[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
10 พฤษภาคม 2567 06:18:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 23
341  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ หนังสือแนะนำ / Re: Don’t tell me how to dress ปลุกพลังสังคมยุติการคุกคามทางเพศ เมื่อ: 26 มิถุนายน 2563 18:18:23

แน่นอนว่าประเด็น #MeToo กำลังโด่งดังไปทั่วโลก และทรงอิทธิพลจนทำให้หลายประเทศมีความกระตือรือร้นต่อประเด็นดังกล่าวมากขึ้น อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้เพิ่งออกมาเพิ่มมาตรการลงโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากที่มีผู้หญิงออกมาฟ้องร้องเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานมากขึ้น รวมถึงข่าวการลาออกของ จุนอิจิ ฟุคะดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับผิดชอบต่อการโดนข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว การรับผิดชอบต่อคดีดังกล่าวอาจยังไม่ถูกพูดถึงมากนัก ซินดี้ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า

 

“กฎหมายบ้านเรายังไม่มีไปถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มต้นจากการลุกขึ้นมาต่อต้าน หรือลุกมาขอร้องให้มีกฎหมายตรงนี้เสียก่อน แต่เอาจริงๆ แค่กฎหมายที่มันมีอยู่ตอนนี้ ขอให้ได้ใช้จริงก่อน ซินดี้รู้มาว่า จากสถิติการข่มขืน 4,000 กว่ารายปีที่แล้ว มีน้อยกว่า 100 รายที่มีการดำเนินคดี มันน่ากลัวมาก เพราะพอผู้หญิงไปแจ้งความก็จะเจอเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลายๆ รอบจนท้อใจ รู้สึกว่าตัวเองถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันหดหู่นะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหามานานแล้ว เป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่พูดถึง เพราะฉะนั้นมันก็ควรได้รับการแก้ไขไปจนถึงระบบและเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ส่วนอีกประเด็นที่สำคัญคือการเปลี่ยนทัศนคติของสังคมโดยรวมที่ยังมีความคิดว่าผู้ชายเป็นใหญ่”

ในประเทศไทย กฎหมายหรือหน่วยงานที่ดูแลกรณีการล่วงละเมิดทางเพศยังมีน้อยเกินไป ทั้งยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อไม่สามารถหาที่ปรึกษาหรือช่วยเหลือได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

 

ซินดี้ได้แนะนำว่า หากพบเหยื่อหรือตกเป็นเหยื่อในการล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน หรือปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จาก

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล www.wmp.or.th หรือโทร 02 513 2889
มูลนิธิพิทักษ์สตรีwww.facebook.com/AATSaveGirls] [url=http://www.facebook.com/AATSaveGirls]www.facebook.com/AATSaveGirls[/url] หรือโทร 09 4403 7037
ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 1300thailand.com หรือโทร 1300
 

อย่างไรก็ตามซินดี้ยังให้ข้อมูลว่า เร็วๆ นี้อาจมีการรวมตัวกันของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดตั้งแคมเปญ ‘Safe City Bangkok’ กรุงเทพฯ เมืองปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานภายในกรุงเทพฯ เป็นที่แรก ก่อนที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ของประเทศ

 

“มีคนรณรงค์เรื่องสิทธิสตรีเยอะมากนะ แต่ทำกันแบบเงียบๆ ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้มีแสงแฟลชนู่นนี่นั่น แต่พอซินดี้มาอยู่ตรงนี้ คือเราสามารถเรียกสื่อ เรียกความสนใจได้บ้าง เมื่อมาเจอกัน ร่วมมือกันก็เป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีความหวัง จากจุดเริ่มต้นที่เราของขึ้น ออกไปพูดในประเด็นที่เราต้องพูด จนถึงตอนนี้เราได้ลงมาทำจริงแล้ว ในปีนี้มีหลายอย่างที่จะทำ ทั้งการเวิร์กช็อป หนังสือ สอนเด็กๆ ว่าอะไรคือการถูกเนื้อต้องตัวที่ถูกต้อง”

 

ซินดี้ ได้ทิ้งท้ายประเด็นการถูกเรียกว่าเป็น ‘เฟมินิสต์’ ในยุคนี้เอาไว้ว่า

 

“ซินดี้ไม่ชอบการใช้คำนี้มาอธิบายทุกสิ่งอย่างที่เราเป็น เพราะ ‘เฟมินิสต์’ หมายความถึงการเป็นคนคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นพลังของผู้หญิงคนอื่น และก็เห็นคุณค่าของความเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นคุณค่าที่ควรได้รับเกียรติ สุดท้ายแล้วเรามีความรู้สึกว่าผู้หญิงไม่ได้เหนือกว่าผู้ชาย เราเท่าเทียมกัน และควรได้รับเกียรติเหมือนกัน”

 อ้างอิง:www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=1740

342  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ หนังสือแนะนำ / Re: Don’t tell me how to dress ปลุกพลังสังคมยุติการคุกคามทางเพศ เมื่อ: 26 มิถุนายน 2563 18:13:50

https://thestandard.co/wp-content/uploads/2018/05/05-2.jpg


ซินดี้จะสานต่อประเด็นดังกล่าวผ่านการจัด ‘Don’t tell me how to dress นิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ’ ร่วมกับทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจเข้าชมงานได้ฟรี ซึ่งภายในนิทรรศการจะมีการจัดแสดงเสื้อผ้าที่สวมใส่โดยผู้หญิงที่โดนลวนลาม เพื่อแสดงให้เห็นว่าการแต่งตัวของผู้หญิงไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเลย

 

“วันที่ซินดี้ไปเสวนา ก็เห็นว่าทางมูลนิธิเขาเอาเสื้อผ้าของผู้หญิงที่โดนลวนลามมาจัดแสดงด้วย ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมากจากนิทรรศการ What were you wearing? จัดที่ University of Kansas สหรัฐอเมริกาปีที่แล้ว ขนาดเขาแค่เอาเสื้อผ้าเหล่านี้มาแขวนในห้องประชุม มันยังทรงพลังมากๆ แค่มองก็ขนลุกแล้ว เพราะสุดท้ายแล้ว เสื้อผ้ากับกรณีผู้หญิงโดนคุกคามทางเพศมันไม่เกี่ยวกันเลย

 

“ซินดี้คิดว่าถ้าเราจัดนิทรรศการให้คนในสังคมได้เห็นชุดพวกนี้ ก็อาจจะเปลี่ยนความคิดได้ไม่มากก็น้อย แล้วเราค่อยมาร่วมกันหาทางออกของปัญหานี้ หรืออย่างน้อยๆ มันก็ช่วยแก้ไขมายาคติที่เกี่ยวกับกรณีลวนลามหรือคดีข่มขืน ซินดี้เลยติดต่อไปทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ให้เขาช่วยมาเป็นที่ปรึกษาให้ เพราะซินดี้ไม่เคยเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้เข้ามาทำแล้วก็อยากจะพูดสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ วิธีพูดที่ถูกต้องจริงๆ โดยทำงานร่วมกับองค์กรที่เขาทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว เพื่อให้เสียงของพวกเราดังยิ่งขึ้น”


https://thestandard.co/wp-content/uploads/2018/05/04-2.jpg



https://thestandard.co/wp-content/uploads/2018/05/03-2.jpg


นี่คือภาพส่วนหนึ่งจากนิทรรศการ ‘What were you wearing?’ รวบรวมเสื้อผ้าของเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ 18 เรื่องมาจัดแสดงใน University of Kansas โดย Jen Brockman และ Dr. Mary A. Wyandt-Hiebert

 

สำหรับ ‘Don’t tell me how to dress นิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ’ ที่ซินดี้กำลังจัดขึ้นในประเทศไทย จะเป็นการจัดแสดงเสื้อผ้าของเหยื่อที่ถูกลวนลามเป็นนิทรรศการหลัก และยังมีผลงานภาพถ่ายของช่างภาพแถวหน้าอย่าง ณัฐ ประกอบสันติสุข โดยเป็นภาพถ่ายเซเลบริตี้ในวงการบันเทิงกว่า 15 คน อาทิ ปอย ตรีชฎา, ลูกเกด เมทินี, นก สินจัย, ใหม่ ดาวิกา งานนิทรรศการจะจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้

343  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ หนังสือแนะนำ / Don’t tell me how to dress ปลุกพลังสังคมยุติการคุกคามทางเพศ เมื่อ: 26 มิถุนายน 2563 18:09:23

ซินดี้ สิรินยา พร้อมเปิดตัวนิทรรศการ Don’t tell me how to dress ปลุกพลังสังคมยุติการคุกคามทางเพศ

https://thestandard.co/wp-content/uploads/2018/05/cover-2.jpg

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กลายข่าวใหญ่เมื่อ ซินดี้-สิรินยา บิชอพ ออกมาโพสต์คลิปเกี่ยวกับสิทธิสตรี และการแต่งกายอย่างเหมาะสมในช่วงวันสงกรานต์ และทำให้เกิดปรากฏการณ์แฮชแท็ก #DontTellMeHowToDress และ #TellMenToRespect ซึ่งถูกแชร์บนอินสตาแกรมของบุคคลมีชื่อเสียงมากมายที่ออกมาร่วมสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว

 

แต่หลังจากจบช่วงสงกรานต์ไปแล้ว ประเด็นของสิทธิสตรีที่เราควรพูดถึง และถูกจุดประเด็นขึ้นมาอย่างร้อนแรงอาจจะเงียบหายไป นั่นทำให้ ซินดี้ สิรินยา เลือกที่จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์เรื่องสิทธิสตรี สิทธิการแต่งกายของผู้หญิง ความเท่าเทียมทางเพศ ไปจนถึงการรับมือคดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยร่วมมือกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จริงในสังคมไทย

ชมวิดีโอต้นฉบับได้ที่ www.facebook.com/CindySirinyaBishop/videos/1971579239826655


ซินดี้ ได้เล่าถึงที่มาและเหตุผลว่าทำไมเธอจึงสนับสนุนประเด็นดังกล่าวอย่างเต็มตัว ซึ่งภายหลังก็ได้รับแรงสนับสนุนจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลอีกด้วย

 

“จุดเริ่มต้นมาจากคลิปที่ได้รับการตอบรับ รวมถึงการแชร์ที่ค่อนข้างกว้างไกล มันสะท้อนว่าผู้หญิงหลายๆ คนรู้สึกเหมือนกัน ที่ไม่ใช่แค่ตัวซินดี้เอง ว่าเออ ทำไมเราไม่มาพูดเรื่องปัญหาการคุกคามทางเพศกันจริงๆ เสียทีว่าเกิดมาจากอะไร และมีวิธีอื่นอีกไหมที่จะลดปัญหาตรงนี้ได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับการแต่งกายของผู้หญิง ซินดี้ก็เลยตัดสินใจใช้โอกาสที่คนพูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแฮชแท็กที่ว่า #DontTellMeHowToDress #TellMenToRespect ขึ้นมา กลายเป็นข่าวทั่วโลกเลย

 

“ซึ่งพอหลังจากช่วงนั้นเสร็จแล้ว หมดช่วงสงกรานต์แล้ว ซินดี้ก็ไม่อยากให้มันหายไปจากการพูดถึง เพราะมันเป็นเรื่องที่เราต้องพูดกันอีกนาน และมันก็เป็นโอกาสที่ดีที่มีคนมาร่วมมือกัน ถ้าผู้หญิงเราลุกขึ้นมากล้าพูดเรื่องนี้มากขึ้น อาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้หญิง

 

“หลังจากเป็นข่าว ทาง มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ก็เชิญให้ไปเสวนาเรื่องนี้ เพราะทางมูลนิธิเองก็รณรงค์เรื่องนี้อยู่แล้ว แค่อาจจะไม่ค่อยมีสื่อรู้จักมากนัก พอได้พูดคุยกันแล้ว มุมมอง นโยบาย อะไรทั้งหมดของเขาดี เขาทำจริงจัง ทำอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่ได้มีผลกระทบตรงนี้มากๆ”


344  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / Re: วิกผมกับนักกฎหมาย เมื่อ: 26 มิถุนายน 2563 17:28:02


     พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ซึ่งเป็นผู้นำแฟชั่นวิกผมของ ชาวฝรั่งเศส มาเผยแพร่ในสังคมผู้ดีอังกฤษ


ทำไมเราถึงเรียกอังกฤษว่าแดนผู้ดี และมักเรียกกันติดปากว่าผู้ดีอังกฤษ






 นี่ค่ะ อ่านตามนี้เลยค่ะ  https://www.vogue.co.th/lifestyle/article/howyoulikethatblackpink

345  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / หมา ในประวัติศาสต​ร์ไทย เมื่อ: 25 มิถุนายน 2563 21:24:17

หมา ในประวัติศาสต​ร์ไทย

https://f.ptcdn.info/435/046/000/oei5f2mq4pxbWbQfeTp-o.jpg


            หมา นับเป็นสัตว์ที่คนในดินแดนประเทศไทยสมัยก่อนถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะในมนุษย์ยุคโบราณ ที่นับถือศาสนาผีหรือเชื่อธรรมชาติ   มีตำนานต่าง ๆ มากมายและความเชื่อเกี่ยวกับหมา เช่น เชื่อว่าหมาให้กำเนิดมนุษย์ หรือเชื่อว่าหมาเป็นผู้นำทางขวัญหรือวิญญาณคนตายไปรวมกับบรรพชนที่อยู่บนเมืองฟ้า หรือบ้างก็เชื่อว่าหมาเอาพันธุ์ข้าวจากฟ้ามาให้คนรู้จักปลูกและกินเป็นครั้งแรก เราจึงพบการวาดรูปหมาในถ้ำของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์​อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้คนเชียงใหม่ก็นับถือหมาว่าเป็นสัตว์​ศักดิ์​สิทธ์​มานาน โดยเมื่อสร้างเมืองเชียงใหม่เสร็จแล้ว พญามังรายสั่งให้มีพิธีให้หมาเข้าเมืองเชียงใหม่เป็นสิ่งแรก และตามด้วยพระองค์ค่อยตามหมาเข้าไป ดังนั้นเมืองเชียงใหม่จึงมีหมาเป็นสิ่งแรกที่เข้าเมือง   ในภาษาไทยปัจจุบัน เราเรียกหมา แต่มีคำศัพท์อีกคำศัพท์ที่เราใช้กันซึ่งหมายถึง หมา คือคำว่า จอ ซึ่งใช้เรียกปีหมา ดังที่เราเรียกกันว่า ปีจอ คำว่า จอ แปลว่าหมา                                 
พบอยู่ในพวกภาษาตระกูลมอญเขมร ส่วนหมาเป็นคำไทย   พระเจ้าบรมวงศ์​เธอ พระองค์เจ้ากิติยากร พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 และ เป็นพระอัยกาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิิติ์ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ได้รับคำกล่าวเล่น ๆ ในวังหลวงว่า เป็นผู้ "เกิดวันจันทร์ ปีจอ เดือนเจ็ด ลูกเจ้า หลานเจ็ก"


อ้างอิงข้อมูล -​ บทความ บทบาทของ “หมา” ในตำนานและพิธีกรรมของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในอุษาคเนย์โดย ปฐม หงษ์สุวรรณ

ภาพ -​ ภาพวาดหมายุคก่อนประวัติศาสตร์​ สำนักสงฆ์เขาจันทน์งาม ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา แสดงให้เห็นถึงหมากับคนสมัยนั้

346  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / วิกผมกับนักกฎหมาย เมื่อ: 25 มิถุนายน 2563 20:38:42


วิกผมกับนักกฎหมาย

https://f.ptcdn.info/852/063/000/pr4ihl7x1fj58iWTei6V-o.jpg

               นักกฎหมายในประเทศอังกฤษเมื่อราว 400 ปีก่อน ต้องสวมวิกผมปลอมพร้อมชุดครุยในศาลระหว่างการพิจารณาคดี ใครที่เคยดูหนังย้อนยุคแนวนี้คงจะคุ้นตากับวิกผมปลอมที่ว่านี้เป็นอย่างดี วิกแบบนี้ไม่ได้สวมกันเฉพาะนักกฎหมายเท่านั้นแต่ยังเป็นแฟชั่นสุดฮิตที่ผู้ชายทุกอาชีพหากัน สวมเพื่อความโก้เก๋ ตาม พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ซึ่งเป็นผู้นำแฟชั่นวิกผมของ ชาวฝรั่งเศส มาเผยแพร่ในสังคมผู้ดีอังกฤษเมื่อ ค.ศ.1660

ช่วงแรกๆ บรรดาผู้พิพากษาและทนายความอังกฤษต่างก็ขัดเขินกับการสวมวิกผมปลอมในศาล แต่พอใส่ไประยะหนึ่งก็ชื่นชอบและกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในกลุ่มนักกฎหมายที่จะต้องสวมวิกผมปลอมในการว่าความ จวบจนกระทั่งแฟชั่นวิกผมปลอมกลายเป็นแฟชั่นตกยุคในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 แต่บรรดานักกฎหมายก็ยังยืนหยัดที่จะสวมวิกผมปลอมโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ ว่ากันว่าช่วงนั้นมีเพียงทนายความและคนขับรถม้าเท่านั้นที่ยังสวมวิกผมปลอมกันอยู่

ปัจจุบันนี้นักกฎหมายในอังกฤษเลิกสวมวิกผมในศาลกันแล้ว แต่ในประเทศเครือจักรภพแถบทะเลแคริบเบียน และแอฟริกา รวมถึงออสเตรเลีย ยังคงยึดมั่นในธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ นั้น เราจึงยังเห็นทนายความสวมวิกผมปลอมว่าความในศาลกันอยู่ แม้แฟชั่นผมปลอมจะตกยุคไปกว่า 300 ปีแล้วก็ตาม


         ที่มา http://www.ryt9.com/



347  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / ธรรมะกับความรัก โดยท่านว.วชิรเมธี เมื่อ: 25 มิถุนายน 2563 10:51:25

ธรรมะกับความรักท่านว.วชิรเมธี

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=MQ4Nnd2zDI8" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=MQ4Nnd2zDI8</a>
348  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / Re: ทำนายลักษณะ ไฝ ปาน ขี้แมลงวัน 66 ตำแหน่ง | วาสนาดี กาลกิณี เมื่อ: 24 มิถุนายน 2563 22:03:33

41. นิ้วมือ อายุน้อยจะลำบาก สูงอายุจะมีชื่อเสียง ปัญญาดี หาทรัพย์ได้ง่าย แต่งงานแล้วจะมีความสุขสบาย

42. หน้าอก ชอบสมาคม วาสนาดี มักคิดฝันเป็นนักแสดงดี ชีวิตสมรสมักติดขัด

43. หัวใจ เมื่อเด็กลำบาก เป็นผู้ใหญ่ จะมีหลักฐาน ใจนักเลง อนาคตจะสุข สบาย คู่สมรสมีฐานะดี อาชีพค้าขายดี

44. ฐานนมทั้ง 2 ข้าง มักสุรุ่ยสุร่าย ใจอ่อนสมรสแล้วเลี้ยงลูกไม่ค่อยรอด โง่เขลา อายุเลย 30 ปีขึ้น ไปจะสุขสบายบ้าง

45. ฐานนมข้างซ้าย ชอบการศึกษา หาความสงบ ชอบค้นคว้า จะได้ลาภจากผู้ใหญ่ อย่าเกี่ยวข้องกับหญิง จะเดือดร้อน วาสนาดี หลักฐานมั่นคง จะอุดมไปด้วยสมบัติ

46. ฐานนมข้างขวา สติปัญญาน้อย เอาแต่ใจตน เห็นแก่ตัว มักตกยาก การงานออกกำลังจึงได้ผล

47. สีข้างซ้าย โกรธง่าย ชอบเพศตรงข้าม มีเล่ห์เหลี่ยม อาชีพค้าขายดี

48. สีข้างขวา อดทนรักสงบ ศัตรูสูงอายุกว่า ใจรวนเรหาความแน่นอนยาก มักลำบากแต่เล็ก

49. บั้นเอวซ้าย ปากร้าย ใจดี จะมีเกียรติยศชื่อเสียง แก่ตัวจะสบาย อาชีพค้าขายดี เป็นนักรัก

50. บั้นเอวขวา ซื่อสัตย์ กำพร้าแต่เด็ก มักลำบาก ชอบทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน บูชาความรัก

51. กลางท้อง ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ มักเดือดร้อนทางการเงิน สมาคมยาก ไร้ความอายเรื่องการกิน

52. กระเพาะอาหาร ชอบสนุก ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ค้าขายจะร่ำรวย

53. สะดือ มีมานะ ฉลาดสุขุม มีผู้อุปถัมภ์ในการเงิน รักสวยรักงาม ขี้หึง อาชีพการช่างดี เป็นศิลปินดี ถ้าต่ำกว่าสะดือ จะเป็นศิลปิน

54. ท้องน้อย มีโชคลาภอยู่เสมอ รับราชการจะมีต่ำแหน่งสูง มักได้ลาภจากเพศตรงข้าม คู่สมรสตระกูลสูง

55. ขาหนีบ ใกล้ของลับ ชอบสวยงาม ยั่วยวนเก่ง ชีวิตจะสบายมีเกียรติและชื่อเสียง

56. เนินสวรรค์ รักสวยรักงาม วัยรุ่นสาวจะเสียพรหมจรรย์ จะสมรสหลายครั้ง ชีวิตสมรสมักไม่แน่นอน ค้าขายดี

57. โคนลึงค์ หรือลูกอัณฑะ ใจหนักแน่นชอบศิลปะ ทำงานดี จะตั้งหลักฐานได้

58. ลูกอัณฑะ เย่อหยิ่งจองหอง ทำการค้าดีจะมีชื่อเสียง

59. สะโพก วาสนาดี ยิ่งสูงอายุจะมั่นคง มักใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รักสวยรักงาม แก่ตัวจะลำบาก

60. ก้น ชอบสมาคม ทะเยอทะยาน มีโชคลาภเสมอ มักร่ำรวย หยิบหย่ง ขาดความอดทน ชอบการพนัน

61. โคนขา ขันแข็งในการงาน อายุเบญจเพศจะเดือดร้อน จะพบลาภใหญ่ถึง 3 ครั้ง ฐานะดี ชอบเที่ยว มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ปัญญาดี ชอบบุญกุศล

62. หน้าขา อ่อนน้อม ใจนักเลง มีคู่มาก จะมีโชคจากผู้ใหญ่

63. หัวเข่า มีปัญญาถี่ถ้วน ชอบเผชิญภัย มักใช้จ่ายมาก เก็บเงินไม่อยู่ อาชีพค้าขายดี หากินเก่ง

64. สันหน้าแข้ง ชอบเที่ยว ใจนักเลง อาชีพเด่นทางเสี่ยงโชค ระวังจะเป็นโจร กามารมณ์รุนแรง ความรักไม่แน่นอน มีความสุขเมื่อแก่

65. ไฝที่ หลังเท้าซ้าย ชอบพเนจร อยู่ไม่ติดที่ มักมีทุกข์ จะได้คู่ต่างภาษา หญิงจะอาภัพ

66. หลังเท้าขวา มีความพากเพียร ชอบศิลปวิทยา ไม่ชอบอยู่กับที่ อยู่ที่ใดไม่ถาวร จะได้สมบัติจากผู้ ใหญ่อาชีพเคลื่อนที่ดีที่สุด อาชีพค้าขายดี ภายหน้าจะเป็นที่พึ่งแก่ตนเอง

349  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / Re: ทำนายลักษณะ ไฝ ปาน ขี้แมลงวัน 66 ตำแหน่ง | วาสนาดี กาลกิณี เมื่อ: 24 มิถุนายน 2563 22:01:21

17. ใต้ขอบตาขวา เป็นคนเจ้าเสน่ห์เป็นที่หลงใหลของเพศตรงข้าม แม้ยิ้มแย้มได้ในยามที่ตัวเองระทมทุกข์ ขี้บ่น เจ้าอารมณ์ ไม่จริงใจกับใคร

18. ใต้ขอบตาซ้าย เป็นคนอารมณ์ดี เปิดเผย ขวานผ่าซาก มีศัตรู หาคนไว้ใจยาก

19. ดั้งจมูก เป็นคนโชคดี วาสนาชะตาสูง สติปัญญาดีเอาตัวรอดได้ ทำธุรกิจก้าวหน้า มีคุณธรรม

20. ปลายจมูก มีความสมบูรณ์ จะมีคู่หลายคน ร่าเริง รักสวยงาม เป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น เป็นนักรัก

21. ข้างจมูกขวา วาสนาดี มีความเพียร มีสติปัญญาหลักแหลม ชีวิตราบรื่น

22. ข้างจมูกซ้าย มีโภคทรัพย์ ได้รับมรดก รักความสงบ มีศีลธรรมประจำใจ มีโชคลาภเสมอ

23. แก้มขวา มีวาสนาดี จะไม่ยากจน เป็นครูอาจารย์ มีผู้นับถือมาก

24. แก้มซ้าย วาสนาดี แต่ค่อนข้างเจ้าชู้ มักมีความคิดเห็นแหวกแนว จะได้รับมรดกจากญาติผู้ใหญ่

25. โหนกแก้มขวา จะมีนิสัยเห็นแก่ตัว มักเอาเปรียบคนในทางทุจริต ประกอบมิจฉาชีพ ควรทำลายเสีย

26. โหนกแก้มซ้าย มีผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ใจกว้าง ชอบทำบุญ

27. ข้างหูขวา หน้า จะเป็นคนเจ้าปัญญา เลี้ยงตัวได้ แต่ไม่รวยเพราะถืออุดมคติมากไป

28. ข้างหูซ้าย หน้า เป็นนักธุรกิจที่ก้าวหน้า มองการณ์ไกล

29. ข้างหูขวาด้านหลัง เย่อหยิ่ง เชื่อความสามารถตนเองมากไป มักมีศัตรู

30. ข้างหูซ้ายด้านหลัง จะเป็นคนหันหลังให้สังคม ร่ำรวยหลายครั้งและตกต่ำหลายหน เจ้าอารมณ์หึงหวง เอาแต่ใจตนเอง

31. ริมฝีปากล่าง ไม่ดี โมโหร้าย ปากร้าย แสนงอน ชอบทะเลาะ สร้างความเดือดร้อน อยู่สันโดษจะมีสุข

32. หู มีมานะอดทน ปฏิภาณว่องไว มักใจคอโลเล แก่ตัวจะสบาย ชอบหนังสือ เป็นนักเจรจา

33. บ่าขวา ใจคอเด็ดขาด มานะอดทน วัยกลายคนชีวิตจะดีกว่าเยาว์วัย

34. บ่าซ้าย โมโหร้าย ลำบากแต่เล็ก สูงอายุจะมีผู้อุปการะ ใจคอไม่แน่นอน มักเป็นหม้าย

35. กลางหลัง นิสัยเกียจคร้าน ไม่ชอบทำงาน โง่ แต่อวดดี

36. แขนซ้าย มักมีผู้อุปการะ ชอบของโบราณ มักยุ่งเสมอ หาความสุขยาก

37. แขนขวา กล้าหาญ ขอบเผชิญภัย ทำจริงมีโชคอยู่เสมอ

38. ข้อมือ พูดจริง เหนื่อย หากินไม่ค่อยพอ มีกามารมณ์รุนแรง มักมีคู่ หลายคน

39. ฝ่ามือ จะมีชื่อเสียง ชอบสมาคม ปัญญาดี

40. ง่ามมือ ปัญญาดี ใจบุญ มีความสุขตลอดชีวิต ถ้านิ้วขวา ดีกว่านิ้วซ้าย

350  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / ทำนายลักษณะ ไฝ ปาน ขี้แมลงวัน 66 ตำแหน่ง | วาสนาดี กาลกิณี เมื่อ: 24 มิถุนายน 2563 22:00:14

ทำนายลักษณะ ไฝ ปาน ขี้แมลงวัน 66 ตำแหน่ง | วาสนาดี กาลกิณี

https://lifestyle.campus-star.com/app/uploads/2015/11/67-%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87..-%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9D-%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87.jpg


ลักษณะไฝ ปาน ในร่างกายชาย-หญิง บอกอะไรได้บ้าง
1. บนศีรษะ ดีมีลาภลอย

2. หน้าผาก ใจกุศล ดาวพลูโต มีศีลธรรมดี ชอบสะสม และมีญาณหยั่งรู้

3. ขมับขวา เม็ดนูน จะเป็นคนกำพร้า จะดีเมื่อโตขึ้น จะเป็นคนดีมีคนอุปถัมภ์เลี้ยงดู มีเพื่อนฝูงช่วยเหลือ

4. ขมับซ้าย เมื่อน้อยได้รับการเลี้ยงดูดี เติบใหญ่จะลำบาก

5. แสกหน้า รักอิสระ คู่สมรสอายุสูงกว่า หญิงชอบตลกคะนอง มีปัญญาทันคน

6. ขมับ ดาวเกตุ วาสนาดี มีผู้อุปถัมภ์

7. ชายผมก้านคอ ชอบละเอียดอ่อน ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย นิสัย อ่อนโยน ไม่ชอบสังคม

8. คิ้วขวา มีเสน่ห์ รักสวยรักงาม เป็นที่ถูกตาต้องใจของต่างเพศ เจรจาพาทีไพเราะถ้าอยู่หัวคิ้วมี อารมณ์ทางเพศรุนแรง ปลายคิ้วจะขี้อาย

9. คิ้วซ้าย เจ้าอารมณ์ เจ้าทุกข์ ถ้าอยู่หัวคิ้ว ดีมีความคิดในทางค้าขาย เป็นนักธุรกิจติดต่อสังคมเก่ง ทันคน หางคิ้วจะมีโอกาสรวยได้มาก แต่ใช้เงินเก่ง เลี่ยงกฎหมายฉวยโอกาสกระทำผิด

10. ก้านคอด้านหลัง ถึงมีเงินมีทอง แต่มักจะอาภัพ เป็นโรคทางระบบสมอง

11. ขมับขวา มีหัวคิดริเริ่มดี มีแต่ทางก้าวหน้าร่ำรวย ทำราชการดี แต่ระวังจะต้องรับภาระหนักจนเกินไป โรคภัยทางสมองจะเบียดเบียนได้

12. ขมับซ้าย เจ้าความคิดสำหรับคนอื่น ทำคุณกับใครไม่ขึ้น มีอาชีพการงานแน่นอน

13. เปลือกตาขวา เป็นชายจะไม่สมหวังเกี่ยวกับความรัก หากเป็นหญิง มักมีชายมาอุปการะ แต่มักมากทางกามคุณ มีกุศโลบายทางเพศ

14. เปลือกตาซ้าย มักมีลาภทางการเงิน และงานจากเพศตรงข้าม ปากว่ามือถึง ไวไฟ หากเป็นหญิงมักเป็นหม้าย

15. หางตาขวา หรือร่องน้ำตา ชอบสนุกสนาน มีคู่ได้ไม่นานจีรังยั่งยืน เงินทองไม่ขาดมือ

16. สะบักหลังทั้งขวาซ้าย ชอบทดลองสงสัยเกี่ยวกับกามารมณ์ตลอดเวลา มีเสน่ห์ในตัวเอง มักมีคนอุปการะ ชอบสนุกสนานร่าเริง ชีวิตมีทั้งดี และเสียปนกันไป ซ้ายจะดีกว่าขวา

351  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ อนามัย / Re: คนตกน้ำเราช่วยได้ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2563 22:29:40
และการปฐมพยาบาลขั้นต้นพร้อมรีบแจ้งไปที่ 1669 ให้เร็วที่สุด






สำคัญมาก กรณีเด็กหรือผู้ประสบเหตุที่ตัวเล็ก
ห้ามอุ้มพาดบ่าแล้วกระแทก
เป็นแค่ความเชื่อผิด ๆ ที่ทำให้คนตายมานักต่อนักเพราะขาดการช่วยเหลือที่ถูกต้อง



แบบนี้ผิด









ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดค่าาา

352  สุขใจในธรรม / เกร็ดศาสนา / โอวาทวันแต่งงาน เมื่อ: 23 มิถุนายน 2563 11:31:37

โอวาทวันแต่งงาน

http://119.46.166.126/self_all/selfaccess7/m1/205/214/lesson3/lesson3_2.files/visaka.files/image004.gif

เป็นโอวาทปริศนา ที่บิดาของนางวิสาขา ให้แก่นางวิสาขาในวันแต่งงาน มีทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้.

1. ไฟในอย่านำออก หมายถึง ไม่นำเรื่องราวปัญหา ความร้อนใจต่าง ๆ ในครอบครัวไปเปิดเผยแก่คนทั่วไปภายนอก

2. ไฟนอกอย่านำเข้า หมายถึง ไม่นำเรื่องราวปัญหาต่าง ๆ ภายนอกที่ร้อนใจเข้ามาในครอบครัว

3. ให้แก่ผู้ให้ หมายถึง ผู้ใดที่เราให้ความช่วยเหลือ ให้หยิบยืมสิ่งของแล้ว เมื่อถึงกำหนดก็นำมาส่งคืนตามเวลา เมื่อเรามีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ หากไม่เกินความสามารถของเขา เขาก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจ บุคคลเช่นนี้ภายหลังถ้ามาขอความช่วยเหลือเราอีก ก็ให้ช่วย

4. ไม่ให้แก่ผู้ที่ไม่ให้ หมายถึง ผู้ใดที่เราให้ความช่วยเหลือให้หยิบยืมสิ่งของแล้วไม่ส่งคืน ตามกำหนดเวลา เมื่อเรามีเรื่องขอความช่วยเหลือ แม้ไม่เกินความสามารถของเขา และเป็นเรื่องถูกศีลธรรม เขาก็ไม่ยอมช่วย คนอย่างนี้ ภายหลังถ้ามาขอความช่วยเหลือเราอีก อย่าช่วย

5. ให้ไม่ให้ก็ให้ หมายถึง ถ้าญาติพี่น้องเราที่ตกระกำลำบากอยู่มาขอความช่วยเหลือ แม้บางครั้งไม่ส่งของที่หยิบยืมตามเวลา ภายหลังเขามาขอความช่วยเหลืออีกก็ให้ช่วย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นญาติพี่น้องกัน

6. กินให้เป็นสุข หมายถึง ให้จัดการเรื่องอาหารการกินในครอบครัวให้ดี ปรนนิบัติพ่อแม่ของสามีในเรื่องอาหารอย่าให้บกพร่อง ถ้าทำได้อย่างนี้ ตัวเราเองเวลากินก็จะกินอย่างมีความสุขไม่ต้องกังวล

7. นั่งให้เป็นสุข หมายถึง รู้จักที่สูงที่ต่ำ เวลานั่งก็ไม่นั่งสูงกว่าพ่อแม่ของสามี จะได้นั่งอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวล ไม่ถูกตำหนิ

8. นอนให้เป็นสุข หมายถึง ดูแลเรื่องที่หลับที่นอนให้ดี และยึดหลักตื่นก่อนนอนทีหลัง ก่อนนอนก็จัดการธุระการงานให้เรียบร้อยเสียก่อน จะได้นอนอย่างมีความสุข

9. บูชาไฟ หมายถึง เวลาที่พ่อแม่ของสามีหรือตัวสามีเองกำลังโกรธ เปรียบเสมือนไฟกำลังลุกถ้าดุด่าอะไรเรา ก็ให้นิ่งเสียอย่าไปต่อล้อต่อเถียงด้วย เพราะในช่วงเวลานั้น ถ้าเราไปเถียงเข้าเรื่องราวก็จะยิ่งลุกลามใหญ่โต ไม่มีประโยชน์ คอยหาโอกาสเมื่อท่านหายโกรธแล้วจึงค่อยชี้แจงเหตุผลให้ฟังอย่างนุ่มนวลจะดีกว่า

10. บูชาเทวดา หมายถึง เวลาที่พ่อแม่ของสามี หรือตัวสามีเองทำความดีก็พยายามส่งเสริมสนับสนุน พูดให้กำลังใจให้ทำความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป...

โอวาท 10 ประการนี้ เป็นหลักปฏิบัติ เพื่อให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
คัดลอกมาจากส่วนหนึ่งของ มงคลแห่งชีวิต.... มงคลที่ 13 สงเคราะห์ภรรยา (สามี)

ที่มา  http://kalyanamitra.org/th/

353  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ อนามัย / Re: คนตกน้ำเราช่วยได้ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2563 11:03:08

วิธีปฐมพยาบาลผู้ที่จมน้ำ


1.ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปาก ช่วยหายใจทันที อย่ามัวเสียเวลาจับแบก หรือนำพาดบ่า เพราะจะไม่ทันกาล ควรลงมือเป่าปาก ตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่ง เช่น หลังจากพาขึ้นบนเรือ หรือพาเข้าที่ตื้น ๆ ได้แล้ว เมื่อขึ้นบนฝั่งแล้ว ให้ทำการผายปอดด้วยการเป่าปากต่อไป จนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เอง หากมีน้ำอยู่เต็มท้องให้จับผู้ป่วยนอนคว่ำแล้วใช้มือ 2 ข้าง วางอยู่ใต้ท้องผู้ป่วย ยกท้องผู้ป่วยขึ้นจะช่วยไล่น้ำออกจากท้องให้ไหลออกทางปากได้ แล้วจับผู้ป่วยพลิกหงาย และทำการเป่าปากต่อไป

2.ถ้าคลำชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการนวดหัวใจทันที

3.ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เอง หรือช่วยเหลือจนหายใจได้แล้ว ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง และศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น อย่าให้ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำทางปาก

4.หลังจากการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนผู้ตกน้ำรู้สึกตัวแล้วให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

5.ในรายที่หมดสติและหยุดหายใจ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลและผายปอด ด้วยวิธีเป่าปากไปตลอดทาง



354  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ อนามัย / Re: คนตกน้ำเราช่วยได้ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2563 11:01:32

วิธีดึงผู้ตกน้ำเข้าหาฝั่ง


https://www.pingfai.com/wp-content/uploads/2018/03/1372656655-viewresizi-o-300x141.jpg


1.กอดไขว้หน้าอก
เข้าประชิดทางด้านหลังคนจมน้ำ แล้วใช้มือข้างหนึ่งพาดบ่าด้านหลังในแนวไขว้ทแยงหน้าอก จับข้างลำตัวด้านตรงข้ามของผู้จมน้ำ แล้วใช้มืออีกข้างว่ายท่ากึ่งกบหงายหรือท่าว่ายตะแคงเข้าหาฝั่ง พยุงตัวคนจมน้ำให้ใบหน้า ปาก และจมูกของเขาอยู่เหนือผิวน้ำ


https://www.pingfai.com/wp-content/uploads/2018/03/h1-696x232.jpg


2.จับคาง
เข้าทางด้านหลังของผู้จมน้ำ ใช้มือทั้งสองข้างจับขากรรไกรทั้งสองข้างของผู้จมน้ำ จากนั้นใช้เท้าตีน้ำเพื่อพยุงตัวเข้าหาฝั่ง โดยให้ใบหน้าของผู้ที่จมน้ำลอยเหนือผิวน้ำด้วย


https://www.pingfai.com/wp-content/uploads/2018/03/017.gif


3.จับผม
เข้าประชิดด้านหลังผู้จมน้ำ โดยใช้มือข้างหนึ่งจับผมผู้จมน้ำไว้ให้แน่น จากนั้นว่ายน้ำมือเดียวเข้าหาฝั่ง โดยให้ปากและจมูกของคนจมน้ำลอยเหนือผิวน้ำ


355  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ อนามัย / คนตกน้ำเราช่วยได้ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2563 10:56:28

คนตกน้ำเราช่วยได้


https://www.bangkokpattayahospital.com/images/stories/enewsletter/July_19/Infoiresuse.jpg

          วิธีช่วยคนจมน้ำ เป็นความรู้ที่เราทุกคนควรจะมีติดตัวไว้เพื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทุกคนสามารถเกิดเหตุการณ์จมน้ำได้ส่วนมากจะเป็นเด็กที่ไปเล่นน้ำกันเองโดยไม่มีผู้ใหญ่เฝ้า คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไปเล่นน้ำในบริเวณที่มีน้ำเชี่ยว หรือคลื่นแรง รวมไปถึงคนที่ว่ายน้ำเป็นแต่เป็นตะคริวจนทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำต่อไปได้ เมื่อเราเจอสถานการณ์คนจมน้ำจะได้รู้วิธีช่วยและวิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง

         การจมน้ำ ส่วนใหญ่เกิดจากอาการหมดแรงหรือการได้รับอุบัติเหตุขณะว่ายน้ำ ในขณะที่มีการจมน้ำระยะแรกผู้จมน้ำจะพยายามหายใจเอาอากาศเข้าไปให้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะเกิดอาการสำลักน้ำเข้าไปในปอด หลังจากนั้นเกิดอาการหมดสติ ชักเกร็ง   และหัวใจหยุดเต้นในเวลาต่อมา


วิธีการช่วยคนตกน้ำ

มี 4 วิธี คือ ยื่น โยน พาย ลาก

1.ยื่น คือ ยื่นอุปกรณ์ให้คนที่ตกน้ำจับ เช่น เชือก เสื้อผ้า เข็มขัด ท่อนไม้ ห่วงหรือไม้ตะขอ ในกรณีที่คนช่วยกับคนที่ตกน้ำอยู่ไม่ไกลกัน

2.โยน คือ โยนอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ในคนที่ตกน้ำเกาะ เช่น ถังพลาสติก ห่วงชูชีพ หรือยางในรถยนต์ โดยจะผูกเชือกเอาไว้กับอุปกรณ์เหล่านั้น แล้วลากคนตกน้ำเข้าฝั่ง โดยที่ผู้ช่วยสามารถยืนอยู่บนฝั่งหรือที่น้ำตื้นได้

3.พาย การใช้เรือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ออกไปช่วยเหลือคนที่ตกน้ำ โดยพาหนะที่ใช้นั้นควรมีขนาดใหญ่พอสมควร ลอยน้ำได้ ไม่ชำรุด เช่น เรือพาย กระดานโต้คลื่น เรือใบ เจ็ตสกี เรือแคนู เรือกรรเชียง เรือใบ เป็นต้น ซึ่งควรจะนำอุปกรณ์ประเภทยื่นหรือใช้โยนตามข้อข้างบนติดตัวไปด้วย เมื่อเข้าใกล้คนตกน้ำแล้วให้นำอุปกรณ์เหล่านั้นส่งไปให้ผู้ที่ตกน้ำได้ทันท่วงที

4.ลาก หากต้องว่ายน้ำออกไปช่วยต้องนำอุปกรณ์ช่วยติดตัวไปด้วย เช่น ห่วงยาง โฟม หรือใส่เสื้อชูชีพ และเมื่อว่ายน้ำเข้าไปจวนถึงตัวคนตกน้ำ ให้หยุดอยู่ห่างๆ แล้วยื่นหรือโยนอุปกรณ์ให้เขาเกาะ อย่าเข้าไปจนถึงตัวเพราะผู้ที่จมน้ำหรือตกน้ำอาจเข้ามากอด จนอาจจะทำให้จมน้ำไปด้วยกันได้ เนื่องจากผู้จมน้ำอยู่ในภาวะที่ตกใจ แต่หากผู้จมน้ำโผเข้ามาจะกอดเรา ให้ดำน้ำหนีก่อน



356  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ อนามัย / 6 เหตุผล ทำไมลูกน้อยควรได้รับ วัคซีนตรงตามเวลา เมื่อ: 23 มิถุนายน 2563 10:29:01

6 เหตุผล ทำไมลูกน้อยควรได้รับ วัคซีนตรงตามเวลา

6 เหตุผล ทำไมลูกน้อยควรได้รับ วัคซีนตรงตามเวลา

1.ช่วงเวลาการรับวัคซีนที่ตรงตามวัย  อ้างอิงจากตารางการรับวัคซีน ที่แนะนำ เช่น CDC การให้วัคซีนถูกกำหนดตามช่วงอายุ และระยะเวลาที่ร่างกายสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานได้อย่างเหมาะสม

2.ป้องกัน และลดโอกาสการเกิดโรค การรับวัคซีนล่าช้าอาจทำให้ลูกน้อยเสี่ยงต่อการเป็นโรค การรับวัคซีนตามกำหนดเวลา ช่วยปกป้องลูกน้อยจากโรค ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในเด็กเล็ก

3.เพื่อให้ภูมิคุ้มกันขั้นสูง พอที่จะป้องกันโรคได้ทัน  ลูกน้อยต้องการระยะเวลาหนึ่งที่วัคซีนจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคที่อาจจะเกิดขึ้น และวัคซีนบางชนิดจำเป็นต้องได้รับหลายเข็ม ดังนั้นไม่ควรรอหรือเลื่อนการฉีดวัคซีน

4.การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด คือ ลูกต้องได้รับวัคซีนครบทั้งปริมาณและตามเวลา วัคซีนบางชนิดต้องการการกระตุ้นหรือรับวัคซีนมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่สูงพอที่จะปกป้องลูกน้อย เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

5. การป้องกันในระยะยาว  แม้นมแม่ให้ภูมิคุ้มกันที่มีประโยชน์ แต่ไม่ได้ป้องกันเด็กจากโรค ฉะนั้นการฉีดวัคซีนถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันโรคต่าง ๆ ในระยะยาว จากโรคที่ป้องกันได้

6.การแพร่กระจายของโรค  เด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดเวลา ไม่เพียงแต่มีความเสี่ยงที่จะป่วยเอง แต่ยังสามารถแพร่กระจายความเจ็บป่วยไปยังผู้อื่นได้ ดังนั้นลูกน้อยต้องควรได้รับวัคซีนตรงเวลาเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายไปยังผู้ป่วย

  ที่มา  รพ.วิภาวดี

  ศูนย์วัคซีนเด็ก โทร 0-2561-1111 ต่อ 4201-2

357  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / Re: ประโยชน์ของ "การเล่นทราย" เมื่อ: 22 มิถุนายน 2563 16:38:19

ควรหัดเล่นตอนประมาณกี่เดือน

เด็กแต่ละคนพร้อมไม่เท่ากัน โดยประมาณคือ 12-18 เดือน ทั้งนี้เขาอยู่ในวัยที่เอาของเข้าปากเพื่อชิมบ้าง กินบ้าง เราควรดูแลใกล้ชิด เมื่อเอาทรายเข้าปาก ก็ควรจับมือเขาเอาออก ไม่ให้ทำ เท่านั้นเองค่ะ และชวนเขาเล่นในวิธีอื่น แทนการกินทราย









358  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / ประโยชน์ของ "การเล่นทราย" เมื่อ: 22 มิถุนายน 2563 16:18:10

ประโยชน์ของ "การเล่นทราย"

