[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
14 พฤษภาคม 2567 17:07:08 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - นักวิชาการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัล 2024  (อ่าน 97 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 24 ธันวาคม 2566 18:57:44 »

นักวิชาการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัล 2024
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-24 17:17</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นักวิชาการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัล 2024 ผลของ Generative AI และ Tokenized Economy ต่อระบบเศรษฐกิจ การลงทุนและระบบการเงิน</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53045022670_88a0b52d1d_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพประกอบ: starline/Freepik</span></p>
<p>24 ธ.ค. 2566 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การเงินและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัลปี พ.ศ. 2567 หรือ ค.ศ. 2024 จะก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดด้วยการขับเคลื่อนของเทคโนโลยี Generative AI หรือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สามารถทำงานสร้างสรรค์ได้ด้วยการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดย AI </p>
<p>การแข่งขันกันนำเสนอการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Generative AI ในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆของบริษัทไฮเทคจะพลิกผัน หรือ Disrupt ธุรกิจอุตสาหกรรมเดิมพลิกโฉมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะจะมีทางเลือกใหม่ สินค้าใหม่ บริการใหม่เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย บางกิจการจะถูกเข้ามาแทนที่ ถดถอยและหายไปจากตลาด บางกิจการจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมผลิตภาพและกำไรสูงขึ้น เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ หากควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing) สามารถนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้จะทำให้การประมวลผลรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้านี้ เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนอีกมากมาย  </p>
<p>อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัเทสลา ได้แสดงความเห็นสอดคล้องกับ บิล จอย ผู้ร่วมก่อตั้ง Sun Microsystem ว่า หุ่นยนต์ที่มีการเรียนรู้อัตโนมัติด้วยการเลียนแบบการทำงานโครงข่ายประสาทของมนุษย์ (Neurons) และ สมองกลอัจฉริยะปัญญาประดิษฐ์ อาจสร้างปัญหาต่ออารยธรรมของมนุษย์ในอนาคตได้หากไม่มีวางยุทธศาสตร์และกำกับควบคุมให้เหมาะสม ขณะที่การกำกับมากเกินไปก็ไปลดทอนพลังแห่งความก้าวหน้าสร้างสรรค์ได้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยกังวลว่า หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะมาแย่งงานแรงงานมนุษย์ไปจนถึงกังวลถึงขั้นว่าจะทำให้ภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์หรือไม่ การกังวัลถึงขั้นว่า ปัญญาประดิษฐ์และสมองกลอัจฉริยะ จะทำลายอารยธรรมมนุษย์และทำลายล้างมนุษย์นั้น เป็นความวิตกกังวลที่มากเกินไปและไม่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ภาวะที่เราเรียกว่า Technological Singularity คือ ภาวะที่การพัฒนาของเทคโนโลยีได้เติบโตอย่างทวีคูณจนทำไปสู่สถานการณ์ที่ ปัญญาประดิษฐ์และสมองกลอัจฉริยะ ฉลาดกว่ามนุษย์และอยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์และBrookings Institution เคยคาดการณ์ว่า ระบบอัตโนมัติและระบบหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนตำแหน่งงานรวม 25% แต่จะเกิดตำแหน่งงานใหม่ๆขึ้นมาเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน McKinsey &amp; Company (2023) ระบุว่า Generative AI อาจจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 2.6 ถึง 4.4 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ช่วยทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจหรือ Business Model ใหม่ๆ แรงงานมนุษย์สามารถลดชั่วโมงทำงานลงได้หากระบบการผลิตถูกออกแบบไม่ให้ค่าตอบแทนลดลงเพราะผลิตภาพ (Productivity) เพิ่มขึ้นใช้เวลาในการทำงานน้อยลง ทำให้มนุษย์มีเวลาไปพักผ่อนและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ หรือสร้างนวัตกรรมต่อยอดได้ </p>
