[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 23 มกราคม 2556 15:58:53



หัวข้อ: วัดมณเฑียร จ.เชียงใหม่ วัดแห่งแรกของกษัตริย์ราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 มกราคม 2556 15:58:53
.
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/61692303501897_1_1.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/67007019826107_1.JPG)

วัดมณเฑียร
วัดแรกของกษัตริย์ราชวงศ์มังราย
ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

"วัดมณเฑียร" เป็นวัดราษฏร์มหานิกาย  ตั้งอยู่เลขที่ ๑๔๙ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๙๗๔ เดิมชื่อ "วัดราชมณเฑียร"  เป็นวัดแรกที่พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ราชวงศ์มังรายทรงสร้างขึ้นในรัชสมัยที่พระองค์ทรงปกครองเมืองเชียงใหม่    

พระเจ้าติโลกราชและพระมหาเทวีทรงโปรดเกล้าให้รื้อพระตำหนักราชมณเฑียรส่วนพระองค์มาสร้างเป็นวัดเพื่อถวายพระมหาญาณคัมภีร์มหาเถระและคณะ พระองค์ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า "วัดราชมณเฑียร" ดังข้อความที่ปรากฏในตำนานศาสนาตอนหนึ่งว่า  

"เมื่อพ.ศ.๑๙๗๔ เดือน ๗ ในปีนั้นชาวเมืองทั้งหลายพร้อมกันปลงศพพระยาสามฝั่งแกน แล้วจึงอาราธนาเอาลูกท่านชื่อท้าวลกมากินเมืองเชียงใหม่ เดือน ๘ ออก ๕ ค่ำ เม็งวันอังคาร ได้ราชาภิเษกชื่อว่า อาทิตตราชดิลก หรือ ติโลกราช และท่านรู้ข่าวว่า พระมหาญาณคัมภีร์เถรเจ้า ไปเอาศาสนามารอด ท่านก็ยินดีมากนัก และพระยาอาทิตย์และพระมหาเทวี จึงพร้อมกันให้รื้อหอราชมณเฑียรหลังเก่าไปสร้างที่พระมหาเถรเจ้าจักอยู่ และได้ชื่อว่า “วัดราชมณเฑียร” ดังนี้แล"

ในสมัยราชวงศ์มังรายเรืองอำนาจ วัดราชมณเฑียรมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ในพระราชูปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์ และพระมหาญาณคัมภีร์ปฐมเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดมณเฑียรยังเป็นนักปราชญ์ผู้ทรงคุณธรรม เป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนชาวล้านนาในอดีต เพราะทรงทำนุบำรุงเผยแพร่ศาสนาพุทธจนรุ่งเรือง และแผ่ขยายไปถึงแคว้นนครเชียงตุง และเมืองสิบสองปันนา
แต่ภายหลังอาณาจักรล้านนาล่มสลาย ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่านานกว่า ๒๐๐๐ ปี วัดวาอารามในล้านนาถูกปล่อยให้รกร้าง ขาดการบูรณะซ่อมแซม จนอยู่ในสภาพทรุดโทรม กระทั่งเมื่อพระเจ้ากาวิละได้กอบกู้เอกราชของแคว้นล้านนาคืนมา วัดราชมณเฑียรและวาอารามที่สำคัญในเมืองเชียงใหม่จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ จนกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

โบราณสถานที่สำคัญของวัดมณเฑียร มีวิหารลายคำ เป็นวิหาร ๒ ชั้น ทรงไทยล้านนา ประดับลวดลายปูนปั้น และลายคำแบบล้านนา จึงเป็นที่มาของชื่อ "วิหารลายคำวัดมณเฑียร" แต่วิหารหลังเดิมที่สร้างมานานกว่า ๕๗๙ ปี ชำรุดทรุดโทรม พระมหาชัชวาล โชติธฺมโม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และคณะศรัทธาจึงร่วมกันบูรณะ และสร้างวิหารหลังใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๕ จนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙

รูปแบบของวิหารลายคำ ชั้นแรกใช้เป็นสถานที่ทำบุญ ชั้นที่ ๒ ใช้ในการทำสังฆกรรมของพระภิกษุ สามเณร ภายในพระวิหารประกอบด้วยเสากลาง มีระบียงเพไลล้อมรอบ ด้านนอกพระวิหารมีซุ้มประตู ประดับด้วยปูนปั้นลวดลายล้านนาประยุกต์ ประดับด้วยกระจกแก้วอังวะ ติดทองคำเปลว เช่นเดียวกับศิลปะล้านนาที่ใช้อยู่ในยุคปัจจุบัน

