[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
09 พฤษภาคม 2567 02:45:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความทรงจำนอกมิติ : ใกล้จะถึงแล้ว-ยุคจิตวิญญาณโลกานุวัตร  (อ่าน 2025 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5081


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 05 เมษายน 2553 08:42:02 »

http://serendip.brynmawr.edu/exchange/files/images/Stanford_Torus.400%20pixel%20width%20of%20page.jpg
ความทรงจำนอกมิติ : ใกล้จะถึงแล้ว-ยุคจิตวิญญาณโลกานุวัตร

 
 
บทความวันนี้มีความสำคัญมากสำหรับจักรวาล โลก-ดาวเคราะห์ดวงที่สามของระบบสุริยจักรวาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยเรา เพราะว่ามีถึงสี่เรื่องที่ดูเผินๆ อาจจะไม่เกี่ยวกัน แต่ผู้เขียนเข้าใจว่าเกี่ยวกันและจัดมารวมกันเพื่อนำเสนอท่านผู้อ่านได้ช่วยพิจารณาว่า ถูกต้อง ชอบธรรม และควรปฏิบัติหรือไม่? ประการใด? เรื่องที่หนึ่ง ชาวโลกทั่วทั้งโลกประมาณถึงหนึ่งในสามต่างล้วนแต่รู้แล้วว่า กระบวนทัศน์ใหม่ทางสังคม (Alexander King's Social Revolution ที่เยอรมนี Paul H.Ray's Cultural Creative ที่อเมริกา หมอประเวศ วะสี คลื่นลูกที่สามแห่งรัตนโกสินทร์แห่งประเทศไทย ประสาน ต่างใจ สู่มิติที่ห้า และบุพนิมิตรกระบวนทัศน์ใหม่ ประเทศไทยเหมือนกัน และเร็วๆ นี้ Jose Arguiles-Stephanie South's Cosmic History ที่อเมริกาเหมือนกัน) นั่นคือวิวัฒนาการของจิตสู่จิตวิญญาณและการย่างเท้าก้าวถึงยุคแห่งจิตวิญญาณที่ขบวนการนิวเอจ (newage) ในปี 2013 เรื่องที่สอง นักการเมืองและนักเศรษฐกิจ-นักธุรกิจ เพราะความเชื่อมั่นในวัตถุรูปธรรมและวิทยาศาสตร์กายภาพ จึงเป็นแมทีเรียลิสต์ (materialists) อย่างไม่รู้ตัว หรือไม่มีความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ใหม่ หรือว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์เองแต่ติดตามวิทยาศาสตร์ใหม่ไม่พอ หรือไม่ได้พิจารณาอย่างลึกซึ้งว่า วิทยาศาสตร์ใหม่หรือฟิสิกส์แห่งยุคใหม่นั้นมีความสอดคล้องอย่างที่สุด-โดยหลักการ-กับศาสนาที่อุบัติขึ้นที่อินเดียและจีน เช่น ศาสนาพุทธหรือศาสนาเต๋า ซึ่งวิวัฒนาการของจิตสู่จิตวิญญาณ (spirituality) นั้นคือคนส่วนใหญ่ของโลก รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์สังคม นักธุรกิจ นักการเมือง ฯลฯ ส่วนใหญ่ทั่วทั้งโลกเมื่อถึงยุคดังกล่าว โดยเฉพาะในประเทศไทยจะมีศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรมกันแทบทั้งนั้น เรื่องที่สาม กระบวนทัศน์หรือพาราไดม์ใหม่ที่นักคิดใหญ่ๆ พวกนิวเอเจอร์รวมทั้งผู้เขียน ล้วนแล้วแต่ถือว่ากระบวนทัศน์ใหม่ หรือการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางสังคมใหม่ในครั้งนี้ คือวิวัฒนาการของจิตสู่จิตวิญญาณหรือระดับที่สูงกว่า เช่นเดียวกับวิวัฒนาการทางกายจากสุนัข สู่ลิง และมนุษย์ ส่วนเรื่องสุดท้ายหรือเรื่องที่สี่นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลง (transformation) รูปแบบของระบบที่เป็นธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของระบบทุกระบบที่มีในจักรวาลแห่งนี้ โดยกฎของทฤษฎีไร้ระเบียบ (chaos theory) เราคงต้องการตัวดึงดูดหรือตัวเร่ง (attracter) ที่มีความสำคัญต่อการ "โผล่ปรากฏ" ของรูปแบบของระบบใหม่ ตัวดึงดูดหรือตัวเร่งแอตแทรกเตอร์นี้-มีความสำคัญอย่างยิ่งในทฤษฎีไร้ระเบียบและเป็นกลไกธรรมชาติ ที่วิทยาศาสตร์ค้นพบตัวดึงดูดที่จะทำหน้าที่เร่งให้การเปลี่ยนแปลงถึงชายขอบของจุดแห่งทางสองแพร่ง (margin of chaos) นั่นคือทางสองแพร่ง (bifurcation) ที่นำสู่ความล่มสลายจบสิ้นของรูปแบบของกระบวนทัศน์เก่า และการ "โผล่ปรากฏ" (emergent) ของกระบวนทัศน์ใหม่ รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมกระบวนทัศน์เก่าเดิมๆ โดยสิ้นเชิง ดังนั้น การหาตัวดึงดูดที่ให้การเปลี่ยนแปลงที่แน่นอนและเหมาะสม นั่นคือตัวแอตแทรกเตอร์จะต้องเป็นธรรมชาติ-หนึ่ง ถ้าหากเป็นคนที่เป็นตัวเร่งก็ต้องเป็นผู้มีอำนาจกับบารมีที่สูงที่สุด ย้ำว่าต้องสูงที่สุด การโผล่ปรากฏหรือในที่นี้เป็นกระบวนทัศน์ใหม่ทางจิต หรือวิวัฒนาการทางจิตสู่จิตวิญญาณนั้น
 