1. เด็กได้เล่นอย่างอิสระเสรี (free play) การเล่นทรายไม่เหมือนการเล่นของเล่น เพราะทรายไม่มีรูปแบบตายตัว (free form) เด็กเป็นผู้กำหนดว่า "ทราย" ในวันนี้จะเป็นอะไรดี? จะเป็นอาหาร หรือ จะเป็นพีระมิต ดังนั้นการเล่นทรายทำให้เด็กได้ใช้จินตนาการความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์อย่างเต็มที่
.
2. เด็กได้สัมผัสพื้นผิวที่หลากหลาย (sensory) เวลาเล่นทรายเด็กจะได้สัมผัสผิวทรายที่นุ่มบ้าง แข็งบ้าง จากกรวดที่ผสมอยู่ จากทรายที่ถูกน้ำจนแฉะ เด็กจะได้ฝึกการปรับตัว และได้ฝึกใช้กล้ามนิ้วมือทั้งสิบของเค้า และกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ทั้งมัดเล็กมัดใหญ่ คุ้ย เขี่ย ขุด กลบ และอื่นๆ การเล่นที่เด็กชอบ
.
3. เด็กได้เรียนรู้การเล่นกับเพื่อน (social skill) ถ้าเด็กมีพี่น้อง หรือ มีโอกาสได้เล่นกับเพื่อนบนกองทราย เด็กจะได้เรียนรู้การเเบ่งปันอุปกรณ์ที่เล่น เด็กจะได้เรียนรู้และฝึกใช้ภาษา เพื่อ "ขอ (อุปกรณ์)" และถามอีกฝ่าย นอกจากนี้เด็กจะได้เรียนรู้กติกาของสังคม ถ้าเล่นไม่ดี (แย่งของ) เล่นรุนแรง (สาดทราย) จะทำให้เพื่อนไม่อยากเล่นด้วย และตนเองอาจจะไม่ได้เล่นต่อ ดังนั้นเด็กจะเรียนรู้การเคารพกติการของสังคม
.
4. เด็กได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ (experiment) เพราะการเล่นทรายเป็นการเล่นอย่างอิสระ เด็กจึงพยายามสรรหาวิธีการเล่นใหม่ๆ เสมอ เพื่อไม่ให้ตัวเองเบื่อ ซึ่งการได้ทดลองเล่นทรายรูปแบบใหม่ๆ ทำให้เด็กได้ฝึกการคิดทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยไม่รู้ตัว
.
5. เด็กได้ปลดปล่อยพลังงานอย่างสร้างสรรค์ (positive energy) เด็กทุกคนมีพลังงานมากมาย การที่ให้เขานั่งอยู่เฉยๆ ไม่ทำให้เด็กได้รับการตอบสนอง ดังนั้นการเล่นทรายทำให้เด็กได้ใช้พลังงาน "เล่น" อย่างสร้างสรรค์ ลองปล่อยให้เค้าเล่นสัก 1 ชั่วโมงตอนเย็น เชื่อว่า พอถึงเวลากินข้าว เค้าจะหิวมากขึ้น และพอถึงเวลานอน หัวถึงหมอนจะหลับปุ๋ยทีเดียว

การเล่นทรายไม่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง
ช้อนกินข้าวธรรมดา หรือ ขวดน้ำพลาสติก ถ้วย กะลังมัง หม้อ ที่บ้าน
สามารถเป็นอุปกรณ์การเล่นได้อย่างดี
ไม่มีพื้นที่ ใช้ถังผสมปูนมาใส่ทรายให้เด็กๆ เล่นได้เช่นกัน
.
"ยิ่งเล่น ยิ่งพัฒนา"



ที่มา เพจตามใจนักจิตวิทยา

359  นั่งเล่นหลังสวน / สยาม ในอดีต / ในหลวงอานันทมหิดล (รัชกาลที่ ๘) ไม่อยากเป็นพระมหากษัตริย์? เมื่อ: 22 มิถุนายน 2563 01:04:56

ในหลวงอานันทมหิดล (รัชกาลที่ ๘)ไม่อยากเป็นพระมหากษัตริย์?

          ในหนังสือเจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์ พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้บันทึกถึงเหตุการณ์ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงบอกแก่หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ครั้งที่หลวงธำรงฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลพระยาพหลฯ เพื่อขอเข้าเฝ้าพระองค์เจ้าอานันทมหิดล ในเรื่องการขอให้รับราชสมบัติต่อจากรัชกาลที่ ๗ หากในหลวงร.๗ ทรงสละราชสมบัติ

ดังข้อความในบันทึกของหลวงธำรงฯ ถึงพระยาพหลฯ ว่า

"....ได้รับโทรเลขตอบจากหม่อมสังวาลว่า โปรดให้เข้าเฝ้าในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ฉะนั้นในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ (๒๔๗๗) กระผมจึงเดินทางออกจากรุงปารีสโดยทางรถไฟ ถึงโลซาน (Lausanne) ในวันนั้น และได้เข้าเฝ้าพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น...."

"นันทได้บอกหลวงธำรงฯ ว่าไม่อยากเป็นคิงเพราะ

1. เป็นเด็ก
2. ไม่รู้จักอะไร
3. ขี้เกียจ
4. พระเก้าอี้ (นันทเรียกว่าโทรน) สูงนัก แล้วนันทก็เป็นคนหลุกหลิก เดี๋ยวจะตกลงไป พระยาพหลฯ ก็จะดุเอา
5. เวลาไปไหนต้องกางร่ม ทำให้ไม่ได้แสงแดด
6. จะเดินไปไหนก็มีคนเกะกะทั้งข้างหน้าข้างหลัง วิ่งไม่ได้

ข้อเหล่านี้นันทคิดขึ้นเองหมดทั้งนั้นเมื่อทราบว่าหลวงธำรงฯ จะมา"

หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา

ที่มา: ชมรมประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรสยาม
360  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / ที่มาของสำนวนไทย "ควันหลง" เมื่อ: 22 มิถุนายน 2563 01:02:02

ที่มาของสำนวนไทย "ควันหลง"


           
สำนวนไทยคำว่า "ควันหลง" เป็นสำนวนที่ได้มาจากวงนักเลงสูบฝิ่นหรือกัญชา เพราะพวกนี้จะเข้าใจคำว่า "ควันหลง" เป็นอย่างดีที่สุด หมายความถึงควันที่หลงเหลืออยู่ในบ้องกัญชาหรือกล้องสูบฝิ่น ภายหลังที่สูบแล้ว คนที่ไม่เคยสูบเมื่อได้เห็นเข้าก็มักอยากลองสูบ หรือลองดูดดูว่าจะมีรสชาด

เป็นฉันใด ครั้นดูดดูเล่นๆนึกว่าเป็นกล้องเปล่า แต่กลายเป็นอัดเอาควันหลงเข้าไปเต็มปอด เพราะยังเหลือค้างในกล้อง จะเกิดความมึนเมาขึ้นทันทีทันควัน    ในทางสำนวนหมายถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นตัวการ แต่พลอยถูกกระเส็นกระสายในเรื่องร้ายๆ ที่เขาก่อกันขึ้นไว้เป็นการใหญ่ แล้วพลอยถูกเกาะกุมตัวไปด้วย

ภายหลัง โดยสำนวนจึงหมายถึงว่าผู้นั้นโดนเอาควันหลงเข้าให้แล้ว

         



          ที่มา: ปัญหาสอบเชาวน์ และ ความรู้รอบตัว
          โดย ชาลี เอี่ยมกระสินธุ์

หน้า:  1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 23
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.426 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 15 กุมภาพันธ์ 2567 00:51:01