[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 06 กันยายน 2566 20:53:10



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม เสนอ 4 ประเด็นด้านสันติภาพ-สิทธิมนุษยชน ต่อรัฐบาลเศ
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 06 กันยายน 2566 20:53:10
มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม เสนอ 4 ประเด็นด้านสันติภาพ-สิทธิมนุษยชน ต่อรัฐบาลเศรษฐา
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2023-09-06 17:24</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม เสนอแนะด้านสันติภาพและสิทธิมนุษยชน 4 ประเด็นที่สำคัญต่อรัฐบาลเศรษฐา 'การสมานไมตรีทางการเมือง-สร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้-ส่งเสริมการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย-ยุติโทษประหารชีวิต'</p>
<p>6 ก.ย. 2566 มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม แจ้งข่าวว่าในโอกาสการเข้าบริหารราชการของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มูลนิธิฯ จึงมีข้อเสนอแนะด้านสันติภาพและสิทธิมนุษยชน 4 ประเด็นที่สำคัญ โดยระบุว่ามูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม (Peace and Culture Foundation) ถือกำเนิดจากกลุ่มประสานงานศาสนาเพื่อสังคม (กศส.) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2519 และได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2545 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษา วิจัย และดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้ง การส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ในโอกาสการเข้าบริหารราชการของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน  มูลนิธิฯ จึงมีข้อเสนอแนะในด้านสันติภาพและสิทธิมนุษยชน ดังนี้</p>
<h2><span style="color:#3498db;">1. ข้อเสนอเพื่อการสมานไมตรีทางการเมือง</span></h2>
<p>ที่ผ่านมาแม้รัฐบาลหลายรัฐบาลจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาหลายชุด และมีข้อเสนอมากมายในเชิงหลักการ แต่ทว่ายังมีข้ออ่อนในทางปฏิบัติคือ ขาดกระบวนการและกิจกรรมเพื่อความปรองดองและการสมานไมตรีที่กว้างขวางและต่อเนื่อง มูลนิธิฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการ ดังนี้</p>
<p>1.1    แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อ (1) ศึกษาและเสนอแนะนโยบาย มาตรการ กลไก และวิธีการแปลงเปลี่ยนความขัดแย้งอย่างสันติและสร้างสรรค์ เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน และเพื่อป้องกันการเกิดขึ้นของความบาดหมางใหม่ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง (2) พัฒนาและจัดให้มีกระบวนการถกแถลงที่เปิดกว้างต่อสาธารณะ โดยอาศัยการสื่อสารทั้งต่อหน้ากันและผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อแสวงหาความเห็นพ้องในสังคม ในประเด็นที่อาจเป็นข้อขัดแย้งระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงกรณีที่รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 77 วรรคสอง และ (3) พัฒนาและจัดให้มีกระบวนการคนกลางเพื่ออำนวยความสะดวกในการพูดคุยระหว่างภาคีความขัดแย้งที่เอื้อต่อการแสดงออกอย่างเสรี เป็นธรรม และปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์และความไว้วางใจระหว่างกัน อันนำไปสู่การยอมรับคุณค่าของการอยู่ร่วมกันโดยเคารพความแตกต่าง</p>
<p>1.2 ดำเนินการให้มีการนิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา จำเลย หรือนักโทษคดีการเมือง โดยเฉพาะผู้ที่ถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากการทำกิจกรรมทางการเมืองโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ ตลอดจนนักโทษทางความคิด ความเชื่อ หรือผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีเพราะเหตุผลทางการเมือง</p>
<p>1.3 มีมติเรื่องการจัดให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อถามความเห็นจากประชาชนว่าเห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนหรือไม่ ทั้งนี้ โดยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นจะเป็นส่วนสำคัญที่เปิดให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองที่เอื้อต่อการสมานไมตรีดังกล่าว</p>
<h2><span style="color:#3498db;">2. ข้อเสนอเพื่อการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้</span></h2>
<p>กระบวนการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และมีเป้าหมายไม่เฉพาะเพียงการยุติความรุนแรงทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความยุติธรรม ความเสมอภาค และการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี มูลนิธิฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการ ดังนี้</p>
<p>2.1 ทบทวนการประกาศใช้กฎอัยการศึกและพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ตามหลักการของมาตรา 77 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายทั้งสองฉบับและกฎหมายด้านความมั่นคงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทันสมัย เกิดความสมดุลในการปฏิบัติระหว่างความมั่นคงของประเทศ สังคม และชุมชน บนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย</p>
