หัวข้อ: การกระทำ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 29 กรกฎาคม 2553 11:29:04 (http://www.taklong.com/lomo/p/122824P712011-9.jpg) http://audio.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=18072 ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๐๒ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเราเมื่อครั้งเป็น(สุเมธดาบส)ได้คิดว่า{เป็นข้อความที่ ท่านสุเมธดาบสสอนตนเอง} ธรรมดาว่า{น้ำ}ย่อมแผ่ความเย็นไปให้คนดีและคนเลวโดยเสมอกันชะล้างมลทิน คือธุลี(สิ่งสกปรก)ออกได้แม้ฉันใดแม้ท่านก็ฉันนั้นเหมือนกันพึงเจริญเมตตาบารมี เจริญเมตตาไปสม่ำเสมอในชนผู้ทำประโยชน์และผู้ไม่ทำประโยชน์แล้วท่านจัก บรรลุสัมโพธิญาณ ข้อความบางตอนจาก......พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณีปกรณ์ พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๕๓๐ อุเบกขามีการเป็นไปโดยอาการเป็นกลางในสัตว์ทั้งหลายเป็นลักษณะมีความเห็น สัตว์ทั้งหลายโดยความเสมอกันเป็นรสะ(เป็นกิจ)มีการเข้าไปสงบความโกรธและ ความรักเป็นปัจจุปัฏฐาน(อาการปรากฏ)มีความเห็นสัตว์มีกรรมเป็นของตน อย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ ตนสัตว์เหล่านั้นจักมีความสุขหรือจักพ้นจากทุกข์ หรือจักไม่เสื่อมจากสมบัติตามความพอใจของใครดังนี้..........เป็นปทัฏฐาน{เหตุใกล้ให้เกิด} ข้อความบางตอนจาก พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณีปกรณ์ ธรรมดาของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสนั้นอกุศลย่อมเกิดขึ้นมากมักจะไหลไปเป็นไป ด้วยอำนาจของอกุศลเป็นส่วนใหญ่ และบางครั้ง - บางคราวก็ล่วงออกมาเป็นทุจริตกรรม ทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อนซึ่ง(อาจจะ)มีได้ทั้งหมด ทั้งปวงก็เป็นธรรมเป็นความเป็นไปของ{จิตเจตสิก}เท่านั้นไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน สิ่งที่ควรพิจารณา คือ ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดย่อมมีแน่นอนสำหรับบุคคลผู้ที่ กระทำความผิดจะมากหรือน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งตัวเราเองก็เช่นเดียวกันเวลาที่ ตนเองทำความผิดได้ผิดพลาดพลั้งไปก็อยากจะให้คนอื่นเขาเข้าใจและเห็นใจ คนอื่น ๆ ที่เป็นแบบเราก็มีความต้องการอย่างนี้เช่นเดียวกันแต่เวลาคนอื่นทำความ ผิดได้ผิดพลาดพลั้งไปนั้นเรามักจะลืมให้อภัยเขาลืมเข้าใจเขา พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเป็นเครื่องเตือนที่ดีอยู่เสมอเพราะพระองค์ ไม่เคยสอนให้เกิดอกุศลเลยแม้แต่น้อยแม้ในบุคคลผู้กระทำความผิดก็ไม่ควรโกรธ เพราะเหตุว่า.............................บุคคลผู้ควรแก่การโกรธไม่มี และอีกประการหนึ่งที่ควรพิจารณา คือ ในขณะที่คนอื่นได้กระทำความผิดไปก็ อย่าพึ่งโทษหรือโจทก์เขาควรที่จะสอบสวนพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อนถ้าเขา ผิดจริงควรที่จะมีเมตตาคอยอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เขาสละคืน คือ ละซึ่งการปฏิบัติอัน ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมนั้นเสียถ้าเขารับฟัง นั่นเป็นการดีแต่ถ้าเขาเป็นผู้ว่ายาก ไม่ยอมรับฟังในคำแนะนำอันถูกต้องนั้นก็ควรจะเป็นผู้มี{อุเบกขา}คือ ความเป็นกลาง ไม่หวั่นไหวไปด้วยอำนาจของอกุศล คือ โทสะพร้อมกับพิจารณาเห็นว่าสัตว์โลกมี กรรมเป็นของของตน ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น ๆ แต่การจะมี อุเบกขา{อุเบกขาพรหมวิหาร ได้แก่ ตัตรมัชฌัตตตาเจตสิก}ได้นั้น พื้นฐานของจิตใจ ต้องเป็นผู้มีเมตตา เพราะฉะนั้นแล้ว ควรมองข้ามความผิดของผู้อื่นไปเสียและอย่ากระทำให้เขาหมด กำลังใจด้วยการพิพากษาโทษของเขาอย่างรุนแรงและประการที่สำคัญอย่างยิ่งที่ ขาดไม่ได้เลย คือ อย่าได้มองข้ามความผิดของตนเองเพราะปุถุชนก็คือปุถุชนไม่ใช่ - พระอริยบุคคลย่อมมีอกุศลเกิดมากเป็นธรรมดามีกุศลเกิดแทรกสลับกับอกุศลเท่า นั้นเองดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอจนกว่าจะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ซึ่งก็จะต้องอาศัยกาล เวลาอันยาวนานในการอบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป ความเข้าใจพระธรรม{ปัญญา}เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับทุกคนความ เข้าใจพระธรรมนอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับตนเองโดยตรงแล้วยังสามารถ เกื้อกูลให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลอื่นได้ด้วยด้วยการแนะนำให้เจริญในหนทางข้อ ปฏิบัติที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมคำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงตามกำลัง ปัญญาของตนเอง....................................... แนวทางเจริญวิปัสนา ณ.มูลนิธิบ้านธรรมมะ บุคโล ธนบุรี คณะวิทยากร อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ หัวข้อ: Re: การกระทำ เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 29 กรกฎาคม 2553 12:03:03 สาธุ ๆ
หัวข้อ: Re: การกระทำ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 29 กรกฎาคม 2553 22:14:01 (:88:) (:LOVE:) (:88:) อนุโมทนาสาธุค่ะ น้อง"บางครั้ง" |