หัวข้อ: นางสุมิตตา เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 18 พฤษภาคม 2554 14:22:09 (http://static.panoramio.com/photos/original/52707573.jpg) (http://static.panoramio.com/photos/original/52707050.jpg) http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma วันวิสาขบูชานี้เป็นวันที่พระมหาสัตว์ทรงถึงที่สุดแห่งการบำเพ็ญพระบารมีคือทรง แทงตลอดพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณอันเกิดได้ยากที่สุดใน{สังสารวัฏฏ์}เหตุสำคัญ ที่ทำให้พระองค์ บรรลุเป็นพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะทรงบำเพ็ญบารมี 10 มหาบริจาค 5 และจริยา 3 ซึ่งในวันนี้เองเมื่อสี่อสงไขยยิ่งด้วยแสนกัปป์ที่แล้ว นาง สุมิตตาได้ตั้งจิตอธิฏฐานขออุทิศขันธสันดานของตนเป็นวัตถุทานเฉพาะพระพักตร์พระ ผู้มีพระภาคเจ้าทีปังกรและสุเมธดาบสเพื่อให้ทารทานอันเป็นส่วนสำคัญในมหา - บริจาค 5 ของพระมหาสัตว์นั้นบริบูรณ์ สมจริงดังพระบาลีในยโสธราเถรีอปทานที่กล่าว ว่าข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันงดเว้นอนาจารในสถานที่ไม่ควร แม้ชีวิตก็ยอมสละ เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ได้ ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉันให้เป็นภรรยา ผู้อื่นหลายพันโกฏิกัปป์ก็เพื่อประโยชน์แก่พระองค์หม่อมฉันไม่เคยเสียใจในเรื่องนั้น เลยพึงศึกษาเพิ่มเติมในคัมภีร์อปทาน พระนางยโสธราเถรีจึงเป็นบุคคลที่พุทธ - ศาสนิกชนทั้งหลายพึงระลึกถึงพระคุณอันล้นพ้นของพระนางหากไม่ได้จิตใจที่เด็ด - เดี่ยวของนางสุมิตตาเมื่อสี่อสงไขยยิ่งด้วยแสนกัปป์ที่แล้วใครหนอจะเป็นยอมสละตน เองเพื่อเป็นอุปกรณ์แห่งทานบารมีของพระมหาสัตว์พระนางจึงเป็นผู้มีพระคุณมากจริง ๆ เพราะมีพระนางเป็นปัจจัย มหาบริจาค 5 ของพระมหาสัตว์จึงบริบูรณ์อันเป็นเหตุให้ ทรงบรรลุพุทธภาวะใต้ต้นพระศรีมหาโพธิได้ดังนั้น วันนี้นอกจากเราทั้งหลายจะพึง ระลึกถึงพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงอยู่เหนือความอาลัยในโลกีย - ธรรมทั้งปวงแล้ว เราทั้งหลายพึงระลึกถึงหญิงผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวที่มีนามว่าสุมิตตาหรือ พระนางยโสธราเถรีนั่นเอง ช่างน่าอัศจรรย์จริงหนอที่โลกใบนี้มีพระพุทธศาสนาอันมี ความงดงาม หามลทินมิได้ มีแต่ความบริสุทธิ์ดุจแก้วที่ช่างเจียระนัยไว้ีดีแล้วคงจะไม่มี ใครปฏิเสธได้เลยว่าเมื่อเราระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้ามีแต่ความสุขใจปราศจาก ความกังวลทั้งปวง เมื่อระลึกถึงพระสัทธรรมนิกายใดนิกายหนึ่งในห้านิกายพบแต่ความ งดงามอันสะท้อนให้เห็นถึงพระปัญญาอันหาประมาณมิได้ แสดงให้เห็นให้เห็นว่าจิตของ พระสุคตเจ้าอยู่เหนือสังขารโลกจริง ๆ และเมื่อระลึกถึงพระสงฆ์สาว อันประกอบด้วยคู่ แห่งบุรุษ 4 นำมาซึ่งสัทธินทรีย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นี้จะ ทรงมีพระชนมายุสั้นมีพระรัศมีปกติแผ่ซ่านโดยรอบเพียงวาเดียวหรือจะทรงมีสาวก สันนิบาตเพียงครั้งเดียวก็ตาม ข้าแต่พระมหามุนีหม่อมฉันได้รับสุข ย่อมอนุโมทนาและในคราวที่ได้รับทุกข์ก็ไม่ เสียใจเป็นผู้ยินดีแล้วในที่ทุกแห่งเพื่อประโยชน์ แก่พระองค์ (:LOVE:)อดีตชาติพระนางยโสธราเถรีกับวิสาขบูชา (:LOVE:) ข้าแต่พระมุนีมหาวีรเจ้าขอพระองค์พึงทรงระลึกถึงกุศลกรรมเก่าของหม่อมฉันเถิดข้า แต่พระมหาวีรเจ้าหม่อมฉันสั่งสมบุญไว้เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันงดเว้นอนาจารในสถานที่ไม่ควรแม้ชีวิตก็ยอมสละเพ ประโยชน์แก่พระองค์ได้ข้าแต่พระมหามุนีพระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อให้เป็น ภรรยาผู้อื่นหลายพันโกฏิกัปล์ก็เพื่อประโยชน์แก่พระองค์หม่อมฉันมิได้เสีย ในเรื่องนั้นเข้าแต่พระมหามุนีพระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อ อุปการะหลายพันโกฏิกัปล์เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย ข้าแต่พระมหามุนีพระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อประโยชน์ เป็นอาหารพันโกฏิกัปล์หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลยหม่อม ฉันบริจาคชีวิตหลายพันโกฏิกัปล์ประชุมชนจักทำการให้พ้นจากภัยก็ย่อม สละชีวิตของหม่อมฉันให้ข้าแต่พระมหามุนีหม่อมฉันย่อมไม่เคยหวงเครื่อง ประดับและผ้านานาชนิดซึ่งอยู่ที่ตัวและภัณฑะคือตัวหญิงเพื่อประโยชน์แก่ พระองค์ข้าแต่พระมหามุนีมหาวีรเจ้าทรัพย์ข้าวเปลือก ปัจจัยเครื่องบริจาคบ้านนิคม ไร่นา บุตร ธิดา ช้าง ม้า โค ทาสี ภรรยามากมายนับไม่ถ้วนพระองค์ทรง บริจาคแล้วเพื่อประโยชน์แก่พระองค์(พระองค์ตรัสบอกหม่อมฉันว่า)เราย่อม ให้ทานกะพวกยาจกเมื่อเราให้ทานอันอุดมเราย่อมไม่เห็นหม่อมฉันเสียใจข้า แต่พระมหาวีระหม่อมฉันยอมรับทุกข์มากมายหลายอย่างจนนับไม่ถ้วนใน สงสารเป็นอเนกเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ข้าแต่พระมหามุนีหม่อมฉันได้รับ สุขย่อมอนุโมทนาและในคราวที่ได้รับทุกข์ก็ไม่เสียใจเป็นผู้ยินดีแล้วในที่ ทุกแห่งเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ ข้าแต่พระมหามุนีพระสัมพุทธเจ้าทรง แสดงธรรมโดยบรรดาอันสมควรเสวยสุขและ ทุกข์แล้วได้บรรลุซึ่งพระโพธิญาณ หม่อมฉันได้ร่วมมาเป็นมากกับพระ สัมพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมผู้เป็นนายกของโลก เป็นเทพผู้ประเสริฐพระองค์ก็ได้ร่วมมาเป็นอัน มากกับพระสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ ผู้เป็น นาถะของโลก ข้าแต่พระมหามุนีอธิการของหม่อมฉัน มีมากเพื่อประโยชน์แก่พระองค์หม่อนฉันเมื่อ แสวงหาพุทธธรรมอยู่ก็ได้เป็นบริจาริกาผู้รับใช้ ของพระองค์ ในสี่อสงไขยแสนกัปล์ พระมหาวีรเจ้า พระนามว่าทีปังกรผู้เป็นนายกของโลกเสด็จ อุบัติขึ้นแล้วประชาชนในปัจจันตประเทศมีใจ ยินดีนิมนต์พระตถาคตเจ้าแล้วช่วยกันแผ้วถาง หนทางสำหรับเป็นที่เสด็จพระพุทธดำเนิน ณ.กาลครั้งนั้นพระองค์เป็นพราหมณ์ นามว่าสุเมธ ตกแต่งหนทางยาวเพื่อพระสุคต เจ้าผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวง หม่อมฉันมีสมภพในสกุลพราหมณ์เป็น หญิงสาวมีนามว่า{สุมิตตา}เข้าไปสู่สมาคมถือ ดอกบัวไป ๘ กำเพื่อบูชาพระศาสดาแต่ได้ ถวายพระองค์ผู้เป็นฤาษีอุดมในท่ามกลางประ - ชุมชนครั้งนั้นหม่อมฉันได้เห็นพระองค์ประ - กอบสุภกิจอยู่นาน มีความกรุณาเมื่อฤาษีนั้น เดินเลยไปแล้ว ยังดึงใจหม่อมฉันให้นิยมจึงได้ สำคัญว่าชีวิตของเรามีผล ครั้งนั้นหม่อนฉันเห็นความพยายามของพระองค์ นั้นมีผลจึงได้ถวายดอกบัวแก่พระองค์ ผู้เป็นฤาษี ด้วยบุญที่ทำมาก่อนแม้จิตของหม่อมฉันเลื่อมใสใน พระสัมพุทธเจ้าหม่อมฉันยังมีจิตเลื่อมใสในพระองค์ผู้ เป็นฤาษีมีมนัสสูง มิได้เห็นสิ่งอื่นที่ควรถวาย จึงได้ถวายดอกบัวแก่พระองค์ผู้เป็นฤาษีพร้อมด้วย กล่าวว่าข้าแต่พระฤาษีดอกบัว ๕ กำจงมีแก่ ท่านดอกบัว ๓ กำจงมีแก่ดิฉันข้าแต่ท่าน พระฤาษีดอกบัวเหล่านั้นจงมีเสมอกับด้วยท่าน นั้นเพื่อประโยชน์แก่โพธิญาณของท่าน......................... ......................จบภาณวารที่ ๔ ......................... สุเมธฤาษีรับดอกบัวแล้วบูชาพระพุทธ- ทีปังกรผู้แสวงหาคุณธรรมใหญ่มีบริวารยศมาก เสด็จดำเนินมาในท่ามกลางประชุมชนเพื่อประ - โยชน์แก่โพธิญาณ พระมหามุนีมหาวีรเจ้าทีปังกรทอดพระ - เนตรเห็นสุเมธฤาษีผู้มีมนัสสูงแล้วทรงพยากรณ์ ในท่ามกลางประชุมชนข้าแต่พระมหามุนีในกัปล์ อันประมาณมิได้แต่กัปนี้พระมหามุนีทีปังกรทรง พยากรณ์กรรมของหม่อมฉันอันเป็นธรรมตรงว่า ดูก่อนฤาษีผู้ใหญ่อุบาสิกาผู้นี้จักเป็น ผู้มีจิตเสมอกันมีกุศลกรรมเสมอกันทำกุศล ร่วมกันเป็นที่รักเพราะบุญกรรมเพื่อประโยชน์ แก่ท่าน น่าดูน่าชมน่ารักยิ่งน่าชอบใจมีวาจา อ่อนหวานจักเป็นธรรมทายาทผู้มีฤทธิ์ของท่าน อุบาสิกานี้จักรักษากุศลธรรมทั้งหลาย เหมือนพวกเจ้าของทรัพย์รักษาทรัพย์ที่เก็บไว้เอง ในคลังฉะนั้น...........ประชาชนจะอนุเคราะห์อุบาสิกา ผู้ที่เป็นที่รักของท่านนั้นอุบาสิกานี้จักมีบารมี เต็มจักละกิเลสได้ดังราชสีห์ละกรงแล้วจักบรรลุโพธิญาณ นกัปอันประมาณมิได้แต่กัปล์นี้พระ พุทธเจ้าทรงพยากรณ์หม่อมฉันด้วยพระวาจาใด หม่อมฉันเมื่ออนุโมทนาพระวาจานั้นเป็นผู้ทำ กรณียกิจอย่างนี้หม่อมฉันยังจิตให้เลื่อมใสในกุศลกรรม ที่ได้ทำไว้แล้วนั้นได้เสวยผลในกำเนิดเทวดา และมนุษย์มากมายได้เสวยสุขและทุกข์ในเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ในภพนี้ซึ่งเป็นภพหลังหม่อมฉันเกิดใน ศากยสกุลมีรูปสมบัติมีโภคสมบัติมียศมีศีล สมบูรณ์ด้วยองคสมบัติทั้งปวงได้รับสักการะ อย่างยิ่งในสกุลทั้งหลายมีลาภสรรเสริญและ สักการะพรั่งพร้อมไปด้วยโลกธรรมมีจิตไม่ ประกอบด้วยทุกข์ไม่มีภัยแต่ที่ไหน ๆ สมจริงตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาค - เจ้าตรัสว่าในกาลนั้นยโสธรานารีผู้มีเพียงแสดง อุปการะทั้งภายในพระราชฐานและแก่พวกเจ้าใน พระนครมีอุปการะทั้งในยามสุขและยามทุกข์ เป็นผู้บอกประโยชน์ให้และทำความอนุเคราะห์ หม่อมฉันยังมหาทานให้เป็นไปแล้วแก่ พระพุทธเจ้าห้าร้อยโกฏิและพระพุทธเจ้าเก้าร้อย โกฏิข้าแต่พระมหาราชขอพระองค์ทรงสดับ อธิการเป็นอันมากของหม่อมฉัน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทานเล่ม 9 ภาค 1 - หน้าที่ 644 (http://album.taklong.com/addons/albums/images/111351304.jpg) http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn) http://twitter.com/soka45 (http://twitter.com/soka45) http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/) ......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน......................... ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ............................. |