำเนินการสอบสวนอย่างรอบด้าน ไม่ลําเอียง และเป็นอิสระต่อข้อกล่าวหาว่ามีการสังหารนอกกระบวนการกฎหมาย, การทรมาน และการบังคับให้สูญหาย</li>
<li>ประกันให้มีการคุ้มครองผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาภัย และงดเว้นจากการจับกุมคุมขัง และส่งกลับพวกเขาไปยังประเทศ อันเป็นภูมิลําเนา บนพื้นฐานความตั้งใจที่จะเข้าเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัย พ.ศ. 2494 และพิธีสารเลือกรับ พ.ศ. 2510 </li>
<li>แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เป็นปัญหา รวมทั้งมาตรา 112 และกฎหมายหมิ่นประมาททางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา, พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มี เนื้อหาสอดคล้องกับพันธกรณีและมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ </li>
<li>ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อลดความแออัดของเรือนจํา, ประกันให้ผู้ต้องขังได้รับการปฏิบัติอย่างมี มนุษยธรรมและศักดิ์ศรี และปรับปรุงสภาพการกักขังทั่วประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกําหนดมาตรฐานขั้นต่ำของ สหประชาชาติสําหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (ข้อกำหนดเนลสัน แมนเดลา”) และข้อกำหนดสหประชาชาติว่าด้วยการ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจํา มิใช่การคุมขังสําหรับผู้กระทําผิดหญิง (ข้อกำหนดกรุงเทพ)</li>
<li>เน้นย้ำข้อห้ามอย่างเบ็ดเสร็จต่อการใช้การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย รวมทั้งในบริบทของพื้นที่จังหวัดชายแดนได้ จัดตั้งกลไกอิสระเพื่อป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลสูญหาย และเพิ่มการอบรมเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อให้เกิดการเคารพอย่างจริงจังต่อหลักสิทธิมนุษยชน </li>
<li>ดำเนินการตามความตกลงชั่วคราวเพื่อยุติการประหารชีวิต โดยมีความมุ่งหมายเพื่อยกเลิกโทษประหารทั้งปวงในโอกาสต่อไป </li>
<li>ยกเลิกการใช้กฎหมายความมั่นคงพิเศษ, สอบสวน และสั่งฟ้องตามข้อกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประกันไม่ให้ มีการลอยนวลพ้นผิดของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายกระทําความผิดดังกล่าว และประกันให้มีการฟื้นฟูเยียวยาอย่างเต็มที่สําหรับเหยื่อและครอบครัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ </li>
<li>ใช้มาตรการอย่างรอบด้านเพื่อประกันให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น รวมทั้งโดยการแก้ไขกฎหมายและการกระทําที่เป็นการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ และส่งเสริมให้มีตัวแทนของผู้หญิงในการ ตัดสินใจทุกระดับและทุกภาคส่วน </li>
</ol>
<p>"เราเรียกร้องให้รัฐบาลของท่าน ดําเนินการตามขั้นตอนที่สําคัญเหล่านี้ ภายใน 100 วันแรก เพื่อกําหนดให้ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบหลักของวาระด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาล และในการกําหนดกระบวนการของการนำข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อประกันให้ประเทศไทยจะได้เป็นตัวเก็งในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในวาระปี 2568-2570"</p>
<p>ทั้ง 4 องค์กรยังระบุด้วยว่าพร้อมที่จะเข้าพบเพื่อพูดคุย และหวังว่าเศรษฐาจะประสบความสําเร็จในการทําหน้าที่ทุกประการในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/09/105775