<p>การเงินและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ภายใน ปี ค.ศ. 2030 ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกจะเพิ่มเป็นมากกว่า 8 พันล้านราย คิดเป็น 90% ของประชากรโลก ในปัจจุบันนี้มีประชาชนที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ประมาณ 5 พันกว่าล้านราย ทำให้ช่องว่างดิจิทัลยังมีอยู่มาก อุปสรรคสำคัญ คือ การเข้าถึงได้ในราคาถูกและง่ายต่อการใช้งาน ช่องว่างและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงดิจิทัลจะทำให้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในระบบทุนนิยมโลกเพิ่มขึ้นอีก เมื่อโครงสร้างพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้การผลิตด้วยระบบอัตโนมัติและการทำงานจากการควบคุมทางไกล ส่งผลต่อระบบการบริหารงานคลังสินค้าครบวงจรระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อเกิดขึ้นแบบไร้รอยต่อ ทำให้ระบบซัพพลายเชนแบบเดิมล้าหลังไปทันที ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมนั้นสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้เหมือนกันแต่ระดับบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอาจแตกต่างกัน อุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมและสื่อสารมวลชน อุตสาหกรรมบันเทิง กลุ่มนี้จะเปิดรับในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเร็วกว่าอุตสาหกรรมการศึกษา อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมทั้งอุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์  ผู้นำตลาดดั้งเดิมมักไม่เร่งรีบนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้จากการที่ได้ลงทุนไปในเทคโนโลยีแบบเดิมไปมากและยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากพอ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นตัวถ่วงรั้งหรือแรงฝืดต่อการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ ส่วนผู้แข่งขันรายใหม่ที่ยังไม่ได้มีการลงทุนทางกายภาพเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีแบบเดิมก็มักจะเร่งรัดในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แรงขับเคลื่อนสำคัญในการเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล คือ แรงผลักดันที่มาจากลูกค้าและสังคม ย่อมเกิดความเสี่ยงหรือความวิตกกังวลและโอกาสเกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล </p>
<p>รศ.ดร.อนุสรณ์ ได้วิเคราะห์ถึงโอกาส ความเสี่ยงและความวิตกกังวลจากระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลว่า  </p>
<p>ประการแรก ความเสี่ยงและความวิตกกังวลในอนาคตที่มีพลวัตสูงและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนกระทั่งมีผลต่อการปรับตัวของกิจการ การดำเนินชีวิตและพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพลวัตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วย่อมได้รับผลกระทบอย่างมาก ขณะที่ผู้ที่สามารถปรับตัวได้ และ สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ Generative AI จะเกิดโอกาสอย่างมากในทางธุรกิจ สร้างงานใหม่ สร้างนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นมากมายและเปลี่ยนแปลงสังคมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างมหาศาล พร้อมกับความเหลื่อมล้ำของระบบทุนนิยมโลกาภิวัตน์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากหากไม่มีกฎระเบียบ ระบบกำกับดูแลหรือระบบภาษีที่เท่าทันต่อพลวัตเหล่านี้      </p>
