[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
09 พฤษภาคม 2567 03:34:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กรดไขมันจำเป็น ( Essential Fatty Acids )  (อ่าน 6032 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 25 สิงหาคม 2553 14:45:26 »


                             


**กรดไขมันจำเป็น ( Essential Fatty Acids )


ไขมัน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตก็ว่าได้ เซลล์ของเราทุกเซลล์มี ไขมัน เป็นโครงสร้าง เยื่อหุ้มเซลล์ก็คือ ไขมัน 2 ชึ้นที่มาประกบกันอยู่ ถ้าขาดไขมันเสียเซลล์ก็จะไม่เป็นเซลล์ เมื่อไม่มีเซลล์ก็ไม่มีตัวเรา พูดให้ง่ายก็คือ ไม่มีไขมันก็ไม่มีชีวิตปราศจากโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่สุดของชีวิต

ไขมัน เป็นกลุ่มอาหารที่ให้พลังงานสูง ไขมันปริมาณเท่ากับคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน จะให้พลังงาน มากกว่าถึง 2 เท่า อาหารประเภทแป่ง น้ำตาล และโปรตีน 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรี่ แต่ไขมัน 1 กรัมให้พลังงานถึง 9 แคลอรี่ การดำเนินชีวิตประจำวันย่อมต้องการพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การเขียนหนังสือ การกระโดดโลดเต้น การขับรถ การช็อปปิ๊ง ร่างกายล้วนต้องการพลังงาน

ไขมัน ช่วยในการดูดซึมสารอาหารจำเป็นเช่นวิตามินที่ละลายใน ไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค นอกจากนี้ ไขมัน ทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะภายในของเราจากการกระทบกระแทก เช่น ตับ ไต หัวใจ ล้วนต้องการไขมันหุ้มเอาไว้ไม่ให้เป็นอันตรายจากการเคลื่อนไหวของตัวเรา ไขมันยังเป็นวัตถุดิบในการสร้างฮอร์โมนสำคัญ ๆ ในร่างกาย

กรดไขมันอิ่มตัว

กรด ไขมันอิ่มตัว คือ ไขมันที่เป็นไขมันเต็มตัว คือ ธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และอ๊อกซิเจนจับกันเป็นลูกโซ่โดย สมบูรณ์ และไม่มีช่องว่างเหลือที่จะทำปฏิกิริยากับสารใด ๆ ในร่างกาย พบมากในพวกไขมันสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว และไขมันจากกะทิ มะพร้าว เนย และไข่แดง

กรดไขมันไม่อิ่มตัว

กรด ไขมันไม่อิ่มตัว ก็คือ ไขมัน ที่ธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และอ๊อกซิเจน จับกันยังไม่สมบูรณ์ ยังมีช่องว่างในลูกโซ่ เหลืออยู่ และพร้อมจะเปลี่ยนแปรสภาพเป็นสารอื่น ๆ ได้ พบมากในน้ำมัปลาซัลมอนด์ น้ำมันเมล็ดพันธ์บอเรจ น้ำมัน อิฟนิ่งพริมโรส น้ำมันจมูกข้าวสาลี


                                   


กรดไขมันจำเป็น ( Essential Fatty Acids )

ถ้า พูดถึง กรดไขมันจำเป็น แปลว่าเป็น กรดไขมัน ที่ร่างกายสร้างขึ้นใช้เองไม่ได้ต้องอาศัยการกินเข้าไป นั่นคือ เราต้องกิน กรดไขมัน จำเป็นจากอาหาร เพราะมันมีความจำเป็นต่อร่างกายของเรา กรดไขมัน จำเป็นเป็นส่วนย่อยของ ไขมัน ที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งมีประโยชน์และมีความจำเป็นต่อร่างกาย ร่างกายต้องนำมาใช้เพื่อสร้างความสมดุลย์ ความแข็งแรง รวมทั้งการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ต่าง ๆ

กรด ไขมันจำเป็น พบได้ในอาหารที่เราบริโภคทุกวัน ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ กรดไขมันจำเป็น มีหลาย ชนิด แต่ที่เรามักได้ยินและคุ้นหู และเป็นที่ยอมรับของวิทยาศาสตร์ทั่วโลกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมากคือ

- โอเมก้า 3 ( Linolenic หรือ Alpha Linoleic Acid ) น้ำมันปลา ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและอัมพาต ลดการอักเสบ ของโรคไขข้อเสื่อมรูมาตอยด์ ลดอาการปวดหัวไมเกรนและปวดประจำเดือน เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายและลดอาการของ โรคภูมิแพ้

- โอเมก้า 6 ( Linoleic Acid ) น้ำ มันอีฟนิ่งพริมโรส ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โดยการลดการแข็งตัวของเลือดด้วย การลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดทำให้หลอดเลือดที่หัวใจเป็นปกติ ลดอัตราการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ลดการขยาย ตัวของเซลล์มะเร็ง สามารถช่วยบำรุงตับและใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่ดื่มสุรา หรือเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ป้องกันโรคสมอง เสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ โดยลดการแข็งตัวของเยื้อหุ้มเม็ดเลือดแดง ทำให้สมองได้รับอ๊อกซิเจนมากขึ้น

