[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 พฤศจิกายน 2567 02:21:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จิตตคหบดี - พระอสีติมหาสาวก  (อ่าน 532 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5746


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2566 15:14:23 »



ประวัติพระอสีติมหาสาวก
จิตตคหบดี

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล : จิตตคหบดี เป็นมหาอุบาสกคนสำคัญในสมัยพุทธกาล ถือกำเนิดในตระกูลของเศรษฐีชาวเมืองมัจฉิกาสณฑ์ แคว้นมคธ โดยท่านมีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า จิตตกุมาร ที่แปลว่า กุมารผู้น่าพิศวง หรือ กุมารผู้ก่อให้เกิดความวิจิตรสวยงาม เพราะวันที่ท่านเกิดได้มีเหตุอัศจรรย์คือมีฝนดอกไม้ทิพย์โปรยปรายจากท้องฟ้าตกลงมาทั่วเมือง

จิตตคหบดี สืบทอดทายาทเศรษฐีจากบิดา ในวงการพระพุทธศาสนาเรียกท่านว่า “จิตตคหบดี” ก่อนที่จะมานับถือพระพุทธศาสนามีโอกาสพบพระมหานามะ (หนึ่งในปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕)  เห็นสงบสำรวมน่าเลื่อมใสศรัทธา  จิตตคหบดีจึงนิมนต์ท่านไปฉันภัตตาหารที่คฤหาสน์ของตน และสร้างที่พำนักแก่ท่านในสวนชื่อ อัมพาฏการาม หรือสวนมะกอก ถวายเป็นพระอารามและนิมนต์ให้ท่านอยู่เป็นประจำ ระหว่างนั้นพระมหานามะได้แสดงธรรมให้จิตตคหบดีฟังอยู่เสมอ   วันหนึ่ง พระมหานามะได้แสดงธรรมเรื่อง อายตนะ ๖ (สื่อสำหรับติดต่อโลกภายนอก ๖ ประการ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) หลังจบธรรมเทศนา จิตตคหบดีได้บรรลุอนาคามิผล

จิตตคหบดีเอาใจใส่พิจารณาธรรมอยู่เป็นนิจ จนแตกฉาน มีความสามารถในการอธิบายธรรมให้บุคคลทั่วไปได้เข้าใจได้ง่าย เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ทั้งยังเป็นผู้มีศรัทธาแรงกล้า ถวายทานอย่างประณีตมโหฬารติดต่อกันถึงครึ่งเดือน  ครั้งหนึ่งได้พาบริวาร ๒,๐๐๐ คน บรรทุกน้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ๕๐๐ เล่มเกวียน ไปถวายพระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์

วาระสุดท้ายของจิตตคหบดี ขณะป่วยหนักได้มีเทวดาปรากฏให้เห็น กล่าวกับท่านว่าผู้มีบุญอย่างท่านนี้ แม้ปรารถนาทรัพย์สมบัติหลังตายไปแล้วก็ย่อมได้   จิตตคหบดีตอบเทวดากลับว่า “ถึงสมบัติก็ไม่จีรังเราไม่ต้องการ”  บรรดาลูกหลานที่นั่งเฝ้าไข้นึกว่าท่านเพ้อจึงกล่าวเตือนสติ  ท่านบอกบุตรหลานว่า “เรามิได้เพ้อ เทวดามาบอกเราว่า หากปรารถนาทรัพย์สมบัติหลังความตายก็ย่อมทำได้ แต่เราปฏิเสธ เพราะยังมีสิ่งอื่นที่ดีกว่าน่าปรารถนากว่าทรัพย์สมบัติ”  ลูกหลานพากันถามว่าสิ่งอื่นที่ดีกว่า น่าปรารถนากว่า คืออะไร   จิตตคหบดีตอบว่า “สิ่งอื่นที่ดีกว่า น่าปรารถนากว่า คือ ศรัทธาอันแน่วแน่ มั่นคงในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์”

อัมพาฏการาม เป็นวัดที่ท่านสร้างและนิมนต์ให้พระมหานามะอยู่ประจำ แต่พระมหานามะพักอยู่ชั่วเวลาหนึ่งก็จาริกต่อไปที่อื่น ต่อมามีพระรูปหนึ่งนามว่า สุธรรมเถระ มาพำนักอยู่เป็นเวลานาน จนนึกว่าตัวเป็นสมภารวัด พระสุธรรมเป็นปุถุชน จิตตคหบดีเป็นอริยบุคคลระดับอนาคามี ถือเพศฆราวาสก็ยังแสดงความเคารพกราบไหว้พระภิกษุปุถุชน เพราะท่านถือว่าเพศบรรพชิตเป็น “ธงชัยแห่งพระอรหันต์”
.
วันหนึ่งพระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระสารีบุตรกับพระโมคคัลลานะ เดินทางผ่านมา จิตตคหบดีนิมนต์ให้พระอัครสาวกทั้งสองพำนักอยู่ที่อัมพาฏการาม พร้อมนิมนต์ฉันอาหารที่บ้านในวันรุ่งขึ้น แล้วก็นิมนต์พระสุธรรมไปฉันด้วย  ฝ่ายพระสุธรรมถือตัวว่าเป็นเจ้าอาวาสเห็นจิตตคหบดีให้ความสำคัญแก่พระอัครสาวกมากกว่าตนถึงกับนิมนต์ไปฉันทีหลัง จึงไม่รับนิมนต์ ไม่ว่าจะอ้อนวอนอย่างไรก็ตาม

ตกเย็นท่านจิตตคหบดีสั่งให้บริวารเตรียมภัตตาหาร พระสุธรรมได้เดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างคนคุ้นเคย มองดูเหล่าภัตตาหารที่เตรียมไว้ แล้วเปรยว่า "อาหารที่ท่านเตรียมถวายพระพรุ่งนี้ดีทุกอย่าง ขาดอยู่อย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้เตรียมถวาย"

จิตตคหบดีถามขึ้นว่า "ขาดอะไรขอรับ พระคุณเจ้า"

พระสุธรรมตอบว่า  "ขนมแดกงา"  

คำตอบของพระสุธรรมทำให้จิตตคหบดีโกรธอย่างมาก  ด้วยคำว่า “ขนมแดกงา” นั้นเป็นคำที่มีนัยสำคัญถึงต้นตระกูลของท่านเมื่อครั้งยังยากจน  ท่านจึงต่อว่าพระสุธรรมอย่างหนักเพื่อให้สำนึก แต่พระสุธรรมไม่สำนึกแถมโกรธตอบ ไปเข้าเฝ้ากราบทูลพระพุทธเจ้า  แต่เมื่อพระพุทธองค์ทราบความโดยตลอดแล้วได้ตำหนิพระสุธรรม และมีพุทธบัญชาให้กลับไปขอขมาจิตตคหบดี ในครั้งแรกจิตตคหบดีไม่ยกโทษให้ พระสุธรรมจึงกลับไปเฝ้าพระศาสดาอีกครั้ง พระองค์ทรงแสดงธรรมให้พระสุธรรมฟังกระทั่งบรรลุพระอรหันต์ และให้ภิกษุรูปหนึ่งเป็นอนุทูตพาพระสุธรรมไปขอขมาจิตตคหบดีเป็นครั้งที่สอง คราวนี้จึงได้รับการให้อภัย แม้ว่าจิตตคหบดีมีปฏิภาณเฉียบแหลมและมีความสามารถในการแสดงธรรม ถึงกับได้รับการยกย่องในเอตทัคคะว่าเป็นผู้เป็นเลิศทางธรรมกถิกะ หรือนักบรรยายธรรม  ขณะที่พระสงฆ์บางรูปก็ยังมิได้หลุดพ้นและรู้ธรรมทัดเทียม แต่ถึงกระนั้นจิตตคหบดีก็ยังคงมีปมเขื่องแต่หนหลังที่แม้ธรรมขั้นสูงก็ไม่อาจข่มความโกรธได้

ชาดกเรื่องจิตตคหบดีนี้จึงสะท้อนจริตของมนุษย์อย่างยากที่จะเข้าใจ และแก่นของเรื่องนี้อย่างหนึ่งที่สะท้อนคตินิยมในสมัยนั้นคือ “ข้าวเหนียวแดกงา” ซึ่งเป็นอาหารในหมู่กระยาจกยากจนเข็ญใจหรือชนชั้นล่าง และคงจะเป็นที่เดียดฉันท์ แม้ชั้นลูกชั้นหลานที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ซึมซับเพียงเรื่องราวที่มิได้ประสบมาด้วยตนเองก็ยังมองภาพขนมชนิดนี้เป็นของแสลง

ขนมแดกงา หรือข้าวเหนียวแดกงา มีความเป็นมายาวนาน อย่างน้อยก็ถูกบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก ในทำนองว่าเป็นอาหารของคนชั้นต่ำ ซึ่งก็น่าจะหมายถึงชนชั้นแรงงาน ที่มักกินเป็นอาหารว่างแต่ก็ใช้แทนมื้อหลัก   ขนมชนิดนี้ทำจากข้าวเหนียวนึ่งสุก แล้วนำไปโขลกปนงาดำคั่วและน้ำเกลือ (ข้าวตำงา) เวลากินปั้นเป็นแผ่นเล็กๆไปจิ้มกับน้ำตาล  กินแล้วรู้สึกอยู่ท้อง แถมมีราคาถูก



เรียบเรียงจาก :
       - "จิตตคหบดี" วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
       - "ข้าวเหนียวแดกงา" หนังสือ ข้างสำรับมอญ โดย องค์ บรรจุน, สำนักพิมพ์มติชน  ๒๕๕๗
       - "ประวัติพระอสีติมหาสาวก จิตตคหบดีฯ" เพจ  ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ย.พ.ส.)

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน 2566 15:17:19 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.307 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 07 พฤศจิกายน 2567 09:31:01