<p>ประการที่สอง ความเสี่ยงและความวิตกกังวัลเรื่องการว่างงานของแรงงานมนุษย์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ สมองกลอัจฉริยะเอไอจะส่งผลต่อโครงสร้างของตลาดแรงงานมากขึ้นตามลำดับ กิจการจำนวนมากเริ่มนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิต อย่างเช่น หุ่นยนต์และสมองกลอัจฉริยะ และ อาจส่งผลให้เลิกจ้างงานพนักงานโดยเฉพาะงานผลิตซ้ำต่างๆที่มูลค่าต่ำ แต่ก็ไม่ใช่ทุกตำแหน่งจะเผชิญกับความเสี่ยง ด้วยเทคโนโลยีเดิมก่อนการเกิดขึ้นของ Generative AI งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ยังไม่สามารถนำระบบอัตโนมัติหรือ AI มาใช้แทนได้มากนัก แต่ในอนาคตจะทดแทนได้มากขึ้น ความเสี่ยงเรื่องนี้จะกระทบต่อประเทศไทยไม่มากเนื่องจาก ไทยจะมีปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แต่จะมีคนบางกลุ่มไม่มีทักษะมากพอสำหรับการทำงานในระบบการผลิตแบบใหม่ ซึ่งภาครัฐต้องทำการ Upskill และ Reskill อย่างมียุทธศาสตร์และเป็นระบบ นอกเหนือจากการดำเนินการผ่านระบบการศึกษาที่เป็นทางการ  คาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ. 2576 เมื่อสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ไทยจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานมากกว่าเดิม และจะต้องใช้งบสวัสดิการสำหรับผู้ชราภาพสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาท ภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญ และมีความจำเป็นต้องลดภาระทางการคลังด้วยการดำเนินการในนโยบาย 3 ด้านดังต่อไปนี้ คือ พัฒนาระบบการออมเพื่อชราภาพให้ขยายขอบเขตและเข้มแข็งขึ้น ยืดอายุการเกษียณ การปฏิรูประบบแรงงาน และ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ควรมีการศึกษานโยบายการเปิดเสรีแรงงานและควรพิจารณาการรับผู้อพยพผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มีคุณภาพหรือไม่ </p>
<p>ประการที่สาม จะเกิดผลงานสร้างสรรค์ขึ้นมากมายจาก Generative AI ผลงานจำนวนไม่น้อยที่สร้างสรรค์โดย Generative AI ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยแรงงานมนุษย์ หรือ หากใช้แรงงานมนุษย์ต้องใช้เวลานานมาก ขณะเดียวกัน Generative AI จะมีผลกระทบต่อตำแหน่งงานในงานสร้างสรรค์ต่างๆมากขึ้น  จากบทความวิจัย “GPTs are GPTs: An Early Look at the Labor Market Impact Potential of Large Language Models” (2023) โดย Tyna Eloundou, Sam Manning, Pamela Mishkin, Daniel Rock. ประเมินว่า ประมาณ 80% ของแรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องถูกกระทบโดย Generative AI ( กรณีศึกษา ศึกษาเทคโนโลยี Chat GPT) อย่างน้อย 10% ของเนื้องานที่ต้องทำนอกจากนี้ 19% ของแรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะต้องถูกกระทบโดย Generative AI อย่างน้อย 50% ของเนื้องานที่ต้องทำ  ไม่ว่าท่านจะมีความคิดทางเศรษฐกิจแบบไหน อำนาจนิยม ชาตินิยม เสรีนิยมหรือสังคมนิยมแบบไหนก็ตาม เชื่อว่า ทุกคนมีความรู้สึกร่วมกันว่า Generative AI ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่ไม่มีกฎระเบียบควบคุมอาจส่งผลกระทบทางลบต่อผู้ใช้แรงงานในทุกระดับรวมทั้งงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ขั้นสูง งานที่ถูกกระทบมากจาก Generative AI จะเป็นงานประเภท Non-Routine Cognitive Analytical Tasks และงานประเภท Routine Cognitive Tasks Disruption จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในระบบการผลิตและเศรษฐกิจรอบนี้จะต่างจากรอบก่อนๆที่เป็นระบบเครื่องจักรอัตโนมัติ คอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์พื้นฐาน งานถูกกระทบมักจะเป็นงานประเภท Physical Routine Tasks ประเทศไทยต้องศึกษาว่า ระหว่างการเก็บภาษีหุ่นยนต์ ภาษีการใช้ Generative AI กับ การออกระเบียบเข้มงวดเรื่องการเลิกจ้าง แนวทางแบบหลังน่าจะเป็นไปได้มากกว่าในการสร้างความเป็นธรรมของระบบการจ้างงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะการเก็บภาษีจะไปสกัดกั้นความก้าวหน้าของนวัตกรรมได้และอาจชักนำให้บรรดาบริษัททั้งหลายหาช่องทางใหม่ๆในการหลีกเลี่ยงภาษีและก่อให้เกิดการบิดเบือนในระบบเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ประกาศใช้กฎหมายภาษีหุ่นยนต์ฉบับแรกของโลกและยังมีการจัดเก็บภาษีการจ้างงานแบบเหมาช่วง (Outsource) อีกด้วย     </p>