- โอเมก้า 9 ( Oleic Acid ) ช่วย ลดระดับคอเรสตอรอล ในเลือด



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2553 15:05:35 »





"โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ" 

เกี่ยวกับ เรื่องนี้ รศ.พญ.ปรียานุช แย้มวงศ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ บอกว่า น้ำมันปลาเริ่มเป็นที่สนใจมาประมาณ 30 ปี เมื่อมีข้อมูลว่าชาวเอสกิโม ที่บริโภคปลาในปริมาณสูง จะมีปัญหาเส้นเลือดอุดตันน้อย ระดับไขมันในเลือดต่ำ และการเกาะตัวของเกล็ดเลือดน้อยกว่าชาวเดนมาร์กซึ่งกิน เนื้อสัตว์มากกว่า

นอก จากนี้ ยังพบว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านชาวประมง ที่บริโภคปลาในปริมาณมาก จะมีโรคหลอดเลือดหัวใจ การเกาะตัวของเกล็ดเลือดและความหนืดของเลือดน้อยกว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้าน เลี้ยงสัตว์

กลุ่มกรดไขมันที่เรียกว่า โอเมก้า 3 คือ ไขมัน ไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เป็นไขมันจำเป็น ต้องได้รับจากอาหารเนื่องจากร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้สารอาหารที่สำคัญมี 2 ชนิด คือ อีพีเอ และ ดีเอชเอ ปลาทะเลน้ำลึก ที่ให้สารอาหารโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาทูน่า ปลาในอ่าวไทย ที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาทู และที่มีในปริมาณน้อย ถึงปานกลาง ได้แก่ ปลาอีกา ปลากะพง ปลาตาเดียว ส่วน ปลาน้ำจืดบางชนิด เช่น ปลาช่อน ปลานวลจันทร์ จะพอมีโอเมก้า 3 บ้าง ซึ่งมากกว่าปลาน้ำจืดอื่น ๆ  

     สำหรับความสำคัญของโอเมก้า 3 ในเด็ก กรด DHA มีความสำคัญต่อการเจริญพัฒนาสมองและดวงตาของเด็กทารก โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด การขาดของ DHA จะมีความสัมพันธ์กับโรคสมาธิสั้น โดยเด็กที่มีระดับ DHA ต่ำจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ การนอนและการเรียนรู้มากกว่าเด็กกลุ่มที่มีระดับ DHA ปกติ และเมื่อได้รับ DHA เสริม อาการต่าง ๆ จะดีขึ้น

     ส่วนความสำคัญของโอเมก้า 3 ในผู้ใหญ่และคนสูงอายุ จะ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และเพิ่มระดับไขมันชนิดดีซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดได้ ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ยากขึ้น ช่วยลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย ลดอุบัติการของโรคหลอดเลือดหัวใจ จากการลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันโรคความจำเสื่อม ชะลอหรือป้องกันการเจริญของเซลล์มะเร็ง

      นอกจากโอเมก้า 3 แล้ว ปลายังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย และในปลาทะเลยังมีไอโอดีน ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาเรื่องคอพอก และช่วยการเจริญพัฒนาของสมองเด็กในช่วงปีแรกด้วย 

     ข้อควรระวังในการกินโอเมก้า 3 เนื่อง จากน้ำมันปลาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ดังนั้นการกินปลาในปริมาณมากต่อเนื่องกัน หรือกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา จะทำให้มีปัญหาเรื่องเลือดออกหยุดยากโดยเฉพาะหากกินร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพรินหรือโคลพิโดเกรล

หาก กินปลาทะเลมากกว่า 8 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยากแล้ว ยังจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลงด้วย สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างในการบริโภคปลาทะเลปริมาณมาก คือ การปนเปื้อนโลหะหนัก โดยเฉพาะสารปรอท ดังนั้นหากบริโภคมากเกินไป จะเกิดการสะสมและเป็นพิษได้.



http://www.uradio.in.th/v2/public/user/blogs/name_nongkae_narak/page_4/
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2553 15:17:37 »


           


       น้ำมันมะกอก เพื่อสุขภาพ

     น้ำมันมะกอกซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด (Monounsaturated Fatty Acids) และ Polyunsaturated balance วิตามินอี วิตามินเอ โปรตีน และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) รวมถึงกลิ่นหอมของผลมะกอก และรสชาติที่อร่อย ทำให้ได้ข้อสรุปว่าน้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่เหมาะที่สุดสำหรับการบริโภค ไม่ว่าจะใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารรับประทานสดหรือผ่านการปรุงแล้ว ที่สำคัญน้ำมันมะกอกยังมีผลดีต่อร่างกายด้วย

