[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ดูดวง ทำนายทายทัก => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 21 มกราคม 2557 19:17:19



หัวข้อ: ศาสตร์ฮวงจุ้ย เสริมโชครับพลัง...ปีกะโหงว
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 มกราคม 2557 19:17:19
.
(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2014/01/18/397064/hr1667/630.jpg)
ซินแสตั้งกวงจือ ดูทิศทางฮวงจุ้ยกับสุสาน

ฮวงจุ้ย...เป็น ศาสตร์ที่เกิดจากความชาญฉลาดของชนจีน ช่วงที่อายุธรรมเจริญรุ่งเรืองในอดีตมากว่า 5,000 ปี โดยสังเกตระบบของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพลังความโน้มถ่วง แรงดึงดูดจากการหมุนของโลก ความเคลื่อนไหวของสภาพแวดล้อม น้ำ แดด ลม ฝน พายุ หรือ หิมะ.....อันมีผล กระทบต่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งได้ปรับวิกฤติเป็นโอกาส นำเอาประสบการณ์มาเป็นแนวทางในการแก้ไข สืบสาน เป็นความรู้ ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นกันมายาวนาน...!!

ฮวงจุ้ย หรือ เฟิ่งสุ่ย (Feng Shui) ซึ่งแล้วแต่ละท้องถิ่นของจีนจะเรียกกัน เป็นศาสตร์ที่มีการจัดการกับสภาพรอบตัว โดยเน้น “ลม” และ “น้ำ” เป็นตัวหลักนั้น สามารถคัดกรองวิชาการในทางวิทยาศาสตร์ ได้ แต่ด้วยเครื่องมือในสมัยนั้นยังมิอาจพิสูจน์พลังงานต่างๆได้ทั้งหมดจึงไม่เป็นที่ยอมรับศาสตร์นี้จึงกลับกลายเป็นปรัชญาและศิลปะของการดำเนินชีวิตเท่านั้น

ตามคติความเชื่อของชาวจีนนอกจากในเรื่องของลมและน้ำแล้ว ศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” ยังขยายไปถึง “อิน” หรือ “หยิน” และ “หยาง” อันเป็นพลังตรงกันข้ามที่คู่กันไป  ซึ่ง “อิน” หมายถึงความมืด สีดำ สิ่งไม่ดีและความตาย (ฮวงจุ้ยหมายถึงเสือขาว) ส่วน “หยาง” แทนด้วยแสงสว่าง พระอาทิตย์ (ฮวงจุ้ยหมายถึงมังกรเขียว) โดยจะยกเอามาสร้างความสมดุล หากว่าส่วนไหนพลังอ่อนหรือแผ่วเบาก็มักจะใช้เครื่องรางเข้ามาช่วยแก้ไข

จากความเป็นจริงแล้ว การปรับสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและเป็นมงคล ตามหลักฮวงจุ้ยจะไม่เป็นสูตรที่ตรงเป๊ะหรือตายตัว จะ ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิประเทศ และพื้นที่ของโลก

หลายทศวรรษที่ผ่านมา ชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่ อยู่ในสภาวะถูกบีบคั้นและมีข้อจำกัดกับความเชื่อตามระบบการปกครอง ศาสตร์ฮวงจุ้ยพลอยได้รับผลกระทบ ทำให้แรงศรัทธาลดท่าล่าถอยช่วงระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งมีเสรีภาพมากขึ้น ฮวงจุ้ยจึงสยายปีกคืนกลับอีกครั้ง

บทบาทหลังการฟื้นชีวิตใหม่ ปัจจุบันศาสตร์ฮวงจุ้ยได้เผยแผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะนำมาประกอบกับงานด้านสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย แหล่งธุรกิจ หรือสถานที่สาธารณะ โดยเชื่อว่าเมื่อได้พักพิง จะส่งผลให้กิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ชีวิตมีสุข สงบร่มเย็น  ความศรัทธาต่อศาสตร์ฮวงจุ้ยมิใช่แค่ว่าจะนำมาใช้กับคนเป็น เท่านั้น กับคนตายในห้วงพิกัดแห่งวิญญาณหากสถิตที่ถูกต้องก็สามารถส่งพลัง สร้างความเจริญรุ่งเรืองในธุรกิจแก่ครอบครัวและลูกหลานผู้อยู่เบื้องหลังได้ ความเชื่อนี้ ได้ไหลเข้ามาแผ่อิทธิพลในบ้านเราทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการเผยแผ่ของซินแสชาวจีนซึ่งเดินทางมาจากเมืองจีนเลย หรือไม่ก็จากอาจารย์คนไทยที่เดินทางไปร่ำเรียนนั้นกันมา ซึ่งปัจจุบันจะเห็นหลายสำนักที่มีการถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ กระจายไปทั่วบ้านทั่วเมือง

