นิธิ เอียวศรีวงศ์ กับเสียงสะท้อนจากชายแดนใต้
<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-19 18:34</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ศิษย์จากชายแดนใต้</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน</p>
<p>วันที่ 7 สิงหาคม 2566 อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์" หรือศาสตราจารย์ ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการชื่อดังของไทยได้เสียชีวิตลงในวัย 83 ปี ท่านไม่เพียงเป็นนักวิชาการที่ได้ยอมในระดับประเทศเท่านั้นแต่สำหรับคนชายแดนใต้แล้วท่านเป็นอีกหนึ่งนักวิชาการที่คนชายแดนฝากความหวังในการช่วยชี้แนะการดำเนินนโยบายของรัฐอไม่ว่าภายใต้รัฐบาลประชาธิปไตยหรือภายใต้รัฐบาลทหารโดยเฉพาะหลังวิกฤตไฟใต้ตลอด 20 ปี</p>
<p>"สุชาติ สวัสดิ์ศรี" นักเขียนรางวัลช่อการะเกด โพสต์ข้อความว่า "นิธิ เอียวศรีวงศ์ ลาลับจากไปแล้ว ด้วยรักและอาลัยในมิตรภาพ ที่ยาวนานมาตั้งแต่ครั้ง สังคมศาสตร์ปริทัศน์"</p>
<p>สำหรับ ศาสตราจารย์ ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ เป็นอาจารย์ที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกิดที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2483 </p>
<p>จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท สาขาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาจารย์มีชื่อเสียงจากผลงานวิชาการด้านประวัติศาสตร์ รวมทั้งมีงานเขียนตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน และนิตยสารศิลปวัฒนธรรม </p>
<p>ในปี 2556 เกิดขึ้นหลังจาก ที่ ผมได้จัดโครงการ โรงเรียนประชาธิปไตย ผ่านการสนับสนุนจาก โครงการสะพาน ได้มีการ ไปดูงาน ที่ เชียงใหม่ จึงมีโอกาส พบกับ อ.นิธิ ที่ ร้านหนังสือ อ.สนใจ ประเด็นชายแดนใต้ และ ให้ เกียรติกลุ่มคนเล็กๆ ที่ขึ้นไป เชียงใหม่ ในครั้งนั้น </p>
<p>ผมจึงบอกอาจารย์ว่า ถ้าพวกเราจะเชิญอาจารย์ไปบรรยายที่ปัตตานีอาจารย์จะไปไหมครับ อาจารย์ตอบว่ายินดียิ่ง</p>
<p>กระทั่งหลังจากพวกเรากลับมาไม่นาน ได้เชิญอาจารย์มาบรรยายเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองไทยให้กับเยาวชนนอกระบบการศึกษาที่ปัตตานี จำได้ว่าสิ่งหนึ่งที่ผมมักจะต้องอธิบายให้ เพื่อนๆ หรืออาจารย์ และผู้คนต่างถิ่น คือ กระบวนยุติธรรมและวิถีปฎิบัติที่ใช้อยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ กฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทหาร ชรบ. ให้เข้าใจ มันยากมาก ในเวลานั้นการมีโอกาสได้รวมสร้างสัมพันธมิตรกับคณาจารย์ ผมถือว่าเป็นภารกิจหนึ่งที่จะสื่อสารเรื่องราว สร้างความเข้าใจในบริบทของพื้นที่ในลักษณะนี้ ให้ทุกคนเข้าใจ วันนี้ สถานการณ์ที่ปาตานีหรือชายแดนใต้ คนส่วนกลางเข้าใจถึงชะตากรรมของคนชายแดนใต้ อย่างลึกซึ้งมาก</p>
<p>"นิธิ เอียวศรีวงศ์"เป็นนักวิชาการใหญ่ ที่มีผลงาน การเขียนและบรรยาย “ปัญหาปาตานี/ชายแดนใต้” มากที่สุดคนหนึ่ง เช่น ความแปลกหน้าของมุสลิม (อ่านเพิ่มเติมใน
https://www.matichonweekly.com/column/article_58920 “ประวัติศาสตร์ลังกาสุกะและปาตานี”
https://mgronline.com/south/detail/9490000062800 3. ปอเนาะ (
