พิมพ์หน้านี้ - พบโครงกระดูกหญิง อายุกว่า 400 ปี ถูกเคียวพาดคอ คาดเป็นแวมไพร์

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79163244035508__02_Copy_.jpg)
ภาพจาก Mirosław Blicharski/Aleksander Poznań

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/91246825001306__04_Copy_.jpg)
ภาพจาก Mirosław Blicharski/Aleksander Poznań

นักโบราณคดี พบโครงกระดูกหญิง อายุกว่า 400 ปี ถูกเคียวพาดคอ คาดเป็นแวมไพร์

สุดตะลึง! นักโบราณคดี พบโครงกระดูกหญิง อายุมากกว่า 400 ปี ถูกเคียวพาดคอ คาดเป็นแวมไพร์สมัยศตวรรษที่ 17

สำนักงานข่าวต่างประเทศรายงาน นักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกของหญิงสาวในสุสานสมัยศตวรรษที่ 17 ในหมู่บ้าน Pień เมือง Toruń ในประเทศโปแลนด์ แต่ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นคือ การมีเคียวติดอยู่ที่คอและล็อกแม่กุญแจบนนิ้วเท้าซ้ายของเธอ หลังมีความเชื่อว่าจะสามารถหยุดยั้งผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ให้ฟื้นกลับมาจากความตายได้

นักโบราณคดีพบว่าผู้หญิงคนนั้นสวมหมวกไหม ขณะนั้นมีราคาแพงมาก ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าสตรีผู้นี้เคยมีสถานภาพเป็นชนชั้นสูง ที่สำคัญ เธอมีฟันที่ยื่นออกมาด้านหน้า นำไปสู่การคาดเดาว่ารูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้มาตรฐานของเธออาจทำให้คนในท้องถิ่นที่เชื่อโชคลางในศตวรรษที่ 17 ตราหน้าว่าเป็นแม่มด แวมไพร์ หรือ ผีดูดเลือด

ตามที่สมาชิกคณะสำรวจ เม็กดาเลนา ซากรอดซ์กา กล่าว การค้นพบครั้งนี้เป็นครั้งแรกสำหรับโปแลนด์ “นี่เป็นการค้นพบที่ไม่เหมือนใคร ไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน” ซึ่งทีมวิจัยจะตรวจสอบโครงกระดูกอย่างละเอียด

ศาสตราจารย์ดาเรียส โปลินสกี หัวหน้าทีมจากมหาวิทยาลัย Nicholas Copernicus กล่าวว่ารูปแบบการฝังศพนั้นผิดปกติ โดยกล่าวว่า “วิธีป้องกันการกลับมาของคนตาย ไม่ว่าจะเป็นการตัดหัวหรือขา วางผู้ตายคว่ำหน้าลงลงเพื่อให้ดินกัดเซาะ เผาพวกเขา หรือทุบพวกเขาด้วยหิน แต่ในหลุมฝังศพนี้ เคียวไม่ได้วางราบบนพื้น แต่วางพาดไว้บนคอในลักษณะที่หากผู้ตายพยายามลุกขึ้น ยกศีรษะขึ้นมาก็จะถูกคมเคียวปาดคอจนเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ”

พร้อมกล่าวเสริมว่า “นิ้วเท้าข้างซ้ายที่มีกุญแจล็อกช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทฤษฎีที่เธอถูกมองว่าเป็นแวมไพร์ในช่วงที่เธอเสียชีวิต และมีแนวโน้มว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของการจบขั้นตอน และไม่มีทางที่ร่างนี้จะฟื้นขึ้นมาได้อีก”

ทั้งนี้ มาจากความเชื่อของผู้อยู่อาศัยในยุโรปตะวันออก ที่เริ่มหวาดกลัวแวมไพร์ในศตวรรษที่ 11 โดยเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตจะหลุดพ้นจากหลุมศพ ดังนั้น ในศตวรรษที่ 17 การฝังศพที่ไม่ธรรมดาก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปทั่วประเทศโปแลนด์ ซึ่งหากใครถูกกล่าวหาว่าเป็นแวมไพร์จะถูกประหารชีวิตอย่างรุนแรง

ผู้ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เช่น การฆ่าตัวตาย มักถูกสงสัยว่าเป็นแวมไพร์ และร่างกายของพวกเขาจะต้องถูกทำลายล้างเพื่อหยุดยั้ง “การเป็นขึ้นจากตาย”

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องสงสัยแวมไพร์อีกจำนวนมากถูกค้นพบ เช่น โครงกระดูกทั้งชุดที่ถูกตัดศีรษะถูกพบภายใต้ Rynek Główny ในเมือง Kraków ในปี 2008 ส่วนในปี 2014 ที่เมือง Kamień Pomorskie ศพถูกพบโดยนำก้อนอิฐเข้าปากจนฟันบนหมด ขาของเขาถูกเจาะเพื่อไม่ให้ลุกขึ้นจากหลุมศพ

ในปี 2015 นักโบราณคดีในหมู่บ้าน Drewsko ซึ่งอยู่ห่างออกไป 130 ไมล์ รายงานว่าพบโครงกระดูก 5 ตัวถูกฝังในลักษณะเดียวกันที่สุสานอายุ 400 ปี โดยพบเคียวติดคอชายและหญิง ซึ่งมีอายุระหว่าง 35 – 44 ปี ในขณะที่หญิงชราคนหนึ่งมีอายุ 50 – 60 ปีถูกพบพร้อมเคียวพาดที่สะโพก และก้อนหินขนาดกลางที่คอของเธอ

นักวิจัยกล่าวในขณะนั้นว่า “เมื่อนำไปฝังในสุสาน พวกเขาเป็นหลักประกันว่าผู้ตายยังคงอยู่ในหลุมศพของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่สามารถทำร้ายคนเป็นได้ แต่พวกเขาอาจทำหน้าที่ปกป้องคนตายจากพลังชั่วร้ายด้วย ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน เคียวปกป้องสตรีที่ใช้แรงงาน เด็ก และคนตายจากวิญญาณชั่ว มันยังมีบทบาทในพิธีกรรมที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านมนต์ดำและคาถา”

นอกจากนี้ เมื่อต้นปีนี้ชุดสังหารแวมไพร์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของขุนนางอังกฤษ ลอร์ดวิลเลียม เฮลีย์แห่งอินเดียขายทอดตลาดในราคากว่า 13,000 ปอนด์โดยไม่เห็นกระเทียมสักกลีบ โดยกล่องที่ล็อกไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มีเครื่องมือและสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้กันผู้ดูดเลือด ปืนพก น้ำมนต์ ลูกประคำ ค้อนไม้ เข็ม พระคัมภีร์ รวมถึงไม้กางเขนทองเหลืองสองอันบนฝา