15 พฤษภาคม 2567 09:43:01
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
.:::
บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก (อ่าน 2392 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.116
บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
«
เมื่อ:
09 กรกฎาคม 2563 20:56:07 »
Tweet
บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ
สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
http://www.youtube.com/watch?v=Djf9K4waGRY
พลังครอบจักรวาล ปรับชะตาร้ายให้กลายเป็นดี
ก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม เพิ่มบุญบารมี
ปรับภพภูมิแก่สรรพวิญญาณและเจ้ากรรมนายเวร
พระคาถามหาจักรพรรดินี้ เมื่อนำมาสวดภาวนาอยู่ทุกวัน ย่อมจะนำมาซึ่งความสำเร็จ
ทั้งในการคิดและการกระทำ ทั้งยังป้องกันอันตรายทั้งปวง ให้มีโชคลาภ มีกินมีใช้ไม่หมด
ดังมีสมบัติจักรพรรดิอยู่กับตัว เป็นคาถาที่วิเศษดีนัก
ผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.116
Re: บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
«
ตอบ #1 เมื่อ:
09 กรกฎาคม 2563 21:10:38 »
สำหรับการสวดพระคาถานี้อาจสวดที่ตัวคาถาเลย
หรือจะไล่ลำดับการสวดก็ได้
บูชาพระ
พุทธัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ
ธัมมัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ
สังฆัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ
ไตรสรณคมน์และสมาทานศีล ๕
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ
อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ
มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปมาทัฎฐานา เวระมณี สิกขาปทัง สมาทิยามิ
บทน้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวด
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
บทน้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่
นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ
นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ
นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ
บทพระคาถามหาจักรพรรดิ
นะโม พุทธายะ
พระพุทธะไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์
สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง
สีวะลี จะ มะหาเถรัง
อะหัง วันทามิ ทูระโต
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหัง วันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ **
**(สวดตามกำลังวัน อาทิตย์ 6 จันทร์ 15 อังคาร 8 พุธ 17 พฤหัส 19 ศุกร์ 21 เสาร์ 10 )
เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาณ
สัพเพ พุทธา สัพเพ ธัมมา สัพเพ สังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง
อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
(3 หรือ 5 จบ)
พุทธัง อธิฏฐามิ ธัมมัง อธิฏฐามิ สังฆัง อธิฏฐามิ
(อธิษฐานจิตแผ่)
อธิษฐานแผ่อุทิศส่วนบุญให้แก่ตัวเองก่อน
โดยอุทิศให้เจ้าของกายสังขาร เจ้ากรรมนายเวร และเจ้าเกณฑ์ชะตา
บอกชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด ของตนเอง
ต่อจากนั้นอุทิศให้เทพยดา อินทร์ พรหม ยมยักษ์ เจ้าที่เจ้าทาง