เพราะฉะนั้น การตั้งเป็นหัวเรื่องของบทความวันนี้ หมายความว่าโลกมนุษย์กำลังย่างเท้าเข้าสู่ยุคสมัยแห่งจิตวิญญาณ อันเป็นธรรมเนียมการปฏิบัติทั่วทั้งโลกเลย (spirituality globalization period) ผู้เขียนเชื่ออย่างยิ่งว่า ถึงเวลาที่มนุษยชาติจะได้ผ่านพ้นวัยเด็กหรือวัยรุ่นมาเป็นผู้ใหญ่เสียที เรามนุษย์โลกทั้งผอง รวมทั้งเราในประเทศไทยที่กำลังแตกแยกอยู่ในขณะนี้ ซึ่งนับวันก็ยิ่งซับซ้อนเป็นทวีคูณ เพราะว่าทุกคนเลยมีความทุกข์มากยิ่งกว่า-ที่ผู้เขียนคิดเองเองว่า-ความทุกข์ที่มนุษย์ในยุคสมัย 2,500 ปีก่อน หรือยุคสมัยที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบและสอนเรื่องของ "ทุกขา" แม้ว่าจะมีหลักการเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าสังคมใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น และประชากรโลกมีจำนวนมากขึ้นมากยิ่งนัก ความแตกแยกขัดแย้งของคนไทยรวมทั้งมนุษย์โลกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยิวกับปาเลสไตน์ เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ประเทศอาหรับส่วนหนึ่งกับอเมริกา ระหว่างฟันดาเมนทัลลิสทางศาสนาที่แตกแยกกันกระทั่งฆ่ากัน ฯลฯ ทั้งหมดทำให้โลกนี้มีความทุกข์มากขึ้นและมากขึ้นโดยที่มองทางออกไม่เห็น-ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าเป็นเพราะวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีวัตถุนิยมกายภาพ (materialism) ซึ่งทำให้คนทั้งโลกเห็นแก่ "ตัวกูของกู" และระบบเศรษฐกิจทุนนิยมการตลาดเสรี ที่ทำให้คนทั่วทั้งโลกเห็นแก่เงินมากยิ่งกว่าอื่นใดทั้งสิ้น ความแตกแยกระหว่างคนไทยด้วยได้กระเทือนไปถึงคนรากหญ้ากับ "ทุกขา" ของตน ซึ่งเมื่อไล่ไปแล้วก็คือเงิน จนกระทั่งทำให้ผู้เขียนเชื่ออย่างยิ่งว่า จิตจักรวาลหรือฟ้าคงจะลงโทษมนุษยชาติอย่างสาสม นั่นเป็นการมองในทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เดินเป็นเส้นตรง (non-linear sciences) หรือทฤษฎีไร้ระเบียบ (chaos theory) ทฤษฎีที่ไม่เคยผิดเลย ซึ่งผู้เขียนคิดว่าตรงกับพุทธศาสนาคำว่า "ตถตา" (suchness) "มันเป็นไปเช่นนั้นของมันเอง" ผู้เขียนขอรับรองว่า ท้ายที่สุดแล้วธรรมชาติระดับบน หรือ "ธรรมชาติที่สุดของธรรมชาติ" ของท่านพุทธทาส จะมีรูปแบบของสังคมรูปแบบใหม่ "โผล่ปรากฏ" ออกมา (หลังจากผ่านพ้นทางสองแพร่งแล้ว) ซึ่งประเด็นนี้ผู้เขียนเชื่อว่า ระบบสังคมใหม่ซึ่งเป็นระบบแห่งจิตวิญญาณที่จะต้องเกิดขึ้น (noosphere) ซึ่งนักคิดนักปรัชญาหลายคน รวมทั้งปิแอร์ เตยา เดอ ชาดัง และศรีอรพินโธ จะเกิดขึ้นและต้องเกิดขึ้นในปี 2013 สามปีจากวันนี้เป็นต้นไป เว้นแต่ช่วงนั้นประชาโลกจะเหลือราวๆ 18% ตามที่เจมส์ ลัฟล็อก นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเครือจักรภพอังกฤษได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์การ์เดียนส์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2009 ซึ่งไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อเราก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เพราะว่าวัฏจักรของธรรมชาติมัน "เป็นไปเช่นนั้นของมันเอง" อย่าลืมว่าอย่างดีความเคยชิน หรือสามัญสำนึกที่ทำให้เราเชื่อมั่นในสิ่งอะไรหรือเรื่องใดๆ นั้น เพิ่งอยู่กับเราจริงๆ เพียง-อย่างมากก็เมื่อเราตั้งหลักฐานบ้านช่องแล้ว-หรือคือเมื่อ 15,000 ปีมานี้เอง แต่ธรรมชาติไม่ว่าระดับไหน มันอยู่กับโลกเรามา-พร้อมๆ กับธรรมชาติด้านลบเพื่อรักษาดุลยภาพของโลก-ไม่ว่าจะดาวหางหรืออุกกาบาต แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การย้ายที่ของขั้วโลก ฯลฯ มันก็มีเช่นนั้นมาตั้งแต่เริ่มมีประวัติศาสตร์และดึกดำบรรพวิทยาของโลก 4,600 ล้านปีก่อนทั้งนั้น
 
