[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 16 มกราคม 2564 18:51:45



หัวข้อ: หลวงพ่อปลื้ม จิตตสัญญโต วัดสวนหงส์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 16 มกราคม 2564 18:51:45

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/23287485829657_p19171063p2_Copy_.jpg)

หลวงพ่อปลื้ม จิตตสัญญโต
วัดสวนหงส์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

“หลวงพ่อปลื้ม จิตตสัญญโต” หรือ “พระครูสุมนคณารักษ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนหงส์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี อีกหนึ่งพระเกจิชื่อดังที่ชาวบ้านย่านบางปลาม้า ให้ความเลื่อมใสศรัทธา

เกิดในสกุล “ศุภพินิจ” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค.2450 ที่บ้านยอด ต.เก้าห้อง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี บิดา-มารดา ชื่อ นายสนและนางชื่น ศุภพินิจ

อายุ 14 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ถัดมาอีกหนึ่งปี บรรพชาอีกครั้งที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็น พระอุปัชฌาย์

อยู่จำพรรษาที่คณะ 1 เล่าเรียนจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ในปี พ.ศ.2469 และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ในปี พ.ศ.2471

กระทั่งอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่ วัดมหาธาตุ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระญาณสมโพธิ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระนิกรมุนี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จิตตสัญญโต”

ด้วยความที่สนใจใฝ่ในการศึกษา และมี วิริยอุตสาหะ จึงสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยคในปี พ.ศ.2474 จากนั้นได้รับการ แต่งตั้งเป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์สำนักเรียนวัดมหาธาตุ

จากนั้นถูกส่งให้ไปช่วยสอนธรรมบาลีที่วัดเจ้าเจ็ดใน จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดโคกทอง

ที่พระนครศรีอยุธยา ได้พบกับครูจาบ สุวรรณ ซึ่งเป็นฆราวาส เป็นอาจารย์สอนกัมมัฏฐานอยู่วัดประดู่โรงธรรม (ประดู่ทรงธรรม)

ตัวท่านมีความสนใจในเรื่องของภาวนาจิตอยู่แล้ว จึงได้ขอเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ประมาณ 4 ปี แล้วจึงเดินทางไปอยู่ยังวัดต่างๆ เพื่อหาที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม

พ.ศ.2484 ไปอยู่วัดกล้วย อ.กรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา

พ.ศ.2485 อยู่วัดถ้ำตะโก เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ประมาณ 4 เดือนแล้ว เข้าไปจำพรรษาที่วัดมหาธาตุ

พ.ศ.2486 จำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพระ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี แล้วมาวัดขวาง อ.บางปลาม้า ก่อนย้ายไปอยู่วัดปราสาททอง อ.เมืองสุพรรณบุรี

พ.ศ.2488 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระวินัยธรจังหวัด มีหน้าที่ตัดสินคดีความในเขต 7

ในวันที่ 27 ก.ค.2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดสวนหงส์ และเจ้าคณะตำบลโคกคราม พ.ศ.2494 ได้ เป็นพระอุปัชฌาย์

วันที่ 5 ธ.ค.2502 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสุมนคณารักษ์” เป็นพัดพิเศษจปร. ซึ่งเป็นพัดแรกของวัดราษฎร์ และเป็นพัดรุ่นสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง

วัดสวนหงส์ เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งที่มีชื่อปรากฏอยู่ในนิราศสุพรรณบุรีของบรมครูกลอนสุนทรภู่ สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.2379

คนโบราณเล่าสืบทอดมาว่า มีเศรษฐีโคกครามสองผัวเมียชื่อ “สวน” และ “หงส์” มีศรัทธาสร้างวัดนี้ขึ้น จึงนำชื่อทั้งสองมาตั้งเป็นชื่อวัด

หลวงพ่อปลื้ม เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 4 และสร้างสรรค์ความเจริญให้วัดและชุมชนอย่างเต็มความสามารถ

สมัยนั้น บริเวณวัดเป็นที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ท่านก็ดำเนินการถมดินจนเป็นที่ดอนพร้อมกับปลูกต้นไม้ให้มีความร่มรื่น รวมทั้งจัดระเบียบสิ่งปลูกสร้างเป็นที่เจริญตาแก่ผู้มาเยือน

สิ่งที่ท่านให้ความสำคัญอันดับแรก คือ การศึกษา พระภิกษุและสามเณรของวัดสวนหงส์ สามารถสอบนักธรรมได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนช่วยเหลือการศึกษาของลูกหลานชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอ อาทิ เป็นประธานสร้างอาคารเรียนประถมศึกษา, เป็นประธานทอดผ้าป่าช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ

อีกทั้ง ยังเป็นผู้สนับสนุนและอุปถัมภ์งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ด้วยเมตตาจิตอันสูงของท่าน จึงปรากฏลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งคนสามัญธรรมดา และศิษย์ที่ท่านเลี้ยงดูอุปการะจนเป็นใหญ่เป็นโต

คำสอนส่วนใหญ่ท่านจะเน้นให้ทุกคนรักใคร่ปรองดอง เคารพกันและกันร่วมมือเอื้อประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการกระทำให้ผู้อื่นเสียหาย

มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่ชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ก็ถูกหลวงพ่อคูณ บอกให้ไปกราบหลวงพ่อปลื้มที่เป็นอาจารย์ของตน ที่วัดสวนหงส์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร หลวงพ่อปลื้มเริ่มมีอาการอาพาธและรักษาตัวอยู่นาน 85 วัน

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2545 สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74
ที่มา นสพ.ข่าวสด