<p>2.2 ทบทวนโครงสร้างการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ใหม่ เพื่อลดความซับซ้อนและดำเนินตามหลักการควบคุมโดยพลเรือน (Civilian Control) โดยขอให้ศึกษาและกำหนดความสัมพันธ์ของหน่วยงานพลเรือนและทหาร เพื่อให้ร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิผลอันจะนำไปสู่สันติภาพและความยุติธรรม</p>
<p>2.3 จัดให้มีเวทีปรึกษาหารือเพื่อเปิดพื้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแสดงหรือผู้มีบทบาททั้งด้านการใช้ความรุนแรงและด้านส่งเสริมสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งผู้นำด้านการทหารและการเมือง ผู้นำทางสังคมและธุรกิจ และผู้นำชุมชนและประชาสังคม เพื่อนำไปสู่การสร้างภาพอนาคตหรือยุทธศาสตร์ร่วมกัน และนำเสนอผลการหารือดังกล่าวสู่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ที่ตัดสินใจเชิงนโยบายในกระบวนการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในระดับพื้นที่และระดับชาติ</p>
<p>2.4 ยุติการเก็บสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ของผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร รวมทั้งของเด็กและเยาวชนตามโรงเรียนและสถานศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้โรงเรียนและสถานศึกษาตลอดจนพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เป็นพื้นที่ปลอดภัย</p>
<p>2.5 ยอมรับและเคารพในความเป็นพหุวัฒนธรรมของสังคมไทย ขจัดอคติและการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ศาสนา และดำเนินมาตรการในการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร การโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติและศาสนาไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายใด ทั้งหน่วยงานของรัฐจะต้องไม่สนับสนุน การกระทำดังกล่าว ไม่ว่าในทางหรือรูปแบบใด ๆ รวมทั้งประกันการเคารพ ยึดถือ และปฏิบัติ ซึ่งสิทธิในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ตัวอย่างการส่งเสริมพหุวัฒนธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้มี อาทิ การริเริ่มด้านทักษะวัฒนธรรม (Cultural Fluency) ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร การเรียนการสอนแนวทวิ/พหุภาษา (Bi/Multilingual Education) ของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล และการสร้างความสัมพันธ์ข้ามศาสนา (Interfaith Relations)  เป็นต้น</p>
<h2><span style="color:#3498db;">3. ข้อเสนอเพื่อส่งเสริมการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565</span></h2>
<p>เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยมีอยู่เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น มูลนิธิฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการ ดังนี้</p>
<p>3.1 เร่งรัดหน่วยงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ได้จัดทำระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง ตลอดจนการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลำดับรองของแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565</p>
<p>3.2 ให้มีการประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสังคม ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 รวมทั้งพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง</p>
<p>3.3 ร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคประชาสังคมและผู้ได้รับผลกระทบจากการทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพื่อดำเนินมาตรการให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มงวดและจริงจัง รวมทั้งการติดตามตรวจสอบกรณีสูญหายที่เกิดขึ้นก่อนกฎหมายนี้ใช้บังคับ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">4. ข้อเสนอเพื่อการยุติโทษประหารชีวิต</span></h2>
<p>ด้วยการประหารชีวิตเป็นการลิดรอนสิทธิในการมีชีวิต (Right to Life) ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และยังเป็นการปิดโอกาสมิให้ผู้ถูกลงโทษได้กลับตัวกลับใจ อีกทั้งในกรณีการตัดสินคดีที่มีข้อผิดพลาด ก็ย่อมทำให้ไม่สามารถคืนความยุติธรรมแก่ผู้ถูกลงโทษได้ มูลนิธิฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการ ดังนี้</p>
<p>4.1 ยุติโทษประหารชีวิตซึ่งจะแทนที่ด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิต และในระหว่างที่ยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ ขอให้พักการบังคับโทษประหารชีวิตไปพลางก่อน</p>
<p>4.2 จัดให้มีการศึกษาและยกร่าง “พ.ร.บ.การใช้โทษจำคุกตลอดชีวิตแทนโทษประหารชีวิต พ.ศ….” เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาจากโทษประหารเป็นจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้ ด้วยความเคารพสิทธิในการมีชีวิต ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความจำเป็นที่จะปกป้องสังคมจากอาชญากรรมร้ายแรง ตลอดจนการเยียวยาผู้เสียหายโดยตรงจากอาชญากรรมดังกล่าว
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่าว[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">การเมือง[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สังคม[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สิทธิมนุษยชน[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">คุณภาพชีวิต[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/09/105802