[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
12 พฤษภาคม 2567 04:08:22 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "มะหาด" สมุนไพรไทยมาแรงของ พ.ศ.นี้  (อ่าน 15146 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wondermay
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 21:31:35 »



สาวๆที่รักความสวยความงาม โดยเฉพาะกลุ่มที่บ้าความขาวอย่างแรง
คงคุ้นหูกับชื่อ "มะหาดขาวซีด" กันอย่างแน่นอน



แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้จักสรรพคุณของมะหาด ตลอดจนที่มาที่ไปของกระแสครีมมะหาด ที่เกลื่อนเมืองกันอยู่ทุกวันนี้

โกรธ โกรธ โกรธ


มะหาด

ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรงสูง 15 - 20 เมตร มีพุ่มใบหนาทึบ ให้ทั้งดอกและผล พบได้ตามป่าดงดิบทุกภาคของไทย
พันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานเพื่อให้นำไปปลูกเป็นสิริมงคลแก่จังหวัด และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนปลูกต้นมะหาดในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี


บ้างก็เรียก หาดหนุน ,ปวกหาด, หาด ,มะหาด ,กาแย ,ตะแป ,ตะแปง

ประโยชน์นานับประการของมะหาด
ทั้งนี้ต้นที่สามารถนำมาใช้ผลประโยชน์ได้นั้นจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 5 ปี


ลำต้น
มีเนื้อหยาบ แข็ง เหนียวและทนทาน ปลวกและมอดไม่ขึ้น สามารถเลื่อย,ไส,ตบแต่ง ได้ง่าย นิยมทำโครงสร้างบ้านเรือน หมอนรองรางรถไฟ
ด้ามเครื่องมือทางการเกษตร ผืนระนาด และลูกโปงลาง


เปลือก
ใช้ลดอาการไข้
เหนียวเพียงพอที่จะสามารถทำเป็นเชือกได้


ราก
นำมาย้อมผ้า โดยให้สีเหลือง
ใช้ลดอาการไข้ แก้กระษัยเส้นเอ็น ขับถ่ายถ่ายพยาธิ แก้พิษร้อน


ผล
รับประทานได้ เนื้อเยื่อหุ้มเมล็ดมีรสเปรี้ยวอมหวาน

จาก ข้อมูลสมุนไพรดอทคอม


แก่น
ใช้แก่นมะหาดสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มเคี่ยวกับน้ำจนเกิดฟอง ช้อนฟองออก กรองกับผ้าขาวบาง พักสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาตากให้แห้งหรือย่างกับไฟ
นำมาบดจะได้ผงสีเหลืองเรียกว่า "ปวกหาด" ใช้ผงประมาณ 3 - 4 กรัมหรือ 1 - 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำสุกที่เย็นแล้วสามารถผสมน้ำมะนาวลงไปด้วย
รับประทานก่อนอาหารเช้า หลังปวดหาดไปแล้ว 2 ชั่วโมง ให้รับประทานดีเกลือตาม เพื่อถ่ายตัวพยาธิออกมา
สามารถทานแก้อาการท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อได้หรือนำผงปวกหาดมาละลายกับน้ำ ทาแก้ผื่นคัน


จาก ข้อมูลสมุนไพรดอทคอม


สารสกัด
ลดอาการผมร่วง กระตุ้นการงอกของเส้นผม
แก้โรคเริม ช่วยทำให้โรคผิวหนังค่อยๆหายไป
ลดความคล้ำของเม็ดสีผิว



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2555 21:39:04 โดย wondermay » บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 21:56:11 »

ตามข้อมูลโดยทั่วไปของมะหาดจะพบว่า อันที่จริงแล้วชาวบ้านต่างจังหวัดต่างก็รู้จัก และเก็บเกี่ยวประโยชน์จากต้นมะหาดกันมานาน
เพียงแต่สรรพคุณทางเคมีที่มีการค้นพบแรกเริ่มคือช่วยลดการเกิดเม็ดสีผิวคล้ำ หรือเรียกง่ายๆว่าทำให้ขาวขึ้น แต่ไม่เป็นที่สนใจมากนัก



