ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ‘รุกผืนป่า’ เพิ่ม 11.8 ล้านไร่ กรีนพีซเรียกร้อง รัฐบาลเอาจริงอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-09-11 16:38</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>“กรีนพีซ” เผยผลการวิเคราะห์<wbr></wbr>ภาพถ่ายดาวเทียมปี 2564-2566 อุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสั<wbr></wbr>ตว์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำ<wbr></wbr>โขง ‘รุกผืนป่า’ เพิ่มเป็น 11.8 ล้านไร่ แปลงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีจุดความร้อนเพิ่มเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2566 กรีนพีซเรียกร้องรัฐบาล “เศรษฐา” เอาจริงกับอุ<wbr></wbr>ตสาหกรรมเนื้อสัตว์ที่ส่งมลพิษทางอากาศข้<wbr></wbr>ามพรมแดนตลอดห่วงโซ่อุปทาน</p>
<p> </p>
<p>11 ก.ย. 2566 กรีนพีซ ประเทศไทย เปิดเผยผลการวิเคราะห์<wbr></wbr>ภาพดาวเทียมปี 2564-2566[1] ระบุอุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสั<wbr></wbr>ตว์ยังคงมีบทบาทสำคั<wbr></wbr>ญในการทำลายผืนป่าในอนุภูมิ<wbr></wbr>ภาคลุ่มน้ำโขง ในขณะที่จุดความร้อน (Hot Spot) [2] ในพื้นที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มี<wbr></wbr>สัดส่วนเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลที่ผ่<wbr></wbr>านมาล้มเหลวในการบรรลุเป้<wbr></wbr>าหมายลดจุดความร้อนภายใต้แผนปฏิ<wbr></wbr>บัติการเชียงราย (Chiangrai Plan of Action) [3] และมีส่วนสนับสนุนให้อุ<wbr></wbr>ตสาหกรรมเนื้อสัตว์ละเลยภาระรั<wbr></wbr>บผิดต่อวิกฤตมลพิษทางอากาศข้<wbr></wbr>ามพรมแดนตลอดห่วงโซ่อุปทาน</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข้อค้นพบหลักจากผลการวิเคราะห์<wbr></wbr>ภาพดาวเทียมมีดังนี้</span></h2>
<p>-ระหว่างปี 2558-2566 ผืนป่าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำ<wbr></wbr>โขงเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกข้<wbr></wbr>าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11.8 ล้านไร่ (ตอนบนของ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด 5.7 ล้านไร่ ตามมาด้วยรัฐฉาน(เมียนมา) 3.1 ล้านไร่ และภาคเหนือตอนบนของไทย 2.9 ล้านไร่)</p>
<p>-ระหว่างเดือนธันวาคม 2565 ถึงเดือนพฤษภาคม 2566 พบจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกข้<wbr></wbr>าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอนุภูมิภาคลุ่<wbr></wbr>มน้ำโขงมีสัดส่วน 41 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับจุดความร้อนในพื้<wbr></wbr>นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่<wbr></wbr>วงเวลาเดียวกันระหว่างปี 2558-2563 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ย 31 เปอร์เซ็นต์</p>
<p>-พื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใ<wbr></wbr>นอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงขยายตั<wbr></wbr>วเพิ่มขึ้น ในปี 2558 มีพื้นที่รวมกัน 13,015,940 ไร่ และในปี 2566 เพิ่มเป็น 18,095,317 ไร่</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/5550/30715872350_d2c03f2709_k_d.jpg" /></p>
<p>กรีนพีซ ประเทศไทย เห็นว่า รัฐบาลไทยที่ผ่านมาล้มเหลวอย่<wbr></wbr>างสิ้นเชิงในการดำเนินตามแผนปฏิ<wbr></wbr>บัติการเชียงราย (Chiangrai Plan of Action) ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย [4] ในการตั้งเป้าหมายลดจุดความร้<wbr></wbr>อนในปี 2566 ลงร้อยละ 30 และมีแนวโน้มสูงว่ารัฐบาลใหม่<wbr></wbr>ไม่อาจบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้<wbr></wbr>ในปี 2567 และ 2568 อันเนื่<wbr></wbr>องมาจากผลกระทบจากปรากฏการณ์<wbr></wbr>เอลนิโญแบบเข้มข้นเต็มร้อย</p>
<p>การที่ผืนป่าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำ<wbr></wbr>โขงเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกข้<wbr></wbr>าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้<wbr></wbr>นและในแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสั<wbr></wbr>ตว์มีสัดส่วนของจุดความร้อนเพิ่<wbr></wbr>มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าระบบตรวจสอบย้<wbr></wbr>อนกลับถึงแหล่งเพาะปลูกข้<wbr></wbr>าวโพดเลี้ยงสัตว์ (corn traceability)1] การศึกษาประยุกต์ใช้เทคโนโลยี<wbr></wbr>ทางด้านรีโมทเซนซิงด้วยข้อมู<wbr></wbr>ลจากภาพถ่ายดาวเทียม Terra/AQUA ระบบ MODIS ข้อมูล vegetation indices(MOD13Q1) ความละเอียดเชิงพื้นที่ 250 เมตร ดาวโหลดรายงาน “ผลวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงพื้<wbr></wbr>นที่ป่าไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และจุดความร้อนในอนุภูมิภาคลุ่<wbr></wbr>มน้ำโขง ปี 2564-2566 : ความท้าทายของระบบตรวจสอบย้<wbr></wbr>อนกลับของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ได้<a data-saferedirecturl="
https://www.google.com/url?q=https://www.greenpeace.org/thailand/publication/28381/food-gms-forest-maize-haze-2023/&source=gmail&ust=1694485476978000&usg=AOvVaw1v0mqWwfoNh1gWbsybF4MS" href="
https://www.greenpeace.org/thailand/publication/28381/food-gms-forest-maize-haze-2023/" target="_blank">ที่น