<p>ประการที่สี่ ความเสี่ยงต่อการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและประเด็นเรื่องความมั่นคง </p>
<p>ประการที่ห้า สามารถทำให้เกิด Mass Customization ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อสังคมออนไลน์และเทคโนโลยีทางด้านข้อมูลสามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้า ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆอย่างละเอียด พฤติกรรมในการใช้ชีวิต การบริโภคสินค้าและการใช้บริการ ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาสร้างโปรไฟล์และอัลกอริทึมคาดการณ์เพื่อเข้าพฤติกรรมในอดีตและอนาคตของผู้บริโภค ผู้บริโภคบางคนมองว่าศักยภาพของ AI เป็นเหมือนเครื่องมือที่เปิดให้ปรับเปลี่ยนบริการและสินค้าตามความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) จำนวนมากๆได้พร้อมกัน เรียกว่า สามารถทำ Mass Customization ได้นั่นเอง  </p>
<p>ประการที่หก วิถีชีวิตแบบดิจิทัลและผลข้างเคียงเชิงพฤติกรรม สังคมและเศรษฐกิจแบบดิจิทัลทำให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพกันลดลง แอฟพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย และ เกมเสมือนจริงต่างๆ กระตุ้นความสนใจและช่วยให้ผู้คนในสังคมมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องจนผู้ใช้อยู่กับหน้าจอวันละหลายชั่วโมง ทำให้การปฏิสัมพันธ์แบบพบปะสังสรรค์แบบดั้งเดิมลดลง การเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง มีพฤติกรรมเสพติดสื่อสังคมออนไลน์และอยู่หน้าจอนานเกินไปจนส่งผลเสียต่อสุขภาพและขาดการทำกิจกรรมอย่างอื่นในชีวิต ขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้กิจกรรมประจำวันสะดวกยิ่งขึ้นและออกแรงน้อยลงไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อของใช้ให้ส่งถึงบ้านไปจนถึงเดินทางโดยอาศัย Google Map ขณะเดียวกันเป็นผลให้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปจนทำให้เกิด สิ่งที่เรียกว่า AI and Automation Bias ขึ้นได้ในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆทั้งการบริหารกิจการและในชีวิตประจำวัน </p>
<p>ประการที่เจ็ด สื่อดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ก้าวเข้าแทนที่สื่อแบบดั้งเดิม สื่อใหม่เหล่านี้สามารถกุมอำนาจกำหนดมุมมองและสร้างกระแสความคิดที่มีอิทธิพลทางสาธารณะได้ เทคโนโลยีสื่อดิจิทัล และ Generative AI ที่สามารถเลียนเสียง หน้าตาและพฤติกรรมของบุคคลได้อย่างสมจริงจะทำให้เราแยกข้อเท็จจริงกับเรื่องลวงได้ยากขึ้น การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือการบิดเบือนข้อมูลสามารถเกิดขึ้นได้และดูสมจริงอย่างยิ่งซึ่งเรียกกันว่า Deep Fake ความสามารถของเทคโนโลยี AI ช่วยให้ปลอมเสียงและวิดิโอเหมือนเป็นของจริง เราต้องหาวิธีในการปัญหาและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับ Deep Fake เหล่านี้ การส่งต่อ ข่าวปลอม (Fake News) เกิดขึ้นได้ง่าย โดยทางยูเนสโก (UNESCO) ได้จำแนกออกมาว่า ประกอบไปด้วย ข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) เป็นข้อมูลข่าวสารเท็จที่จงใจสร้างขึ้น ข้อมูลผิด (Misinformation) เป็นข้อมูลผิดผลาดไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจบิดเบือนซึ่งอาจเกิดจากความผิดผลาดในการแสวงหาข้อมูลมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ข้อมูลที่แฝงเจตนาร้าย (Malinformation) เป็นข้อมูลข่าวสารลวง สร้างขึ้นมาจากพื้นฐานข้อมูลจริงบางอย่าง เจตนาของข้อมูลแบบ Disinformation ก็ดี ข้อมูลแบบ Malinformation ก็ดี ล้วนจงใจสร้างขึ้นเพื่อโจมตีใส่ร้ายทำลายเป้าหมายให้เกิดความเสียหาย </p>
