'ประชาไท' แจง 5 ประเด็นกรณีนักข่าวถูกจับกุมคดี 'เป็นผู้สนับสนุน' ทำลายโบราณสถาน
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-21 19:26</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53542927896_ae52ef571b_3k.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'การทำข่าวไม่ใช่อาชญากรรม' : ชี้แจงกรณีนักข่าวประชาไทถูกจับกุมคดี 'เป็นผู้สนับสนุน' ทำลายโบราณสถาน</span></h2>
<p>จากกรณีตำรวจจับกุม 2 นักข่าวและช่างภาพ หนึ่งในนั้นคือ ณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวประชาไท เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาด้วยข้อหา 'เป็นผู้สนับสนุน' ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถานฯ จากเหตุไปทำและรายงานข่าวศิลปินอิสระพ่นสีข้อความทำเป็นสัญลักษณ์ไม่เอา 112 และเครื่องหมายสัญลักษณ์ "อนาคิสต์" บนกำแพงวัดพระแก้ว 28 มี.ค.2566 โดยหมายจับออกไว้ตั้งแต่ 22 พ.ค. 2566 และไม่มีหมายเรียกก่อนนั้น ทั้งนี้ระหว่างจับกุมผู้สื่อข่าวประชาไทยังถูกพันธนาการด้วยเคเบิลไทร์ และสองยังถูกควบคุมตัวโดยการไปยังพื้นที่ห่างไกลจาก สน.พระราชวัง คือทั้ง สน.ฉลองกรุงและ สน.ทุ่งสองห้อง จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และประชาไทตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น</p>
<p>กองบรรณาธิการข่าวประชาไทจึงขอชี้แจงดังนี้</p>
<p>1. กระบวนการทำข่าวและรายงานข่าวของ ณัฐพล เมฆโสภณ ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติแห่งวิชาชีพ ในประมวลจริยธรรม 'ประชาไท'
2. หมายข่าวดังกล่าวทั้งในวันที่ 27 มี.ค.2566 ที่ผู้นัดหมายยกเลิกกิจกรรม และวันที่ 28 มี.ค.2566 ที่เกิดเหตุจนเป็นประเด็นนั้น ณัฐพล เมฆโสภณ ได้รับการอนุมัติจากบรรณาธิการให้ไปติดตามและรายงานข่าวตามหมายข่าว
3. สถานะและสภาพการจ้างงานของ ณัฐพล เมฆโสภณ ยังเป็นนักข่าวประจำกองบรรณาธิการฯเหมือนเดิมทุกประการ
4. กองบรรณาธิการฯ จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีกับ ณัฐพล เมฆโสภณ ตลอดกระบวนการ
5. กองบรรณาธิการฯ จะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ ณัฐพล เมฆโสภณ ในทุกช่องทางที่มีและทำได้ รวมทั้งช่องทางกระบวนการยุติธรรมเพื่อปกป้องการทำงานและชื่อเสียงของ ณัฐพล เมฆโสภณ </p>
<p>มีข้อโต้แย้งว่าสื่อก็ทำผิดได้ และโดยกระบวนการปกติสื่อต้องถูกตรวจสอบได้ แน่นอนเราเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าสื่อผิดและพลาดได้ อีกทั้งเรายังส่งเสริมให้ประชาชนเท่าทันสื่อ แต่การออกหมายจับค้างไว้ถึง 9 เดือน ก่อนจับกุม และไม่มีหมายเรียกก่อนนั้น เรามองว่าไม่ใช่กระบวนการตรวจสอบปกติ รวมถึงหากปล่อยให้การตั้งข้อกล่าวหาในลักษณะนี้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ก็ยังจะกระทบต่อกระบวนการทำงานข่าวโดยเฉพาะนักข่าว ช่างภาพ หรือผู้ปฏิบัติงานข่าวภาคสนามอย่างยิ่ง</p>
<p>ไม่เพียงแต่ 2 นักข่าวและช่างภาพที่ถูกละเมิดเสรีภาพของสื่อ หากแต่ช่วงที่ผ่านมามีการดำเนินคดีในลักษณะการฟ้องปิดปาก (Strategic Lawsuits Against Public Participation -SLAPP) ต่อสื่อมวลชนทั้งสื่อมวลชนอาชีพที่มีสังกัด สื่อมวลชนอิสระ รวมทั้งสื่อพลเมืองหรือประชาชนผู้ใช้สิทธิในการสื่อสาร โดยเฉพาะส่วนหลังที่อยู่ในสถานะเปราะบางมักถูกข่มขู่และทำร้ายร่างกายในหลายครั้ง </p>
<p>จึงขอเรียกร้องให้องค์กรวิชาชีพสื่อ กลไกปกป้องคุ้มครองสิทธิฯ สื่อมวลชนหรือประชาชนเอง ติดตามสถานการณ์และไม่ปล่อยให้กระบวนการเหล่านี้กลายเป็นบรรทัดฐานหรือความปกติใหม่ที่มาจำกัดเสรีภาพสื่อและสิทธิในการสื่อสารของประชาชน เพราะไม่เพียงคนทำงานสื่อจะกระทบ ประชาชนที่เป็นผู้รับสารหรืออยากลุกขึ้นมาสื่อสารก็จะกระทบไปด้วย</p>
<p>“เสรีภาพสื่อ คือ เสรีภาพประชาชน”
กองบรรณาธิการข่าวประชาไท
21 ก.พ. 2567
</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108161