[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 22 สิงหาคม 2555 13:26:35



หัวข้อ: สัมผัสหนาวที่ดอยอินทนนท์ จุดสูงที่สุดและหนาวที่สุดในประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 22 สิงหาคม 2555 13:26:35
.
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/60444579728775_1.jpg)
ถนนขึ้นดอยอินทนนท์ โดยบริการ  Mckaforce ทัวร์
ดอยอินทนนท์  จังหวัดเชียงใหม่
ดอยที่สูงที่สุดและหนาวที่สุดในประเทศไทย
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง

ดอยอินทนนท์ เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาถนนธงชัย ที่ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล พาดผ่านจากประเทศภูฏาน พม่า เดิมเรียกว่า “ดอยอ่างกาหลวง” เนื่องจากมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำขังตลอดปีและมีหินก้อนใหญ่เหมือนรูปกาตั้งอยู่   สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน

จุดสูงสุดอยู่ที่ยอดดอยอินทนนท์ สูงจากระดับน้ำทะเล ๒,๕๖๕  เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย
 
อากาศหนาวเย็นที่สุดบนยอดดอยอินทนนท์ อยู่ในราวเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยในตอนกลางคืนอากาศจะหนาวเย็นมาก อุณหภูมิจะลดต่ำอยู่ที่ ๐ ถึง -๔  องศาเซลเซียส และอาจจะมีน้ำค้างแข็งหรือเกล็ดหิมะปกคลุมไปทั่วบริเวณ จึงเป็นบรรยากาศที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่อาศัยในภูมิประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสความหนาวเย็น ชมท้องฟ้าสวยแจ่มใส ชมทะเลเมฆที่ลอยตัวฟูฟ่องอยู่เบื้องล่างของยอดดอย  


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/85760541798339_2.jpg)
ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์  มีสถานที่สำคัญคือพระมหาธาตุนภเมทนีดล  
และพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ จึงควรแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/85220715072419_3.jpg)
พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์
ประดิษฐานภายในพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ

พระมหาธาตุนภเมทนีดล  มีความหมายว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน  

กองทัพอากาศประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๙  ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น ๔๕ ล้านบาท   ภายในห้องโถงพระมหาธาตุ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินแกรนิต ขนาดหน้าตัก ๖๐ นิ้ว สูง ๗.๓ ฟุต  ซึ่งกองทัพอากาศสั่งจำหลักจากประเทศอินโดนีเซีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์”    ภายในยอดปลีพระมหาธาตุฯ องค์นี้ เป็นที่บประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่กองทัพอากาศได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวส่วนหนึ่ง รับจากพระสังฆมหานายะกะ สิริมัลวัตตะ อนันดา วัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/46351858476797_5.jpg)
พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล  ประดิษฐานภายในพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ

พระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ มีความหมายว่าเป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน  ภายในห้องโถงพระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง แกะสลักจากหินหยกสีขาวบริสุทธิ์ จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน  มีความสูง ๓ เมตร ๒๐ เซนติเมตร สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานนามว่า “พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล”  

พระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ กองทัพอากาศเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พุธศักราช ๒๕๓๔  ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น ๑๓๕ ล้านบาท



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/55637452916966_6.jpg)
สองข้างทางหมอกลงจัด มองไม่เห็นทัศนียภาพ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/98975852504372_4.jpg)



ณ ยอดดอยอินทนนท์
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69454489068852_10.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/29459330273999_9.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/15561032005482_12.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/48294526007440_17.jpg)
สภาพภูมิประเทศและบรรยากาศ ณ ยอดดอยอินทนนท์

 

พระเจ้าอินทรวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๔๑–๒๔๔๐) มีพระนามเดิมว่า เจ้าอินทนนท์ เป็นพระบิดาของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระมเหสีลำดับที่ ๘  ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระองค์ได้ขึ้นมาที่ยอดดอยอ่างกาหลวง หรือดอยอินทนนท์  พร้อมกับเจ้าดารารัศมี และได้บอกจุดที่สูงที่สุดของยอดดอยแห่งนี้  และรับสั่งว่า เมื่อพระองค์ถึงแก่พิราลัยแล้ว ให้เจ้าดารารัศมีนำพระอังคารของพระองค์ขึ้นมาบรรจุไว้บนยอดดอยอ่างกาหลวง (ชื่อเรียกเดิมของดอยอินทนนท์) เพื่อประชาชนและชาวเขาเผ่าต่างๆ จะได้เกรงกลัว และไม่กล้าแตะต้องผืนป่าแห่งนี้ เพราะพระองค์ทรงประจักษ์ว่า ถ้าป่าแห่งนี้ถูกทำลาย ต้นน้ำลำธารอันเป็นธารชีวิตของผู้คนก็จะเหือดแห้งไป ความแห้งแล้งก็จะมาสู่แผ่นดิน

