[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 06 ธันวาคม 2553 11:07:23



หัวข้อ: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 06 ธันวาคม 2553 11:07:23
อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊



armageddon เขียน:

ยังเถียงกันไม่เสร็จ  ว่าจะสร้างกระไดอย่างไร

แล้วคำพูดไหน ที่หลวงตาพูดว่า นิพพาน เป็นอัตตา?  ไม่เห็นมีสักประโยค

เห็นมีแต่พูดว่า

นิพพานมีหนึ่งเท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา  



phonsak ยกคำพูดของหลวงตามหาบัวมา:


ปีที่ 2 ฉบับที่ 590 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 แรม 3 ค่ำ ...

พระนิพพาน เป็นอัตตา ไม่สูญ “หลวงตามหาบัว” พระนักปฏิบัติพูดชัด เป็นอัตตาไม่น่าจะผิด แต่ไม่ได้หมายถึง “อัตตา” ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา”



armageddon เขียน:


555+ ยังไงๆๆ  ก็ยังไม่ชัดอยู่ดี

ไม่น่าจะ ..

ไม่แน่ว่าจะ ..
อาจจะ ..
แบบนี้ หรือชัด

แต่ที่แน่ๆๆ
ชัดๆ ก็คือ

นิพพานมีหนึ่งเท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา  



phonsakเขียน:

นิพพานมีหนึ่งเท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา

"อัตตา" ที่หลวงตามหาบัวพูดถึง ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา” = อัตตานุทิฏฐิ หรืออุปทาน สิ่งนี้เป็นความเข้าใจผิดของมนุษย์ทั่วโลกว่ามันเป็นอัตตา

ส่วนที่หลวงตามหาบัวพูดว่า  พระนิพพาน เป็นอัตตา ไม่สูญ หลวงตามหาบัวพูดชัด เป็นอัตตาไม่น่าจะผิด = อัตตาแท้ที่ระบุในอนัตตลักขณะสูตรว่า เป็นสิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา

อย่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจเลยคุณarmageddon  

สรุป


"อัตตา" ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา” = อัตตานุทิฏฐิ หรืออุปทาน  อัตตาตัวนี้เป็นความเข้าใจผิดของมนุษย์ว่า ขันธ์ 5 หรือร่างกายของเรามีตัวตน  พระพุทธองค์จึงเปลี่ยนเรียกชื่อ "อัตตา" ที่เป็นอัตตานุทิฏฐิ ว่า  "อนัตตา"

ส่วน "อัตตา" ที่พระพุทธองค์ให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา

พูดง่ายๆ

-  สิ่งที่ไม่เป็นอมตะ  ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย = อนัตตา หรือ "อัตตา"เก๊ = อัตตานุทิฏฐิ  

-  สิ่งที่เป็นอมตะ  ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย =  "อัตตา" ที่พระพุทธเจ้าพูดถึงในอนัตตลักขณะสูตร


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 06 ธันวาคม 2553 18:17:26
สรุป


"อัตตา" ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา” = อัตตานุทิฏฐิ หรืออุปทาน  อัตตาตัวนี้เป็นความเข้าใจผิดของมนุษย์ว่า ขันธ์ 5 หรือร่างกายของเรามีตัวตน  พระพุทธองค์จึงเปลี่ยนเรียกชื่อ "อัตตา" ที่เป็นอัตตานุทิฏฐิ ว่า  "อนัตตา"

ส่วน "อัตตา" ที่พระพุทธองค์ให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา

พูดง่ายๆ

-  สิ่งที่ไม่เป็นอมตะ  ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย = อนัตตา หรือ "อัตตา"เก๊ = อัตตานุทิฏฐิ 

-  สิ่งที่เป็นอมตะ  ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย =  "อัตตา" ที่พระพุทธเจ้าพูดถึงในอนัตตลักขณะสูตร

 

 ;D ;D ;D

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 07 ธันวาคม 2553 00:47:08

 ;D ;D ;D

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน


ใช้ พลศักดิ์ลักขณะสูตร ยืนยันกระต่ายขาเดียวไปก่อน


เราพลศักดิ์ เป็นผู้มีปัญญาและมองเห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ เราเห็นพวกเธอนอนอยู่ในหลุมถ่านเพลิงแห่งความอยากรู้อยากเห็นในพุทธพจน์ของแท้แห่งตถาคตองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  แต่พวกเธอโดนมารปิดกั้นความรู้ในพุทธพจน์

เราเห็นพวกเธอหมดปัญญาเอาชนะเหล่ามารพวกนี้   เราจึงมาดับหลุมถ่านเพลิงแห่งความอยากรู้อยากเห็นของพวกเธอในพุทธพจน์ของแท้แห่งตถาคตองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของเหล่าพระอรหันต์ต่างๆ

เราเขียนกระทู้มาเป็นร้อยเป็นพันกระทู้  มารหมดทางปราบเราได้แล้ว  ไล่เราออกจากเว็บไหนๆ  เราก็เข้าไปได้ใหม่เสมอ  แต่เราเห็นว่าความรู้ของเราสมควรเปิดกว้างไปในเว็บต่างๆให้ถ้วนทั่ว  เราจึงเลือกเข้าไปเล่นในเว็บเหล่านั้น

มารมาเจรจากับเรา  มาเปิดเว็บให้เราฟรี  เราไม่หลงกลมารหรอก

5555555


 ;D ;D ;D อยากบอกเสียจนหลุมถ่านเพลิง เผาตัวเอง



หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 ธันวาคม 2553 01:04:52
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 07 ธันวาคม 2553 01:12:35
 armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 ;D ;D ;D


อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 07 ธันวาคม 2553 09:28:02
armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 ;D ;D ;D


อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


 ;D ;D ;D

ตอบว่า
แหกตาดูซะก่อนครับ
อนัตตลักขณะสูตร
พูดเรื่อง ขันธ์

ถ้าขันธ์ทั้งหลายเที่ยง ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา

นั่นเรียกว่า ปัญญาอ่อน



หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 07 ธันวาคม 2553 13:31:23
แล้วก็กรุณาแหกตาดูอีกทีนะ

armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

ไ่ม่ได้ให้เอาคำพูดเพ้อเจ้อของร่างทรงองค์เก๊อย่างพลศักดิ์มานะ


ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า ควรเห็นกันจะๆ เลยว่า พลศักดิ์ ชอบสวมรอยขี้ตู่ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า

เห็นกันจะๆ เลยว่าพลศักดิ์ = ร่างทรงของเก๊ ปัญญาอ่อน พระพุทธเจ้าข้าาาา...


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 ธันวาคม 2553 16:13:12
จุดที่ผมรับไม่ได้ในตัว phonsak นอกเหนือจากความแหกคอก

คือเรื่องอ้างเป็นร่างทรงนี่แหละ

แย่ว่ะไอ้คน ๆ นี้


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 15 ธันวาคม 2553 17:10:11
armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 ;D ;D ;D


อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


 ;D ;D ;D

ตอบว่า
แหกตาดูซะก่อนครับ
อนัตตลักขณะสูตร
พูดเรื่อง ขันธ์

ถ้าขันธ์ทั้งหลายเที่ยง ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา

นั่นเรียกว่า ปัญญาอ่อน



อย่าด่าตัวเองว่า  ปัญญาอ่อนเลย  จริงๆคุณเป็นพวกฉลาดน้อย และแกล้งโง่ต่างหาก


อนัตตลักขณสูตร พูดเรื่องขันธ์ 5 ที่ไม่เที่ยง ทุกข์ แปรปรวน  และก็พูดถึงเรื่องขันธ์อีกประเภทหนึ่งซึ่งเที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวนด้วย

ต้องฝึกให้ได้ถึงขั้นเห็นขันธ์ 5 เป็นอนัตตา  แล้วจะเห็นว่า ธรรมขันธ์ หรือธรรมกาย ที่เป็นอายตนะนิพพาน นั้นเป็นอัตตาที่เที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวน

แกล้งโง่ต่อไปนะ  หรือว่าคุณเป็นบัวใต้น้ำลึกสุดวะนี้  จึงไม่มีทางเห็นธรรมจริงๆวะนี่

สมเด็จพระสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (แพ ติสูรเทโว)


" สัตว์โลกยังมีอวิชชาจะเข้าใจว่าขันธ์ ๕ เป็นอัตตา เว้นเมื่อเข้าถึงอสังขตธาตุได้ความบริสุทธ์เป็นนิพพาน จะเข้าใจว่า ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาทันที แล้วจะเห็นว่าพระนิพพานเป็นอัตตา   "


หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 15 ธันวาคม 2553 19:58:03
armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 ;D ;D ;D


อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


 ;D ;D ;D

ตอบว่า
แหกตาดูซะก่อนครับ
อนัตตลักขณะสูตร
พูดเรื่อง ขันธ์

ถ้าขันธ์ทั้งหลายเที่ยง ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา

นั่นเรียกว่า ปัญญาอ่อน



อย่าด่าตัวเองว่า  ปัญญาอ่อนเลย  จริงๆคุณเป็นพวกฉลาดน้อย และแกล้งโง่ต่างหาก


อนัตตลักขณสูตร พูดเรื่องขันธ์ 5 ที่ไม่เที่ยง ทุกข์ แปรปรวน  และก็พูดถึงเรื่องขันธ์อีกประเภทหนึ่งซึ่งเที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวนด้วย

ต้องฝึกให้ได้ถึงขั้นเห็นขันธ์ 5 เป็นอนัตตา  แล้วจะเห็นว่า ธรรมขันธ์ หรือธรรมกาย ที่เป็นอายตนะนิพพาน นั้นเป็นอัตตาที่เที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวน

แกล้งโง่ต่อไปนะ  หรือว่าคุณเป็นบัวใต้น้ำลึกสุดวะนี้  จึงไม่มีทางเห็นธรรมจริงๆวะนี่

สมเด็จพระสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (แพ ติสูรเทโว)


" สัตว์โลกยังมีอวิชชาจะเข้าใจว่าขันธ์ ๕ เป็นอัตตา เว้นเมื่อเข้าถึงอสังขตธาตุได้ความบริสุทธ์เป็นนิพพาน จะเข้าใจว่า ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาทันที แล้วจะเห็นว่าพระนิพพานเป็นอัตตา   "


 ;D ;D ;D

เพราะเห็นนิพพานในขณะที่มียศสมณะศักดิ์อยู่
ก็เรียกว่าอัตตา ก็ถูกแล้วนี่ครับ
ถ้าหมดยศโลกธรรม แล้ว ก็จะเห็นนิพพาน เป็นนิพพาน อย่างเดียว เป็นหนึ่งเดียว

ไม่มีสองด้วยอัตตา ไม่มีสามด้วยอนัตตา

 ;D ;D ;D





หัวข้อ: Re: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 15 ธันวาคม 2553 22:15:43
 (^^) (^^) (^^)