‘ก้าวไกล’ ยื่นญัตติด่วนขอสภา ตั้ง กมธ.ศึกษาเขตอำนาจศาล รธน. ห่วงกระทบการทำงานสมาชิกรัฐสภา
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-03-06 19:08</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพจาก พรรคก้าวไกล</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สส.ก้าวไกลยื่นญัตติด่วนขอให้สภาฯ ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจนิติบัญญัติเพราะคำวินิจฉัยที่ผ่านมาทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่า สส.ทำอะไรได้หรือไม่ได้และศาลยังตีความอำนาจตัวเองมาครอบคลุมอำนาจนิติบัญญัติ “ชัยธวัช” ย้ำไม่กระทบคำวินิจฉัยที่ออกมาแล้วไม่ละเมิดอำนาจศาล แต่หวังถูกนำมาพิจารณาในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="430" scrolling="no" src="
https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=315&href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FMoveForwardPartyThailand%2Fvideos%2F1656421881833082%2F&show_text=true&width=560&t=0" style="border:none;overflow:hidden" width="560"></iframe></p>
<p>6 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าว เรื่อง ยื่นญัตติด่วนขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจนิติบัญญัติ โดยมี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับญัตติดังกล่าว</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวว่าการเสนอญัตตินี้สืบเนื่องจากได้เห็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 หรือคดีลบล้างการปกครองของพรรคก้าวไกลฉบับเต็มที่เพิ่งประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมาก็พบว่ามีบางประเด็นที่กระทบกับการทำหน้าที่ และการปฏิบัติงานของ สส. รวมถึงสมาชิกรัฐสภาอย่างมีนัยสำคัญ</p>
<div class="more-story">
<p>
ศาลรัฐธรรมนูญฟันเสนอแก้ 112 ของ 'พิธา-ก้าวไกล' เป็นการใช้สิทธิฯ 'ล้มล้างการปกครอง' สั่งเลิกการกระทำ</p>
</div>
<p>หัวหน้าพรรคกล่าวโดยสรุปประเด็นเรื่องนี้ว่าการกล่าวหา ว่าการเสนอแก้ไขร่างกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของ สส.พรรคก้าวไกลนั้นเป็นการล้มล้างการปกครอง แต่ทางพรรคก้าวไกลได้โต้แย้งข้อกล่าวหาไว้ว่า การเสนอแก้ไข มาตรา 112 ไม่ใช่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพ ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 แต่การเสนอร่างกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฉบับใด เป็นอำนาจของ สส.ตามกระบวนการนิติบัญญัติ และการเสนอร่างกฎหมายไม่สามารถเป็นการล้มล้างการปกครองได้</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวถึงเหตุผลต่อว่า เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจการตรวจสอบว่าร่างพระราชบัญญัติชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ทั้งก่อนและหลังการประกาศใช้อยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ได้มีการตีความขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญไว้ว่า แม้การเสนอร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎรเป็นวิธีการทางรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ให้ฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจโดยตรงในการเสนอกฎหมายระดับพระราชบัญญัติอยู่แล้ว แต่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าตัวเองมีอำนาจที่จะตรวจสอบและวินิจฉัยว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ซึ่งเป็นการตีความครอบคลุมถึงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัตินอกเหนือการตรวจสอบการชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 และมาตรา 212</p>
<p>หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่าทางพรรคเห็นว่าคำวินิจฉัยในส่วนนี้จะส่งผลต่อความชัดเจนของขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะกระทบโดยตรงต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็น สส. หรือสมาชิกรัฐสภาทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่าอะไรที่สมาชิกรัฐสภาจะทำได้หรือไม่ได้ จึงควรจะพิจารณาโดยเร่งด่วนในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการตรวจสอบการกระทำของ สส.</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวว่าการศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้จะรวมไปถึงคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้ด้วยเช่น เรื่องการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ วินิจฉัยว่าไม่ให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญถึงที่มาของสมาชิก คำวินิจฉัยเหล่านี้ของศาลรัฐธรรมนูญล้วนกระทบต่อสมดุลและดุลยภาพอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ และตุลาการรวมถึงศาลรัฐธรรมนูญอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นที่มาของการยื่นญัตติด่วนในวันนี้</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวอีกว่าเรื่องนี้ควรต้องมีการศึกษาเพราะคำวินิจฉัยขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญนี้กระทบต่อดุลยภาพของอำนาจในระบอบประชาธิปไตยและเพื่อรักษาหลักการแบ่งแยกอำนาจและหาทางป้องกันไม่ให้อำนาจตุลาการเข้ามาก้าวก่ายการกระทำของฝ่ายนิติบัญญัติโดยการตีความขยายเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในฐานะข้อยกเว้นของระบบกฎหมายในกรณีที่เป็นประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน และที่เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะคำวินิจฉัยทำนองนี้กระทบโดยตรงต่อการทำงานของสมาชิกรัฐสภาไม่มีความชัดเจนแน่นอนว่าเรื่องไหนทำได้หรือไม่และจะถูกตีความว่าเป็นเรื่องที่ถูกตรวจสอบโดยศาลรัฐธรรมนูญได้มากกว่าที่รัฐธรรมนูยกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ</p>
<p>หัวหน้าพรรคก้าวไกลเน้นย้ำว่าการยื่นญัตตินี้ยังเป็นการตั้งเรื่องขึ้นมาศึกษาเท่านั้น ยังไม่ไปกระทบคำวินิจฉัยที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาลใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อมีผลการศึกษาออกมาแล้วก็จะสร้างความชัดเจนให้กับฝ่ายนิติบัญญัติเองว่าตกลงเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ตรงไหนกันแน่ และคาดหวังว่าผลการศึกษานี้จะมีส่วนในการนำไปพิจารณาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในอนาคต เพราะเรื่องนี้ยังเป็นปัญหาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เช่น ร่างของพรรคเพื่อไทยที่เสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้แก้ทั้งฉบับ แต่รัฐสภาเห็นว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นนี้ จะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แม้พรรคเพื่อไทยจะใช้อำนาจโดยชอบตามรัฐธรรมนูญก็ตาม ถ้าเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน ก็จะมีปัญหาต่อไปในอนาคต</p>
<p>"ปัญหาการตีความเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องประหลาดมากหากฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายรัฐธรรมนูญแบบเช่นนี้ได้ เพราะเราเคยแก้ไขมาแล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติรวมถึงสภาร่างรัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขที่มาของวุฒิสภาได้ แต่มาถึงยุคหนึ่งปรากฎว่าศาลรัฐธรรมนูญขยายอำนาจในการตีความเรื่องดังกล่าว มาก้าวก่ายและล้ำแดนฝ่ายนิติบัญญัติ จะเป็นปัญหาการเมืองได้ในอนาคต"</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108335