<p>ประการที่แปด  การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมและเศรษฐกิจแบบดิจิทัลทำให้เกิดการสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลของบุคคลจำนวนหนึ่งที่สามารถใช้ประโยชน์จากสภาวะดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สร้างแพลตฟอร์มและระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำธุรกรรม การดำเนินชีวิต การประกอบธุรกิจ การลงทุนต่างๆโดยไม่ถูกจำกัดโดยพรมแดนของรัฐชาติ ไม่ถูกจำกัดโดยข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และสามารถเสนอบริการหรือผลิตสินค้าข้ามกิจการอุตสาหกรรมต่างๆได้ ทำให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้เกิดโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ จากงานวิจัยของ Goldman Sachs มีการประเมินเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ความก้าวหน้าใน Generative AI มีศักยภาพในการขับเคลื่อนผลกระทบทางเศรษฐกิจมหภาคอย่างมีนัยสำคัญ มีการประเมินว่า Generative AI สามารถเพิ่ม GDP ทั่วโลกได้ 7% (เกือบ 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) และเพิ่มผลผลิตเพิ่มขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะเวลา 10 ปี อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้านี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการจ้างงานด้วย โดยประมาณสองในสามของอาชีพในสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับการทำงานอัตโนมัติในระดับหนึ่งโดย AI แม้ว่าระบบอัตโนมัติอาจแทนที่ภาระงานบางส่วนในบางอาชีพ แต่แนวโน้มในอดีตบ่งชี้ว่างานใหม่มักจะถูกสร้างขึ้น ซึ่งชดเชยผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ตนมีความเห็นว่า การใช้ระบบอัตโนมัติมากเกินไปอาจไปลดจีดีพีได้ แทนที่จะไปเพิ่ม เพราะในหลายกรณี แรงงานมนุษย์มีผลิตภาพมากกว่าหุ่นยนต์ การที่เกิดสภาวะการใช้ระบบอัตโนมัติมากเกินความเหมาะสมก็เนื่องจากหลายประเทศมีความลำเอียงในระบบภาษี ใช้หุ่นยนต์ได้ลดหย่อนภาษี ใช้แรงงานมนุษย์ต้องจ่ายสมทบเงินประกันสังคม </p>
<p>ประการที่เก้า เกิดข้อมูลมหาศาลและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ข้อมูลขนาดใหญ่และฐานความรู้ดิจิทัลเร่งให้เกิดการเรียนการสอนออนไลน์ หรือ MOOC (Massive Open Online Courses) เติบโตอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง และสามารถให้ AI วางแผนการอบรมออนไลน์และช่วยสอนได้ แพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบนิเวศเปลี่ยนโฉมการดำเนินธุรกิจ โดยทำให้ฝ่ายต่างๆ ได้แก่ บริษัทลูกค้า และ ผู้มีส่วนได้เสียอื่นเชื่อมต่อกันสนิทและทำให้การสื่อสารและการทำธุรกรรมไม่มีขีดจำกัดลดลงอย่างมาก </p>
<p>ประการที่สิบ ชีวิตที่สุขสบายขึ้น ชีวิตอัจฉริยะ และยืนยาวขึ้น Neuralink โครงการของ อีลอน มัสก์ พัฒนาการฟังชิปคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ทำให้มนุษย์ใช้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บ้านอัจฉริยะและสำนักงานอัจฉริยะทำให้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายขึ้นอย่างมาก ขณะที่ เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงทำให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาว เมื่อนำข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้กับด้านสุขภาพช่วยให้ AI ค้นพบยาชนิดใหม่และการรักษาที่แม่นยำ ความรู้ทางด้านพันธุกรรมขั้นสูงและโครงสร้างยีน ทำให้มนุษย์ปรับแต่งโครงสร้างยีนเพื่อป้องกันและรักษาโรคพันธุกรรมได้ ประสาทเทคโนโลยีและสมองกลทำให้รักษาภาวะความบกพร่องของสมองได้ </p>
<p>ประการที่สิบเอ็ด การเพิ่มความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ Smart Grid  และพลังงานหมุนเวียนทำให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานและมีการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในภาคอุตสาหกรรม AI ช่วยลดการสูญเสียตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การเลือกวัสดุ ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจแบบแบ่งปันได้ง่ายขึ้นภายใต้เทคโนโลยีใหม่</p>
<p>นโยบาย Digital Economy ควรมีเป้าหมายในระดับประเทศที่ชัดเจน ได้แก่ การเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่ง GDP ที่จะเพิ่มได้นั้น ไม่ได้เกิดจากที่รัฐเป็นผู้ให้บริการ แต่รัฐต้องเป็นผู้กำหนดนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้เอกชนเป็นผู้สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการ ที่อยู่บนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลดังกล่าว ดังนั้น นโยบาย Digital Economy จึงมีความจำเป็นและมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะต้องคิดและเขียนออกมาให้ได้ตรงตามเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่ การเพิ่ม GDP ให้กับประเทศไทย ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มผลิตภาพทั้งระบบ และต้องให้เกิดความเป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำไม่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง การทำให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) ในระยะยาว </p>
<p>รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่ารูปแบบการทำงานในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอีก ระบบการทำงานแบบไฮบริด (คือการทำงานในสำนักงานผสมผสานกับการทำงานจากที่ไหนก็ได้) จะแพร่หลายมากขึ้น ระบบบริหารจัดการแบบใหม่ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ระบบค่าจ้างต้องเปลี่ยนแปลงตามแนวโน้มระบบการทำงานแบบใหม่นี้ด้วย ท่ามกลางพลวัตความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล การเกิดขึ้นของ Metaverse การเกิดขึ้นของ Generative AI และ การ Tokenized ระบบการเงินและเศรษฐกิจทำให้ระบบการเศรษฐกิจ ตลาดแรงงานและระบบการจ้างงานเปลี่ยนไป</p>
<p>ขณะนี้ มีแนวโน้มของการทำให้เกิด Tokenization ในหลายประเทศ ผลของ การ Tokenization ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ ระบบการเงินเป็นเรื่องที่ต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างละเอียดว่าเราควรจะมีแนวทาง นโยบายและการบริหารจัดการอย่างไรในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำกันอย่างเอาจริงเอาจัง การ Tokenized Economy จะต้องมีกระบวนการแปลงสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรดักต์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หุ้นกู้ รวมถึงสินทรัพย์การลงทุนอย่างเช่นอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน ต่างๆให้สามารถครอบครองความเป็นเจ้าของผ่านโทเคนดิจิทัลและสามารถที่จะซื้อขายหรือโอนให้กันผ่านบล็อกเชนได้ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรมทางการเงินและเศรษฐกิจลงอย่างมาก การทำธุรกรรมหลายอย่างไม่ต้องผ่านคนกลาง โดยเฉพาะต้นทุนการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศจะลดลงมากที่สุด 
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107369
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - ผู้แทน EU-จีน ยกประเด็นขัดแย้งปมสอบยานยนต์ไฟฟ้าจีน-สุรายุโรปในที่ประชุม 'ดาวอส
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 43 กระทู้ล่าสุด 19 มกราคม 2567 18:27:32
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - รอบโลกแรงงาน มกราคม 2024
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 52 กระทู้ล่าสุด 21 มกราคม 2567 09:18:25
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - รอบโลกแรงงาน กุมภาพันธ์ 2024
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 47 กระทู้ล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2567 12:24:45
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - รอบโลกแรงงาน มีนาคม 2024
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 39 กระทู้ล่าสุด 21 มีนาคม 2567 16:15:27
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - เผยดราม่าก่อนงานชุมนุมมลายู 2024 หวังสกัดเยาชนเข้าร่วม ด้าน เพจ กอ.รมน.ระบุปั่นกร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 42 กระทู้ล่าสุด 13 เมษายน 2567 10:18:37
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.724 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 11 พฤษภาคม 2567 18:02:57