แล้วอธิษฐานให้สรรพดวงวิญญาณทั้งหลายที่ยังอยู่ในอบายภูมิ สัมภเวสี
โอปปาติกะได้ปรับภพภูมิหรือจงได้ไปจุติยังภพภูมิใหม่ที่ดี
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.116
Re: บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
«
ตอบ #2 เมื่อ:
09 กรกฎาคม 2563 21:12:10 »
หรือสวดแค่นี้ก็ได้ สวดตอนไหนก็ได้
หรือจะสวดหลังจากสวดมนต์ประจำวันเสร็จก็ได้
บทพระคาถามหาจักรพรรดิ
นะโม พุทธายะ
พระพุทธะไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์
สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง
สีวะลี จะ มะหาเถรัง
อะหัง วันทามิ ทูระโต
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหัง วันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.116
Re: บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
«
ตอบ #3 เมื่อ:
09 กรกฎาคม 2563 21:22:37 »
สิ่งที่ทำได้ยากกว่าทำบุญให้ทาน คือการรักษาศีล การภาวนา
หลวงปู่ดู่ ท่านเคยพูดเสมอว่า "อุปัชฌาย์ข้า(หลวงพ่อกลั่น) สอนว่า ภาวนาได้เห็นแสงสว่างเท่าปลายหัวไม้ขีด
ชั่วประเดี๋ยวเดียว เท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ยังมีอานิสงส์มากกว่าตักบาตรจนขันลงหินทะลุ"
อานิสงส์ของการสวดบทพระมหาจักรพรรดิ
“พระคาถามหาจักรพรรดิ” เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก“ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้า
ทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญา ชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์
โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้ว
ที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทาง
แห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลัก
ที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วย เหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ และใช้ในการอธิษฐานจิต
ปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน โดยท่านได้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหลาย รวมทั้งพระคาถามหาจักรพรรดินี้
ไว้ให้แก่ลูกศิษย์ผู้เป็นหน่อโพธิ์แก้วต้นใหม่ที่จะทำหน้าที่สร้างความร่ม เย็นเป็นสุขให้แก่ลูกศิษย์ในรุ่นหลังต่อไปก็คือ
พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า แห่งวัดถ้ำเมืองนะ นั่นเอง
เคยมีลูกศิษย์ที่ทันสังขารหลวงปู่ดู่ท่านหนึงสนทนากับหลวงปู่ถึงเรื่อง 'คาถามหาจักรพรรดิ'
ลูกศิษย์ "หลวงพ่อเป็นผู้แต่งคาถาบูชาพระ คาถามหาจักรพรรดิ ใช่มั้ยครับ"
หลวงปู่ "สำเภาเขาสร้างพระพุทธรูป อยากได้คาถาบูชาพระ
ก็เลยมานึกเอาเอง มันจะผิดอยู่หน่อยหนึ่งตรงคำบูชาที่มี นะโมพุทธายะ
แล้วก็ ยะธาพุทโมนะ หรือแกว่าไง" หลวงปู่ท่านถามเป็นนัยๆ
ลูกศิษย์ "ปกติ การตั้งองค์พระ การอธิษฐานให้เป็นพระ โบราณเขาใช้กันว่า
นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ ดังการที่หลวงพ่อกล่าวเช่นนี้
ต้องการให้บูชาคาถาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าปางมหาจักรพรรดิใช่ไหมครับ"
หลวงปู่ดู่ท่านพยักหน้ารับ ทั้งหลวงปู่ดู่ยังกล่าวต่อไป
เกี่ยวกับบทบูชาพระที่นิยมนำมาเรียกกันว่าคาถาจักรพรรดิในปัจจุบันนี้อีกว่า
