หัวข้อ: หลวงพ่อเพียร อติภาโส วัดบ้านหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 17 กันยายน 2560 19:09:38 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/21094721431533__3627_3621_3623_3591_3614_3656.jpg) หลวงพ่อเพียร อติภาโส อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม “หลวงพ่อเพียร อติภาโส” อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาธรรมสูง อยู่ในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคามโดยตลอด เกิดในสกุล บุญน้อย เมื่อปี 2473 ณ บ้านหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ด้วยความที่เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ บิดา-มารดา นำไปบรรพชาที่วัดในหมู่บ้าน จนเมื่ออายุครบบวช พ.ศ.2492 เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดบ้านกุดแคน ต.โคกก่อ อ.เมือง มีพระครูสุตสารวิศิษฏ์ วัดบ้านกุดแคน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังอุปสมบท จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองหิน มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจนแตกฉานในเวลาอันรวดเร็ว พรรษาที่ 5 สอบได้นักธรรมชั้นเอก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาธรรมบาลี จึงเดินทางไปจำพรรษาที่สำนักเรียนวัดหนองไผ่ ต.อีตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เรียนอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนย้ายกลับมาเรียนธรรมบาลีที่สำนักเรียนวัดโสมนัสประดิษฐ์ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม สมัยนั้นเป็นสำนักเรียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ต่อมาชาวบ้านหนองหินได้นิมนต์กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด เพราะขาดแคลนพระผู้ใหญ่ดูแลปกครองวัด หลวงพ่อเพียร เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้ในแต่ละวันจะมีญาติโยมในพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมกับหลวงพ่ออย่างล้นหลาม โดยเฉพาะน้ำพระพุทธมนต์และเหรียญรูปเหมือนรุ่น 1 อันเข้มขลัง แต่ไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อไปเรียนวิทยาคมมาจากพระอาจารย์ท่านใด นอกจากนี้ ยังเป็นพระนักพัฒนาอันทรงคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาสนสถาน ศาสนวัตถุ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ อาทิ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว กุฏิ เป็นต้น พร้อมกับปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงามปลูกต้นไม้ ทำให้ทั่วบริเวณวัดมีแต่ความสงบวิเวก ท่านยังได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยรับหน้าที่ครูสอนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดบ้านหนองหินมาโดยตลอด เป็นผู้มีอุปนิสัยเยือกเย็น สุขุม แต่เมื่อพระเณรในปกครองทำผิดเมื่อตักเตือนแล้วไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษไม่มีเว้น ภิกษุสามเณรจึงยำเกรงท่านมาก สำนักเรียนวัดบ้านหนองหินจึงไม่เคยด่างพร้อย สำหรับปัจจัยที่ได้รับจากญาติโยมส่วนหนึ่งจะนำมาช่วยเหลือสังคม ชุมชน หลวงพ่อจะเป็นผู้นำพาชาวบ้านพัฒนาสาธารณูปการภายในหมู่บ้านควบคู่กับการพัฒนาวัดมาโดยตลอด ลำดับด้านปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2499 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองหิน พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะตำบลโคกก่อ เขต 2 ตากตรำงานหนักทั้งงานปกครองสงฆ์ งานพัฒนาชุมชน และงานนิมนต์ ทำให้สังขารท่านร่วงโรยก่อนวัยอันควร ถึงแม้ท่านจะพรรษายังน้อย อายุเพิ่งจะสี่สิบกว่าเท่านั้น แต่มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง แต่ท่านจะไม่ค่อยยอมเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล กระทั่งเมื่ออาการอาพาธหนัก บรรดาญาติโยมก็ไม่สามารถทนดูได้ จึงนิมนต์ท่านเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์กรุงเทพ ระยะหนึ่งแต่หลวงพ่อก็ขอกลับวัด คล้ายกับว่ารู้ว่าวาระสุดท้ายกำลังมาถึง สุดท้ายหลวงพ่อก็มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2519 สิริอายุ 47 ปี พรรษา 27 นับว่าอายุและพรรษาท่านยังน้อยมาก ณ วันนี้ถึงแม้ท่านจะละสังขารไปนานหลายสิบปี แต่ศิษยานุศิษย์ ยังคงรำลึกถึงคุณงามความดีไปตราบนานเท่านาน คอลัมน์ อริยะโลกที่6 ข่าวสดออนไลน์ |