ครั้นเมื่อพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ ถึงแก่พิราลัยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ แล้ว พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ราชบุตรี จึงได้ทูลลาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มาประชุมเพลิง ณ เมืองเชียงใหม่ และแบ่งพระอังคารส่วนหนึ่งขึ้นมาบรรจุไว้ ณ ยอดดอยอ่างกาหลวง ตรงจุดที่พระเจ้าอินทรวิชยานนท์ได้บอกไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ดอยอ่างกาหลวง ก็ได้เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่า ดอยอินทนนท์ มาจนถึงทุกวันนี้


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/94129674260814_16.jpg)
ศูนย์ควบคุมและรายงานดอยอินทนนท์  และสถานีตรวจวัดนิวตรอนสิรินธร
อยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ด้านหน้าเป็นลานจอดรถกว้างขวาง
แต่คนน้อยเนื่องจากภาวะอากาศหนาวเย็นและมีความชื้นสูงมาก 

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/46281573383344_8.jpg)
จากบริเวณลานจอดรถ ต้องเดินด้วยเท้า (ไม่ไกล)
ไปชมจุดปักหมุด "จุดสูงที่สุดในประเทศไทย" (มีบันไดให้ขึ้นได้สะดวก)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/11540155361095_7.jpg)
กู่บรรจุพระอังคารพระเจ้าอินทรวิชยานนท์
พระบิดาพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
อยู่ใกล้กับปักหมุดของกรมแผนที่ทหาร

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/37272876956396_19.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/76027093165450_20.jpg)
จุดปักหมุด จุดสูงที่สุด ของกรมแผนที่ทหาร

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/94845252401298_15.jpg)
แอดมิน Mckaforce

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/13682360202073_14.jpg)
น้องชายแอดมิน Mckaforce  - อายุห่างกัน 6 ขวบ เลยคุยกันคนละเรื่อง

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/25304135059316_13.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/17701948309938_18.jpg)


หัวข้อ: Re: ทัศนียภาพดอยอินทนนท์ จุดสูงที่สุดและหนาวที่สุดในประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 30 สิงหาคม 2555 02:40:44
เพิ่มเติมภาพ

ชุดที่ 1

เดินขึ้นดอย
สาเหตุที่ต้องเดินขึ้นดอยเนื่องจากว่า
ช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่
คนแห่กันขึ้นดอยเยอะมาก จนมีรถเสียตลอดทาง
และมีรถติดเป็นระยะทางยาว
รถไม่สามารถขยับได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
ทำให้เราตัดสินใจลงรถและเดินต่อไปเองเป็นระยะทางเกือบห้ากิโลเมตร



จุดกางเต๊นท์

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai001.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai019.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai013.jpg)

สามภาพด้านบนเป็นภาพบรรยากาศบริเวณจุดกางเต๊นท์
ซึ่งอยู่ช่วงกลาง ๆ ดอย (ค่อนไปทางตีนดอย)
มีรถเยอะ แต่ไม่เยอะมากเพราะเป็นช่วงปลายของวันหยุด คนเริ่มเดินทางกลับ
แต่จากที่สอบถามเจ้าหน้าที่พบว่าจุดกางเต๊นท์ไม่พอ มีกระทั่งคนกางเต๊นนอนเองบนกระบะรถ




ไปไม่ไหว

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai011.jpg)

ภาพบน รถไปต่อไม่ไหว เพราะมีแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีรถติดแหง็กด้านบน
แถมที่จอดรถไม่มี ถึงกับทยอยกันกลับลำกันเลยทีเดียว เหลืออีกแค่ไม่กี่กิโลฯแล้วแท้ ๆ




ออกเดินเท้า

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai012.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai008.jpg)

ออกเดิน หลังจากคนขับรถบอกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถไปต่อได้
ก็เลยต้องออกเดินเท้ากัน
สาเหตุที่ไปต่อไม่ได้ เพราะรถติด ขาขึ้นก็ติดขาลง ขาลงก็ติดขาขึ้น
มีรถน๊อคหลายสิบคันจอดเรียงรายตามข้างทางนับตั้งแต่ด้านล่างดอย
ส่วนมากจะเป็นปัญหาหม้อน้ำ คลัช เบรค ตามด้วยปัญหาเครื่อง
งานนี้เลยเดินกันเหนื่อยเอาเรื่อง




หยุดพักเหนื่อยเป็นระยะ

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai003.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai010.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai024.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai026.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai014.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai018.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai021.jpg)

พักเหนื่อยกันเป็นระยะ ๆ เพราะทางค่อนข้างชันและยาวไกล (จากจุดที่ลงเดิน)
แถมการเดินบนเขาจะเหนื่อยง่ายมาก เพราะออกซิเจนน้อย และความกดอากาศต่ำ
จึงควรหยุดเป็นระยะ ๆ กลืนน้ำลายบ่อย ๆ หรือเคี้ยวหมากฟรั่งไปด้วย




คนอื่นเค้าก็เดินกัน

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai022.jpg)

