[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 พฤษภาคม 2567 05:00:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 300 301 [302] 303 304 ... 1122
6021  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ด่วน! เพจดังรายงาน"ทักษิณ" ป่วยกลางดึก ย้ายจากเรือนจำ ไป รพ.แล้ว เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 08:48:50
ด่วน! เพจดังรายงาน"ทักษิณ" ป่วยกลางดึก ย้ายจากเรือนจำ ไป รพ.แล้ว
         


ด่วน! เพจดังรายงาน"ทักษิณ" ป่วยกลางดึก ย้ายจากเรือนจำ ไป รพ.แล้ว" width="75" height="75
  
         

https://www.sanook.com/news/8989814/
         
6022  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เช็กก่อนออกจากบ้าน วันนี้หลายพื้นที่เจอฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ก็ไม่รอ เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 06:16:58
เช็กก่อนออกจากบ้าน วันนี้หลายพื้นที่เจอฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ก็ไม่รอด
         


เช็กก่อนออกจากบ้าน วันนี้หลายพื้นที่เจอฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ก็ไม่รอด" width="75" height="75
  กรมอุตุฯ เตือนวันนี้ไทยเจอฝนทุกภาค
         

https://www.sanook.com/news/8989662/
         
6023  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - เปิดใจ พ่อ สส.ก้าวไกล เผยสาเหตุลูกชายวูบกลางสภาฯ วันโหวตนายก ยืนยันปลอดภัยแล้ว เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 06:00:26
เปิดใจ พ่อ สส.ก้าวไกล เผยสาเหตุลูกชายวูบกลางสภาฯ วันโหวตนายก ยืนยันปลอดภัยแล้ว
         


เปิดใจ พ่อ สส.ก้าวไกล เผยสาเหตุลูกชายวูบกลางสภาฯ วันโหวตนายก ยืนยันปลอดภัยแล้ว" width="75" height="75
  พ่อ สส.อานุภาพ พรรคก้าวไกล เผยตกใจทราบข่าวลูกชายหน้ามืดเป็นลมกลางสภาฯ จนต้องถูกหามนำส่งโรงพยาบาล แต่ยืนยันล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
         

https://www.sanook.com/news/8989646/
         
6024  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศาลฎีกาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง 'สุเทพ' คดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 05:03:49
ศาลฎีกาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง 'สุเทพ' คดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 15:16</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: สุเทพ เทือกสุบรรณ (ที่มา: Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ))</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลฎีกาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' อดีตแกนนำ กปปส. คดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ลั่นอาจฟ้องกลับ เพื่อเป็นบทเรียนกับ ป.ป.ช. ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ </p>
<p> </p>
<p>22 ส.ค. 2566 เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ รายงานวันนี้ (22 ส.ค.) เวลา 11.31 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ศาลฎีกา อม.) ศาลกำหนดนัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อม.อธ.11/2565 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6 กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดแทน โครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ)</p>
<p>โดย ป.ป.ช.โจทก์ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน 2552-18 เมษายน 2556 จำเลยที่ 1 และที่ 2 เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง จากราคาภาคแยกสัญญามาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว จำเลยที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยจำเลยที่ 6 ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาได้เสนอราคาต่ำอย่างผิดปกติ จำเลยที่ 3-4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคาไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติดังกล่าว และได้นำเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคานั้นไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบเป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา ต่อมา จำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาเป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำเลยที่ 3, 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10, 12 กับลงโทษจำเลยที่ 5, 6 ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด</p>
<p>โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาเเล้วเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิด ยกฟ้องจำเลยทั้ง6 ต่อมา ป.ป.ช.โจทก์ยื่นอุทธรณ์คดีต่อก่อนที่จะนัดอ่านคำพิพากษาในวันเดียวกันนี้ ปรากฎว่าจำเลยทุกคนเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ</p>
<p>องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์โจทก์ จำเลยเห็นว่า จำเลยที่ 1 นายสุเทพ รองนายกฯในขณะนั้น การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติลงบันทึกข้อความเสนอต่อนายกฯและคณะรัฐมนตรีในโครงการจัดสร้างโรงพักทดแทนฯ โดยให้คำนึงถึงความเห็นของสำนักงบประมาณและมติครม. ที่ผ่านมาการที่จำเลยอนุมัติรวมสัญญาครั้งเดียวโดยไม่ได้นำเสนอต่อ ครม. ย่อมมีประเด็นพิจารณาว่ามติครม.ครั้งที่ 7/2552 ได้อนุมัติโดยกำหนดให้จำเลยต้องเสนออนุมัติโดยแก้ไขหรือไม่ ซึ่งมติ ครม.ดังกล่าว มีข้อกำหนดให้หน่วยงานของรัฐมีมติให้ชัดเจน แต่ไม่มีข้อความระบุชัดเจนถึงการจัดซื้อจัดจ้างว่าให้ดำเนินการอย่างไรมติดังกล่าวเพียงเก่าแต่เรื่องการรื้อถอนโครงสร้างเดิมและการผูกพันงบประมาณข้ามปีเท่านั้น โดยมีพยานที่เกี่ยวข้องทั้งสองปากเบิกความยืนยันน่าเชื่อถือว่ามติครม. ไม่ได้ระบุถึงการจัดซื้อจัดจ้างโดยกำหนดให้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งสำนักงบประมาณก็มีหนังสือยืนยันความเห็นควรอนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอภายในกรอบ 6,600ล้านบาท ผูกพันงบประมาณ3 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2554 ดังนั้น ข้อความตามมติครม. ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนถึงวิธีการจัดซื้อจัดจ้างไม่มีผลผูกพัน จำเลยที่ 1 จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสนอ แม้จำเลยที่ 1 เคยเสนอให้กระจายสัญญาเป็นรายภาคแต่ต่อมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอรวมไว้ที่ส่วนกลางกรณีจึงเป็นอำนาจของจำเลยที่1 ที่อนุมัติได้เองและไม่พบข้อเท็จจริงข้อพิรุธที่จำเลยที่1 จะเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง ที่อนุมัติเพราะเชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบถูกต้องเหมาะสมแล้ว กรณีจึงไม่อาจฟังเป็นยุติว่าการรวมสัญญาไม่ทำให้การเสนอราคาไม่เป็นธรรมเสมอไปส่วนผู้ก่อสร้างที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ไปด้วยว่าเป็นผลจากการกระทำของจำเลยที่หนึ่งในการอนุมัติโดยไม่เสนอ ครม.การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง</p>
<p>ส่วนจำเลยที่ 2 องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่2ต้องปฏิบัติตามมติครม. จำเลยที่2เสนอการจัดจ้างต้องประกาศราคาในครั้งเดียว โดยใช้วิธีการอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีความเป็นธรรมแม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อจัดจ้างของจำเลยที่สองแต่ก็ยังมีการใช้ประกวดราคาเช่นเดิมแค่เปลี่ยนจากปลายภาคเป็นรวมกันครั้งเดียวซึ่งมีการศึกษาข้อดีข้อเสียมาแล้วกรณีจึงมีเหตุผลในการที่เสนอวิธีเปลี่ยนการจัดซื้อจัดจ้าง แม้จะเสนอเพียงหนึ่งวันก่อนอนุมัติก็ไม่ถือเป็นพิรุธ และไม่ปรากฏว่าการเสนอดังกล่าวมีผลประโยชน์แอบแฝงข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่2 ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่การกระทำไม่เป็นความผิดตามฟ้อง</p>
<p>ในส่วนจำเลยที่ 3-4 องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นว่าฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ตามมติสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุไม่ได้มีข้อกำหนดใดชัดแจ้ง แม้จำเลยที่5 จะเสนอต่ำกว่าราคากลาง 540 ล้านบาทแต่กรณีไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่5 เสนอราคาต่ำจนก่อสร้างไม่ได้ เนื่องจากผู้เสนอราคาสามารถปรับลดบริหารได้ การที่จำเลยที่ 5 เสนอเสาเข็มถูกกว่าราคาตลาดมากรายการเดียว จำเลยที่5 ก็มีธุรกิจเสาเข็มดูแล้วจึงสามารถปรับลดราคาสินค้าบางอย่างได้ เพื่อให้เสนอราคาอย่างเสรีลำพังการที่ราคาเสาเข็มราคาต่ำกว่าราคาทั่วไปมาก ไม่เป็นเหตุที่จำเลยที่จำเลยที่ 3-4 จะไม่รับการประกวดราคาของจำเลยที่4-5 และไม่ถึงกับเป็นเหตุสำคัญที่ต้องเรียกจำเลยที่5 มาตรวจสอบถึงเรื่องราคาเสาเข็ม และไม่มีข้อพิรุธว่าเป็นกรณีการปกปิดข้อเท็จจริง ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่3-4 กระทำโดยทุจริตฯ พยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่3-4 กระทำผิดตามฟ้อง</p>
<p>ส่วนจำเลยที่5-6 ในฐานะผู้สนับสนุน เมื่อองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่1-4 การกระทำไม่เป็นความผิดตามฟ้องจึงไม่ต้องวินิจฉัยในส่วนของจำเลยที่5-6เพราะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัย ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย มาเเล้ว องค์คณะชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนยกฟ้องจำเลยที่1-6</p>
<p>ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้อง จำเลยทั้ง 6 คน</p>
<p>เพจเฟซบุ๊ก The Reporters รายงานว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อ หลังฟังความพิพากษาระบุว่า เขาภูมิใจในชีวิตที่เป็นนักการเมืองไม่เคยทำการทุจริต หรือคอร์รัปชันใดๆ แม้ว่าจะถูกรุมใส่ร้ายในการเล่นงาน แต่ในที่สุดกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยได้ให้ความเป็นธรรมกับผม ที่ผมได้เคารพในหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมคิดว่ากรณีนี้ก็เป็นอุทาหรณ์ที่ผู้ใช้อำนาจ  ควรจะต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="587" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FTheReportersTH%2Fposts%2Fpfbid02WeVzjUivcSqSLrWjYHuoBkzVwPPkDkf9yoAgJ4K8duwX5cwXgpxdu2hU4Lzh1TvTl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>สุเทพ มองว่า คนที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดก็คือ ป.ป.ช. รู้ข้อเท็จจริงดีทุกอย่าง แต่ยังดำเนินคดีกับผม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินแล้วว่าไม่ผิด ก็ยังอุทธรณ์ ดื้อรั้น ตอนฟ้องอัยการก็ไม่เห็นด้วย ก็ยังจะฟ้องอีก คิดว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ควรพิจารณาตัวเองเพราะสร้างความเสียหายให้เขามาก และเสียชื่อเสียง</p>
<p>สุเทพ กล่าวว่า เขาไม่สนใจเรื่องการเยียวยา แต่จะปรึกษาเรื่องกฎหมาย เพื่อหาช่องทางดำเนินคดีกับ ป.ป.ช. ไม่ใช่ด้วยความโกรธเคือง แต่ ป.ป.ช.ตั้งขึ้นด้วยกฎหมายพิเศษ เพื่อปฏิบัติหน้าที่พิเศษ แต่ว่าจากกรณีนี้เขาได้เห็นว่า ป.ป.ช. ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ เคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นการกระทำโดยไม่ชอบ ถ้าดำเนินคดีได้ จะดำเนินคดี แต่ย้ำว่าขอไปปรึกษาก่อน</p>
<p>"ต้องย้ำว่าไม่ได้ดำเนินคดีด้วยความโกรธเคือง แต่ต้องการให้เป็นบทเรียน ผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมายควรจะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ" </p>
<p>ทั้งนี้ สุเทพ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า ตั้งแต่ตัดสินใจ ออกจาก ส.ส.มาเดินนำขบวน ก็ได้ประกาศแล้วไม่ทำการเมืองต่อ เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง แต่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นไม่เอาชื่อเสียงความสำเร็จและผลพลอยได้โอนมาเป็นคะแนนเสียงของตัวเองในทางการเมือง </p>
<p>อดีตแกนนำ กปปส. ฝากข้อความถึงนักการเมืองคนอื่นๆ ว่า </p>
<p>"ผมเรียนได้อย่างเดียวว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้น การมาเป็นนักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิ คือต้องมีความคิดความเห็นที่ถูกต้อง มาทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ไม่ใช่ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกพ้องหรือแม้แต่พรรคตัวเอง</p>
<p>"ถ้านักการเมืองยึดหลักนี้ จะเป็นนักการเมืองที่ควรค่าแก่การส่งเสริมประชาชนก็สามารถพึ่งพาได้ แต่ถ้านักการเมืองคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ละเลยผลประโยชน์ของชาติไม่คิดถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติโดยส่วนรวม ก็ไม่สมควรจะเป็นนักการเมืองที่เราให้ความสนใจ หรือไปยกย่องสรรเสริญ" สุเทพ กล่าว</p>
<p>สุเทพ กล่าวเสริมว่า ทุกคนต้องมีความตั้งใจดีต่อบ้านเมืองเป็นหลัก เพื่อให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัยให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจเป็นหลักประกันแห่งความมั่นคง พร้อมย้ำว่า อย่ายึดมั่นถือมั่นว่าใครเป็นคนละขั้วกัน ไม่ว่าฝ่ายใดก็แล้วแต่สามารถเปลี่ยนใจมาทำงานร่วมกันได้เพียงแค่ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105567
 
6025  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "อุ้ม-นิวเคลียร์" สวยเผ็ดแพ็คคู่ สองพี่น้องปล่อยใจปล่อยจอยปาร์ตี้ เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 03:46:48
"อุ้ม-นิวเคลียร์" สวยเผ็ดแพ็คคู่ สองพี่น้องปล่อยใจปล่อยจอยปาร์ตี้
         


&quot;อุ้ม-นิวเคลียร์&quot; สวยเผ็ดแพ็คคู่ สองพี่น้องปล่อยใจปล่อยจอยปาร์ตี้" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;อุ้ม ลักขณา โพสต์รูปคู่ นิวเคลียร์ สองศรีพี่น้องสวยเผ็ดแพ็คคู่ ปาร์ตี้ปล่อยใจปล่อยจอย
         

https://www.sanook.com/news/8988878/
         
6026  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศาลลงโทษจำคุก 2 ปี 8 ไม่รอลงอาญา อดีตรองหัวหน้า 'ประชาธิปัตย์' อนาจาร นศ.สาว  เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 03:26:12
ศาลลงโทษจำคุก 2 ปี 8 ไม่รอลงอาญา อดีตรองหัวหน้า 'ประชาธิปัตย์' อนาจาร นศ.สาว 
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2023-08-23 01:53</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผย ศาลอาญาฯใต้ สั่งลงโทษจำคุก 'ปริญญ์' อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทำอนาจาร นศ.สาววัย 18 ปี ที่คอนโด-ร้านอาหาร 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา</p>
<p>22 ส.ค.2566 สื่อหลายสำนัก เช่น เดลินิวส์ มติชนออนไลน์ และเนชั่น รายงานตรงกันถึงความคืบหน้า คดีที่ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกดำเนินล่วงละเมิดทางเพศ โดยอัยการสั่งฟ้องได้มีคำสั่งคดีความผิดทางเพศ 12 คดี โดย โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาในคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ปริญญ์ เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำอนาจารหญิงสาว รวม 2 กรรม เป็น เวลา 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา กรณีก่อเหตุกระทำอนาจารนักศึกษาสาววัย 18 ปี หลังใช้อุบายหลอกมาคุยเรื่องงานและสอนเรื่องหุ้นที่ร้านอาหารชั้นดาดฟ้าในซอยสุขุมวิท 11 เหตุเกิดเมื่อปี 2564 แต่นักศึกษาสาวผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เมื่อเดือนเมษายน 2565 ซึ่งคดีนี้เป็นคดีแรก หลังจากนั้นจึงมีหญิงสาวผู้เสียหายอีกหลายรายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมอีกหลายคดี</p>
<p>โกศลวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ในวันที่ 25 กันยายนนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังได้นัดฟังคำพิพาพากษาคดีที่อัยการฟ้อง ปริญญ์ เป็นจำเลยฐานกระทำอนาจารหญิงสาวอีกคดี ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาล</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105576
 
6027  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ราชทัณฑ์' แยกขัง 'ทักษิณ' สถานพยาบาลแดน 7 เหตุมีโรคประจำตัว-กลุ่มเปราะบาง เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 01:46:30
'ราชทัณฑ์' แยกขัง 'ทักษิณ' สถานพยาบาลแดน 7 เหตุมีโรคประจำตัว-กลุ่มเปราะบาง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 16:04</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ราชทัณฑ์ แถลงแยกขังเดี่ยว ทักษิณ สถานพยาบาล แดน 7 เหตุเป็นกลุ่มเปราะบาง (ที่มา: ไลฟ์สด The Reporters)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘ราชทัณฑ์’ แยกขัง ‘ทักษิณ’ โซนพิเศษ แดนพยาบาล แดน 7 สถานพยาบาลในเรือนจำ  โดยแยกคุมขังเพียงคนเดียว เหตุมีโรคประจำตัว-กลุ่มเปราะบาง โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชม. คาดหากยื่นขออภัยโทษ ต้องใช้เวลา 1-2 เดือน</p>
<p> </p>
<p>22 ส.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก 'The Reporters' รายงานวันนี้ (22 ส.ค.) สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ดร.อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สิทธิ สุชีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตั้งโต๊ะแถลงหลังส่งตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="830" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FTheReportersTH%2Fposts%2Fpfbid02wuSo7JNsbn7jpYz1Dfbbbv87k3pqm32Dv9GmU7iuw3etz6Y5Egz5Tv9b5ghhbuWCl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>อายุตม์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย 3 ประการ ประการแรกดูเรื่องความปลอดภัยของนายทักษิณเป็นหลัก ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ อาหาร น้ำดื่ม และการเข้าเยี่ยม ประการที่ 2 เนื่องจากนายทักษิณมีครอบครัว เพื่อน รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ  ทางเรือนจำเป็นต้องจัดสถานที่ให้เพียงต่อการเยี่ยม คงต้องอะลุ่มอล่วย ประการที่ 3 นายทักษิณเป็นผู้สูงอายุ อายุ 74 ปี เรือนจำจึงต้องดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับตัวนายทักษิณ มีการทำประวัติ และตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แยกคุมขังไว้ที่แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลของเรือนจำกรุงเทพมหานคร แยกขังเดี่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง   </p>
<p>สิทธิ กล่าวต่อว่า ทักษิณ เป็นกลุ่มเปราะบาง (กลุ่ม 608) อายุเกิน 60 ปี โดยผลการตรวจเบื้องต้นมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่องโดยแพทย์เฉพาะทาง สำหรับมาตรการเยี่ยม เบื้องต้นตามมาตรการกักตัวจะต้องกักตัว 10 วัน โดย 5 วันแรกจะอยู่ในห้อง มีแต่ทนายความตามกฎหมายเท่านั้นที่จะพบได้ ส่วน 5 วันหลังจะเป็นการผ่อนปรน อนุญาตให้ญาติเยี่ยมได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน 'LINE'</p>
<p>สำหรับการขอพระราชทานอภัยโทษ เบื้องต้นทางนายทักษิณและครอบครัวยังไม่ได้ยื่นเอกสาร แต่สามารถยื่นได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำ ซึ่งเรือนจำพิจารณาส่งไปยังกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ส่งไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนาม ซึ่งกรณีนี้จะเป็นการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายบุคคล โดยทั่วไปจะใช้กระบวนการไม่เกิน 1-2 เดือน หลังจากเรื่องออกจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งความช้าจะอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมเอกสาร เนื่องจากมีเอกสารหลายอย่าง และต้องคัดคำพิพากษาของศาลมาประกอบด้วย </p>
<p>นัสที ในฐานะผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทักษิณ จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับคนอื่น ทั้งอาหาร การทำกิจกรรมสิทธิในการพบทนาย ระเบียบการเยี่ยมญาติ ย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้อาหารมื้อแรกนายทักษิณดื่มเพียงน้ำเปล่าและเบเกอรี่ ส่วนมื้อเย็นจะรับประทานข้าวต้ม และผัก เช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น</p>
<p>นายแพทย์วัฒน์ชัย ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ระบุว่า ทักษิณ ต้องเฝ้าระวังโรคหัวใจและภาวะหัวใจขาดเลือด ทั้งยังมีปัญหาทางปอดจากโรคโควิด-19 ความดันโลหิตสูง ภาวะเสื่อมตามอายุ เช่น กระดูกสันหลังเสื่อมในหลายระดับ มีการกดทับเส้นประสาท ทำให้มีการปวดเรื้อรัง การเดิน ทรงตัวผิดปกติ นับเป็นกลุ่มเปราะบาง จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด หากเจ็บป่วยสามารถเข้ารักษาได้ทันท่วงที</p>
<p>สำหรับการการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล จะมีระเบียบแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบ 1.รีเฟอร์ อิน ต้องนำตัวผู้ต้องหาเข้าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือโรงพยาบาลเครือข่ายราชทัณฑ์ 2. รีเฟอร์ เอ้าท์ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 3. รีเฟอร์ แอด จะส่งตัวผู้ต้องขังไปยังโรงพยาบาลในเครือกระทรวงสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลของรัฐ  โดยกรณีของทักษิณ อยู่ระหว่างการประเมินอาการป่วย เบื้องต้น สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงยังไม่มีการส่งต่อ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105569
 
6028  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เมียหลวงเดือดจัด! แหกอกเมียน้อยหวิดเปลือยกลางถนน ชาวบ้านไม่ช่วยยืนดูเงียบๆ เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 01:01:15
เมียหลวงเดือดจัด! แหกอกเมียน้อยหวิดเปลือยกลางถนน ชาวบ้านไม่ช่วยยืนดูเงียบๆ
         


เมียหลวงเดือดจัด! แหกอกเมียน้อยหวิดเปลือยกลางถนน ชาวบ้านไม่ช่วยยืนดูเงียบๆ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เมียหลวงปะทะเดือดเมียน้อยริมถนน ทั้งตบตีและจิกหัว คำพูดของเมียหลวงทำเอาชาวบ้านถึงกับโฟกัสผิดจุด หันไปมุงเมียน้อยสาวแทน
         

https://www.sanook.com/news/8988994/
         
6029  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สภาลงมติให้ 'เศรษฐา' ได้เป็นนายกฯ เมื่อ: 23 สิงหาคม 2566 00:15:35
สภาลงมติให้ 'เศรษฐา' ได้เป็นนายกฯ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 18:01</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบให้ "เศรษฐา" เป็นนายกฯ คนที่ 30 ด้วยคะแนนเสียงรวม ส.ส. และ ส.ว. ทั้งหมด 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53134152124_f0dd9752ae_b.jpg" /></p>
<p>22 ส.ค.2566 ที่ประชุมรัฐสภา มีการประชุมวาระเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยมีการเปิดให้ลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย</p>
<p>ผลการลงคะแนน รัฐสภามีมติเห็นชอบให้เศรษฐาเป็นนายกฯ ด้วยคะแนนเสียงรวม ส.ส.และส.ว. ทั้งหมด 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>'ชลน่าน' แจง 3 ข้อครหา 'เศรษฐา' เชื่อหนุน พท.เป็นนายกฯ เริ่มต้นเปลี่ยนความเห็นต่างมาทำงานร่วมกัน</li>
<li>'ชัยธวัช' อภิปรายชี้ รบ.ข้ามขั้วต่ออายุ คสช. ยก 3 ต้นทุนที่ ปชช.ต้องจ่าย</li>
<li>ส.ว.วิวรรธน์ เปิดอภิปรายโหวตนายกฯ ยกประเด็น บ.แสนสิริซื้อที่ดินเลี่ยงภาษี</li>
<li>‘วันนอร์’ ฟัน ไม่ให้ ‘โรม’ เสนอญัตติทบทวนมติไม่ให้เสนอชื่อนายกฯ ซ้ำ อ้างจะทำให้มติสภาไม่น่าเชื่อถือ</li>
</ul>
</div>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105571
 
6030  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - "เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 แถลงขอบคุณ ให้คำมั่นขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุ เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 23:57:41
"เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 แถลงขอบคุณ ให้คำมั่นขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
         


&quot;เศรษฐา ทวีสิน&quot; ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 แถลงขอบคุณ ให้คำมั่นขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 แถลงให้คำมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เร่งยกระดับความเป็นอยู่ประชาชน
         

https://www.sanook.com/news/8989130/
         
6031  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - Rocket Media Lab สำรวจปรากฏการณ์ทัวร์ลง ครึ่งปีหลัง 202 แค่ชาวเน็ตทะเลาะกัน หรือมากกว่านั้ เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 22:45:05
Rocket Media Lab สำรวจปรากฏการณ์ทัวร์ลง ครึ่งปีหลัง 202 แค่ชาวเน็ตทะเลาะกัน หรือมากกว่านั้น
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 21:15</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<ul>
<li>แม้จะพบทัวร์ลงในหมวดหมู่บันเทิงมากที่สุด แต่ทัวร์กลับมีการใช้แนวคิดทางสังคมหลากหลายในการโต้ตอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำ เช่น กรณีของดีเจภูมิกับเรื่องส้มตำจานละ 600 บาทที่ออสเตรเลีย หรือกรณีของโตโน่กับเรื่องการใช้อุโมงค์ว่ายน้ำที่จุฬาฯ</li>
<li>ปรากฏการณ์ทัวร์ลง 177 เรื่องอยู่ในหมวดบันเทิงมากที่สุด แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบ จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องทัศนคติทางการเมืองมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่า เรื่องทัศนคติทางการเมืองจึงอาจจะเป็นชนวนถกเถียงที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทัวร์ลงมากที่สุดก็ว่าได้ </li>
<li>ลักษณะคอมเมนต์ที่พบมากที่สุดคือการล้อเลียน/เสียดสี ทำให้เป็นเรื่องตลกขบขัน ซึ่งเป็นการปกป้องตนเองจากการถูกฟ้อง และยังแสดงให้เห็นลักษณะของปรากฏการณ์ทัวร์ลงที่ไม่ได้นำไปสู่ปฏิบัติการใดๆ อย่างเป็นรูปธรรม ดังเช่น Cancel Culture </li>
<li>แม้เส้นทางของขบวนรถทัวร์เกิดขึ้นที่ต้นเรื่องมากที่สุด แต่เมื่อพิจารณาจาก ‘การชี้ช่อง’ ทั้ง ทัวร์ลงที่ต้นเรื่องจากการชี้ช่องและทัวร์ลงในพื้นที่ที่มีการชี้ช่องรวมกัน จะเห็นได้ว่ามีจำนวนมากกว่า ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ปรากฏการณ์ทัวร์ลงอาจเกิดจากการแพร่กระจายของเนื้อหาโดยการ ‘ชี้ช่อง’ มากที่สุด</li>
</ul>
</div>
<p>ปรากฏการณ์ ‘ทัวร์ลง’ เป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นบนสังคมโซเชียลมีเดียทั้งของไทยและโลก อันมาพร้อมกับความเคลื่อนไหวที่เรียกว่า Cancel Culture หรือวัฒนธรรมการ ‘แบน’ ที่เพิ่งจะก่อตัวและแพร่หลายหลังเหตุการณ์ #MeToo ซึ่งเริ่มต้นจากการแสดงออกเพื่อต่อต้านการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในวงการฮอลลีวูด ในไทยเองมีการนิยามคำว่า ‘ทัวร์ลง’ ในวิกิพจนานุกรม พจนานุกรมเสรีที่ดำเนินการโดยมูลนิธิวิกิมีเดีย ไว้ว่า “โดนคนรุมแสดงความเห็นเชิงลบในสื่อสังคม” อย่างไรก็ตาม ลักษณะ โครงสร้าง และข้อสังเกตที่น่าสนใจในปรากฏการณ์ทัวร์ลงที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียของไทยยังไม่ค่อยมีการศึกษามากนัก จากบทความเรื่อง ‘ทัวร์ลง’ ในกรุงเทพธุรกิจ โดย นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ให้นิยามของปรากฏการณ์ทัวร์ลงไว้คร่าวๆ ว่า </p>
<p> </p>
<p>“ทัวร์ลง ซึ่งก็คือการที่ผู้เล่นหรือผู้ใช้สื่อดิจิทัลสมัยใหม่โดยเฉพาะในทวิตเตอร์จำนวนมากเข้ามาโพสต์และ/หรือมาดู รูป วิดีโอ และเขียนความคิดเห็น และเขียนความคิดเห็น ในประเด็นต่างๆ ที่เป็นที่สนใจในสังคมขณะนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นประเด็นที่คนที่อยู่ในกลุ่มรู้สึกไม่พอใจและอยากที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จำนวนของคนที่เข้าไปดู คุยกันหรือคอมเมนต์นั้นจะต้องมีจำนวนมาก และมักจะติดอันดับสูงที่สุด 10 อันดับ ในขณะนั้น ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นก็มักจะเป็นเรื่องทางการเมืองและสังคมที่เป็นเรื่อง Controversy คือมีความเห็นที่แตกต่างกันสูงในสังคมของไทย” </p>
<p>ในขณะที่กล้า สมุทวณิช เขียนบทความ เหรียญสองหน้าของปรากฏการณ์ ‘ทัวร์ลง’ ในมติชน โดยกล่าวว่าปรากฏการณ์ทัวร์ลงเป็นสายธารของสิ่งที่เรียกว่า ‘ดราม่า’ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย นอกจากนี้ยังมีลักษณะที่น่าสนใจก็คือ </p>
<p>“ปรากฏการณ์ทัวร์ลง ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือ หรืออาวุธของคนตัวเล็กตัวน้อย ประชาชนธรรมดาที่รวมกลุ่มกันได้เป็นกลุ่มใหญ่ โดยไม่ได้นัดหมาย จนมีพลังแรงพอที่จะสอดส่อง ทักท้วง ติติงผู้ใช้อำนาจรัฐและการใช้อำนาจรัฐทุกระดับให้ต้องฟังเสียงประชาชนเพื่อทบทวนได้ หรือแม้กระทั่งกับทุนใหญ่หลายเจ้าก็ยังต้องเกรงใจคณะทัวร์ชาวเน็ตนี้</p>
<p>“...อาจจะช่วยป้องปรามการแสดงออกที่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น หรือไม่เคารพในคุณค่าที่สังคมปัจจุบันยอมรับ เช่นการเล่นตลกทางเพศ การเหยียดผิวเหยียดเพศ (ที่บางครั้งมาในรูปของโฆษณาคิดสั้น) รวมถึงการละเมิดสิทธิของผู้คนในเรื่องต่างๆ หรือการลุแก่อำนาจของผู้มีสถานะและอำนาจเหนือกว่าที่ปกติแล้วไม่เคยถูกตรวจสอบ…”</p>
<p>“...ทัวร์ลง ยังช่วยยับยั้งการกระทำที่ไม่เข้าท่าของคนบางประเภทที่อยากดังด้วยวิธีลัด ก็สร้างคอนเทนต์หรือถ่ายคลิปประเภทเรียกร้องความสนใจ เช่น การกลั่นแกล้งก่อความเดือดร้อนในสังคม หรือแม้แต่การรังแก หรือทารุณกรรมสัตว์เพื่อเรียกยอดไลค์ คอนเทนต์ หรือคลิปประเภทนี้ หากมีคนไปเป็นและแชร์กันจนทัวร์มาเยือน ก็อาจจะทำให้มนุษย์อยากดังพวกนี้ดับอนาถต้องปิดเพจหนี หรืออาจจะถูกดำเนินคดีเลยก็ได้ หากการนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมายอาญาสักเรื่องสักบทหนึ่ง”</p>
<p>เพื่อทำความเข้าใจปรากฏการณ์ทัวร์ลงที่นับวันจะมีมากขึ้นจนเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย Rocket Media Lab จึงเก็บข้อมูลรวบรวมปรากฏการณ์ทัวร์ลงที่เกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดียในแพลตฟอร์มต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2565 จนถึง 31 ธันวาคม 2565 รวมเป็นเวลา 193 วัน (6 เดือน 10 วัน) และนำมาจัดหมวดหมู่ โครงสร้าง ลักษณะ และแยกรายละเอียดต่างๆ เพื่อสำรวจปรากฏการณ์ที่เรียกว่าทัวร์ลงในโซเชียลมีเดียในไทยให้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น </p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>ดูข้อมูลพื้นฐานที่นี่ https://rocketmedialab.co/database-controversial-issue</li>
</ul>
</div>
<p>‘ทัวร์ลง’ ในที่นี้ หมายถึงการที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมาก หรือจำนวนมากผิดปกติจากที่พื้นที่นั้นเคยมีอยู่ เข้ามาเพื่อคอมเมนต์ในเชิงต่อต้าน ด่าทอ เสียดสีหรือคอมเมนต์ในเชิงลบ ในประเด็นที่มีการโต้เถียงกัน จากผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั้งที่มีส่วนได้เสียหรือไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในประเด็นนั้น ที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ติ๊กต็อก อินสตาแกรม ยูทูบ และเว็บบอร์ด</p>
<p>ในช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล สามารถรวบรวมสิ่งที่เรียกว่า ‘ทัวร์ลง’ ได้ 177 เรื่อง จากนั้นนำเอา 177 เรื่องนี้มาแบ่งหมวดหมู่ของเรื่อง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 8 หมวด ได้แก่ </p>
<p>1. หมวดบันเทิง เป็นเรื่องเกี่ยวกับศิลปินดารานักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง รวมไปถึงผู้มีชื่อเสียงในโลกโซเชียลมีเดีย </p>
<p>2. หมวดการเมือง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง </p>
<p>3. หมวดสังคม เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิต การปฏิสัมพันธ์ และบรรทัดฐานทางสังคมต่อเหตุการณ์ต่างๆ </p>
<p>4. หมวดธุรกิจ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและการบริการ </p>
<p>5. หมวดการศึกษา เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งในสถานศึกษาและแนวคิดทางวิชาการ </p>
<p>6. หมวดวัฒนธรรม เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อ ศีลธรรม วัฒนธรรมต่างๆ </p>
<p>7. หมวดวิทยาศาสตร์/การแพทย์ เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ การแพทย์ สาธารณสุข</p>
<p>8. หมวดนโยบายรัฐ เกี่ยวข้องกับนโยบายสาธารณะ ที่รัฐเป็นผู้ดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน แก้ไขปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น </p>
<p>เมื่อแยกหมวดหมู่ของเรื่องจากทั้ง 177 เรื่องที่ทำการเก็บข้อมูลได้แล้ว จากนั้น Rocket Media Lab ได้สำรวจแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบจากโพสต์ที่โดนทัวร์ลง โดยสามารถจำแนกออกเป็น 16 แนวคิด คือ </p>
<p>1. ทัศนคติทางการเมือง เป็นเรื่องมุมมองด้านทัศนคติทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน เชียร์คนละพรรค หรือเชียร์คนละนโยบาย หมายรวมถึงบุคคลทางการเมืองด้วย </p>
<p>2. ความเหมาะสม เป็นมุมมองต่อการกระทำที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมองว่าเหมาะสมหรือไม่ สิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ </p>
<p>3. ความเหลื่อมล้ำ เป็นการถกเถียงเรื่องความไม่เท่าเทียมในสังคมทั้งด้านเศรษฐกิจ ชนชั้น การศึกษา </p>
<p>4. ปกป้องบุคคลที่ชื่นชอบ เป็นการแสดงความเห็นปกป้องบุคคลที่ชื่นชอบไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในแวดวงใดก็ตาม </p>
<p>5. จรรยาบรรณวิชาชีพ เป็นการตั้งคำถามกับความประพฤติที่ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องประพฤติปฏิบัติให้เหมาะสม ไม่ผิดแก่จรรยาบรรณของตน </p>
<p>6. ทัศนคติทางเพศ เป็นการตั้งคำถามต่อมุมมองทางเพศของบุคคล </p>
<p>7. สิทธิมนุษยชน เป็นการตั้งคำถามต่อมุมมองเรื่องสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน </p>
<p>8. ส่อทุจริต เป็นการตั้งข้อสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากลในการประกอบธุรกิจ หรือการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ</p>
<p>9. ความเห็นไม่ตรงกัน เป็นเรื่องการถกเถียงกันของกลุ่มคนที่มีฐานคิดของข้อถกเถียงที่ต่างกันในประเด็นนั้นๆ </p>
<p>10. anti-woke เป็นแนวคิดที่ต่อต้านกระแสการตื่นตัวต่อเรื่องอคติและการเลือกปฏิบัติในสังคม โดยมองว่าเป็นแนวคิดที่ล้นเกิน </p>
<p>11. ความโปร่งใส เป็นการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการดำเนินกิจกรรมหรือนโยบายของรัฐ </p>
<p>12. ชาตินิยม เป็นการถกเถียงกันภายใต้แนวคิดชาตินิยม </p>
<p>13. ศาสนา/ความเชื่อ/ศีลธรรม เป็นการถกเถียงกันเรื่องศาสนา ความเชื่อ หรือความประพฤติที่มีศาสนามาเกี่ยวข้อง </p>
<p>14. ทัศนคติทางเชื้อชาติ เป็นการถกเถียงต่อการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลโดยแบ่งแยกเชื้อชาติ ในที่นี้รวมไปถึงการแบ่งแยกตามตามภูมิศาสตร์ของประเทศ เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคกลาง </p>
<p>15. วิทยาศาสตร์ ในที่นี้เป็นการถกเถียงเรื่องของการแพทย์ วิทยาศาสตร์ สาธารณสุข เรื่องสุขอนามัยต่างๆ</p>
<p>16. สิ่งแวดล้อม ในที่นี้เป็นการถกเถียงเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างฉลาด อาทิ ใช้ให้น้อยแต่คุ้มค่า ใช้ให้เหมาะสม ใช้อย่างมีเหตุผล </p>
<p>จากนั้นก็สำรวจลักษณะคอมเมนต์ที่เกิดขึ้นในโพสต์ที่โดนทัวร์ลงทั้ง 177 เรื่อง โดยสามารถแบ่งลักษณะคอมเมนต์ออกเป็น 4 แบบ คือ </p>
<p>1. ล้อเลียน/เสียดสี หมายถึง การที่ทัวร์เข้ามาคอมเมนต์ในเชิงล้อเลียน เสียดสี ยั่วเย้า หรือประชดประชันต่อผู้ถูกทัวร์ หรือต่อเหตุการณ์นั้นๆ </p>
<p>2. ด่าทอด้วยคำหยาบคาย/ตำหนิติเตียน หมายถึง การที่ทัวร์เข้ามาด่าทอ ตำหนิ ผู้ถูกทัวร์ด้วยคำหยาบคาย</p>
<p>3. สนับสนุน/ปกป้อง หมายถึงการที่ทัวร์เข้ามาคอมเมนต์ปกป้องบุคคลในเหตุการณ์ หรือคอมเมนต์เชิงสนับสนุนบุคคลในเหตุการณ์ที่มีทัวร์ลงเกิดขึ้น</p>
<p>4.โต้เถียงด้วยเหตุผล/ยกเหตุผลเพื่อมาลบล้างหลักการ หมายถึง การที่ทัวร์เข้ามาโต้แย้งเหตุการณ์ หรือประเด็นนั้นๆ ด้วยเหตุผล หรือหลักการอื่นๆ ที่ไม่ใช่หลักการเดียวกันกับต้นโพสต์ </p>
<p>จากนั้น ยังได้สำรวจปฏิกิริยาของผู้ที่ถูกทัวร์ลง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 6 แบบ ดังนี้</p>
<p>1.ไม่ได้ทำอะไร หมายถึง ผู้ที่ถูกทัวร์ลงไม่ได้ออกมาชี้แจง อธิบาย หรือแก้ไขใดๆ เพียงปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นและจบลงไปเฉยๆ</p>
<p>2. ออกมาอธิบาย/ชี้แจง หมายถึง ผู้ที่ถูกทัวร์ลง ออกมาเขียนอธิบายหรือชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้น ในที่นี้หมายถึงการเขียนโพสต์ใหม่เพื่ออธิบายเหตุการณ์โดยเฉพาะ หรือไลฟ์สดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ</p>
<p>3. ลบ/แก้ไข/ปิดคอมเมนต์ หมายถึง ผู้ที่ถูกทัวร์ลงออกมาลบ แก้ไข และปิดคอมเมนต์โพสต์ที่เป็นต้นตอของสิ่งที่ทำให้เกิดทัวร์ลง </p>
<p>4. ออกมาขอโทษ หมายถึง ผู้ที่ถูกทัวร์ลงออกมาเขียนโพสต์ ไลฟ์สด อัดคลิป หรือแถลงข่าวขอโทษ โดยในที่นี้นับเฉพาะกรณีที่ระบุคำขอโทษ และกรณีที่มีการยอมรับผิด </p>
<p>5. มีการฟ้องร้องกัน หมายถึง ผู้ที่ถูกทัวร์ลงฟ้องร้องคู่กรณี รวมไปถึงถูกจับกุม หรือถูกดำเนินคดีด้วย</p>
<p>6. ยกเลิก/ลาออก หมายถึง เหตุการณ์ที่ถูกทัวร์ลงนั้น มีการยกเลิกงาน หรือมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ</p>
<p>สุดท้าย คือการสำรวจเส้นทางการมาของทัวร์ว่ามีรูปแบบอย่างไร โดยสามารถจำแนกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ </p>
<p>1. ทัวร์ลงที่ต้นเรื่อง หมายถึง บุคคลต้นเรื่องก่อให้เกิดทัวร์ลงด้วยตนเอง โพสต์เอง และภายหลังทัวร์ลงที่โพสต์นั้น </p>
<p>2. ทัวร์ลงที่ต้นเรื่องจากการชี้ช่อง หมายถึง บุคคลต้นเรื่องโพสต์หรือทำบางสิ่งบางอย่าง ต่อมามีบุคคลหรือสื่อนำเรื่องราวไปขยายต่อ ทัวร์จึงกลับมาหาบุคคลต้นเรื่องหรือโพสต์นั้นๆ </p>
<p>3. ทัวร์ลงในพื้นที่ที่มีการชี้ช่อง หมายถึง มีบุคคลหรือสื่อนำเรื่องราวไปรายงาน/เขียนถึงในที่สาธารณะ ต่อมามีทัวร์ไปลงในพื้นที่ที่มีการเขียนรายงานถึง </p>
<p>4. ทัวร์ลงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับต้นเรื่อง หมายถึง มีเรื่องราวหรือเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ทัวร์ไม่ทราบพื้นที่ส่วนตัวของบุคคลที่จะถูกทัวร์ลง ต่อมาทัวร์จึงไปลงในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับคนที่เป็นต้นเรื่องแทน</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทัวร์ลงหมวดบันเทิงมากที่สุด แต่ใช่ว่าคนไทยบ้าดารา</span></h2>
<p>หมวดหมู่ทั้งหมดที่พบในปรากฏการณ์ทัวร์ลง จำนวน 177 เรื่อง</p>
<p style="margin: 0in 0in 8pt; text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53134457574_246e073a39_b.jpg" /></p>
<p>จากปรากฏการณ์ทัวร์ลงทั้ง 177 เรื่อง เมื่อนำมาแยกหมวดหมู่พบว่ามีหมวดบันเทิงมากที่สุด จำนวน 61 เรื่อง คิดเป็น 34.46% รองลงมาอยู่ในหมวดการเมือง จำนวน 38 เรื่อง คิดเป็น 21.47% ตามมาด้วยหมวดสังคม 35 เรื่อง คิดเป็น 19.77% โดยหมวดที่น้อยที่สุดที่พบคือเรื่องนโยบายรัฐ พบเพียง 3 เรื่อง คิดเป็น 1.69%</p>
<p>ในหมวดบันเทิงซึ่งมีทัวร์ลงมากที่สุด พบว่าแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบมากที่สุดคือปกป้องบุคคลที่ชื่นชอบ จำนวน 14 เรื่อง รองลงมาคือ ความเหมาะสม 11 เรื่อง ตามมาด้วย ความเหลื่อมล้ำ 9 เรื่อง โดยแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบน้อยที่สุดคือเรื่องความโปร่งใส จำนวน 1 เรื่อง ศาสนา/ความเชื่อ/ศีลธรรม 1 เรื่อง สิ่งแวดล้อม 1 เรื่อง และสิทธิมนุษยชน 1 เรื่อง</p>
<p>ตัวอย่างทัวร์ลงในหมวดบันเทิงที่ใช้แนวความคิดปกป้องบุคคลที่ชื่นชอบในการโต้ตอบ เช่น ข่าวอิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 หนีเที่ยวสิงคโปร์โดยไม่บอกต้นสังกัด โดยหลังจากเจ้าของเวทีมิสแกรนด์ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ไลฟ์ขอให้ผู้ที่พาอิงฟ้าไปหยุดการกระทำดังกล่าว แฟนคลับของนางงามต่างเข้าไปทัวร์ลงบนอินสตาแกรมของ ติ๊นา ศุภนาฎ จิตตลีลา ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึง ลักษณะคอมเมนต์เป็นการแสดงความไม่พอใจ ตำหนิติเตียนพฤติกรรมของติ๊นาที่พาอิงฟ้าหนีเที่ยวจนดูเหมือนไม่มีความเป็นมืออาชีพและปกป้องอิงฟ้าที่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องวุ่นวาย เช่น "พักนะคะ ถอยออกมา อย่าไปอะไรกับพี่ฟ้า ขอพี่ฟ้าคืนได้ไหม" อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทัวร์ลงของติ๊นาจบลงโดยที่ติ๊นาไม่ได้ออกมาอธิบายหรือชี้แจงใดๆ </p>
<p>อันดับสองคือหมวดการเมือง โดยแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบมากที่สุดคือทัศนคติทางการเมือง จำนวน 34 เรื่อง ตามมาด้วยความเหลื่อมล้ำ จำนวน 1 เรื่อง ชาตินิยม 1 ทัศนคติทางเพศ 1 เรื่อง และปกป้องบุคคลที่ชื่นชอบ 1 เรื่อง ตัวอย่างทัวร์ลงในหมวดหมู่การเมืองที่ใช้ทัศนคติทางการเมืองในการโต้ตอบ เช่น กรณีของแทนคุณ จิตต์อิสระ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น ถูกทัวร์ลงหลังโพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊กว่าส่งลูกชายไปเรียนแคนาดา ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียคอมเมนต์ถามเกี่ยวกับแนวคิดทางการเมือง อาทิ “แคนาดาให้ที่พักพิงให้ทุนให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองโดยเฉพาะ 112 หลายคนเลยนะคะ” หรือ “ทำไมไม่เรียนเมืองไทย ไม่รักชาติเหรอ” ซึ่งลักษณะข้อความดังกล่าวถูกจัดประเภทว่าเป็นการล้อเลียน/เสียดสี </p>
<p>อันดับที่สามคือหมวดสังคม โดยแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบมากที่สุดเป็นเรื่องความเหมาะสม 11 เรื่อง ตามมาด้วยความเหลื่อมล้ำ 4 เรื่อง สิทธิมนุษยชน  4 เรื่อง และที่พบน้อยที่สุดเป็นเรื่องทัศนคติทางเพศ 1 เรื่อง ศาสนา/ความเชื่อ/ศีลธรรม 1 เรื่อง สิ่งแวดล้อม 1 เรื่องและ anti-woke จำนวน 1 เรื่อง ตัวอย่างทัวร์ลงในหมวดหมู่สังคมที่ใช้แนวคิดเรื่องความเหมาะสมในการตอบโต้ เช่น กรณีของเพจ “ที่นี่ห้วยปริก” ซึ่งโพสต์ข้อมูลประชาสัมพันธ์โครงการการยกระดับเศรษฐกิจ​และสังคมรายตำบลของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ระบุว่า “เทคนิคการขายสินค้าออนไลน์ By พี่หลวงกาโตะ” โดยมีรูปนายพงศกร จันทร์แก้ว หรือหลวงพี่กาโตะ อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังที่เคยมีคลิปเสียงฉาวและมีความสัมพันธ์กับสีกาในรถ ที่ปัจจุบันสึกและผันตัวมาเป็นพ่อค้าออนไลน์ หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีคนจำนวนมากเข้าไปทัวร์ในเพจ โดยชี้ว่าผู้จัดเลือกคนไม่เหมาะกับงาน เช่น “พิจารณาความเหมาะสมหน่อยครับ อันนี้คือมีชื่อเสียงจากความเสื่อมเสีย ส่วนตัวคิดว่าระดับมหาวิทยาลัยน่าจะหาวิทยากรได้ดีกว่านี้นะครับ” ต่อมา เพจลบโพสต์ดังกล่าวออกแต่ไม่ได้ชี้แจงว่างานนี้จะยังจัดต่อไปหรือไม่</p>
<p>จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า แม้เรื่องทัวร์ลงจะเกิดขึ้นในหมวดบันเทิงมากที่สุด ซึ่งในทางหนึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนบันเทิงยังเป็นจุดสนใจของคนในสังคมเสมือนดังเช่นข่าวบันเทิงทั่วไป หรือคนบันเทิงที่มีแฟนคลับให้การสนับสนุน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบมากที่สุดในหมวดบันเทิงคือการปกป้องบุคคลที่ชื่นชอบ ซึ่งก็คือการที่แฟนคลับเป็นตัวการหลักในความเคลื่อนไหวของทัวร์ลงในแต่ละครั้ง </p>
<p>แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบรองลงมาในหมวดบันเทิงคือความเหมาะสม ซึ่งมีจำนวนไม่ห่างจากอันดับหนึ่งมากนัก สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่แค่คนที่สนใจข่าวดาราหรือแฟนคลับเท่านั้น ที่เป็นตัวการในการขับเคลื่อนทัวร์ลงในหมวดบันเทิง แต่ยังอาจหมายรวมคนทั่วไปที่อาจจะไม่ได้สนใจในเรื่องราวของดาราหรือเป็นแฟนคลับ แต่ขึ้นขบวนรถทัวร์พร้อมกับแนวความคิดเรื่องความเหมาะสม มีเกณฑ์บรรทัดฐานทางสังคมบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมารยาท จริยธรรม ฯลฯ เพื่อตัดสินการกระทำของผู้ที่ถูกทัวร์ลง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่เกาะเกี่ยวผู้คนทั่วไปกับการทัวร์ลงในหมวดหมู่บันเทิง โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนั้นๆ เป็นการเฉพาะเช่นการเป็นแฟนคลับ</p>
<p>มากไปกว่านั้นก็คือ แม้จะเป็นทัวร์ลงในหมวดหมู่บันเทิง แต่เรายังได้เห็นการโต้ตอบของทัวร์โดยใช้แนวคิดอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำ เช่น กรณีของดีเจภูมิกับเรื่องส้มตำจานละ 600 บาทที่ออสเตรเลีย หรือกรณีของโตโน่กับเรื่องการใช้อุโมงค์ว่ายน้ำที่จุฬาฯ ซ้อมว่ายน้ำก่อนจะว่ายจริงในแม่น้ำโขง หรือแม้กระทั่งประเด็นเรื่องความโปร่งใส, ศาสนา/ความเชื่อ/ศีลธรรม, สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแนวความคิดเชิงสังคมที่ถูกนำมาใช้โต้ตอบในขบวนทัวร์ลง แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ของหมวดบันเทิงก็ตาม</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทัศนคติทางการเมืองยังเป็นเรื่องที่ใช้โต้ตอบถกเถียงกันมากที่สุด</span></h2>
<p style="margin-bottom:0in; margin:0in 0in 8pt">แนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบ</p>
<p style="margin: 0in 0in 8pt; text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53134253826_77942b2ea1_b.jpg" /></p>
<p style="margin-bottom:0in; margin:0in 0in 8pt"><span lang="TH" style="font-family: &quot;Angsana New&quot;, serif;" xml:lang="TH"><span style="font-size: 14.6667px;"> </span></span>จากปรากฏการณ์ทัวร์ลงทั้ง 177 เรื่อง เมื่อนำมาแยกแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบ จะพบว่ามีการใช้แนวความคิดเรื่องทัศนคติทางการเมืองมากที่สุด จำนวน 43 เรื่อง คิดเป็น 24.29% รองลงมาคือความเหมาะสม 23 เรื่อง คิดเป็น 12.99% ตามมาด้วยความเหลื่อมล้ำ 20 เรื่อง คิดเป็น 11.30% โดยแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบน้อยที่สุดคือทัศนคติทางเชื้อชาติ วิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม อย่างละ 3 เรื่อง คิดเป็นเรื่องละ 1.69% เท่ากัน</p>
<p>จากแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบเป็นเรื่องทัศนคติทางการเมืองมากที่สุด จำนวน 43 เรื่อง เมื่อนำมาพิจารณาต่อจะพบว่าอยู่ในหมวดการเมืองมากที่สุด จำนวน 34 เรื่อง ตามมาด้วยหมวดบันเทิง 5 เรื่อง และหมวดสังคม 2 เรื่อง ยกตัวอย่างเช่น กรณีดราม่า #แบนนันยาง ขึ้นแฮชแท็กในทวิตเตอร์หลังโปรโมตรองเท้าแตะช้างดาวพริ้ง แต่โดนโยงการเมือง โดยเรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 วงเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลีอย่าง BLACKPINK คัมแบคด้วยเพลง Pink Venom เพจนันยาง Nanyang จึงเขียนโพสต์ว่า “ถ้าเพลงใหม่ #BLACKPINK ยอดวิวถึง 80 ล้านใน 24 ชม. จะผลิตช้างดาวสีชมพูดำ” ปรากฏว่ายอดวิวของเพลงนี้ถึง 80 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมงตามที่ระบุไว้ เพจรองเท้านันยางจึงประกาศจะผลิตรองเท้าดังกล่าว ทั้งยังลงรายละเอียดช้างดาวพริ้งไว้ว่า “Fact 24 ข้อก่อนซื้อช้างดาวพริ้ง” ซึ่งในข้อ 20 ระบุว่า “รองเท้าแตะสีชมพูดำจะไม่ผลิตอีกภายใน 8 ปี (พ.ศ. 2573)” ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว กำลังมีประเด็นทางการเมืองว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีหรือไม่ โดยเพจต่างๆ ต่างก็เล่นมุก หรือโปรโมทสินค้าโดยอ้างอิงถึงตัวเลขนี้ เช่น ร้านจ๊อปูบางแสนโพสต์ถึงความอร่อย 8 ปี ดังนั้นชาวเน็ตที่มาทัวร์ลงจึงเชื่อว่านี่คือการแซะเรื่องของการเมืองของนันยาง จนเกิดแฮชแท็ก #แบนนันยาง ขึ้น หลังมีดราม่าออกมา ผู้จัดการทั่วไปของนันยางออกมาชี้แจงว่าตัวเลขไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง “สินค้ารุ่นลิมิตเตดของเรา (ทุกๆ รุ่น) มีคำถามว่า จะผลิตอีกไหม แต่ละรุ่นเราจะไม่ผลิตอีก อย่างที่เราบอกว่าช้างดาวพริ้งจะไม่ผลิตอีก แต่ถ้าเราบอกว่าจะไม่ผลิตสีชมพูกับดำอีก ก็จะเป็นการผูกมัดเลยไป ก็เลยคิดว่าต้องกำหนดเวลา” อย่างไรก็ตามกรณีนี้ชาวเน็ตบางส่วนมองว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของการเปิดขายแบบลิมิเต็ดที่นานๆ จะมีทีทำให้เกิดแฮชแท็กให้กำลังใจนันยางขึ้นมาด้วยแฮชแท็ก #saveนันยาง</p>
<p>แนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบอันดับที่สองคือความเหมาะสม 23 เรื่อง ซึ่งพบในหมวดบันเทิง จำนวน 11 เรื่อง หมวดสังคม 11 เรื่อง และหมวดธุรกิจ 1 เรื่อง ยกตัวอย่างในหมวดบันเทิง เช่น กรณีของลีน่าจัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 ที่ถูกวิจารณ์ว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คุกคามทางเพศและไม่ให้เกียรติ โดยขณะไลฟ์ขายของร่วมกับนักแสดงยุ่น ภูษณุ วงศาวณิชชากร ลีน่าจังดมรักแร้ของนักแสดงหนุ่มโดยอีกฝ่ายไม่ยินยอม เรื่องนี้ทำให้เกิดแฮชแท็ก #แบนลีน่าจัง ขึ้นในโลกออนไลน์ และเมื่อพิจารณาลักษณะคอมเมนต์ของทัวร์พบว่ามีทั้งด่าทอด้วยคำหยาบคาย/ตำหนิติเตียนบุคคลในเหตุการณ์ โต้เถียงด้วยเหตุผล/ยกเหตุผลเพื่อมาลบล้างหลักการเพื่อปกป้องบุคคลในเหตุการณ์อย่างดาราชาย รวมไปถึงคอมเมนต์เพื่อปกป้องดาราหนุ่มอีกด้วย </p>
<p>แนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่พบเป็นอันดับสามคือเรื่องความเหลื่อมล้ำ จำนวน 20 เรื่อง ซึ่งพบในหมวดบันเทิงมากที่สุด 9 เรื่อง สังคม 4 เรื่อง ตามด้วยหมวดธุรกิจ 3 เรื่อง เช่น กรณีดราม่า สาวโพสต์ตามหาช่างแต่งหน้า ทำผม เรตราคาหลักร้อยในหมวดสังคม โดยเรื่องเกิดจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้าไปโพสต์ในกลุ่ม “หาช่างแต่งหน้า-ทำผม สำหรับงานถ่ายแบบ งานพิธี รับปริญญา งานแต่ง งานอีเว้นท์ฯ” ว่า “ตามหา หาช่างแต่งหน้าหัวละ 300 บาท ช่างทำผม หัวละ 200 บาท งานเลี้ยงบริษัทจำนวน 30-40 คน โดยประมาณ งาน 31 ธันวาคม แถวๆ อยุธยาค่ะ” ในวันที่ 23 ธ.ค.65 ซึ่งโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งทัวร์ที่เข้ามาลงเพราะมองว่ากดราคา ดูถูกวิชาชีพ ขณะที่บางส่วนใช้วิธีล้อเลียนขบขันโดยบอกว่าให้ไปแต่งหน้ากับ จิ๊ก เนาวรัตน์ ซึ่งเป็นนักแสดงที่มักแต่งหน้าให้ศพ ขณะที่บางคนก็เข้ามาให้กำลังใจเจ้าของโพสต์ ต่อมา เจ้าของโพสต์ได้เขียนชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องประหยัดงบหลังจากถูกทัวร์ลง </p>
<p>นอกจากนี้แนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบที่น่าสนใจที่สำรวจพบคือเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยพบ 10 เรื่อง แบ่งเป็นสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย 4 เรื่อง ละเมิดสิทธิ 3 เรื่อง สิทธิคนพิการ 2 เรื่องและสิทธิเด็ก 1 เรื่อง เช่น กรณีที่ทัวร์มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของครูสาวดาวติ๊กต็อกซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคนที่เจอทัวร์ลงหลังอัปคลิปพานักเรียนไปตัดผมซ้ำจนเกรียน โดยครูระบุว่าเป็นหน้าที่เด็กที่ต้องตัดผมให้เรียบร้อย ทั้งยังบรรยายในคลิปว่า “การตัดผมเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่เมื่อเรามาอยู่ในที่ที่มีกฎ ก็ต้องทำตามกฎ ถูกไหม จริงอยู่ที่การตัดผมไม่ได้ทำให้เราเรียนเก่งขึ้น แต่ช่วยฝึกเราให้รู้จักคำว่าหน้าที่หรือเปล่า” เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ซ้ำผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่น ชี้ช่องให้เกิดทัวร์ไปลงครูสาวเพราะมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิเรื่องเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของเด็ก ขณะที่บางส่วนก็มองว่าครูทำตามกฎของโรงเรียน โดยพบคอมเมนต์ในเชิงปกป้อง ทั้งปกป้องเด็กที่โดนตัดผมและบางส่วนก็ปกป้องครูผู้ถูกทัวร์ลง ท้ายที่สุดเหตุการณ์นี้จบลงที่ครูคนดังกล่าวลบคลิปนี้ออกไปจากติ๊กต็อก</p>
<p>จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า แม้ปรากฏการณ์ทัวร์ลง 177 เรื่องที่มีการเก็บข้อมูลนั้นอยู่ในหมวดบันเทิงมากที่สุด แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะแนวความคิดที่ทัวร์ใช้โต้ตอบ จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องทัศนคติทางการเมืองมากที่สุด ทำให้อาจจะกล่าวได้ว่า ที่จริงแล้วในการโต้ตอบถกเถียงกันในทัวร์ลงมาจากทัศนคติทางการเมืองที่ไม่ตรงกันเป็นส่วนใหญ่ เรื่องทัศนคติทางการเมืองจึงอาจจะเป็นชนวนถกเถียงที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทัวร์ลงมากที่สุดก็ว่าได้ </p>
<p>ไม่เพียงแค่นั้น จากข้อมูลยังเห็นได้ว่ายังมีการใช้แนวความคิดทางสังคมอื่นๆ อีกหลากหลายในการโต้ตอบในปรากฏการณ์ทัวร์ลง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความเหลื่อมล้ำ เรื่องทัศนคติทางเพศ สิทธิมนุษยชน anti-woke ทัศนคติทางเชื้อชาติ หรือแม้แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย           </p>
<p>ซึ่งอาจจะเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่าสังคมในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญกับ ‘คุณค่า’ แบบใด และต้องการจะผลักดันแนวความคิดหรือคุณค่าใหม่ๆ ทางสังคมให้กลายเป็นที่ยอมรับเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคมที่ทุกคนควรยึดถือหรือให้การเคารพ ผ่านการนำเอาแนวความคิดนั้นๆ มาใช้ในการโต้ตอบในการนำทัวร์ไปลง และทำให้สามารถมองไปได้อีกว่า ในอีกนัยหนึ่งปรากฏการณ์ทัวร์ลงจึงไม่ใช่แค่คนในโซเชียลมีเดียทะเลาะกันจากความเห็นไม่ตรงกัน แต่มันคือปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบหนึ่งที่กำลังจะขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนทัศนคติและการให้คุณค่าในประเด็นใดประเด็นหนึ่งให้เกิดขึ้นและได้รับการยอมรับในสังคมปัจจุบัน </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทัวร์ลงเพื่อถกเถียง หรือลงเพื่อล้อเลียนเสียดสี?</span></h2>
<p>ลักษณะคอมเมนต์ 4 ประเภทของทัวร์ที่มาลงที่พบจากปรากฏการณ์ทัวร์ลง</p>
<p>*1 เหตุการณ์อาจมีลักษณะคอมเมนต์มากกว่า 1 แบบ </p>
<ul>
<li>การล้อเลียน/เสียดสี  115 เรื่อง 29.49%</li>
<li>ด่าทอด้วยคำหยาบคาย/ตำหนิติเตียน  97 เรื่อง 24.87%</li>
<li>เข้ามาสนับสนุน/ปกป้อง  92 เรื่อง 23.59%</li>
<li>โต้เถียงด้วยเหตุผล/ยกเหตุผลเพื่อมาลบล้างหลักการ 43 เรื่อง 11.03%</li>
</ul>
<p>จากปรากฏการณ์ทัวร์ลงทั้ง 177 เรื่อง เมื่อนำมาแยกลักษณะคอมเมนต์ของทัวร์ จะพบว่าลักษณะที่พบมากที่สุดคือ การล้อเลียน/เสียดสี จำนวน 115 เรื่อง คิดเป็น 29.49% รองลงมาคือด่าทอด้วยคำหยาบคาย/ตำหนิติเตียน 97 เรื่อง คิดเป็น 24.87% ตามด้วยการเข้ามาสนับสนุน/ปกป้อง 92 เรื่อง คิดเป็น 23.59% และที่พบน้อยที่สุดคือคอมเมนต์ในเชิงโต้เถียงด้วยเหตุผล/ยกเหตุผลเพื่อมาลบล้างหลักการ 43 เรื่อง คิดเป็น 11.03% </p>
<p>ลักษณะคอมเมนต์ของทัวร์ที่เป็นการล้อเลียน/เสียดสี จำนวน 115 เรื่อง นั้นพบมากที่สุดในหมวดการเมือง 33 เรื่อง รองลงมาคือหมวดบันเทิง 32 เรื่อง ตามมาด้วยหมวดสังคม จำนวน 23 เรื่อง และพบน้อยที่สุดในหมวดวิทยาศาสตร์/การแพทย์ เพียง 1 เรื่องเท่านั้น เช่น กรณีของชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องการจัดระเบียบสายสื่อสาร โดยระบุว่ารัฐบาลทำงานมาตลอด แค่ประชาสัมพันธ์ไม่เก่งเท่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร การตัดโควทคำพูดที่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อของชัยวุฒิมาพาดหัวข่าวด้วยประโยคนี้ทำให้ทัวร์ลงที่โพสต์ของสื่อมวลชนจำนวนมาก ซึ่งทัวร์มาลงเพราะเรื่องทัศนคติทางการเมืองของนายชัยวุฒิ ทำให้มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ในเชิงเสียดสี/ล้อเลียน อาทิ “ถึงจะไม่มีใครเห็นท่านชัยวุฒิทำงาน ก็ไม่เป็นไรนะครับท่าน เพราะผมก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” “ไม่เข้าใจ ทำไมนักการเมืองชอบแซะ ทำดีสู้ไม่ได้ ทำงานสู้ไม่ได้ หาเรื่องแซะเลย” อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวไม่มีทัวร์ไปลงในพื้นที่ส่วนของนายชัยวุฒิแต่อย่างใด มีเพียงการคอมเมนต์บนพื้นที่ชี้ช่องที่สื่อนำมาลงเท่านั้น และจบล
6032  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - แต้มบุญสูงมาก! "พิศวงตานกฮูก" 1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภออุ้มผางตามหาจนเจอ เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 22:28:02
แต้มบุญสูงมาก! "พิศวงตานกฮูก" 1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภออุ้มผางตามหาจนเจอ
         