องค์ประกอบของกรดไขมันที่มีอยู่ในน้ำมันมะกอก

มีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Monounsaturated 55-83% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดโอเลอิค แตกต่างจากในไขมันสัตว์ที่มีกรดไขมันอิ่มตัวมากกว่า ในขณะที่ในน้ำมันพืชมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Polyunsaturated มากถึง 50-72% (เฉพาะในน้ำมันถั่วเหลือง และในน้ำมันดอกทานตะวันเท่านั้น)

สำหรับข้อแตกต่างระหว่างกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Monounsaturated กับ Polyunsaturated ก็คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Monounsaturated จะมีความทนทานเมื่อเผชิญหน้ากับกระบวนการ Oxidative ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้น้ำมันเกิดการเหม็นหืนมากกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Polyunsaturated โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยลดเปอร์เซ็นต์ของกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Polyunsaturated ให้ต่ำลงอยู่ในระหว่าง 3.5 และ 22% กรดไขมันเหล่านี้มีความจำเป็นต่อร่างกายแต่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ เมื่อเราหันมาบริโภคน้ำมันมะกอกเป็นประจำ จะทำให้ได้รับกรดไขมันที่จำเป็นเพียงพอทั้งในเด็ก และในผู้ใหญ่ นอกจากนี้น้ำมันมะกอก และน้ำมันที่ได้จากกากของมะกอกยังมีโครงสร้างของกลีเซอรอลเหมือนกันด้วย ซึ่งหมายความว่าจะให้ประโยชน์แก่ร่างกายด้วยเช่นกัน และการบริโภคน้ำมันมะกอกมีผลต่อร่างกายในระบบต่าง ๆ ดังนี้

ผลต่อระบบการย่อยอาหาร

อาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมะกอกจะมีผลดีต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยจะช่วยรักษาเยื่อบุลำไส้เพื่อป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารเกิดภาวะมีกรดเกลือมากผิดปกติ และยังช่วยลดอาการอักเสบของกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กอีกด้วย ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนยาระบายอ่อน ๆ และจะมีผลดีมากขึ้นเมื่อรับประทานในขณะที่ท้องว่าง และจะสามารถช่วยรักษาอาการท้องผูกเรื้อรังได้ด้วย

ผลต่อช่วงระยะเวลาสำคัญของชีวิต

น้ำมันมะกอกช่วยสร้างความสมดุลระหว่างกรดไขมันไม่อิ่มตัว คือ ไลโนเลอิค (Linoleic) และกรดไลโนเลนิค (Linolenic) ซึ่งกรดทั้งสองมีคุณสมบัติคล้ายกับน้ำนมแม่ที่เป็นแหล่งให้กรดไขมันอย่างเพียงพอ จากคุณสมบัติดังกล่าว ถ้าเราจะบอกว่าน้ำมันมะกอกเหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับเด็กที่ไม่สบาย และเด็กที่กำลังจะหย่านมบริโภคคงจะไม่ผิดนัก เพราะจะทำให้เด็กได้รับกรดไขมันทีเพียงพอ คล้ายกับการดื่มนมแม่ สำหรับผู้สูงอายุ ขอแนะนำให้บริโภคน้ำมันมะกอกด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้เจริญอาหาร เนื่องจากอาหารมีรสชาติอร่อย นอกจากนี้ยังมีผลดีต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ระบบดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินทำงานดีขึ้น น้ำมันมะกอกยังกระตุ้นการเก็บรักษาแร่ธาตุของกระดูก เพื่อป้องกันการสูญเสียแคลเซียมในกระดูกของผู้สูอายุได้ด้วย

ผลต่อระบบการหมุนเวียนโลหิต

อาหารที่เราทานเป็นประจำ อาจมีปริมาณของไขมันสัตว์มากจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับการหมุนเวียนโลหิต เช่น ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดอุดตันตามอวัยวะต่าง ๆ นอกจากนี้การใช้น้ำมันมะกอกยังเป็นการเพิ่มไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) ซึ่งช่วยในการขนถ่ายโคเลสเตอรอลจากเซลล์อื่น ๆ เข้าสู่ตับ เพื่อให้ตับเผาผลาญต่อไป ที่สำคัญช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดโคโรนารี (Coronary) ที่เกิดจากการเกาะตัวของโคเลสเตอรอลที่บริเวณเยื่อบุผนังหลอดเลือดที่มีบาดแผล ส่งผลให้เลือดเดินผ่านไม่สะดวก กลายเป็นเส้นเลือดอุดตันในที่สุด



ที่มา : bangkokhealth
http://women.thaiza.com/detail_31663.html






Top food detox. 20 Types.
สุดยอดอาหารล้างพิษ 20 ชนิด


คลิ๊กค่ะ : http://www.kwexport.com/2009/07/09/food-washes-20-kind-poisons/?lang=en
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 สิงหาคม 2553 15:52:14 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2553 17:46:15 »

เดี๋ยวนี้ผมก้ะหันมากินน้ำผักผสมน้ำผลไม้

หลังจากทำใจให้กินผักเป็นชิ้น ๆ ยังไม่ค่อยจะได้

5555555555555
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.893 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 27 มีนาคม 2567 15:31:28