อริยทรัพย์ คุณประโยชน์อีกประการหนึ่งของการเข้าสู่กระแสพระนิพพาน คือ การได้อริยสมบัติเจ็ดประการ
อริยบุคคลคือ ผู้ที่หมดจดจากความชั่ว เป็นบุคคลผู้ประเสริฐ เป็นผู้บรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่งในการ
บรรลุธรรมสี่ระดับ อริยทรัพย์ดังกล่าวได้แก่
ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ จาคะ และปัญญา อริยสมบัติประการแรก คือ
ศรัทธา ได้แก่ความเชื่อมั่นที่ยั่งยืนและไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นความเชื่อมั่นที่ไม่หวั่นไหว
เพราะเกิดจากประสบการณ์และการประจักษ์แจ้งของตนเองโดยตรง อริยบุคคลไม่อาจถูกลวงล่อ หรือถูกติดสินบนให้ละทิ้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอันละมุนละม่อม การใช้เล่ห์เพทุบาย หรือการข่มขู่ใด ๆ อริยบุคคลจะไม่มีวันยินยอมเพิกถอนความเชื่อมั่นนี้ได้เลย
อริยสมบัติประการที่สอง คือ
ศีล ได้แก่ ความบริสุทธิ์ของความประพฤติ ในที่นี้หมายถึง ศีลห้า กล่าวกันว่า พระโสดาบันจะไม่สามารถจงใจทำให้ศีลขาด และไม่สามารถคิดหรือกระทำอกุศลกรรมที่จะนำไปเกิดในอบายภูมิได้ พระโสดาบันจะรอดพ้นจาก
กายทุจริตทั้งสาม จะเป็นผู้เว้นจากการประกอบวจีทุจริต หรือการเลี้ยงชีวิตมิชอบ อีกทั้งยังไม่มีความเพียรในการปฏิบัติธรรมในวิถีทางที่ผิดอีกด้วย
อริยสมบัติประการที่สามและสี่ คือ
หิริและโอตตัปปะ เราได้กล่าวถึงไปแล้ว ผู้ถึงกระแสพระนิพพานจะประกอบด้วยคุณธรรมทั้งสองอย่างแรงกล้า และจะไม่สามารถกระทำชั่วได้
อริยสมบัติประการที่ห้า คือ
พาหุสัจจะ (
ความเป็นผู้ได้เรียนรู้มาก) หมายถึง ความรู้หลักการเจริญกรรมฐาน และความเข้าใจที่เกิดจากการปฏิบัติ พระโสดาบันนับว่าเป็น
ผู้รู้แจ้งวิธีดำเนินบนอริยมรรคมีองค์แปดสู่พระนิพพานอย่างแท้จริง
อริยสมบัติประการที่หก คือ
จาคะ มักจะแปลกันว่า การบริจาคทาน แท้จริงแล้วหมายถึง
การละ พระโสดาบันได้ละกิเลสทั้งหลายที่จะนำไปสู่อบายภูมิ นอกจากนี้ พระโสดาบันยังให้ทานโดยไม่ตระหนี่ ทานของท่านนั้นเป็นความโอบอ้อมอารีอย่างแท้จริงและต่อเนื่องอยู่เสมอ
อริยสมบัติประการสุดท้าย คือ
ปัญญา หมายถึง
วิปัสสนาญาณและปัญญา การเจริญกรรมฐานของพระโสดาบันจะ
ปราศจากการกำหนดสติ และการเจริญสมาธิที่ผิด ๆ พระโสดาบัน
จะเป็นอิสระจากกิเลสที่รุนแรง ซึ่งอาจจะพลุ่งพล่านออกมาทางกาย วาจา หรือใจ และปราศจากความกลัวการเกิดในอบายภูมิ สันติสุขส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างสูงสุด สันติสุขนี้จะเกิดได้เนื่องจากเป็น
อิสระจากความกลัว หากบุคคลจำนวนมากสามารถมีสันติสุขเช่นนั้น หากคนทั้งหลายสามารถมีสันติสุขภายในใจจริง ๆ เราคงพอจินตนาการได้ว่า จะมีผลดีต่อสันติสุขภายในจิตใจเท่านั้น
พุทธบุตรที่แท้จริง ประโยชน์อีกประการหนึ่งของการเข้าถึงกระแสพระนิพพาน คือ ผู้ปฏิบัติจะกลายเป็นพุทธบุตรที่แท้จริง คนจำนวนมากอาจมีความศรัทธาทุ่มเทอย่างยิ่ง และสักการบูชาพระรัตนตรัยเป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป ย่อมเป็นไปได้เสมอที่บุคคลอาจละทิ้งศรัทธา ในชาตินี้เราอาจเป็นบุคคลที่น่าเคารพบูชา และมีจิตใจสูงส่ง แต่ในชาติใหม่เราอาจกลายเป็นคนเลวทราม ไม่มีสิ่งใดจะรับประกันได้เลย
จนกว่าเราจะได้บรรลุธรรมขั้นแรก และได้เป็นพุทธบุตรอย่างแท้จริง คำภาษาบาลีที่ใช้ใน
วิสุทธิมรรค คือ
โอรสปุตฺต ซึ่งหมายถึง ลูกผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริง คำว่า ปุตฺต มักจะแปลว่า ลูกชาย แต่ความจริงเป็นคำที่มีความหมายทั่วไปถึงผู้เป็นลูก ซึ่งหมายถึงลูกหญิงด้วย
วิสุทธิมรรค ยังได้กล่าวด้วยว่า การเข้าถึงกระแสพระนิพพานนั้นมีคุณประโยชน์อีกนานัปการ อันที่จริงนับไม่ถ้วน พระโสดาบันนั้นจะมีความเชื่อมั่นศรัทธาในพระธรรมอย่าง
ไม่มีข้อแม้ มีความสนใจธรรมะอันลึกซึ้งที่ผู้อื่นเข้าใจได้ยาก เมื่อพระโสดาบันได้ฟังพระธรรมเทศนาที่แสดงไว้ดี ก็จะเปี่ยมด้วยปีติสุข
และเนื่องจากได้เข้าถึงกระแสพระนิพพานแล้ว หัวใจของพระโสดาบันแนบแน่นจึงอยู่กับพระธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่การงานในทางโลก พระโสดาบันจะเป็นเหมือนดังแม่วัวที่กินหญ้า (ปฏิบัติหน้าที่ทางโลก) พลางเฝ้าดูลูกวัว (เฝ้าดูจิต) ไปด้วย
แม้ว่าจิตใจของพระโสดาบันนั้นจะน้อมไปสู่ธรรมะอยู่โดยปกติ พระโสดาบันก็จะ
ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบทางโลก นอกจากนี้ พระโสดาบันยังสามารถรวมจิตเป็นสมาธิได้ง่ายมาก หากมีความเพียรในการเจริญภาวนาอย่างเหมาะสม เพื่อเดินทางต่อไปตาม
อริยมรรค พาหนะที่ไม่มีวันพังทลายสำหรับทุกคน