แต้มบุญสูงมาก! &quot;พิศวงตานกฮูก&quot; 1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภออุ้มผางตามหาจนเจอ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;ปีนี้นักท่องเที่ยวมีเฮ "พิศวงตานกฮูก" หรือ "พิศวงไทยทอง" พืชจิ๋วสุดน่ารัก ออกมาให้ยลโฉมเพียบ ที่ดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก
         

https://www.sanook.com/news/8989226/
         
6033  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - อัยการฟ้อง 'ธีภัทร-ปฐวีกานต์' ข้อหาปาวัตถุคล้ายระเบิด #ม็อบ31ตุลา64 ก่อนศาลไม่ เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 21:11:31
อัยการฟ้อง 'ธีภัทร-ปฐวีกานต์' ข้อหาปาวัตถุคล้ายระเบิด #ม็อบ31ตุลา64 ก่อนศาลไม่ให้ประกัน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 18:36</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: แฟ้มภาพ ม็อบแยกดินแดง เมื่อ 19 ก.ย. 2564 (ถ่ายโดย แมวส้ม ประชาไท)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<ul>
<li>อัยการยื่นฟ้อง "ธีรภัทร-ปฐวีกานต์" กล่าวหาปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่รถสายตรวจ ในม็อบทะลุแก๊ส 31 ต.ค. 64 ก่อนศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เหตุคดีมีโทษสูง เกรงผู้ต้องหาหลบหนี หากปล่อยตัวชั่วคราว ส่งผลให้มีผู้ถูกคุมขังระหว่างสอบสวน เพิ่มเป็น 13 คน</li>
<li>ด้านศูนย์ทนายฯ ระบุผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน เคยถูกควบคุมตัวโดยตำรวจมีการกันไม่ให้ทนายความ และผู้ไว้วางใจ อยู่ด้วยระหว่างการสอบสวน แม้เป็นสิทธิตามกฎหมาย </li>
</ul>
</div>
<p>22 ส.ค. 2566 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (22 ส.ค.) สืบเนื่องจากเมื่อ 18 ส.ค. 2566 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ธีรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี และปฐวีกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ในข้อหา ร่วมกันกระทําให้เกิดระเบิด และร่วมกันพยายามทําร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน จากการปาวัตถุที่ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนคล้ายระเบิดใส่รถสายตรวจ ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม #ทะลุแก๊ส คืนวันที่ 31 ต.ค. 2564 บริเวณแยกดินแดง </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ถูกจับกุมและสอบปากคำโดยไม่มีผู้ไว้วางใจและทนายความ</span></h2>
<p>สำหรับคดีนี้ ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า ธีรภัทร และปฐวีกานต์ ถูกจับกุมและสอบสวนโดยไม่มีทนายความ ธีรภัทร ถูกจับกุมที่บริเวณหน้าโรงแรม "Oh Bangkok Hostel" ซอยสามเสน 4 ในช่วงเวลา 16.50 น. ของวันที่ 23 พ.ย. 2564 ขณะที่ปฐวีกานต์เดินทางไปยัง สน.มักกะสัน ในช่วงราว 13.00 น. ตามที่ตำรวจโทร.นัดหมาย แต่ภายหลัง สน.มักกะสัน ได้ส่งตัวเขามาที่ สน.ดินแดง โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากเขาฝ่าฝืนไม่ไปตามหมายเรียกของ สน.ดินแดง</p>
<p>ในกรณีของปฐวีกานต์ หลังถูกจับกุมมา สน.ดินแดง เขายังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถไปทำการตรวจค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้น แต่พ่อเป็นผู้อนุญาตให้เข้าค้น ก่อนตำรวจนำตัวกลับมาที่ สน.ดินแดง ควบคุมตัวเข้าห้องสืบสวน เช่นเดียวกับธีรภัทร </p>
<p>ในขั้นตอนการทำบันทึกจับกุมและสอบปากคำในชั้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบได้กันทนายความและแม่ที่เพิ่งทราบข่าวการจับกุมและตามไปที่ สน.ดินแดง ในช่วงค่ำ ไม่ให้อยู่ร่วมในกระบวนการ แม้ว่าสิทธิในการมีทนายและผู้ไว้วางใจจะเป็นสิทธิตามกฎหมายก็ตาม กระทั่งราว 23.00 น. ธีรภัทร และปฐวีกานต์ จึงถูกนำตัวออกจากห้องสืบสวน </p>
<p>ก่อนพนักงานสอบสวนเริ่มแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำในช่วงราวเที่ยงคืน ซึ่งธีรภัทร และปฐวีกานต์ ได้ยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะธีรภัทร ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับทนายความว่า ตัวเขาไม่ได้เข้าร่วมในการชุมนุมวันที่ 31 ต.ค. 2564 ตามที่ตำรวจกล่าวหา โดยระหว่างถูกจับกุมเขาเล่าให้ทนายความฟังว่าถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบข่มขู่โดยการเอาปืนจ่อหัว</p>
<p>ภายหลังทั้งคู่ถูกตำรวจนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างสอบสวน โดยถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนครบ 7 ผัด หรือ 84 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2564 ถึง 15 ก.พ. 2565 ก่อนได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากอัยการยังไม่ได่ยื่นฟ้องคดีต่อศาล</p>
<p><strong>อัยการสั่งฟ้อง 2 ข้อหา ข้อหาร่วมกันกระทําให้เกิดระเบิด-ร่วมกันพยายามทําร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน</strong></p>
<p>วิชชากร สุขานุศาสน์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 บรรยายฟ้องว่า  เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จําเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทําความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ </p>
<p>จําเลยทั้งสองร่วมกันกระทําให้เกิดระเบิดโดยขว้างสิ่งของที่ทําให้เกิดแรงสั่นสะเทือนคล้ายวัตถุระเบิดใส่รถยนต์วิทยุสายตรวจ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Camry  ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้เสียหายที่ 1 ขณะที่ ร.ต.อ.เอกณัฐ ปาสุวรรณ ผู้เสียหายที่ 2 ขับรถยนต์วิทยุสายตรวจออกตรวจป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานครถึงบริเวณดินแดง และทำร้ายร่างกาย ร.ต.อ.เอกณัฐ ขณะขับรถย้อนกลับเส้นทางเดิม โดยจําเลยทั้งสองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตาม และกระทําให้เกิดระเบิดจํานวนหลายครั้งจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น </p>
<p>จําเลยทั้งสองลงมือกระทําความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทําไม่บรรลุผล เนื่องจาก ร.ต.อ.เอกณัฐ ขับรถออกจากบริเวณที่เกิดเหตุได้ทัน จึงไม่ได้รับอันตรายแก่กาย และแรงระเบิดถูกประตูหลังด้านซ้ายของรถยนต์คันดังกล่าว ได้รับความเสียหาย มีรอยบุบ ยุบและรอยถลอกของสีเป็นรูปวงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เซนติเมตร  </p>
<p>การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 221 ฐานทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 296 ฐานพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน</p>
<p>ท้ายคำฟ้อง อัยการไม่ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสองระหว่างพิจารณา โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล</p>
<p>ภายหลังศาลรับฟ้องและอ่านฟ้องให้ฟัง ธีรภัทร และปฐวีกานต์ ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา ต่อมา ในเวลา 16.40 น. พริษฐ์ ปิยะนราธร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีคำสั่งว่า </p>
<p>"พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อกล่าวหาเป็นคดีร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวแล้ว เชื่อว่าจำเลย 1-2 จะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว"</p>
<p>จากผลของคำสั่งดังกล่าวทำให้ธีรภัทร และปฐวีกานต์ ถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในทันที และทำให้ยอดผู้ต้องขังคดีแสดงออกทางการเมืองที่ไม่ได้รับสิทธิประกันในระหว่างต่อสู้คดีเพิ่มขึ้นเป็น 13 ราย</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>19 ผู้ต้องขังคดีการเมือง เดือนกรกฎา66</li>
</ul>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105572
 
6034  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "ก้าวไกล" ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบฝ่ายบริหาร-ผลักดันกฎหมายก้าวหน้า เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 19:52:42
"ก้าวไกล" ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบฝ่ายบริหาร-ผลักดันกฎหมายก้าวหน้า
         


&quot;ก้าวไกล&quot; ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบฝ่ายบริหาร-ผลักดันกฎหมายก้าวหน้า" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;"ก้าวไกล" ประกาศพร้อมเป็น "ฝ่ายค้านเชิงรุก" ตรวจสอบฝ่ายบริหาร-ผลักดันกฎหมาย ทั้งในและนอกสภา
         

https://www.sanook.com/news/8989074/
         
6035  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ก้าวไกล' แถลงพร้อมเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทำงานร่วมกับ ปชช.ทั้งในและนอกสภา เปล เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 19:40:59
'ก้าวไกล' แถลงพร้อมเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทำงานร่วมกับ ปชช.ทั้งในและนอกสภา เปลี่ยนแปลงประเทศ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 19:03</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: บรรยากาศการแถลงข่าวของพรรคก้าวไกล หลังที่ประชุมรัฐสภามีมติให้ เศรษฐา เป็นว่าที่นายกฯ (ที่มา: ทีมสื่อพรรคก้าวไกล)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ก้าวไกล' เดินหน้าเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทำงานสร้างสรรค์ อยู่บนหลักการและเหตุผล ทำงานร่วมกับประชาชนทั้งในและนอกสภา เปลี่ยนแปลงสังคมไทย </p>
<p> </p>
<p>22 ส.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานวันนี้ (22 ส.ค.) ส.ส.พรรคก้าวไกล นำโดย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค แถลงภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติโหวตเลือก เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากวันนี้ มิได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง</p>
<p>พรรคก้าวไกล ย้ำว่า การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้มิใช่การสลายขั้วลดความขัดแย้ง โดยเอาวาระของประเทศและประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่เป็นการสยบยอมและต่อลมหายใจให้แก่ระบบการเมืองที่สถาปนาขึ้นโดยการรัฐประหาร เป็นการทำลายความหวัง ความศรัทธา และอำนาจของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย</p>
<p>แน่นอนว่าต่อจากนี้ไป พรรคก้าวไกลจะต้องทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยเราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทุกเสียงที่ประชาชนได้มอบให้พรรคก้าวไกล จะต้องมีความหมาย ผู้แทนราษฎรทุกคนของพรรคก้าวไกล จะทำงานอย่างสุดความสามารถ ทั้งในด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ทั้งในด้านการผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า ทั้งในด้านการผลักดันวาระของประชาชนผ่านกลไกต่างๆ ของสภา รวมทั้งการทำงานร่วมกับประชาชนนอกสภา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย</p>
<p>เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้ในวันนี้ผู้มีอำนาจจะพยายามทำให้อำนาจของประชาชนไม่มีความหมาย แต่พรรคก้าวไกลจะยังยืนอยู่อย่างมั่นคงกับประชาชน ด้วยความเชื่อมั่นว่าพลังของพี่น้องประชาชนจะสามารถสร้างอนาคตแบบใหม่ให้แก่สังคมไทยได้ในที่สุด สักวันหนึ่งเราจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง สักวันหนึ่งเราจะมีระบบเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า เท่าทันโลก และเป็นธรรม สักวันหนึ่งเราจะมีสังคมที่เคารพความแตกต่างหลากหลาย เคารพสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ยึดถือความมั่นคงของประชาชนเป็นความมั่นคงของชาติ ด้วยความเคารพในประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ</p>
<p>หลังแถลงจบ สื่อมวลชนสอบถามถึงบทบาทการตรวจสอบรัฐบาลในฐานะฝ่ายค้าน ชัยธวัช กล่าวว่า การทำงานในฐานะฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล จะทำอย่างสร้างสรรค์ ยึดหลักการและเหตุผลเป็นตัวตั้ง ตนคิดว่าสิ่งที่จะล้มรัฐบาลชุดนี้ได้ คือศรัทธาของประชาชน นอกจากนี้ แม้เราเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะบริหารประเทศให้ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า นี่คือเป้าหมายของเรา</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105573
 
