the way thinks with clearness
แต่ถ้าแยกเอาออกไปดูเพียงคนหนึ่งสองคนจนเห็นชัดแต่อยู่แค่นั้น หรือไปอยู่ไกลตั้งโยชน์มอง มาเห็นทั้งสนามทั้งบริเวณเหมือนกัน
แต่ก็เห็นมัว ๆ ไปหมดไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเวลานี้กำลังจะกลายเป็นว่า หรือบางทีเหมือนกับว่าจะเอาข้างเดียวจะเลิกแยกส่วนแล้วจะเอาองค์รวม
พอเอาองค์รวมก็เป็นองค์รวมที่ พร่าที่มัวที่คลุมเครือก็จะไปไม่รอดอีกแต่จะกลายเป็นสุดโต่งคนสมัยก่อนเขาก็องค์รวมมาแล้วบางทีเราก็ไปติเขาว่า
เขาองค์รวมแบบพร่า ๆ มัว ๆ จึงเป็นเหตุให้ต้องมาวิเคราะห์แต่พอวิเคราะห์ไป ๆ ก็ลืมตัวเลยแยกส่วนกระจายหายไปในด้านของตน ๆ ก็เลยไม่ได้องค์รวมอีกทีนี้ถ้าจะให้พอดีก็คือ ต้องไปด้วยกันทั้งองค์ร่วมและองค์รวมทั้งแยกทั้งโยง ทั้งวิเคราะห์ทั้งสังเคราะห์ถ้าสังเคราะห์ก็ไปอีกขั้นหนึ่ง หมายความว่าเราเห็นองค์ร่วมและองค์รวมชัดแล้วทีนี้เราจะสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่เราก็ทำได้ เพราะว่าเมื่อเราเห็นองค์ร่วมชัดเราจะจัดสรรจะทำอะไรต่ออะไรมันก็ได้ผลขึ้นมาเป็นอันว่า ไม่เอาทั้งนั้น ทั้งองค์รวมที่พร่ามัวคลุมเครือทั้งแยกส่วนที่กระจัด กระจายแต่เอาแยกส่วน จนเห็นองค์ร่วมแต่ละอย่างปรุโปร่งว่ามันมา ประสานกันเกิดเป็นองค์รวมที่เป็นระบบสัมพันธ์อันชัดเจนอย่างไร.........................................................คัดลอก(พิมพ์)ออกมาจากหนังสือ กระแสธรรม กระแสไท หน้า 11-17 โดย....................พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)