วัดมณเฑียรมีเอกลักษณ์พิเศษที่สำคัญ คือ มีการนำเอาวัสดุหินทรายมาสร้างเป็นพระพุทธรูป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีปรากฏในปัจจุบัน ตามตำนานในอดีตนั้น ได้เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ ทรงสร้างพระพุทธรูปหินทราย ประดิษฐานไว้ยังวัดร่ำเปิง ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีปรากฏในเมืองเชียงใหม่ว่า มีการสร้างพระพุทธรูปหินทรายอีกเลย พระมหาชัชวาล โชติธฺมโม เจ้าอาวาสจึงนำหินทรายจาก จ.พะเยา มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป และได้นำมาประดิษฐานไว้ภายพระวิหารลายคำ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพสักการะ

พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่ พร้อมกับการบูรณะและสร้างวิหารลายคำหลังใหม่ของวัดมณเฑียร มีทั้งหมด ๗ องค์ ประกอบด้วย พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารชั้น ๑ พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารชั้น ๒ พระพุทธรูปรองประธาน ๔ องค์ พระนอนทรงเครื่อง ๑ องค์

วัดมณเฑียร ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ อาทิ พระประธานวิหาร ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดมณเฑียรหลังเดิม พระพุ่ม ๙ ตื้อ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างพร้อมกับพระเจ้าเก้าตื้อ ของวัดสวนดอก เป็นพระพุทธรูปศิลปะเก่าแก่ที่งดงามที่สุด
วัดมณเฑียรมีพระที่สร้างพุ่มเดียวกัน หรือสร้างพร้อมกัน คือ พระเจ้าพุ่ม หรือ พระพุ่ม พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ รวมทั้งพระประธานประจำอุโบสถหลังเก่า

นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์สำคัญที่พระมหาญาณคัมภีร์นำมาจากศรีลังกา เมื่อครั้งไปสืบศาสนาที่เมืองลังกา และได้นำพระพุทธรูปมาจากลังกาทวีป มี ต้นศรีมหาโพธิ์ พระพุทธรูป พระไตรปิฎก และหีบอีก ๑ ชุด กิ่งมหาโพธิ์นำมาปลูกไว้ที่วัดป่าแดง พระไตรปิฎกนำไปประดิษฐานที่วัดป่าตาล แต่ปัจจุบันนี้ร่องรอยของพระไตรปิฎก ไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าอยู่ ณ ที่ใด ส่วนพระพุทธรูปได้นำมาประดิษฐานที่วัดมณเฑียร โดยคณะสงฆ์และคณะศรัทธาวัดราชมณเฑียรในอดีต ได้ร่วมใจกันรักษาพระพุทธรูปองค์นี้เอาไว้จวบจนปัจจุบัน และยังมีพระเจ้าหลวงทันใจ หน้าตักกว้าง ๕.๕ เมตร สูง ๑๑ เมตร ที่สร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชน เมื่อครั้งมีการบูรณะวัด
...คมชัดลึกออนไลน์ ๒๓-๑-๒๕๕๖


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/60568048349685_4.JPG)
พระประธานในวิหารลายคำ สร้างจากหินทราย

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/55298450837532_2.JPG)
วิหารลายคำ คล้ายศิลปะมอญหรือพม่า
เป็นวิหาร ๒ ชั้น ทรงไทยล้านนา ประดับลวดลายปูนปั้นและลายคำแบบล้านนา
จึงเป็นที่มาของชื่อ "วิหารลายคำ"

มิตรผู้หนึ่งอยู่เชียงใหม่ เล่าว่าวัดบริเวณคูเมืองในจังหวัดเชียงใหม่
มักเป็นวัดที่สร้างโดยชาวไทยใหญ่ ซึ่งชนกลุ่มนี้ตั้งบ้านอาศัยอยู่ในบริเวณคูเมืองจำนวนมาก

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/73910089582204_3.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/86210876496301_5.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/48877745370070_7.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/96998850049244_8.JPG)
ส่วนหนึ่งของ ของใช้โบราณในวิหารลายคำ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/68343860614630_9.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/48890108780728_10.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69262573702467_11.JPG)
ศาลวัดมณเฑียร  "ศาลในวัด" พบเห็นได้แทบทุกวัดในล้านนา

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/61804196197125_12.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/31777117732498_SAM_0745.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/90652469835347_SAM_0744.JPG)