หัวข้อ: การสิ้นทุกข์ในวัฏฏะโดยสิ้นเชิง เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 17 กรกฎาคม 2553 09:41:05 (http://www.taklong.com/pictpost/t/183764IMG006-9.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma (:LOVE:)...................ทางขึ้นสวรรค์.............. (:LOVE:) (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif) เมื่อใดบุคคลเห็นอริยสัจ คือ ทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ความล่วงพ้นทุกข์ และอริยมรรคมีองค์ ๘ อันยังสัตว์ให้ถึงความสงบทุกข์ ด้วยปัญญาอันชอบ เมื่อนั้นเขาท่องเที่ยว ๗ ครั้งเป็นอย่างมาก ก็เป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ เพราะสิ้นสังโยชน์ทั้งปวงดังนี้แล................................... หัวข้อ: Re: การสิ้นทุกข์ในวัฏฏะโดยสิ้นเชิง เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 17 กรกฎาคม 2553 09:47:45 (http://www.taklong.com/pictpost/t/183764IMG006-9.jpg) (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif) .................................ท่านวิทยากร........................... ขอร่วมสนทนาในประเด็น เกี่ยวกับ การได้ลาภอันประเสริฐ ก่อนอื่น ก็ต้องแปลคำว่า ลาภ เสียก่อน ว่า ลาภ คืออะไร ? ลาภ หมายถึง การได้ หรือ สิ่งที่พึงได้ ตามความเป็นจริง..................การได้อะไรจึงจะเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ! การได้ทรัพย์ สมบัติ แก้วแหวน เงินทอง ไม่ใช่การได้ที่ประเสริฐ เพราะไม่ใช่ การเจริญขึ้นของปัญญา การได้ที่ประเสริฐจริง ๆ คือ การได้มีโอกาสฟังพระธรรม การได้ศึกษาพระธรรม การได้อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูก สะสมความเห็นถูกในสภาพธรรมที่ กำลังปรากฏ ตามปกติตามความเป็นจริง อันนี้จึงจะเป็นการได้ที่ประเสริฐ เพราะกว่าจะได้เกิดมาเป็น มนุษย์ เป็นเรื่องยาก ต้องเป็นผลของกุศลกรรมเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดมาเป็นมนุษย์ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์......หลังจากละโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งก็ไม่มีใครทราบได้ว่าจะเป็นวันใดเมื่อใด............สามารถเป็นได้ทุกอย่างเลย ไปเกิดในอบายภูมิก็ได้ เป็นเปรต สัตว์นรก สัตว์เดรัจจฉาน อสูรกาย..........ถ้าเป็นผลของอุศลกรรม หัวข้อ: Re: การสิ้นทุกข์ในวัฏฏะโดยสิ้นเชิง เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 17 กรกฎาคม 2553 09:51:52 (http://www.taklong.com/pictpost/t/183764IMG006-9.jpg) (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif) ถ้าหากประกอบแต่กรรมดีสะสมคุณงามความดี เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วก็สามารถไปเกิดในสุคติภูมิได้ คือ เกิดเป็นมนุษย์ หรือ เกิดในสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่งใน ๖ ชั้น หรือถ้าเป็นผู้อบรมความ สงบของจิต ถึงขั้นที่เป็น รูปฌาน ก็สามารถไปเกิดเป็น รูปพรหม(ในรูปพรหมภูมิ)ได้ ถ้าอบรมความสงบถึงขั้นที่เป็น อรูปฌาน ก็สามารถไปเกิดเป็น อรูปพรหม ใน อรูปพรหมภูมิ ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากว่ามีการอบรมเจริญปัญญาสะสมความเข้าใจไปตามลำดับ เมื่อปัญญาคมกล้า สามารถดับกิเลสทั้งปวงได้เด็ดขาด เมื่อนั้น ย่อมไม่มีการเกิดอีกใน สังสารวัฏฏ์ คือ ถึงความเป็นพระอรหันต์ และเมื่อปรินิพพานแล้วก็ไม่มีการเกิดอีกเลย เป็นการสิ้นทุกข์ในวัฏฏะโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น การได้ที่ประเสริฐก็ต้องเป็นการได้ฟังพระธรรม ได้อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน |