.พบเรือดำน้ำญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จมใกล้ฝั่งฮาวายพบซากเรือดำน้ำยุคก่อนใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจมอยู่ใต้ทะเล
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ค้นพบเรือดำน้ำของญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จมอยู่ใต้ทะเลใกล้ชายฝั่งรัฐฮาวาย โดยเป็นเรือที่ถูกส่งมาเพื่อจู่โจมคลองปานามา ก่อนจะถูกกองทัพสหรัฐฯ โจมตีจนจมลงเมื่อหลายสิบปีก่อน...
นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาวายเปิดเผยว่า เรือดำน้ำดังกล่าวเป็นรุ่น 'ไอ-400' ระดับชั้น 'เซน-โตกุ' ซึ่ง
เป็นเรือดำน้ำยุคก่อนใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกลำหนึ่ง มีความยาว 122 ม. ถูกค้นพบใต้ทะเลลึก 2,300 ม. ใกล้ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะโอวาฮู เมื่อเดือน ส.ค. 56 แต่เพิ่งสามารถเปิดเผยได้เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.56) โดยเรือลำนี้หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 1946
การค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบอย่างไม่ตั้งใจ โดย
จิม เดลกาโด นักโบราณคดีซึ่งทำงานกับ สำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติ (เอ็นโอเอเอ) ซึ่งโดยสารไปกับเรือดำน้ำลึก 'พิสเซส 5' (Pisces V) เพื่อสำรวจเรือดำน้ำ ไอ-400 กล่าวว่า พวกเขากำลังมองหาเป้าหมายอื่นอยู่ แต่กลับพบเรือลำนี้เข้าพอดี เขาระบุอีกว่า ไอ-400 ลำนี้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโตของสหรัฐฯ จนจมลง
ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯ ในยุคนั้น อ้างว่าไม่มีข้อมูลพิกัดที่แน่ชัดว่าเรือดำน้ำลำนี้จมลงที่จุดใด ซึ่งดูเหมือนเป็นความพยายามป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีของไอ-400 ตกไปอยู่ในมือของสหภาพโซเวียต ซึ่งเรียกร้องให้คืนเรือดังกล่าวแก่ญี่ปุ่น
อนึ่ง เรือดำน้ำไอ-400 กับ ไอ-401 เรือพี่น้องของมัน ซึ่งค้นพบซากอยู่ใต้ทะเลในปี 2005
มีขีดความสามารถเดินทางรอบโลกได้ 1 รอบครึ่ง โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงใหม่ และสามารถบรรทุกเครื่องบินทิ้งระเบิด 'ไอจิ เอ็ม6เอ' ได้ถึง 3 ลำ
ที่มา ไทยรัฐ