รูปธรรมและนามธรรม
(:LOVE:)ความสืบเนื่องแห่งรูปธรรมและนามธรรม ก็ฉันนั้น...................................!
อันหนึ่งเกิด - ดับ....อีกอันหนึ่งก็เกิดขึ้นแทน....สืบเนื่องกันเรื่อย ๆ ไปเพราะฉะนั้น
ผู้ที่ตายแล้วกลับไปเกิดอีก....................จะว่าเป็นผู้นั้นก็มิใช่
จะว่าเป็นอีกคนหนึ่ง ก็มิใช่พระเจ้ามิลินท์ ตรัสถามว่า............................................
ดูก่อนพระนาคเสน บุญ และ บาป อันเป็นเหตุที่ทำให้ นาม - รูป เกิดขึ้นบุญ และ บาป ในขณะนี้ มีหรือไม่....?
พระนาคเสนทูลตอบว่ามี....................กล่าวคือ
(:VA:)เมื่อตา - เห็นรูป หู - ได้ยินเสียง จมูก - ได้ดมกลิ่นกาย - แตะต้องสัมผัส และ ใจ - รู้อารมณ์
ขณะนั้น ๆ ย่อมเกิด ความรู้แจ้งแห่งจิต
วิญญาณถ้าเป็นอารมณ์ที่ดี
กุศลวิบากก็รู้สึกชอบ............เกิดความพอใจและพยายามดิ้นรน..................
เพื่อแสวงหาอารมณ์เช่นนั้น ต่อไปอีกถ้าเป็นอารมณ์ที่ไม่ดี
อกุศลวิบากก็รู้สึกไม่ถูกใจ
..............เกิดความไม่พอใจ
ก็พยามดิ้นรนที่จะหนีเมื่อต้องการที่จะดิ้นรนหนีสิ่งที่ไม่พอใจก็พยายามยึดวิธีการใด ๆ ซึ่งตนเห็นว่า จะช่วยให้หนีได้
ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการกระทำ คำพูดและ ความคิดที่ดีบ้าง ชั่วบ้าง
ขณะที่กระทำกุศลกรรมบ้าง หรือ อกุศลกรรมบ้างซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เกิด
ผลของบุญและบาปขณะนั้น.....................กุศลธรรม และ อกุศลธรรมหรือ บุญ และ บาป ทั้งหลายเกิดขึ้นทันที................!
ขอถวายพระพรเมื่อเป็นเช่นนี้......................จึงกล่าวได้ว่า บุญ และ บาป ในขณะนี้ย่อมมีได้
ถ้าใช้คำว่าเราคิดถึงใครสักคนหนึ่งเป็นคำรวมทั้ง ชื่อ ความหมาย
และรูปธรรมและนามธรรม เพราะเขามีรูปและนาม จึงมีชื่อ มีบัญญัติ
เช่น ชอบคนที่มีรูปสวย มีเสียงดี มีกลิ่นหอม มีสัมผัสดี มีจิตใจดี เป็นต้น
อารมณปัจจัยไม่ใช่เพียงชื่อ หรือเรื่องราวเท่านั้นแต่มี สี เสียง กลิ่น...............ด้วย