ผู้เขียนเชื่อมั่นเช่นนักคิดนักวิทยาศาสตร์แห่งยุคใหม่ โดยเฉพาะนักฟิสิกส์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ หรือนักจักรวาลวิทยา และที่สำคัญที่สุด ผู้เขียนเชื่อมั่นอย่างที่สุดในพระพุทธองค์ ไม่ใช่ในฐานะผู้ประกาศศาสนาพุทธเท่านั้น แต่ในฐานะเป็นบุคคลที่จีเนียสที่สุด สัพพัญญูที่สุด เป็นบุคคลเดียวที่มีจิตใจรักเมตตาชีวิตทั้งหลายทั้งปวงและสรรพสิ่งอย่างที่สุด ที่-เมื่อภายหลังที่ตัวพระองค์เองทรงสามารถปฏิบัติด้วยตัวเอง จนมีวิวัฒาการทางจิตสูงล้ำที่สุดแล้ว และล่วงรู้ความจริงที่แท้จริงของธรรมชาติทั้งสองระดับหรือธรรมะทั้งหมดแล้ว-ยังเป็นห่วงกังวลมนุษยชาติและสัตว์โลกทั้งหลาย จึงได้ทรงคิดค้นประเด็นต่างๆ ของ "ทุกขา" ทั้งหมด และสอนวิธีปฏิบัติเพื่อที่จะให้มนุษย์สามารถมีวิวัฒนาการทางจิตนั้นๆ
 
สัตว์โลกรวมทั้งมนุษย์ได้มีวิวัฒนาการทางกายภาพเสร็จสิ้นแล้ว ดังที่ผู้เขียนได้เขียนลงที่นี่ไปหลายหนแล้ว แต่วิวัฒนาการทางจิตที่ช้ากว่ายังไม่เสร็จสิ้น เราส่วนใหญ่ยังเป็นเช่นโพลตินัสบอกว่า มนุษยชาติยืนอยู่ระหว่างสัตว์ร้ายกับเทวดา เพราะฉะนั้น วิวัฒนาการทางจิตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อมนุษยชาติ เราทุกคนจะต้องมีวิวัฒนาการทางจิตสู่จิตวิญญาณ ซึ่งเป็นหลักการของจักรวาลและเป็นหลักการของพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ อย่าลืมว่าศาสนาจำเป็นต้องศึกษาธรรมชาติอย่างรอบด้าน ในขณะที่วิทยาศาสตร์ก็จำเป็นต้องศึกษาธรรมชาติ อย่างน้อยก็ในระดับล่าง ศาสนาจึงไม่ได้ห่างจากวิทยาศาสตร์ แท้ที่จริงแล้วศาสนากับวิทยาศาสตร์คือสิ่งที่ศึกษาค้นคว้าความจริงแท้ทั้งสองอย่าง.
 
 
http://www.thaipost.net/sunday/280310/19981

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ความทรงจำนอกมิติ : รูป นาม วิญญาณกับจักรวาลวิทยา
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2475 กระทู้ล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2553 14:00:45
โดย มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : ประวัติศาสตร์คือบันทึกความสัมพันธ์ของดินกับฟ้า
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2064 กระทู้ล่าสุด 05 เมษายน 2553 08:47:42
โดย มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : ทฤษฎีรวมแรงทั้งหมดกับพุทธศาสนา
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2005 กระทู้ล่าสุด 18 เมษายน 2553 17:16:25
โดย มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : มนุษย์กับโลกไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2059 กระทู้ล่าสุด 03 พฤษภาคม 2553 08:42:23
โดย มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : ถึงเวลาที่ต้องยุติระบบต่างๆ ทางสังคมที่ผิด
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 7166 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2553 08:32:19
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.352 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 28 มีนาคม 2567 06:21:08