[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 13 ธันวาคม 2560 12:23:00



หัวข้อ: หลวงปู่รอด อินทปัญญา วัดสามไถ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 13 ธันวาคม 2560 12:23:00

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/67662606098585__3629_3619_3636_3618_3632_6_36.jpg)

หลวงปู่รอด อินทปัญญา
วัดสามไถ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

พระนครศรีอยุธยา เมืองกรุงเก่า มีพระเกจิอาจารย์เรืองนามคือ “หลวงปู่รอด อินทปัญญา” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามไถ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย

มีชื่อเดิมว่า รอด เกิดปีขาล พ.ศ.2384 ณ บ้านสามไถ มารดาเป็นคนเชื้อสายลาว มีพี่น้อง 3 คน

เมื่ออายุ 7 ขวบ นำท่านไปฝากให้เรียนอักขระกับพระอธิการแดง เจ้าอาวาสวัดสามไถ

ต่อมาบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 11 ขวบ เล่ากันว่ามีอุปนิสัยชอบหาความสงบวิเวก หลังจากได้ศึกษาพระธรรมวินัยจากพระอธิการแดงได้ 4 ปี จึงได้กราบลาไปศึกษาพุทธาคมทางภาคอีสาน

ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท แต่จากประวัติที่ไม่ชัดเจนทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าท่านอุปสมบท ณ วัดใด และใครเป็นพระอุปัชฌาย์ เพียงทราบว่าหลังจากที่ท่านได้ศึกษาวิทยาคมจนเชี่ยวชาญ จึงได้กลับมาศึกษาพระปริยัติธรรมในกรุงเทพฯ

ต่อมาคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสามไถ เมื่อปี พ.ศ.2427 สืบต่อจากพระอธิการแดงที่ได้มรณภาพ พ.ศ.2429 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะที่ท่านมีอายุได้ 45 ปี พรรษา 25

หลวงปู่รอดเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เข้มงวดกวดขันความประพฤติของพระภิกษุที่อยู่ในความปกครองให้ถือปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด เช่น การกำหนดให้พระภิกษุที่อยู่ในวัดสามไถต้องมาปลงอาบัติกับท่านเป็นการส่วนตัวในช่วงเวลาเช้า ห้ามปลงอาบัติกับเพื่อนพระภิกษุด้วยกัน ฯลฯ หากพระภิกษุรูปใดทำผิดพลาดความประพฤติ ท่านจะลงโทษด้วยไม้เรียวทันที ด้วยถือว่าผู้ที่เป็นพระภิกษุเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมวินัยมาแล้ว จึงสมควรที่จะต้องตั้งมั่นอยู่ในศีล
 
ด้วยเกียรติคุณของท่านที่แผ่ขยายออกไป ทำให้ญาติโยมที่เคารพเลื่อมใส ต่างพาบุตรหลานที่มีอายุครบบวชมาอุปสมบทที่วัดสามไถ ด้วยจุดมุ่งหมายให้บุตรหลานของตนได้มีพระอุปัชฌาย์ที่ดี ซึ่งจากทัศนคติของท่านที่ว่า “การนำสาธุชนทั้งหลายเข้าสู่ผ้ากาสาวพัสตร์เป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์ในพระศาสนาทั้งสิ้น…”

ครั้งหนึ่งมีผู้ร้องเรียนถึงคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง โดยได้กล่าวหาว่าหลวงปู่รอดอุปสมบทให้พวกที่มีคดีติดตัวอยู่ เป็นเหตุให้พระญาณไตรโลกนาถ (ฉาย) เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ขึ้นมายึดพัดอุปัชฌาย์และห้ามหลวงปู่รอดบวชนาคเป็นการชั่วคราว

ว่ากันว่าหลังจากที่พระญาณไตรโลกนาถ (ฉาย) ยึดพัดอุปัชฌาย์จากหลวงปู่รอดไปแล้วยังไม่ถึง 7 วัน ท่านเกิดความไม่สบายใจ ทำให้ท่านต้องนำพัดอุปัชฌาย์มาคืน ก่อนปรับความเข้าใจกัน พร้อมทั้งให้ความนับถือหลวงปู่รอดเป็นอย่างยิ่ง โดยพระญาณไตรโลกนาถ (ฉาย) จะเดินทางมากราบนมัสการหลวงปู่รอดเป็นประจำทุกปีตลอดมา

ในปี พ.ศ.2467 จัดงานยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญรูปเหมือนไว้แจกเป็นที่ระลึกในงานวันยกช่อฟ้า โดยประกอบศาสนพิธีอย่างยิ่งใหญ่ ฤกษ์ยามตามตำราโดยการกำหนดจากหลวงปู่รอด

เล่ากันว่า…”แม้แต่ทองเหลืองที่นำมาหล่อหลอมเป็นเหรียญ หลวงปู่รอดท่านก็จะนำมาลงอักขระปลุกเสกก่อน”

ในส่วนของพิธีการปลุกเสก ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า หลวงปู่รอดได้นำเหรียญทั้งหมดเข้าปลุกเสกในพระอุโบสถ โดยปลุกเสกเดี่ยวตลอดคืนท่ามกลางเหล่าพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ตลอดเวลา

ทำให้วัตถุมงคลเป็นที่เสาะแสวงหา

ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชราที่กุฏิภายในวัด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2480 ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู สิริอายุ 96 ปี พรรษา 75


คอลัมน์อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์