https://prachatai.com/journal/2022/01/96776) และมองสถานการณ์ภาคใต้ผ่านสายตาของนิธิ ซึ่งท่านสามารถอ่านรวบรวมผลงานท่านใน</p>
<p>
https://midnightuniv.tumrai.com/midnight2545/document9782.html</p>
<p>สำหรับผู้เขียนเคยเรียนกับท่านในระดับปริญญาเอกสาขา วัฒนธรรมศึกษาของมหาวิทยาลัยทักษิณ เมื่อ ปี 50 (ถ้าจำไม่ผิด)และอีกอีกประการเคยนำทัศนะท่านในบทความผู้เขียน “ปอเนาะการศึกษาทางเลือก :จิตวิญญาณปาตานี” ปัญหาและทางออก”ในช่วงที่รัฐและสังคมนอกมองว่า การศึกษาในระบบปอเนาะซึ่งมีเฉพาะชายแดนใต้ว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะการก่อการร้ายโดยท่าน (ศ.นิธิ เอียวศรีวงศ์) สะท้อนว่า “ความสัมพันธ์ ปอเนาะ โต๊ะครู (บาบอ) และชุมชนกับรัฐโดยให้ทัศนะว่า “เมื่อพิจารณาบทบาทโต๊ะครูที่มีต่อชาวบ้านและชุมชน จะพบว่ามันสอดคล้องกับความเชื่อเรื่องกระบวนการผู้มีบุญที่มีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อของชาวเขาทางภาคเหนือของไทย ซึ่งใช้ทฤษฎี (Revitalization Theory)เมื่อถูกกดดันจากภาครัฐ ทำให้โต๊ะครูและชาวบ้านมีทางเลือกสองทางคือ การไม่ยอมรับการจดทะเบียนปอเนาะ เพราะกลัวว่ารัฐจะเข้ามาควบคุม ซึ่งเป็นส่วนน้อย เมื่อพิจารณาจากส่วนใหญ่ของปอเนาะที่ยอมจดทะเบียนเพื่อฟื้นฟูพลังการดำรงอยู่ และพลังที่พวกเขานำมาใช้เพื่อการคงอยู่ ก็มีบริบทภายในวัฒนธรรมตนเองและปัจจัยทางการเมืองภายนอก และขณะเดียวกันมีการใช้กระบวนการต่อรอง (Negotiation) ตามแนวคิดของกรัมชี ระหว่างโต๊ะครู ชุมชน กับรัฐ โดยการยอมรับของชุมชนและโต๊ะครูนั้น รัฐต้องมาสนับสนุนหนุนเสริมพัฒนา ไม่ใช่มาควบคุม “ (อ้างอิง
https://www.thaingo.org/content/detail/5168)</p>
<p>กล่าวโดยสรุปผลงานของท่านมีผลต่อนักวิชาการและวิชาการอันเป็นฐานสำคัญในการต่อยอดการแก้ปัญหาและพัฒนาชายแดนใต้ ทุกมิติไม่ว่ามิติการเมือง สังคม ศาสนา วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ทีเชื่อมโยงเกี่ยวกับโครงสร้างและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรในท้องถิ่น เพื่อนําไปสู่การแก้ไขปัญหาและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ด้านสวัสดิภาพหรือคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกลุ่มแรงงานที่ไปทํางานในต่างแดน เช่น ประเทศมาเลเซีย การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเน้นการมีส่วนร่วมภาคประชาชนมิติสังคม ได้แก่ </p>
<p>1. แนวทางของการกระจายอํานาจชุมชนและแนวทางการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้</p>
<p>2. ปัญหาเชิงโครงสร้างความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนําไปสู่การหาทางออกและการแก้ไขปัญหา</p>
<p>3. ด้านความมั่นคงของมนุษย์มากกว่าความมั่นคงด้านทหาร</p>
<p>4. ระบบราชการและการบริหารจัดการของภาครัฐที่เหมาะสมกับบริบทของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของภาครัฐและการทําให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ อย่างเท่าเทียม และเหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นกระบวนการพูดคุยสันติภาพ มุสลิมกับชาวพุทธ คนเห็นต่างและกระบวนการยุติธรรม</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทค
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/08/105530