"คาถา บทนี้เป็นของดี หมั่นท่องไว้ทุกวัน ปกติเขาไม่ให้กันหรอกเพราะเขากลัวลูกศิษย์จะดีกว่าอาจารย์
แต่ข้าไม่เคยกลัวและไม่ปิดบัง ท่องให้ดีนะอีกหน่อยจะรวย เพราะมีการกล่าวถึงพระสิวลีผู้เป็นเลิศทางลาภไว้ด้วย
อาบไปเสกไปก็ได้ กินข้าวก็ได้ ดีทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามาบอกพวกแก ข้าทดลองมาแล้วทั้งนั้น เมื่อดีแล้วจึงมาบอก
ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ศรัทธาและหมั่นฝึกฝนปฏิบัติ คนเราอยู่ดีๆจะให้รวยได้อย่างไร ต้องปฏิบัติเสียก่อน
ดูอย่างข้าเมื่อก่อนต้องไปยืมเงินเขามาซื้อธูปเทียนใบชามาเลี้ยงแขก เดี๋ยวนี้ของกินของใช้มีใช้เกลื่อนกลาดไป
เรามาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น แกว่าจริงไหมของดีของอร่อยกินก็ไม่ได้ ฟันไม่มี" หลวงพ่อหัวเราะ และยังเสริมอีกว่า
"คนเราต้องทำให้ดีเมื่อดีแล้วจึงรวย แล้วจะได้ไม่ซวย พระจะดีต้องหมดอยาก ถ้ายังอยากอยู่ก็ไม่ใช่พระดี"
คาถาบูชาพระที่หลวงปู่ดู่ท่านย้ำเอาไว้ให้หมั่นท่องไว้ทุกวันนั้น ต่อมาภายหลังมีลูกศิษย์นำไปสวด
แล้วเห็นว่ากายทิพย์ทรงเครื่องเป็นมหาจักรพรรดิ และมีพลังงานขับเคลื่อนเป็นพิเศษทำนองนั้น
จึงได้นำมากราบเรียนถามหลวงตาม้าในโอกาสที่หลวงตาลงมา กทม. วันหนึ่ง
หลวงตาจึงไขความลับให้ฟังทั่วกันว่า ขณะที่สวดคาถามหาจักรพรรดินั้น
ถ้าเทวดาผ่านมาก็จะเห็น แม้แต่ หนู หมา แมว บางครั้งก็สามารถเห็นมิตินี้ได้เช่นกัน
ทุกอย่างที่หลวงปู่ตั้งใจรวบรวมเอาไว้ในพระคาถา ดังที่หลวงตาได้อธิบายเอาไว้
จะมาปรากฏที่กายพลังงานของผู้สวดตลอดเวลาที่กำลังสวด ที่หลวงตาเรียกว่าจิตทำการบันทึกบุญเอาไว้ตลอดเวลา
หรือหลังจากสวดแล้ว เจ้าตัวสามารถทรงอารมณ์นั้นเอาไว้ได้ กายพลังงานก็จะมีพลังงานต่างๆในพระคาถาปรากฏอยู่
พลังงานในพระคาถาเป็นอย่างนี้เอง หลวงปู่ดู่จึงได้เน้นย้ำเอาไว้ ให้ลูกหลานหมั่นสวดเป็นประจำ
จะกินจะดื่ม จะอาบน้ำก็ดี หรือนึกขึ้นได้เมื่อใดสวดเมื่อนั้น ด้วยเกิดพลังงานบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มหาศาล
ที่หลวงปู่ไม่ได้แจงรายละเอียด รอเวลาเมื่อสิ่งเหล่านี้ได้มาปรากฏในผู้สวดแล้ว
จึงนำมาถามถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนว่าเป็นสิ่งไรกันแน่ เป็นการพิสูจน์คุณวิเศษของพระคาถา
ที่มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ผู้ที่สวดช่วยทำให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ในที่สุด
หลวงปู่ท่านพูดน้อยแต่แฝงเอาไว้ด้วยนัยแห่งคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่
หลวงปู่ดู่ท่านยังกล่าวถึงการใช้บทบูชาพระหรือคาถาพระมหาจักรพรรดิของท่านว่า
"ข้าเป็นคนโลภมากทำอะไรก็อยากทำให้มากที่สุด ดีที่สุด เดี๋ยวนี้ใช้แค่บทนี้ทั้งนั้น
ใครมานั่งคุมเล่าข้าเสกเขาก็รู้เองแหละว่าทำจริงหรือไม่จริง"
หลวงปู่ดู่ท่านเคยมีลูกศิษย์คนหนึ่งเป็นพระ ต่อมาท่านไม่มาหาหลวงพ่ออีกเนื่องจากหลวงพ่อพูดว่า
"ยังไม่ไปนิพพานเพราะต้องโปรดคน" แต่พระองค์นี้ไปตีความไปว่าหลวงพ่อยังติดอยู่กับ
ลาภยศ ชื่อเสียง ซึ่งความจริงแล้วหลวงพ่อมีเมตตาและบอกความปราถนาของท่านให้ทราบว่าท่านเป็น พระโพธิสัตว์
สาเหตุอันเนื่องจากการที่บทความนี้กล่าวท้าวความเกี่ยวกับบท ชมพูบดีสูตร หรือบทมหาจักรพรรดิ์ไว้