มีซินแสท่านหนึ่งจากจีนเดินทางมาเผยแผ่ศาสตร์ฮวงจุ้ยโดยตรง คือ ซินแสตั้งกวงจือ

ตั้งกวงจือ เกิดที่เมืองโพเล็ง มณฑลกวางตุ้ง เมื่อปี 2500 พออายุ 13 ปี จึงเข้าฝึกวิชาการแพทย์แผนจีนกับแพทย์ประจำหมู่บ้าน โดยการใช้สมุนไพรกับฝังเข็ม

ช่วงนั้นจีนอยู่ในระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรมและการปกครอง  ศาสตร์บางแขนงถูกปิด หากใครไม่สนใจในการใฝ่หาเพื่อเป็นความรู้ วิชาการเหล่านั้นๆ ก็จะขาดช่วงสูญหายไป ในการถ่ายทอดความรู้ก็มิได้มีห้องเรียน ใครสนใจก็เรียนแบบสอนลูกสอนหลาน  ขณะที่ ตั้งกวงจือฝึกวิชาแพทย์รักษาผู้ป่วย พอว่างก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอี้จิง โหงวเฮ้ง และฮวงจุ้ยตั้งแต่พื้นฐานจนถึงชั้นสูง จนอายุ 20 ปี จึงเป็นทั้งแพทย์แผนจีน ดูฮวงจุ้ย และพยากรณ์ (ดูโหงวเฮ้ง) พร้อมๆกัน

กับกระแสที่ว่า “ประเทศไทยต้องการแพทย์จีนมาก” เป็นแรงกระตุ้นให้อยากมาเมืองไทย ด้วยมั่นใจว่าตนเองมีความชำนาญพอที่จะมีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ ช่วงแรกจะมาไทยจึงเดินทางเข้าฮ่องกงก่อน ซึ่งตอนนั้นเป็นแหล่งรวมศาสตร์ฮวงจุ้ยและดาว 9 ยุค ที่มีชื่อเสียงในระดับสุดยอด จึงได้ศึกษาเพิ่มเติมตามค่านิยมที่ว่า ซินแสฮวงจุ้ยจักต้องมีความรู้ด้านอื่นเป็นองค์ประกอบด้วย แล้วเกิดปรากฏการณ์ที่แปลก ด้วยครั้งหนึ่งขโมยลักเอาเครื่องมือแพทย์ไปหมด เหลือไว้เพียง “หล่อแก (เข็มทิศในการดูฮวงจุ้ย)” เพียงชิ้นเดียว อันเป็นลางบอกเหตุให้ยึดการเป็นซินแสดูฮวงจุ้ยเลี้ยงชีพ.

อยู่ฮ่องกง 7 ปี.....2528 จึงได้มีโอกาสเดินทางมาเมืองไทย ครั้งแรกเปิดคลินิกวิชาแพทย์แผนจีนรักษาด้วยการฝังเข็ม อยู่ย่านเพชรเกษม กทม. ต่อมามีคนรู้ว่าเป็นซินแสด้านฮวงจุ้ยด้วยจึงขอให้ไปดูฤกษ์ยามตั้งสุสานแล้วประสบความสำเร็จ ลูกหลานผู้ตายมีความเจริญรุ่งเรือง  ถึงปี 2530 จึงดำเนินการเป็นซินแสอย่างเต็มตัว รับดำเนินการให้ทั้งฮวงจุ้ยคนเป็นและฮวงจุ้ยคนตาย และได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง หลายคนมาสมัครเป็นลูกศิษย์ จึงได้เปิดการเรียนการสอนวิชาฮวงจุ้ย เพื่อให้นำเอาความรู้ไปปรับใช้เป็น แนวทางให้ชีวิตและอาชีพ ปัจจุบันมีศิษย์หลายพันคนกระจายอยู่ทั่วเมืองไทย

หลังวันตรุษ....เข้าสู่ศกใหม่ของจีน ซึ่งเข้าสู่ปีกะโหงวหรือปีม้าเมืองไทย ลิขิตของดวงดาวเปลี่ยนทิศทาง ความมงคลจะเปลี่ยนไปตามลิขิตของดวงดาว ซินแสตั้งกวงจือจึงจะเปิดถ่ายทอดความรู้แก่ผู้สนใจได้นำเอาความรู้ด้านฮวงจุ้ยไปปรับเสริมโชคลาภ ให้กับชีวิตโดยจะสอนเฉพาะวันอาทิตย์ แต่ก็จะให้เต็มสูตรเต็มตำรา ส่วนผลลัพธ์จะ เจ๋งหรือเจ๊ง ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เรียนรู้จะ เข้มขลังและตั้งใจจริงขนาดไหน

(http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2014/01/18/397064/o5/420.jpg)