6036  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ชลน่าน' แจง 3 ข้อครหา 'เศรษฐา' เชื่อหนุน พท.เป็นนายกฯ เริ่มต้นเปลี่ยนความเห เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 18:08:50
'ชลน่าน' แจง 3 ข้อครหา 'เศรษฐา' เชื่อหนุน พท.เป็นนายกฯ เริ่มต้นเปลี่ยนความเห็นต่างมาทำงานร่วมกัน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 16:38</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: TPTV </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ชลน่าน' แจง 3 ข้อครหา 'เศรษฐา' ปมซื้อที่ดินของบริษัทแสนสิริ การสลายขั้วความขัดแย้งทางการเมือง และการแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อการหนุน 'เศรษฐา' เป็นนายกฯ เปลี่ยนความเห็นต่าง เป็นความเห็นร่วม และทำงานร่วมกัน</p>
<p> </p>
<p>22 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (22 ส.ค.) ที่ประชุมรัฐสภา ก่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตอันดับหนึ่งของพรรคเพื่อไทย มีการเปิดให้สมาชิกทั้งสองสภาได้อภิปรายต่อตัวเศรษฐาว่าสมควรจะได้รับการเลือกให้เป็นนายกฯ หรือไม่ หลังการอภิปรายมาหลายชั่วโมง ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เขต จังหวัดน่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นชี้แจงตอบข้อสงสัยปิดท้ายการอภิปรายก่อนเปิดลงมติเลือกนายกฯ </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/a43cJ9V4TOw" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ชลน่านกล่าวตอบ 3 ประเด็น </span></h2>
<p>ชลน่าน ตอบในประเด็นแรกเรื่องคุณสมบัติของเศรษฐา ที่มีประเด็นเรื่อความซื่อสัตย์และจริยธรรมตอนที่เศรษฐา ยังเป็นซีอีโอในบริษัทแสนสิริ ว่า พรรคเพื่อไทยได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติและให้ความสำคัญในการตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแล้วอย่างถี่ถ้วนและไม่ได้ละเลย เพราะเป็นเรื่องความรับผิดชอบ การตรวจสอบเรื่องการเลี่ยงภาษี เรื่องการตั้งตัวแทนมารองรับนั้น ทางพรรคได้ตรวจสอบข้อกฎหมายทุกอย่างแล้วรวมถึงเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์แล้วไม่มีเรื่องใดที่ผิดกฎหมาย ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย มีแต่ข้อกล่าวหาที่โน้มเอียงและเอาหลักฐานมาเชื่อมโยงกันแต่พิสูจน์ไมได้ ดังนั้น เศรษฐายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังคงมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์</p>
<p>ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นต่อมา เรื่องไม่สามารถเห็นชอบให้เศรษฐามา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติต้องห้าม แต่เป็นเรื่องพฤติการณ์ในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทย เคารพเสียงของประชาชนทุกเสียง ประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แม้ว่าจะมีการแบ่งฝ่ายว่าเป็นเสรีนิยม หรืออนุรักษ์นิยมก็ตาม </p>
<p>พรรคเพื่อไทย ยึดมั่นและยึดถือในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบรัฐสภาและ ส.ส.ในสภาก็ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน คนเหล่านี้ให้สิทธิแก่ตัวแทนเข้ามาในระบบตัวแทน พวกเขาเป็นประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นเผด็จการ แม้ว่าจะเคยผ่านการแบ่งแยกทางความคิด แต่ความคิดของประชาชนในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กลุ่มที่เป็นเสรีประชาธิปไตยก็มีแนวคิดและวิธีคิดแตกต่างกับอนุรักษ์นิยม และต่อสู้กันทางการเมืองมาตลอด พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์มาอย่างเจ็บปวด แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดคือประชาชนไทย</p>
<p>พรรคเพื่อไทย มีอุดมการณ์ได้เห็นความย่อยยับความสูญเสียจากความคิดที่ต่างกันบนพื้นฐานความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน คนที่ต้องการรักษาเอกราชต้องการปกป้องสถาบันหลัก ทำให้เกิดการต่อสู้ทำลายล้าง แล้วจะปล่อยให้เกิดซ้ำได้อย่างไร </p>
<p>เรายินดีส่งเสริมอำนาจประชาชน เรายินดีที่เห็นพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราเป็นพรรคอันดับ 2</p>
<p>"ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมบอกกับท่านประธานเลยก็ได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีทางจับมือกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล เรารอ เราเป็นพรรคอันดับ 2 เราสามารถแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้ากลไกการเมืองและรัฐธรรมนูญมันเป็นปกติ แต่ด้วยสภาพบังคับรัฐธรรมนูญแบบนี้เราไม่ร่วมมือกันไม่ได้ แต่เราก็คิดผิดครับ เราคิดผิดว่ายิ่งจับมือกันเรายิ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้</p>
<p>"ไทยรักไทย พลังประชาชน เราหัวชนฝาเราเจ็บ เราเกิดก่อนเรามีประสบการณ์ แล้วเราจะเอาหัวชนฝาแล้วประเทศชาติ พี่น้องประชาชนเสียหายไปเราไม่ทำนะครับ สิ่งที่ดีที่สุดเราหันหน้ามา ฐานอำนาจดุลอำนาจที่มีอยู่ในประเทศนี้ ดีที่สุดคือจับมาดุลอำนาจมาประนีประนอมอำนาจแล้วให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองสูงสุด ผมว่านั่นน่าจะเป็นแนวคิดที่ดีที่สุดในโอกาสนี้" ชลน่าน กล่าว</p>
<p>ชลน่าน กล่าวต่อว่า เราต้องปกป้องสถาบันหลักของชาติคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทุกคนพูดเหมือนกันแต่วิธีการไม่เหมือนกัน ในชาตินี้มันทำให้เกิดความขัดแย้งแล้วเพื่อไทย อาสามาจัดการความขัดแย้งนี้และตอนนี้ที่ได้มาแล้ว 11 พรรค แต่หลังจากนี้ก็จะมีพรรคอื่นๆ ตามมาเพิ่ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งรัฐบาลที่มาจากประชาชน และเชื่อว่าแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้วิกฤตของประเทศ จะสลายความขัดแย้งต้องใช้กลไกนี้</p>
<p>ส่วนประเด็นสุดท้ายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งแต่ที่วิจารณ์มาก็จะถูกนำไปเขียนเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ข้อกังวลนั้นเราได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทุกเรื่อง วิกฤตเรื่องรัฐธรรมนูญที่ทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ แม้เขาจะเข้าใจว่าการเขียนรัฐธรรมนูญมาแบบฉบับ 60 นี้จะเขียนมาเพื่อปกป้องคุ้มครองนิสิ่งที่คนเขียนเห็นว่าสำคัญ แต่ถึงช่วงเวลาหนึ่งแล้วการคุ้มครองดังกล่าวก็ต้องสลายออกไปเพราะเป็นการดุลอำนาจที่ดี การแก้รัฐธรรมนูญจึงเป็นเรื่องสำคัญแต่เราสัญญาว่าจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง </p>
<p>เราแก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการทำแบบนี้ต้องทำประชามติ จึงประกาศว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะทำสองเรื่องคู่กันไปคือเรื่องเศรษฐกิจเรื่องปากท้อง เรื่องที่ต้องทำคู่กันไปต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสองปีก็ทำประชามติเพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ จะทำโดยใครก็เป็นคำถามในประชามติ ถ้าได้มติจากพี่น้องประชาชนก็เขียนเข้าไปในรัฐธรรมนูญถึงสิ่งที่เราต้องการแก้ และไปจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ความตั้งใจคือตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา ก็ต้องไปเขียนรายละเอียดเพื่อให้มีดุลยภาพที่ดีและทำให้ทำงานร่วมกันได้</p>
<p>"บนพื้นฐานที่เราจะเป็นรัฐบาลแห่งความปรองดองเป็นรัฐบาลแห่งความสมัครสมานสามัคคี เห็นคนในชาติทุกคนมีค่า มีคุณค่าเท่ากัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เราทุกคนหันหน้าเข้าหากัน มาเริ่มต้นตรงนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว มีจิตปรารถนาดีต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ไม่แตกต่างหรือไม่เป็นประเด็นอะไรที่จะเห็นแตกต่างกัน</p>
<p>"ความเห็นต่างเป็นสีสันในระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะในระบบเสียงข้างมาก ภายใต้องค์พระมหากษัตริย์ที่เป็นประมุข ต้องมีความเห็นต่าง แต่เราจะแปลงความเห็นต่างเป็นความเห็นร่วมอย่างไร นั่นคือขึ้นกับพวกเรา 750 คนที่อยู่ตรงนี้" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว</p>
<p>ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าให้ความไว้วางใจแก่เศรษฐา ด้วยมติของรัฐสภาก็จะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำให้ความเห็นต่างเป็นความเห็นร่วม และทำงานร่วมกัน และหวังจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มันไม่เกิดขึ้นโดยเฉพาะสภาวะสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลาย เราต้องรับความแตกต่างหลากหลายเหล่านี้และนำสิ่งที่เป็นอยู่มาทำหน้าที่ในการบริหารจัดการให้เป็นโอกาสและความหวังที่ดีแก่ประชาชนมากที่สุด</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105570
 
6037  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - ด่วน! สส.ก้าวไกล วูบหมดสติ ต้องปั๊มหัวใจช่วยก่อนส่ง รพ. โหวตนายกต้องเบรกกลางคัน เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 17:49:56
ด่วน! สส.ก้าวไกล วูบหมดสติ ต้องปั๊มหัวใจช่วยก่อนส่ง รพ. โหวตนายกต้องเบรกกลางคัน
         


ด่วน! สส.ก้าวไกล วูบหมดสติ ต้องปั๊มหัวใจช่วยก่อนส่ง รพ. โหวตนายกต้องเบรกกลางคัน" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8988954/
         
6038  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ใครบ้างบอกลา “เพื่อไทย” หลังชัดประกาศ “มีลุงมีเรา” เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 17:22:25
ใครบ้างบอกลา “เพื่อไทย” หลังชัดประกาศ “มีลุงมีเรา”
         


ใครบ้างบอกลา “เพื่อไทย” หลังชัดประกาศ “มีลุงมีเรา”" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;Sanook รวบรวมสมาชิกทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าที่ขอ “ไม่ไปต่อและพอแค่นี้” กับพรรคเพื่อไทย จะมีใครบ้าง ไปดูกันเลย

         

