[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤศจิกายน 2560 11:46:29



หัวข้อ: หลวงปู่คาร คันธิโย วัดโพธิ์ไชย ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤศจิกายน 2560 11:46:29
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78311494613687_view_resizing_images_2_.jpg)
หลวงปู่คาร คันธิโย
วัดโพธิ์ไชย ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

"หลวงปู่คาร คันธิโย" อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ไชย ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ เป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเถระผู้ก่อสร้างพระธาตุท่าอุเทน อีกทั้งยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม

เกิดในสกุล สุวรรณมาโจ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ต.ค.2424 ที่ ต.ท่าอุเทน หมู่ 3 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

ในช่วงวัยเยาว์ มีโอกาสศึกษาหนังสือธรรมจากวัดในหมู่บ้าน

ปี พ.ศ.2445 อายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดโพธิ์ไชย ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยมีพระครูทน แห่งวัดโพนแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเคน อุตตโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระหนู วิริโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังบวชได้ 1 พรรษา ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ไปเรียนที่กรุงเทพฯ ในสำนักวัดเทพธิดาราม

แต่ในห้วงเวลาดังกล่าว ขณะเตรียมสอบชั้นเปรียญธรรม ได้ทราบข่าวพี่ชายเสียชีวิต จึงเดินทางกลับมาบ้านทำศพพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ป่วยตายด้วยโรคอหิวาตกโรคและไม่ได้กลับไปกรุงเทพฯ อีกเลย

ต่อมา พระโพธิราช เจ้าอาวาสมรณภาพ ทำให้ขาดพระผู้ปกครอง พ.ศ.2456 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสนับแต่นั้นมา

เป็นพระอุปัชฌาย์ให้พระเถระชื่อดัง เป็นกำลังสำคัญในบวรพระพุทธศาสนา 2 รูป คือ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก จ.นครพนม และ หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล วัดป่าบ้านคุ้ม จ.อุบลราชธานี

ระหว่างที่เปิดสำนักเรียนมูลกัจจายน์ที่วัดโพธิ์ไชย ได้มีพระภิกษุสามเณรเดินทางมาเล่าเรียนศึกษากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านเป็นพระผู้ทรงคุณวุฒิที่รับหน้าที่อบรมสั่งสอนให้ท่องจำพระปาติโมกข์ สวดมนต์ 7 ตำนาน 12 ตำนานได้อย่างคล่องแคล่ว ด้วยการสอนแบบมุขปาฐะ

กล่าวได้ว่า ในช่วงเวลาแห่งการดำรงสมณเพศ หลวงปู่คาร ไม่ได้รับตำแหน่งทางปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยท่านเพียงทำหน้าที่เป็นครูผู้อบรมสั่งสอนพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดและอบรมศีลธรรมให้แก่อุบาสกอุบาสิกาเท่านั้น

นอกเหนือไปจากการให้ความรู้แก่พระภิกษุสามเณรแล้ว ด้านการพัฒนาวัดท่านยังได้ร่วมกับชาวบ้านก่อสร้างอุโบสถ (สิม) หลังใหม่เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแทนสิมไม้หลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมสมัยพระครูขันธ์ เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 1 โดยใช้เวลาก่อสร้างนาน 4 ปี

จากนั้นยังได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญ (หอแจก) ครอบพระเจ้าองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.40 เมตร สูง 4 เมตร ที่สร้างมาพร้อมกับวัดโพธิ์ไชย ประดิษฐานอยู่ในศาลาการเปรียญหลังใหม่ พร้อมกุฏิสงฆ์ 3 หลัง

หลวงปู่คารเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย คอยอบรมลูกศิษย์อย่าประมาทในศีล แม้สิกขาบทเล็กๆ น้อยๆ ในพระวินัยจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด แม้การตากผ้าสบงจีวรแล้วมิได้เฝ้าดูรักษาก็จะตำหนิพระลูกศิษย์ เป็นสมณะต้องมักน้อยสันโดษ เป็นอยู่ง่ายๆ กินแต่น้อย ไม่สะสมทรัพย์สิ่งของ

ในช่วงบั้นปลายชีวิต สุขภาพร่างกายของท่านไม่แข็งแรงดังเดิม กระทั่งวันที่ 19 ก.ย.2520 เวลา 20.20 น. ท่านละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชราภาพ สิริอายุ 96 ปี พรรษา 75

อริยะโลกที่6 ข่าวสดออนไลน์