[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 04 พฤษภาคม 2557 13:09:13



หัวข้อ: พระราหู : เทวกำเนิด
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 พฤษภาคม 2557 13:09:13
.

(http://board.postjung.com/data/554/554514-topic-ix-3.jpg)
ภาพจาก : postjung.com

พระราหู : เทวกำเนิด

ก่อนอาละวาดเที่ยวไล่จับพระอาทิตย์ พระจันทร์ มาอมให้วุ่น ทั้งที่เป็นพี่น้องกัน พระราหูซึ่งเป็นเทวดานพเคราะห์องค์หนึ่งในคติไทย อยู่ในประเภทบาปเคราะห์ ท่านว่าให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมานั้น มีเทวกำเนิดเล่าไว้หลายตำนาน หนึ่งว่า พระอิศวรเป็นเจ้า ได้เอาหัวผีโขมด ๑๒ หัว บดป่นเป็นผง แล้วห่อผ้าสีทอง ประพรมด้วยน้ำอมฤต เสกได้เป็นพระราหู มีวรกายสีนิลออกไปทางทองแดง ทรงสุบรรณ(ครุฑ) เป็นพาหนะ มีวิมานสีนิลอยู่ในอากาศ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (ทิศพายัพ) อีกตำนานว่า เป็นโอรสของท้าววิประจิตติ กับนางสิงหิกา หรือนางสิงหะรา มีกายเป็นยักษ์ มีหางเป็นนาค มี ๔ มือ และบางตำราว่าเป็นบุตรของพระพฤหัสบดี กับนางอสูร

เกี่ยวกับพี่ๆ ที่ต่อมากลับกลายเป็นอริไปเสีย เรื่องเล่าว่า

ในอดีตชาติ พระราหูเกิดเป็นน้องร่วมท้องเดียวกับเทวดานพเคราะห์ ๒ องค์ คือ พระอาทิตย์ และพระจันทร์ วันหนึ่งพระราหูทำบุญถวายพระที่มารับบิณฑบาตร่วมกับพี่ทั้งสอง ครั้งนั้นพระอาทิตย์ตักบาตรด้วยภาชนะทอง พระจันทร์ตัก บาตรด้วยภาชนะเงิน ส่วนพระราหูตักบาตรด้วยภาชนะที่ทำมาจากกะลามะพร้าว ครั้นทั้งสามมาเกิดเป็นเทวดานพเคราะห์ พระอาทิตย์จึงมีรัศมีและวรรณะเปล่งปลั่งดุจทองคำ พระจันทร์มีรัศมีและวรรณะเป็นสีขาวสว่างดุจเงิน ขณะที่พระราหูมีรัศมีและวรรณะเป็นสีนิลออกไปทางทองแดง (บางตำราว่าสีดำบ้าง สีทองบ้าง

จากพี่ร่วมอุทร เป็นศัตรูร่วมฟ้า เหตุมาจากครั้งเหล่าเทวดาทำพิธีกวนเกษียรสมุทรเพื่อให้ได้น้ำอมฤต พระราหูไปแอบอยู่ในกลีบเมฆ (บ้างว่าแปลงเป็นเทวดาเข้าไปในเทพชุมนุม) เมื่อพิธีสำเร็จ พระราหูรีบลอบดื่มน้ำอมฤตนั้น พระอาทิตย์และพระจันทร์เห็นเข้าจึงรีบเอาความไปทูลพระนารายณ์ (บ้างว่าทูลพระอิศวร) จอมเทพกริ้วจัดขว้างจักรไปลงโทษ จักรตัดไปถูกกลางตัวพระราหูขาดกลายเป็นสองท่อน แต่ด้วยว่าน้ำอมฤตที่ดื่มไปนั้นไหลไปถึงกลางตัวแล้วพอดี ครึ่งบนของพระราหูที่ถูกตัดออกจึงกลายเป็นอมตะ รูปพระราหูที่เห็นจึงมีเพียงครึ่งองค์ด้วยประการฉะนั้น ส่วนครึ่งล่างกลายมาเป็นพระเคราะห์องค์ที่ ๙ แห่งเหล่าเทวดานพเคราะห์ คือพระเกตุ

จากนั้น ครั้งใดที่ครึ่งบนของพระราหูที่ลอยอยู่ในอากาศได้พบเจอพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ พระราหูก็จะจับพี่ๆ มากลืนกินด้วยความโกรธแค้นที่ทั้งสององค์ช่างฟ้อง แต่ถึงจับตัวมาใส่ปากได้ก็อมไว้ได้ไม่นาน ต้องคายออกมาเพราะทนความร้อนและรัศมีของเทวดานพเคราะห์ทั้งสองไม่ได้ นั่นคือเหตุแห่งปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา ตามคติโบราณ

ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง พรรณนาว่า "พญาอสูรผู้ชื่อว่าราหูนั้น สูงได้ ๙๘,๐๐๐ โยชน์ แลอ้อมรอบหัวโดยใหญ่ ๘๐๐ โยชน์ แลหัวเขากว้างได้ ๑,๒๐๐ โยชน์ แต่ข้างแลข้างได้ ๒,๖๐๐ โยชน์ และหน้าผากโดยกว้างได้ ๓๐๐ โยชน์ แลจมูกโดยยาวได้ ๓๐๐ โยชน์ แต่หว่างคิ้วก็ดี หว่างตาก็ดี ได้ ๙๐ โยชน์ แต่หัวคิ้วมาเถิงหางคิ้วได้ ๒๐๐ โยชน์ แต่หัวตามาเถิงหางตาได้ ๒๐๐ โยชน์ แต่ปากโดยกว้างได้ ๒๐๐ โยชน์ โดยลึกปากได้ ๓๐๐ โยชน์ โดยกว้างฝ่ามือได้ ๒๐๐ โยชน์ ขนตีนขนมือขนนั้นและยาวได้เถิง ๓๐ โยชน์" และ "ลางคาบราหูอ้าปากออกเอาพระอาทิตย์แลพระจันทร์วับเข้าไปในปาก ลางคาบเอานิ้วมือบังไว้ ลางคาบเอามาไว้ใต้คาง ลางคาบเอาไว้ใต้รักแร้ เมื่อกระทำดังนั้นไซร้ อันว่ารัศมีพระอาทิตย์ก็ดี พระจันทร์ก็ดี เศร้าหมองมิงามได้เลย"
...นสพ.ข่าวสด