ทุกข์ทั้งหมดย่อมมาจากการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน หรือเป็นเรา
ซึ่งขณะนั้นก็เกิดร่วมกับโลภะ ความยินดีพอใจ ในความเห็นในการยึดถือนั้น
เพราะฉะนั้นถ้ามี ปัญญาที่จะสามารถรู้ความจริงว่าไม่ใช่เรา
เพียรละคลายการยึดถือนามธรรมและรูปธรรมว่าเป็นตัวตน
และสามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมในวันหนึ่ง
อาจารย์คะหนูสงสัย
อย่างคนในวัยทำงาน
มีความมุมานะ เพียรพยายาม ในการทำงานให้ออกมาดี ด้วยความตั้งใจและสุจริต
แต่ลึกๆแล้วเหตุแห่งการกระทำนั้น ทั้งจากปัจจุยของตัวเอง ครอบครัว....ก็
มาจากความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ต้องการนู่นนี่ แม้ว่าอาจจะไม่ได้คาดหวังไว้มาก แต่ก็มีบ้าง
มันก็ดูเป็นเรื่องดีทีมีความเพียร แต่ว่ามันก็ดูเหมือนยึดติด
แต่ถ้าไม่ยึดติด ไม่ต้องการ มันจะไม่เกิดแรงบันดาลใจในการกระทำงาน หรือเปล่า
อีกกรณีคือ
คนป่วยที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้
แน่นอนว่าคนเหล่านี้ต้องยึดเอาคำสอนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแหงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เคยได้ยินว่า
ความผูกพันก็สร้างกำลังอันน่าอัศจรรย์ให้อยู่ต่อไปได้อีกนานก็มี
หรือว่าการไม่ยึดติดกับสังขาร ไม่หวงชีวิต กับการที่ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อ....มันคนละประเด็นกัน
แล้วหนทางที่ถูกที่ควรเป็นยังไง