พบสูตรสมุนไพรไทย 'แก่นมะหาด' ช่วยให้ผิวขาว
 ตลก ตลก ตลก ตลก

เภสัชศาสตร์ จุฬาฯ พบสูตรสมุนไพรไทย“แก่นมะหาด”ลดความเข้มของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง มีผลทำให้ผิวขาวได้ ปลอดภัยและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว

รศ.ดร.กิตติศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ และ รศ.ดร.ภาคภูมิ เต็งอำนวย อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งศึกษาวิจัย “สมุนไพรช่วยให้ผิวขาวจากแก่นมะหาด” เปิดเผยว่า
สารที่มีคุณสมบัติลดสีผิวและช่วยทำให้ผิวขาว มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับกลไกการออกฤทธิ์ ทั้งนี้ สารที่ทำให้เกิดผิวขาวที่นิยมใช้มากที่สุดคือ สารขจัดสีผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้ง
เอนไซม์ไทโรสิเนส ซึ่งทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยา ตั้งต้นของกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน สารเหล่านี้ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพง
การศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยจากแก่นมะหาด เพื่อพัฒนาสารที่ช่วยทำให้ผิวขาว นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดการนำเข้าสารเหล่านี้จากต่างประเทศ

มะหาดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Artocarpus lakoocha Roxb. เป็นต้นไม้ยืนต้นในวงศ์ Moraceae พบมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวบ้านนิยมนำแก่นมาต้มกับน้ำ
และนำสิ่งที่สกัดได้มาทำให้เป็นผงแห้ง เรียกว่า “ปวกหาด” ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืด การศึกษาวิจัยเรื่องสรรพคุณของมะหาดที่ทำให้ผิวขาวนั้นเริ่มต้นเมื่อปี 2541 โดยทำการสุ่มตัวอย่างพืชสมุนไพร
หลายชนิด มาทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนสในหลอดทดลอง จนกระทั่งพบว่าสารสกัดจากแก่นมะหาด ให้ผลยับยั้งเอนไซม์ชนิดนี้มากที่สุด และมีความเป็นไปได้ที่จะนำสารชนิดนี้มาพัฒนา
เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผู้วิจัยได้ทำการประเมินประสิทธิผลของสารสกัดจากแก่นมะหาดเป็นลำดับขั้น เริ่มจากการศึกษาในหนูตะเภา และการทดลองใช้ในอาสาสมัคร
โดยช่วงแรกผู้วิจัยได้นำผงปวกหาดที่หาได้ง่ายมาทดลองใช้ เปรียบเทียบกับสารที่ช่วยทำให้ผิวขาวเป็นที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันและมีราคาแพง


ผลการทดลองพบว่าปวกหาดมีประสิทธิภาพในการลดความเข้มของสีผิวในหนูตะเภา ต่อมาได้ทำการศึกษาในอาสาสมัครจำนวน 4 คน โดยทาสารสกัดจากแก่นมะหาดที่แขนวันละ 2 ครั้ง
เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และทำการวัดค่าความเข้มของสีผิวด้วยเครื่อง Mexameter พบว่าแขนที่ทาด้วยสารสกัดจากแก่นมะหาดมีแนวโน้มให้ค่าความเข้มของสีผิวลดลง นอกจากนี้
ยังไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง ในที่สุดผู้วิจัยได้ศึกษาในอาสาสมัครจำนวนมากขึ้น คือ 60 คน ในระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน
เป็นเพศหญิง อายุ 20–48 ปี มีสภาพผิวหนังปกติ จากการทาสารสกัดที่ต้นแขนของอาสาสมัครวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เปรียบเทียบกับอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิก
ผลการทดลองพบว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากมะหาด จะมีผิวขาวขึ้นเรื่อย ๆ ความขาวของสีผิวจะเห็นผลในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างมีนัยสำคัญตามระยะเวลาที่ทำการทดลอง นอกจากนี้ ยังไม่พบอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวแต่อย่างใด ในขณะที่สารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิกให้ผลในการทำให้ผิวขาวในระยะเวลาที่นานกว่า
คือ 10 และ 8 สัปดาห์ตามลำดับ

ปัจจุบันการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองพัฒนา ตลอดจนศึกษาถึงประสิทธิภาพและความคงตัวเมื่ออยู่ในสูตรตำรับต่าง ๆ เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์
รวมถึงวิธีการสกัดสารจากแก่นมะหาดให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
ที่มา นสพ. ผู้จัดการออนไลน์ ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2545





ต่อมาจึงมีการค้นพบสรรพคุณเพิ่มเติม และได้รับความสนใจมากกว่า
 ชิลๆ ชิลๆ ชิลๆ ชิลๆ ชิลๆ ชิลๆ




พบ "มะหาด" แก้ปัญหา "หัวล้าน" ได้



นับเป็นความหวังใหม่สำหรับคนที่ผมร่วง ศีรษะล้าน หลังจากที่ ปราณี ศิริบูรณ์พิพัฒนา นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ได้วิจัยจนค้นพบว่า "ต้นมะหาด" สามารถนำมาสกัดเป็นยากระตุ้นการงอกของเส้นผม และยับยั้งการหลุดร่วงได้ โดยไม่พบผลข้างเคียง

ปราณี เล่าว่า เดิมใบหน้าของตนเป็นฝ้า และจากการติดตามข้อมูลข่าวสารพบว่าลำต้นมะหาดสามารถช่วยลดฝ้าทำให้หน้าขาว
จึงนำเนื้อไม้และแก่นต้นมะหาดมาต้มเอาน้ำมาทาบนใบหน้า ผลปรากฏว่า ฝ้าหายไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ขนคิ้วซึ่งขึ้นมาเยอะจนผิดปกติ เพราะแต่เดิมขนคิ้วไม่ดก
จึงได้ศึกษาอย่างจริงจังและสกัดเป็นน้ำทาศีรษะบริเวณที่ผมบางให้พ่อที่อายุ 74 ปี ใช้เวลาเพียง 45 วัน ผลปรากฏว่า ผมพ่อขึ้นหนากว่าเดิม
จากนั้นจึงพัฒนาสูตรมาเรื่อยๆ เป็นเวลาร่วม 2 ปีได้ทดลองกับอาสาสมัครกว่า 100 ราย ได้ผล 100% โดยไม่มีผลข้างเคียงและได้จดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้ว

ผลิตภัณฑ์น้ำยาปลูกผมจากต้นมะหาดนี้เป็นสมุนไพร 100% ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่มีสารเคมี เป็นน้ำใสๆ ไม่มีสารแต่งกลิ่นแต่งสีใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีกลิ่นเหม็น
ได้ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์บริการตรวจแล้ว ไม่พบความเป็นพิษกับคน จากการศึกษาพบว่ามีสรรพคุณยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ที่ทำให้ผมร่วงและช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมด้วย

ปราณี กล่าวอีกว่า การทำวิทยานิพนธ์ในครั้งนี้เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและศึกษาการใช้สารสกัดมะหาดในคนศีรษะล้าน
ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงเมื่อใช้สมุนไพรสูตรนี้จะแก้ปัญหาได้ภายใน 1 เดือน และเมื่อใช้ครบ 2 เดือน จะมีผมงอกออกมาเป็นจำนวนมาก สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
สำหรับ “มะหาด” เป็นไม้ยืนต้น พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศไทย ผลสุกรับประทานได้มีรสหวานอมเปรี้ยว เปลือก ลำต้น นำมากินกับหมากแทนสีเสียด
ลำต้นนำมาต้มเคี่ยวเอาน้ำทำยาถ่ายพยาธิ

ด้าน อำพน ศิริคำ ข้าราชการใน จ.ขอนแก่น บอกว่า ผมเริ่มหงอกเมื่ออายุประมาณ 30 ปี โกรกผมเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง นานกว่า 10 ปี ผมร่วงสะสมมาเป็นเวลานาน
ทำให้ผมบาง ซึ่งส่วนหนึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการโกรกผมบ่อย นอกจากนี้ บริเวณเหนือหน้าผากมุมซ้ายและขวาค่อยๆ หลุดร่วงไปทีละเล็กทีละน้อย นานวันเข้าจะมีลักษณะเป็นง่าม
แต่ภายหลังจากใช้ยานี้ 1 เดือน ผมหยุดร่วงชัดเจนมาก และเมื่อใช้ครบ 2 เดือน ปรากฏว่ามีผมงอกออกมา และดกขึ้นเรื่อยๆ
 
ที่มาจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ปี พ.ศ.2551
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2555 21:59:23 โดย wondermay » บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 22:28:48 »

ดังนั้นเราก็ทราบกันแล้วว่าประโยชน์ของมะหาดมีมากมายหลายประเภท แต่ถ้าจะพูดถึงสรรพคุณในด้านความงามแล้วก็คงหนีไม่พ้น ครีมมะหาด ที่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้

     ปัจจุบัน โลชั่นมะหาด โด่งดังจนเกลื่อน การเป็นการค้าขายแบบแข่งขันกันของผู้ผลิต ทั้งรายใหญ่รายย่อยต่างก็มีสารสกัดมะหาด หัวเชื้อมะหาด ไว้ในครอบครอง
เพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบในการผลิตโลชั่นบำรุงผิวขาวที่สาวๆนิยมกัน ต้องยอมรับว่าทั้งการตลาดและกระแสสังคมต่างก็ช่วยกันผลักดันให้มะหาดเล็กๆโด่งดังขึ้นมาได้ในไม่กี่เดือน
เวลานี้ออกไปไหนมาไหนก็จะเห็นคำว่ามะหาดเกลื่อนไปหมด ครีมมะหาดโลชั่นมะหาด หัวเชื้อมะหาด สารสกัดมะหาด พอกตัว ครีมอาบน้ำ สบู่ล้างหน้า แชมพูสระผมนั้นมีแต่เน้นเรื่องผมดก
ส่วนหนังศรีษะจะขาวขึ้นหรือไม่ยังไม่เคยมีใครวิจัยออกมา หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น สารพักยี่ห้อหลายราคา บางครั้งยี่ห้อเดียวกันก็ตัดราคากันเองจากรายย่อยซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ
ว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากสิ่งที่เราซื้อไปหรือไม่ ใช้แล้วจะขาวจริงมั้ย จะซื้อยี่ห้อไหน ยังไงดีเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยย
ช๊อค ช๊อค



โดยส่วนตัวคิดว่ายากมากหากจะสืบสาวว่า ใครเป็นผู้ผลิตครีมหรือโลชั่นผิวขาวจากมะหาดเป็นที่แรก
แต่สืบได้ว่าเจ้าแรกที่สามารถผลักดันมะหาดให้ทุกคนรู้จักในฐานะโลชั่นมะหาดที่ทำให้ผิวขาวขึ้น นั้นคือใครยี่ห้ออะไร โดยส่วนตัวขอไม่บอกยี่ห้อเพื่อประโยชน์ของผู้ขายเองด้วย
เพราะเค้าค้าขายมาตั้งแต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกับ อ.ย. บรรจุภัณฑ์ง่ายๆไม่เป็นทางการ ขายดีมากจนตอนนี้จดทำเบียนกับ อ.ย. และขึ้นทะเบียนการค้า จดชื่อยี่ห้อเรียบร้อย
แต่ที่แน่ๆคือ ยี่ห้อดังกล่าวกลับหาซื้อยาก  หือ ? หือ ? หือ ? อาจจะเป็นการแก้เกมการค้าของผู้ผลิตก็เป็นได้


คำถามต่อมาคือ แล้วที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดเชื่อถือได้หรือไม่ คำตอบคือได้
เพราะการผลิตโลชั่นหรือครีมเพื่อการบำรุงผิวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอแค่มีความรู้และความพร้อมทางการผลิตเท่านั้นเอง
ส่วนประสิทธิภาพนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแล้วว่ามีสูตรที่ลงตัวมากน้อยแค่ไหน ใช้ระยะเวลาเท่าใด ที่สำคัญคือกำไรที่ได้ไปมันขูดเลือดขูดเนื้อผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2555 22:33:17 โดย wondermay » บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 22:38:24 »

ต้อนรับทุกท่านสู่สมรภูมิโลชั่นมะหาด

ย๊าาาาาาาาาาาส์








 หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิดรู้แบบนี้แล้วเราต้องหาทางหนีทีไล่กันให้ดี
ไม่อยากให้ใครต้องโดนลูกหลงจากสงครามนี้เลย
หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2555 22:41:33 โดย wondermay » บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 22:52:57 »












โอยยย   ........ตาลายยยยยยยยยยยยยย
ยี่ห้อเยอะมาก จะเลือกร้านไหนก็ได้ตามใจชอบ อันที่จริงแล้วผลที่ได้นั้นไม่หนีกันมาก หากผู้ผลิตใช้ส่วนผสมจากมะหาดที่สกัดมาอย่างดี มีมาตรฐาน
แต่ดันมีข่าวมะหาดห่วย มะหาดใหม่ มะหาดปลอม ได้ยินแบบนี้แล้วก็ต้องคัดกันให้ดีๆ
บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 23:07:10 »




ช๊อค ช๊อค ช๊อคแม้แต่ผู้ขายเองก็ยังถกเถียงกันเองในประเด็น "เจ้าแรก"
ลองหาข้อมูลดูก็จะรู้ว่า คำว่าเจ้าแรกนั้นมีพ่วงเสมอ ตามกลลวงของภาษาไทย และกฎของปากต่อปาก
สุดท้ายก็จะเหลือแค่มะหาดเจ้าแรก นั่นคือจุดประสงค์ที่เขาต้องการ
ตีหัว ตีหัว ตีหัว

มาดูตัวอย่างกัน

สารสกัดจากแก่นมะหาดเจ้าแรกเจ้าเดียว ของแท้ 100% ยืนยัน การันตีความปลอดภัย
ของดีมีคุณภาพราคาอาจสูง เพราะครีมที่มีคุณภาพ จึงใช้ส่วนผสมที่ดีมีคุณภาพ ตามราคาค่ะ รับประกันความพอใจ


ต้นตำรับเจ้าแรกที่คิดค้นหัวเชื้อ!!!!

โลชั่นมะหาด หัวเชื้อมะหาด เจ้าแรกเจ้าเดียวใน....


เป็นมะหาดเจ้าแรกที่ได้รับรองคุณภาพ ได้ลงหนังสือ... ขายดีถล่มถลายในขนาดนี้ !!

.
.
.
.
และอีกมากมาย



มีคำพูดของท่านๆหนึ่งในหน้าเฟซบุค มาให้อ่านกัน หุบปากซะ หุบปากซะ หุบปากซะ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นความจริงที่ว่า
สรรพคุณมะหาดเค้าไม่ได้ค้นพบเอง



"โลชั่นมะหาด จนถึงวันที่มีโลชั่นมะหาด สิบๆสูตร บางเจ้าไม่รู้จริง ก็อย่าแอบอ้างตนว่าเป็นเจ้าแรก ต้นตำรับ บลาๆๆ เลยนะค่ะ พี่...ทำโลชั่นมะหาด เพราะได้ศึกาาการวิจัย ของเภสัชจุฬาค่ะ พี่....ไม่ได้วิจัยเองค่ะ ตามที่คุณพูด แต่ถ้าพี่....ไม่เอามาทำเป็นโลชั่นใช้แล้วขาว(ลองใช้กับตัวเอง จนเพื่อนๆและหมู่คนในเว็บขายของชื่อดังทักว่าสวยขึ้นขาวขึ้น) ก็คงไม่มีต้นแบบ ให้คุณเอาไปทำเป็นโลชั่นหรอกจ้าา โพสต์โจมตีตลอดเวลา ถ้าดีจริง ก็ให้สินค้าขายตัวมันเองนะค่ะ อย่าไปแบล๊คลิสและอวยเกินเลยจ้า"


