. น้ำพริกลาบเหนือ มีลักษณะพิเศษโดดเด่นกว่าพริกลาบท้องถิ่นอื่น ชาวเหนือนิยมโขลกผลมะแขว่นพอหยาบๆ ผสมลงไปด้วย ทำให้เวลาเคี้ยวได้รสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นหอมแรง และกรุบกรอบเวลาเคี้ยว
มะแขว่น เป็นพืชสมุนไพร สกุลเดียวกับพริกไทยเสฉวน ผลขนาดผลพริกไทย ผิวขรุขระ สีเขียว มีกลิ่นฉุน คล้ายกลิ่นเมล็ดผักชียี่หร่า ผลแก่เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดง แก่จัดสีดำ ลูกและใบใช้เป็นเครื่องเทศชูรสอาหาร โดยผลใช้ผลสดหรือผลแห้งหรือทั้งสองอย่าง แล้วแต่ชนิดอาหาร เช่น ลาบ หลู่ แกง และอาหารพื้นเมืองและอาหารท้องถิ่น เช่น ตำหวาย หลามบอน ตำน้ำพริก ฯลฯ มะแข่นจะมีรสชาติเผ็ด กลิ่นฉุนแต่หอม มีสรรพคุณทางยาคือสามารถแก้หวัดได้
มะแขว่นมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยพบขึ้นอยู่ตามป่าดิบบนพื้นที่ระดับต่ำไปจนถึงสูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร ในต่างประเทศพบที่ อินเดีย พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และมาเลเซีย
ใบอ่อนกินเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกปลาร้า ลาบ ก้อย ผลแห้งใช้เป็นเครื่องเทศผสมกับลาบ หลู้ ยำต่าง ๆ และเป็นเครื่องแกงแค ใส่เป็นเครื่องผสมแกงอ่อมไก่ แกงอ่อมเนื้อ ดับกลิ่นคาวทำให้มีกลิ่นหอม และเผ็ดร้อนชาวจีนนิยมใช้ปรุงอาหาร แทนพริกไทยดำเรียกว่า พริกหอม หรือ ชวงเจียว ในประเทศมาเลเซีย อินเดีย และพม่า ใช้เมล็ดแห้งของมะแขว่นเป็นเครื่องเทศปรุงอาหาร ชาวเขาบนดอยสูงของประเทศไทยจะรู้จักมะแขว่นเป็นอย่างดี
ใบนำมาขยี้อุดฟันแก้รำมะนาด แก้ปวดฟัน เมล็ดกินแก้ลมวิงเวียน บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ ขับลมในลำไส้ ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ถอนพิษฟกบวม แก้หนองใน รากกับเนื้อไม้ต้มน้ำดื่มขับลมในลำไส้ แก้ลมเบื้องบน หน้ามืดตาลาย วิงเวียน และขับระดู
มะแขว่นเป็นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 20 เมตร มีหนามแหลมตามลำต้น กิ่งก้านใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ปลายคู่หรือคี่ออกเรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่หรือรูปรี ปลายแหลมมาก โคนแหลมและเบี้ยว ขอบใบหยักมีต่อมกลมขนาดเล็กบริเวณหยัก ยอดอ่อนเป็นสีแดงปนเหลือง ดอกออกเป็นช่อแบบแยกแขนงช่อขนาดใหญ่ ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง และ ที่ปลายกิ่ง มีกลีบดอก 4 กลีบ เป็นสีนวล หรือ ขาวอมเขียว มีเกสรตัวผู้ 4 อัน ผลค่อนข้างกลม ผิวขรุขระ ผลแห้งเป็นสีดำคล้ายพริกไทย มีกลิ่นหอมและเผ็ดร้อน ติดผลแก่ช่วงฤดูหนาว ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง. น้ำพริกลาบเหนือหรือ
น้ำพริกลาบ หรือบ้างเรียกว่า
น้ำพริกดำ เพราะมีสีดำของพริกแห้งย่างไฟ พริกลาบใช้เป็นเครื่องยำลาบ หรือเครื่องปรุงลาบ และยำต่างๆ
เช่น ยำจิ๊นไก่ ยำกบ ยำเห็ดฟาง
ปัจจุบัน มีผู้ทำขาย หาซื้อได้ตามตลาดสด
• ส่วนผสม
1. พริกแห้ง ½ กิโลกรัม
2. เม็ดผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
3. มะแขว่น 2 ช้อนโต๊ะ
4. เทียนข้าวเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ
5. มะแหลบ 2 ช้อนโต๊ะ
6. ดีปลี 2 ลูก
7. พริกไทยดำ ½ ช้อนโต๊ะ
8. กานพลู 1 ช้อนชา
9. โป๊ยกั๊ก 1 ช้อนโต๊ะ
10. เปราะหอม 2 ช้อนโต๊ะ
11. ลูกจันทน์เทศ 4 ลูก
12. ดอกจันทน์เทศ 4 ดอก
13. อบเชย 3 ชิ้น
14. กระวาน 1 ช้อนโต๊ะ
15. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• วิธีทำ
1. ย่างพริกแห้งกับเตาถ่าน
2. คั่วเครื่องเทศที่สุกยากก่อน ได้แก่ ลูกจันทน์เทศ ดีปลี อบเชย โป๊ยกั๊ก กระวาน และเปราะหอม ใช้ไฟอ่อน พอมีกลิ่นหอม
3. ใส่เครื่องเทศที่เหลือลงคั่วด้วยกัน จนมีกลิ่นหอม พักไว้ให้เย็น
4. โขลกเครื่องเทศทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
5. ใส่พริกย่าง ลงโขลกรวมกันให้ละเอียด
6. ใส่เกลือลงโขลกรวมกัน คนให้เข้ากันเนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ใช้พริกลาบประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ
เพิ่มหรือลดตามความชอบเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อย
ขอขอบคุณ เว็บไซต์และฐานข้อมูลอาหารพื้นบ้านล้านนา
สำนักหอสมุด และสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่