https://www.sanook.com/news/8988882/
         
6039  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ทางการอิหร่านจับผู้หญิงที่ขัดขืนไม่สวมฮิญาบให้ไป 'บำบัดจิต' เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 16:37:59
ทางการอิหร่านจับผู้หญิงที่ขัดขืนไม่สวมฮิญาบให้ไป 'บำบัดจิต'
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 15:56</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>อิหร่านบังคับให้ผู้หญิงที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสวมฮิญาบต้องเข้ารับการบำบัดทางจิต ซึ่งทางองค์กรด้านสาธารณสุขเตือนว่าระบบตุลาการของอิหร่านกำลังฉวยใช้การแพทย์ด้านจิตเวชวิทยาในทางที่ผิด และไม่เป็นไปตามหลักจิตเวช ในขณะที่มีคนอื่นบอกว่าเรื่องนี้สะท้อนถึงการที่รัฐบาลไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายฮิญาบได้ และกำลังสูญเสียความชอบธรรม</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="อ" /><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52548551949_53053906d3_o.jpg" style="width: 600px; height: 375px;" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">แฟ้มภาพตำรวจศาสนาในเตหะราน ภาพจาก Fars News ถ่ายเมื่อ 22 เม.ย.2549</span></p>
<p>เคยมีเหตุการณ์ที่นักแสดงหญิงชาวอิหร่าน อัฟซาเนห์ บาเยกัน แสดงการประท้วงกฎหมายบังคับสวมฮิญาบของอิหร่าน ด้วยการโพสต์ภาพของตัวเองที่ไม่สวมฮิญาบลงในอินสตาแกรม และเมื่อไม่นานนี้เธอก็ได้เข้าร่วมพิธีกรรมในที่สาธารณะด้วยการไม่สวมฮิญาบด้วย</p>
<p>การประท้วงเช่นนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับทางการอิหร่านผู้ที่พยายามหาวิธีใหม่ๆ ในการบังคับให้ผู้หญิงสวมฮิญาบ พวกเขาตัดสินให้บาเยกันต้องโทษจำคุก 2 ปีโดยรอลงอาญา และสั่งให้ต้องไปที่ "ศูนย์จิตวิทยา" สัปดาห์ละครั้งเพื่อ "รักษาโรคต่อต้านครอบครัวของเธอ" (ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีอยู่จริงในทางจิตวิทยาหรือทางจิตเวชวิทยา)</p>
<p>ผู้หญิงจำนวนมากในอิหร่านเลือกที่จะเปิดเผยให้เห็นผมของตัวเองแทนการใส่ผ้าคลุม หลังจากเกิดกรณีการเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี เมื่อเดือน ก.ย. 2565 อามินีเสียชีวิตในที่คุมขังหลังจากที่เธอถูกตำรวจศีลธรรมจับตัวไปด้วยข้อหาสวมผ้าคลุมศีรษะในแบบที่ "ไม่เหมาะสม" หลังจากนั้นเหล่าดารา, นักกีฬา และนักแสดงในอิหร่านก็มากันทำตามการประท้วงด้วยการไม่สวมฮิญาบคลุมผม</p>
<p>อซาเดห์ คีอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านอิหร่านและศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยกรุงปารีส กล่าวว่าการลงโทษบาเยกันในเรื่องที่เธอขัดขืนกฎรัฐบาลนับเป็นการทำเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู บาเยกันเป็นหนึ่งในดาราคนแรกๆ ของอิหร่านหลังจากยุคปฏิวัติอิสลาม 2522 และนับเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพในวงการทีวีของอิหร่าน</p>
<p>แต่การลงโทษกับบาเยกันก็ไม่ใช่กรณีเดียวที่เกิดขึ้นในอิหร่าน ศาลอิหร่านยังได้ทำการ "วินิจฉัยโรค" นักแสดงหญิงที่ชื่อ อซาเดห์ ซามาดี ว่าเป็น "โรคบุคลิกภาพต่อต้านสังคม" หลังจากที่เธอสวมหมวกแทนที่จะสวมฮิญาบไปในงานศพ ซามาดียังถูกสั่งให้ต้องไปรับการบำบัดรายสัปดาห์ที่ "ศูนย์จิตวิทยา" ด้วย</p>
<p>ในความเป็นจริงแล้ว การวินัจฉัยโรคทางจิตจะต้องกระทำโดยนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ไม่ใช่ศาล อีกทั้งยังมีกระบวนการพิจารณาแบบแผนพฤติกรรม บุคลิกภาพ และปัจจัยด้านอื่นๆ ของบุคคลนั้นๆ อย่างครอบคลุม ไม่ใช่แค่พิจารณาจากพฤติกรรมเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ "บุคลิกภาพต่อต้านสังคม" ในนิยามของจิตวิทยา ไม่ได้หมายถึงการต่อต้านกฎแต่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาพฤติกรรมอื่นๆ เช่น การไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น ก้าวร้าวรุนแรงโดยเฉพาะต่อบุคคลหรือต่อสัตว์ ไม่สนใจสวัสดิภาพของตัวเองหรือคนอื่น ไร้ความรู้สึกผิดเมื่อทำให้คนอื่นเดือดร้อน และปัจจัยอื่นๆ ด้วย</p>
<p>แต่ทว่าศาลอิหร่านก็อ้างใช้โรคจิตเวชมาสั่งลงโทษผู้หญิงที่ฝ่าฝืนกฎฮิญาบ เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. เป็นต้นมา ศาลกรุงเตหะรานได้ตัดสินลงโทษผู้หญิงคนหนึ่งให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือน และให้ต้องเข้ารับการบำบัดทางจิตเป็นเวลา 6 เดือน อ้างว่าเพื่อรักษา "โรคติดต่อทางจิตที่นำไปสู่การสำส่อนทางเพศ" เพียงเพราะเธอไม่ได้สวมฮิญาบ (ซึ่งเป็นข้ออ้างแบบวิทยาศาสตร์เทียมเช่นกัน เพราะโรคจิตเวช ไม่ใช่โรคที่ติดต่อได้)</p>
<p>กรณีการอ้างใช้หลักจิตเวชแบบผิดๆ เพื่อนำมาลงโทษผู้หญิง ซึ่งเป็นกรณีที่กำลังเกิดมากขึ้นในอิหร่าน ทำให้ภาคส่วนจิตเวชของอิหร่านตื่นตัวในเรื่องนี้ มีการส่งจดหมายเปิดผนึกไปถึง โกลัม-ฮอสเซน โมห์เซนี-เอเจอี หัวหน้าผู้พิพากษาของอิหร่าน เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยผู้ส่งคือประธานขององค์กรด้านสุขภาพจิต 4 แห่ง ในจดหมายกล่าวหาว่าทางการอิหร่านได้ "ฉวยใช้จิตเวชวิทยา" เพื่อจุดประสงค์อื่น</p>
<p>กลุ่มองค์กรจิตเวชระบุในจดหมายว่า "การวินิจฉัยความผิดปกติทางสุขภาพจิตเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของนักจิตเวชวิทยา ไม่ใช่ผู้พิพากษา"</p>
<p>การกระทำของรัฐบาลอิหร่านเป็นเรื่องชวนให้กังวลอย่างจริงจังมากขึ้น เพราะแม้แต่เด็กรัฐบาลอิหร่านก็ไม่ละเว้น ในช่วงที่กำลังมีการประท้วงรัฐบาลอย่างหนักในเรื่องของการเสียชีวิตของอามินี รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ยูสเซฟ นูรี แถลงยอมรับว่ามีการจับกุมคุมขังนักเรียนตามท้องถนนหรือในโรงเรียน และมีการส่งตัวนักเรียนเหล่านี้ไปที่ศูนย์จิตเวชเพื่อ "ปรับทัศนคติ" และป้องกันไม่ให้มีพฤติกรรมแบบ "ต่อต้านสังคม"</p>
<p> </p>
<h3><span style="color:#2980b9;">เรื่องนี้สะท้อนว่า รัฐบาลอิหร่านกำลังสูญเสียการควบคุม และสูญเสียความชอบธรรม?</span></h3>
<p>คีอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านอิหร่านบอกว่า การอ้างใช้การรักษาทางจิตเวชมาแบบผิดๆ เช่นนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นในหลายๆ เรื่อง อย่างแรกสุดเลยคือ สะท้อนว่าทางการอิหร่านไม่สามารถควบคุมกฎระเบียบของตนเองได้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลอิหร่านจะเพิ่มแรงกดดันต่อผู้ประท้วงต่อต้านฮิญาบมากขึ้น แต่ผู้หญิงก็เริ่มไม่ยอมสวมฮิญาบมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา</p>
<p>ทางการอิหร่านทำการสั่งปรับอย่างหนัก และส่งข้อความเตือนว่าถ้าหากพบเห็นผู้หญิงที่ขับรถโดยไม่ได้สวมฮิญาบก็จะมีการยึดรถ นอกจากนี้ยังมีการกดดันนายจ้างรวมถึงในภาคเอกชนด้วยให้ไล่ออกผู้หญิงที่ไม่สวมฮิญาบ รวมถึงมีกรณีที่สถานพยาบาลปฏิเสธไม่ยอมให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้หญิงที่ไม่สวมฮิญาบ ส่วนร้านค้าที่ให้บริการแก่ผู้หญิงที่ไม่ยอมสวมฮิญาบก็ถูกสั่งปิด</p>
<p>ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางการอิหร่านได้สั่งปิดสำนักงานบริษัทอีคอมเมิร์ซใหญ่ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแอมะซอนของอิหร่าน ที่ชื่อ ดิจิกาลา เป็นการชั่วคราว หลังจากที่มีรูปภาพโพสต์ออกไปในโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าพนักงานในสำนักงานของบริษัทใหญ่แห่งนี้ไม่ได้สวมฮิญาบ</p>
<p>ไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ก็มีกรณีที่ศาลกรุงเตหะรานสั่งลงโทษผู้หญิงรายหนึ่งให้ทำงานล้างศพที่ห้องดับจิตเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากที่ถูกจับได้ว่าเธอไม่สวมฮิญาบ</p>
<p>คีอันบอกว่า ทางการอิหร่านพยายามทำทุกวิถีทางในการที่จะยับยั้งไม่ให้ผู้หญิงขัดขืนต่อกฎสวมฮิญาบแล้วมันก็ไม่ได้ผล อำนาจการบังคับในเรื่องนี้ของทางการอิหร่านเริ่มอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ บีบให้พวกเขาต้องหันมาใช้มาตรการแบบที่อ้างใช้การบำบัดรักษาทางจิต</p>
<p>ฟาร์ฮัด โกสรอกคาวาร์ ผู้อำนวยการโครงการวิจัยที่วิทยาลัยสังคมศึกษาระดับสูงในกรุงปารีสบอกว่าเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกกันระหว่างทางการอิหร่านกับสังคมอิหร่านโดยเฉพาะกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ พวกกลุ่มชนชั้นสูงที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุ 80-90 ปี พวกเขามองว่าอำนาจมาพร้อมกับการคิดแทนไว้ล่วงหน้าและแนวคิดแบบเบ็ดเสร็จ พวกเขาพยายามบังคับใช้มาตรฐานที่ไม่ได้มีความชอบธรรมใดๆ เหลืออยู่แล้วในสายตาคนรุ่นใหม่ในอิหร่าน</p>
<p>"พวกเขากำลังทำให้ตัวเองเสื่อมเสียในสายตาของสังคมชาวอิหร่านเท่านั้น และกำลังสูญเสียความชอบธรรม"  โกสรอกคาวาร์กล่าว</p>
<p>อย่างไรก็ตามคีอันวิเคราะห์ว่าการพยายามปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านฮิญาบในอิหร่านก็ดูเหมือนจะยังคงไม่ลดลดลงในช่วงเร็ววันนี้ มีหลายภาคส่วนของรัฐบาลอิหร่านที่พยายามมีส่วนในการปราบปรามการแสดงออกต่อต้านของประชาชน</p>
<p>เมื่อปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมารัฐสภาอิหร่านเพิ่งจะเสนอให้มีการลงโทษผู้หญิงอิหร่านที่ไม่สวมฮิญาบหนักขึ้นด้วย</p>
<p>คีอันบอกว่าถ้าหากกฎหมายนี้ผ่านร่าง ผู้หญิงในอิหร่านจะสูญเสียสิทธิพลเมืองของตัวเอง สูญเสียสิทธิที่จะมีงานทำ พวกเธอจะ "ถูกตัดสิทธิในทุกด้าน" แต่ทว่าที่น่ากังวลมากกว่านั้นในสายตาของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคือการที่กฎหมายใหม่ระบุโทษถึง "การส่งเสริมไม่ให้สวมฮิญาบ" ที่อาจจะตีความได้ว่าการไม่ยอมสวมฮิญาบซ้ำๆ มีสิทธิเข้าข่ายการ "เผยแพร่แนวคิดต่อต้านฮิญาบ" ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นเผชิญโทษประหารชีวิตได้</p>
<p><span style="color:#2980b9;">เรียบเรียงจาก</span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Iran forces women defying hijab laws into psychiatric treatment, </span><span style="color:#2980b9;">France24,</span><span style="color:#2980b9;"> 06-08-2023</span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Antisocial personality disorder, </span><span style="color:#2980b9;">Mayo Clinic,</span><span style="color:#2980b9;"> 24-03-2023</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105568
 
6040  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ก.ค. 66 ผู้ประกันตนขอรับประโยชน์ทดแทนว่างงาน 243,184 คน ถูกเลิกจ้าง 34,864 คน เมื่อ: 22 สิงหาคม 2566 15:02:36
ก.ค. 66 ผู้ประกันตนขอรับประโยชน์ทดแทนว่างงาน 243,184 คน ถูกเลิกจ้าง 34,864 คน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-08-22 14:51</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เดือน ก.ค. 2566 มีแรงงานในระบบประกันสังคมหรือผู้ประกันตน ม.33 จำนวน 11,751,849 คน ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรวม 243,184 คน ถูกเลิกจ้าง 34,864 คน</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53131031217_176c6df1bd_o_d.png" /></p>
<p>22 ส.ค. 2566 ข้อมูลจาก รายงานเศรษฐกิจแรงงาน ประจำเดือน ก.ค. 2566 โดยกองเศรษฐกิจการแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่าเดือน ก.ค. 2566 มีแรงงานในระบบประกันสังคมหรือผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11,751,849 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.62 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 11,341,108 คน) และเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 11,725,266 คน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.23</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53131031222_05a09f8584_o_d.png" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53131031192_3fc2f08628_o_d.png" /></p>
<p>สถานการณ์การว่างงาน (ผู้ว่างงาน หมายถึง ผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในระบบประกันสังคม) เดือน ก.ค. 2566 มีผู้ว่างงานจำนวน 243,184 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.17 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 226,914 คน) และเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 250,010 คน) ลดลงร้อยละ -2.73 โดยมีจำนวนผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ มีจำนวน 71,702 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.75 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 63,594คน)และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 81,197 คน) ร้อยละ -11.69 ทั้งนี้ อัตราการว่างงานในระบบประกันสังคมในเดือน ก.ค. 2566 อยู่ที่ร้อยละ 2.03 และอัตราการว่างงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ร้อยละ1.1</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53131626736_29703c227c_o_d.png" /></p>
<p>สถานการณ์การเลิกจ้าง เดือน ก.ค. 2566 มีผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากสาเหตุเลิกจ้างจากสำนักงานประกันสังคม มีจำนวน 34,864 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.40 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 29,447 คน) และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 35,020 คน) ร้อยละ -0.45 และอัตราการเลิกจ้างของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากสาเหตุเลิกจ้างของระบบประกันสังคมในเดือน ก.ค. 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.29 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105565
 
หน้า:  1 ... 300 301 [302] 303 304 ... 1122
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.505 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 03 กันยายน 2566 08:49:36