ธนาคารโลกชี้การลงทุนพัฒนาครูในปัจจุบันสามารถช่วยให้คนรุ่นต่อไปประสบความสำเร็จ
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-09-26 13:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่าการปรับปรุงผลลัพธ์ของการเรียนรู้เป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาของประเทศรายได้ปานกลางในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก การลงทุนพัฒนาครูในปัจจุบันสามารถช่วยให้คนรุ่นต่อไปประสบความสำเร็จ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://www.worldbank.org/content/dam/photos/1440x600/2022/sep/World-Bank-Guinea-03-17-15-Working-Edit-0025-1.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: World Bank</span></p>
<p>26 ก.ย. 2566 ธนาคารโลก รายงานว่าในประเทศที่มีรายได้ปานกลาง 22 ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก จะมีเด็กประมาณ 172 ล้านคนเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาทุกปี การลงทุนด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาที่โดดเด่นของเอเชียตะวันออก อย่างไรก็ตาม จากรายงานเรื่อง Fixing the Foundation: Teachers and Basic Education in East Asia and Pacific ของธนาคารโลกระบุว่า แม้จะมีจำนวนเด็กที่เข้าศึกษาในโรงเรียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย แต่ปรากฏว่ามีเด็กในบางประเทศหรือบางพื้นที่ของบางประเทศยังคงไม่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อีกทั้งพบว่าคุณภาพของการศึกษาในเขตพื้นที่ชนบทและพื้นที่ที่มีความยากจนของประเทศ ด้อยกว่าพื้นที่ในเขตเมืองและเขตที่มีผู้มีรายได้สูงอาศัยอยู่อย่างมาก</p>
<p>นอกจากนี้รายงานยังระบุว่า ใน 14 ประเทศจากทั้งหมด 22 ประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย, เมียนมา, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีภาวะความยากจนทางการเรียนรู้ (กำหนดโดยพิจารณาจากเด็กอายุ 10 ปี ที่สามารถอ่านและเข้าใจเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยได้) คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 สำหรับประเทศรายได้ปานกลางระดับสูง เช่น มาเลเซีย มีภาวะความยากจนทางการเรียนรู้ที่สูงกว่าร้อยละ 40 ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และสาธารณรัฐเกาหลี มีภาวะความยากจนทางการเรียนรู้อยู่ที่ร้อยละ 3 - 4 </p>
<p>ความล้มเหลวในการเตรียมทักษะพื้นฐานให้กับนักเรียน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความสามารถในการพัฒนาทักษะขั้นสูงที่จะช่วยให้เด็กเหล่านี้ประสบความสำเร็จในตลาดแรงงานและหลีกหนีจากความยากจน เนื่องจากการเรียนรู้เป็นกระบวนการเพิ่มพูน เด็กเหล่านี้ส่วนมากจึงไม่สามารถพัฒนาต่อยอดทักษะขั้นสูงที่จำเป็นสำหรับนวัตกรรมการผลิตและบริการที่ซับซ้อน รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ส่งเสริมความสามารถในการผลิต ซึ่งสามารถยกระดับสถานะประเทศจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง</p>
<p>แม้ว่าปัจจัยหลายประการมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของเด็ก รวมถึงรายได้ของครอบครัว, สุขภาพ และการเข้าถึงสื่อการเรียนของโรงเรียน แต่เมื่อเด็กมาโรงเรียน ครูเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อเด็กมากที่สุด อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจากหลายประเทศในภูมิภาคระบุว่า ครูมักมีความรู้ในสาขาวิชาของตนที่จำกัด ใน สปป. ลาว มีเพียงร้อยละ 8 ของครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เท่านั้นที่ทำคะแนนแบบประเมินวิชาคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ร้อยละ 80 หรือสูงกว่า ในทำนองเดียวกัน ประเทศอินโดนีเซียมีครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพียงร้อยละ 8 เท่านั้นที่ทำคะแนนได้ร้อยละ 80 หรือสูงกว่าจากการประเมินทักษะภาษาอินโดนีเซีย ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการขาดแคลนครูของหลายประเทศในภูมิภาคเช่นกัน ดังนั้นรายงานจึงมุ่งเน้นไปที่ครูกับวิธีการสนับสนุนครูและยกระดับคุณภาพการสอน</p>
<p>“เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกยังคงเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตเร็วและมีพลวัตมากที่สุดในโลก ” มานูเอลา วี. เฟอร์โร รองประธานธนาคารโลกเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าว “การคงรักษาพลวัตนี้ไว้และการช่วยให้เด็ก ๆ ในปัจจุบันมีงานทำและมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องให้เด็กได้รับการสอนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยสร้างเสริมทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต”</p>
<p>เนื่องจากครูสวนใหญ่ที่มี ยังคงดำเนินการสอนอยู่ในปี 2573 รายงานจึงแนะนำให้มุ่งเน้นที่การเสริมสร้างศักยภาพของครู แม้ว่าจะมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าในแต่ละปีมีการฝึกอบรมครูในภูมิภาคนี้เป็นสัดส่วนค่อนข้างสูง แต่ข้อมูลใหม่จากการสำรวจในกัมพูชา, ฟิจิ, ลาว, มองโกเลีย, ฟิลิปปินส์, ไทย, ติมอร์-เลสเต, ตองกา และเวียดนามระบุว่า โครงการการฝึกอบรมเหล่านั้นไม่ได้ใช้แนวทางที่ช่วยปรับปรุงการเรียนรู้ของนักเรียนแต่อย่างใด เช่น ในบรรดาประเทศที่ทำการสำรวจ โครงการฝึกอบรมนี้ได้มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาวิชาเพียงร้อยละ 14 ของโครงการ เทียบกับร้อยละ 81 ของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการเรียนรู้ของนักเรียนทั่วโลก</p>
<p>เพื่อให้โครงการอบรมมีประสิทธิผล การฝึกอบรมควรส่งเสริมความรู้ในวิชาต่าง ๆ โดยเปิดโอกาสให้มีการฝึกฝนความรู้ใหม่ ๆ ในหมู่ครู การติดตามผลการฝึกสอนและการให้คำปรึกษา ตลอดจนจัดให้มีสิ่งจูงใจทางวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนตำแหน่งหรือเงินเดือน นอกจากนี้ควรมีการมอบรางวัลตอบแทนให้ครูที่สามารถรักษาคุณภาพการสอนได้อย่างสม่ำเสมอ</p>
<p>เทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนสำหรับนักเรียน ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการที่นักเรียนหรือครู สามารถเข้าถึงบทเรียนที่มีการบันทึกวิดีโอไว้ล่วงหน้าจากครูที่มีคุณภาพสูง มีส่วนทำให้คะแนนของนักเรียนสูงขึ้นและช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการสอนของครูคนอื่นด้วย อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีการศึกษาจะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้กับครูที่ได้รับการฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว</p>
<p>รายงานยังระบุอีกว่า การที่ผู้กำหนดนโยบายให้การสนับสนุนและมีความมุ่งมั่นในการปรับปรุงผลลัพธ์ของการเรียนรู้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่มุ่งหวัง นอกจากนี้ การพิจารณานำมาตรการที่ประสบความสำเร็จมาใช้ในการยกระดับคุณภาพการสอนและปรับปรุงการเรียนรู้ของนักเรียน รวมถึงการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพและการใช้เทคโนโลยีการศึกษานั้น จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและต้องมีการจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติม</p>
<p>“การแก้ปัญหาภาวะความยากจนทางการเรียนรู้จะทำให้อนาคตของเด็กรุ่นหลังสดใสขึ้น อีกทั้งส่งเสริมให้เศรษฐกิจของภูมิภาคดียิ่งขึ้น” อาดิตยา แมตทู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของธนาคารโลก กล่าว “การแก้ไขรากฐานทางการศึกษาจำเป็นต้องอาศัยการปฏิรูปและทรัพยากรต่าง ๆ ตลอดจนความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการคลัง ครูและผู้ปกครอง”</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/09/106080