คนอื่น ๆ ก็เดินเหมือนกลุ่มเรา บางคนเดินมาไกลกว่ากลุ่มเราก็เยอะ
ขึ้นดอยมาทั้งที มาไม่สุดก็เอาไปคุยโม้ให้ใครฟังไม่ได้
เหนื่อยแค่ไหนก็ยอมกันหมดละงานนี้




ระวังทางขาด

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai023.jpg)

ช่วงใกล้ถึงพระธาตุมีถนนพังครึ่งเลนส์ โปรดใช้ความระมัดระวัง ไปเจอมาตั้งแต่ปีใหม่
ล่าสุดขึ้นไปอีกครั้งเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ก็ยังแก้ไขไม่เสร็จ
จุดนี้คนไปถ่ายรูปเยอะมาก โดยเฉพาะพวกที่เดินขึ้น
เป็นจุดที่สวยเห็นเมฆหมอกรอบ ๆ ค่อนข้างชัดในวันฟ้าเปิด
มีคนพิเรนทร์หลาย ๆ คนปีนไอ้ช่องที่ถนนขาดเพื่อลงไปถ่ายภาพด้านล่าง




แวะถ่ายรูประหว่างทาง

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai002.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai009.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai020.jpg)

รีแล็กซ์ระหว่างทาง เดินกันไปแวะถ่ายรูปกันไป เพลิน ๆ ให้ความเหนื่อยทุเลาลง
เป็นกิจกรรมที่ดีมาก เพราะการเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยเห็นจุดหมายลิบ ๆ มันเหนื่อยบรรลัย
ซึ่งส่วนมากคนที่เดินขึ้นเหมือนกันก็จะแวะถ่ายรูปเป็นช่วง ๆ อยู่แล้ว
จะว่าไปนี่เป็นข้อได้เปรียบของการเดินเหมือนกัน เพราะถ้าขับรถไปได้เลย
เราก็จะพลาดโอกาสการเก็บภาพบรรยากาศตามข้างทางแบบนี้ได้




บรรยากาศงามๆ

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai015.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai017.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai025.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai016.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai004.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai005.jpg)

บรรยากาศระหว่างทาง เก็บภาพกันไปเรื่อย ๆ สวยงามดี




ถึงจุดหมาย

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai027.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai007.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/doi-travel/sookjai006.jpg)

และแล้วก็มาถึงทางเข้าพระมหาธาตุ ตรงจุดนี้ถ้าใครจะเข้าชม
ต้องเสียค่าบำรุงสถานที่ด้วยนะจ๊ะ จำราคาไม่ได้ แต่ไม่แพง
มาถึงที่อย่ามัวงกเงินไม่กี่สิบบาท
เข้าไปเถอะรับรองคุ้มค่า

 ;D ;D ;D ;D ;D



เดี๋ยวมีภาพมาลงต่ออีกนะจ๊ะ พักก่อน




หัวข้อ: Re: ทัศนียภาพดอยอินทนนท์ จุดสูงที่สุดและหนาวที่สุดในประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 ธันวาคม 2556 12:46:29

ยอดดอยอินทนนท์ยะเยือก 4.3 องศาฯ
ยอดหญ้าเกิดปรากฏการณ์"เหมยขาบ" รับวันพ่อ


(http://www.matichon.co.th/online/2013/12/13861274021386127625l.jpg)

(http://www.matichon.co.th/online/2013/12/13861274021386127634l.jpg)

(http://www.matichon.co.th/online/2013/12/13861274021386127617l.jpg)

เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า หรือเหมยขาบ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ตรงที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ยอดดอย กม.ที่ 47 หลังอุณภูมิหนาวเย็นต่อเนื่องมา 7-8 องศาฯ มา 3 วัน และเช้านี้ลดลงไปต่ำสุดที่ 4.3 องศาเซลเซียส   อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมายังมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากตรงกับวันทำงาน  คาดหวังว่าในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2556 จะเกิดเหมยขาบต่อเนื่องอีก  ซึ่งหากเกิดจะทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์ที่สวยงามนี้ร่วมกัน  แต่แนวโน้มนั้นทางอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าสภาพความกดอากาศจากจีนได้ค่อยๆ ลดลงไป  อาจจะส่งผลให้อุณหภูมิยอดหญ้าที่ต่ำลง 4-5 องศาแบบนี้หายไป  โดยอุณหภูมิน่าจะปรับอุ่นขึ้นมาอยู่ที่ 8-10 องศาฯ ในช่วงวันหยุดยาว
 
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่รายงานว่า  ที่ยอดดอยอื่นๆ ก็มีสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นกันแต่ยังไม่มีรายงานการเกิดเหมยขาบ คือที่ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง 12.1 องศาเซลเซียส   อุณหภูมิพื้นราบเชียงใหม่เฉลี่ย 18.5  เชียงราย 15.4 และ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก 13.5 องศาเซลเซียส


ข้อมูล-ภาพ : เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (สุขใจร้านน้ำชา www.sookjai.com (http://www.sookjai.com))