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2555 23:09:46 โดย wondermay » บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555 23:23:15 »


ข้อมูลจากวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี 2551 ม.มหาสารคาม

เรื่อง "อิทธิพลของวิธีการสกัดต่อองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์การต้านออกซิเดชันของแก่นมะหาด"

ที่มา rtocarpus lakoocha heartwood extract) มีสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวกายขาว คือ ออกซิเรสเวอราโทล (Oxyresveratrol) ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ "ไทโรซิเนส"
ซึ่งทำปฏิกิริยากับกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว โดยสาร Oxyresveratrol นี้จะมีปริมาณต่างกันตามวิธีการสกัดสาร ดังนี้

1. การสกัดสารโดยใช้ไอน้ำ
2. การกลั่นโดยตรงกับน้ำ (water distillation)
3. การสกัดเย็น (maceration) ด้วยสารละลายอินทรีย์ (solvent extraction) ใช้เมธานอล เป็นตัวทำละลาย
4. สกัดร้อนด้วยเมธานอลโดยเครื่อง soxhlet extractor

ผลการทดลอง พบว่า สารสกัดจากแก่นมะหาดที่สกัดสารด้วยวิธีการต่างๆ ด้วย HPLC พบว่าตัวอย่างที่ได้จากการสกัดสารด้วยไอน้ำไม่พบทั้งสารรีซอซินอลและสารเรสเวอราโทล
เนื่องจากอาจเป็นไปได้ว่าสารเรสเวอราโทลไม่ระเหยไปกับไอน้ำ และสารรีซอซินอลระเหยไปหมดในขั้นตอนการกลั่น ดังนั้นการกลั่นจึงไม่สามารถตรวจพบสารทั้งสองนี้ ในตัวอย่างที่สกัดสารด้วยวิธีนี้
ดังนั้นวิธีนี้จึงไม่เหมาะสมในการสกัดสารจากแก่นมะหาดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ การสกัดสารจากแก่นมะหาดด้วยน้ำ พบว่ามีปริมาณสารรีซอซินอลเท่ากับ 1.49 add 0.20 มิลลิกรัมต่อลิตร
ซึ่งน้อยกว่าวิธีการสกัดเย็นและสกัดร้อนด้วยเมธานอลโดยเครื่อง soxhlet extractor ส่วนปริมาณสารเรสเวอราโทล พบในปริมาณที่ไม่แตกต่างกับวิธีการสกัดเย็นด้วยเมธานอล แต่มีปริมาณน้อยกว่า
วิธีการสกัดร้อนด้วยเมธานอลโดยเครื่อง soxhlet extractor การสกัดสารจากแก่นมะหาดโดยเครื่อง soxhlet extractor ให้ปริมาณสารรีซอซินอล และสารเรสเวอราโทล สูงกว่าวิธีการสกัดสารด้วยวิธีอื่นๆ ประมาณ 20 และ 50 เท่า...



สรปง่ายๆแล้วก็คือ ควรเลือกสารสกัดมะหาดที่มาจากการสกัดแบบสกัดร้อนด้วยเมธานอลโดยเครื่อง soxhlet extractor
ซึ่งจะพบได้ตามแล๊ปหรือโรงงานที่มีความพร้อมทางเครื่องมือ
หรือถ้าเป็นแบบสกัดเย็นก็ได้ผลดีแต่น้อยกว่า ซึ่งการสกัดเย็นนั้นชาวบ้านก็สามารถทำได้
เพราะไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไร อาศัยการหมัก การเติม และคัดแยกกรองเท่านั้นเอง






บันทึกการเข้า
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5478


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2555 09:18:09 »



หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น: มะหาด 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
"Lemon Soup" อาสาส่ง"ทุกวัน"เพลงกระตุ้น"รัก"ที่เมื่อรู้สึกแล้วต้อง"บอก"
หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
มดเอ๊ก 0 5281 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2554 10:29:07
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.346 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 25 กุมภาพันธ์ 2567 16:53:43