เนื่องจากปัจจุบันขาดผู้สนใจ เห็นเป็นเรื่องเหลวไหล แม้แต่พระบางองค์ท่านยังกล่าวว่าเกินความจริง
โดยท่านลืมนึกถึงคำว่า "อจินไตย" คือสิ่งไม่ควรคิดเพราะไม่สามารถนำเหตุผลทางโลกหรือทางทฤษฎี
มาทำให้เกิดความ กระจ่างได้ เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้เอง ถ้าคิดมากอาจเป็นบ้า สิ่งเหล่านี้ได้แก่
1 พุทธวิสัย เป็นการคิดหาโดยไม่ทราบเหตุที่มา แท้จริงของการเป็นพระพุทธเจ้า หรืออานุภาพ สัพพัญญุตญาณ เป็นต้น
2 ฌานวิสัย เป็นการคิดหาโดยไม่ทราบเหตุที่มาแท้จริงของฌาน แสดงอิทธิฤทธิ์ได้ เป็นต้น
3 กรรมวิบาก คือความคิดเรื่องของวิบากของกรรม มีกรรมที่จะให้ผลในปัจจุบัน เป็นต้น
4 โลกจินตา คือความคิดเรื่องโลก ได้แก่ ใครเป็นคนสร้างดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ แผ่นดินเป็นต้น
หลวงปู่สร้างพระตลอดมาตั้งแต่สมัยบวชใหม่ ท่านบอกว่า ใจเราจะได้อยู่กับพระ เป็นบุญเป็นกุศลดีกว่าไปทำอย่างอื่น
จนมาถึงครั้งสำคัญ ที่ท่านได้วิชามหาจักรพรรดิ คือ ท่านเจ้าคุณใหญ่ มีหนังสือขอมโบราณ หลวงปู่เอามาอ่าน
ตอนที่พระพุทธองค์ปราบท้าวมหาชมพู ซึ่งถือตัวว่าเป็นพระมหาจักรพรรดิมีอำนาจมาก ท่านเล่าให้ฟังว่า
"อ่านไปก็ยิ่งมีความปิติ อ่านจนถึงเกือบเที่ยงคืน จนเจ้าคุณใหญ่กลับมาจากงานสวด ตั้งแต่นั้นก็ทำเรื่อยมา
ของอะไรก็ตามไม่ใช่ทำวันเดียว ต้องทำหลายครั้งจึงจะได้ ข้าเคยไปสักกับหลวงพ่อแสงที่บางบาล
สักแล้วก็เข้าไปขอคาถาท่านว่า "ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องทำ" พูดแล้วปิดกุฏิเข้าไปเลยไม่ออกมา เราก็มานั่งตรองดู
ก็จริงตามที่ท่านว่า คือ คนที่ไม่กินก็ต้องตาย อยู่ในโลกก็ต้องทำงาน พวกแกตอนนี้ต้องอยู่ในโลก เหยียบเรือ ๒ แคมไปก่อน
โลกบ้างธรรมบ้าง โลกอย่างเดียวก็ไม่ดี ธรรมอย่างเดียวก็ต้องบวช ค่อยๆ ทำไปเถิด นักศึกษาที่เรียนหนังสือ ถ้าลองทำให้ดี
เราเรียนเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ เพื่อประเทศชาติ เราคิดอย่างนี้ก็ได้บุญแล้ว" ท่านพูดถึงที่มาของคาถามหาจักรพรรดิ
และยังแถมท้ายเรื่องที่ชวนคิดเป็นธรรมะอีกด้วย
ที่มาบทความ : วัดพุทธพรหมปัญโญ : วัดถ้ำเมืองนะ
*บทความนี้มีการแก้ไขจากต้นฉบับในเรื่องของอจินไตยให้ถูกต้อง
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.116
Re: บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
«
ตอบ #4 เมื่อ:
09 กรกฎาคม 2563 21:37:43 »
คำแปลคาถามหาจักรพรรดิ
นะโมพุทธายะ
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาต่อพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ คือ
นะ พระกกุสันธะ
โม พระโกนาคม
พุท พระกัสสป
ธา พระสมณโคดม
ยะ พระศรีอริยเมตไตรย
พระพุทธไตรรัตนญาณ
พระพุทธเจ้าซึ่งมีพระญาณแก้วทั้งสาม อันหมายถึง ปุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ
มณีนพรัตน์
มีสมบัติคือแก้ว ๙ ประการ มีเพชร, ทับทิม, มรกต, บุษราคัม, โกมินทร์, นิล,
มุกดาหาร, เพทาย, ไพฑูลย์ เป็นต้น ซึ่งหมายถึงพระนวโลกุตรธรรม
สีสะหัสสะ สุธรรมา
มีมือถึงพันมือ หมายถึงการที่พระพุทธองค์ทรงแจกแจงหลักธรรม
คือ พระไตรปิฎกถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
พุทโธ
ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ธัมโม
พระธรรมของพระพุทธเจ้า
สังโฆ
พระสาวกผู้ปฏิบัติตาม
ยะธาพุทโมนะ
ขอพระพุทธเจ้าปางมหาจักรพรรดิซึ่งมีชัยแก่พญาชมพูผู้มีฤทธิ์มาก
พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์จงบังเกิดขึ้น ณ บัดนี้ด้วยเทอญ
พุทธบูชา
ข้าพเจ้าขอบูชาพระพุทธเจ้า
ธัมมะบูชา
ข้าพเจ้าขอบูชาพระธรรม
สังฆะบูชา
ข้าพเจ้าขอบูชาพระสงฆ์
อัคคีทานัง วะรังคันธัง
ด้วยสิ่งเหล่านี้ ได้แก่ ธูป เทียน ไฟ หรือแสงสว่าง และของหอมทั้งมวล
มีดอกไม้และน้ำอบ เป็นต้น
สีวลี จะมหาเถรัง
ขอนมัสการพระสีวลีเถระเจ้าผู้เป็นเลิศทางลาภสักการะ
อะหังวันทามิ ทูระโต
ขอนมัสการสถานศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปมีสังเวชนียสถาน เป็นต้น
อะหังวันทามิ ธาตุโย
ขอนมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุทั้งหลายทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล
อะหังวันทามิ สัพพะโส
ขอนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ
ซึ่งเป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ปูเชมิ
ด้วยเทอญ
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.116
Re: บทสวดคาถา มหาจักรพรรดิ สุดยอดคาถาจาก หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก
«
ตอบ #5 เมื่อ:
09 กรกฎาคม 2563 21:39:40 »
สวดมนต์ปรับภพภูมิของจิตได้อย่างไร ?
การสวดมนต์จึงสามารถทำให้เราบรรลุธรรม เห็นธรรม รู้แจ้งในธรรม ลึกซึ้งในธรรม เข้าใจในธรรม และนำมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ทำความดี มีหิริโอตัปปะ ละอายและเกรงกลัวต่อบาป ทำจิตของเราให้สูงขึ้น มีคุณธรรมสูงขึ้น
การสวดมนต์จึงเป็นการปรับภูมิจิตของเราให้สูงขึ้น ทั้งที่ยังมีชีวิตในปัจจุบันชาติ
ทั้งเมื่อตายไปแล้ว ดวงจิตที่มีคุณธรรมนี้ก็จักนำพาเราไปเกิดยังภพภูมิที่ดี เช่น มนุษย์ สวรรค์และ ชั้นพรหม เป็นต้น
และการสวดมนต์ภาวนาสาธยายธรรม เมื่อเราอุทิศให้สัมภเวสี เทพยดาต่างๆ ก็จักมาอนุโมทนาบุญ จักได้รับส่วนบุญที่เรียกว่า
“ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการอนุโมทนาบุญ” ทำให้จิตของผู้ที่ตายไปแล้วได้รับส่วนบุญและปรับภพภูมิให้ดีขึ้น
หรือไปจุติยังโลกสวรรค์ก็ได้ (เช่น มารดาของพระสารีบุตรเป็นต้น)
ด้วยเหตุดังนี้ เราจึงควรหมั่นสวดมนต์ ชำระจิตให้บริสุทธิ์ในทุกขณะจิตปัจจุบัน ให้ผ่องใส มีสติไม่ประมาทอยู่เสมอๆ
ขออนุโมทนาทุกท่านที่ได้สวดมนต์
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
ผีตายโหง อยากได้เมียเป็นคน !! และการช่วยเหลือ จาก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
ประสบการณ์ ผี ๆ
หมีงงในพงหญ้า
0
3085
10 มกราคม 2553 03:53:25
โดย
หมีงงในพงหญ้า
ธรรมะของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน
1
2708
04 กุมภาพันธ์ 2554 16:27:39
โดย
หมีงงในพงหญ้า
ให้รีบพากันปฏิบัติ (หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน
3
4353
27 เมษายน 2555 10:03:23
โดย
nanney
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ
0
1334
17 พฤศจิกายน 2559 15:45:15
โดย
ใบบุญ
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ
0
549
28 มกราคม 2563 11:44:22
โดย
ใบบุญ
กำลังโหลด...