[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 พฤษภาคม 2567 04:16:49 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติวัดช้าง (ช้างให้) ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง  (อ่าน 131 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5478


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2566 15:59:16 »



เจดีย์ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังวิหารเก่า ทางวัดติดป้ายไว้ว่า "เจดีย์บรรจุอัฐิ เจ้าพระยาอัครมหาเสนาบดี พระราชมนู (หลวงพ่อเพ็ชร)"


ประวัติวัดช้าง (ช้างให้)
ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง

วัดช้าง (ช้างให้) วัดโบราณประเภทวัดราษฎร์ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกายตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง  

วัดแห่งนี้สร้างในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีเมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๘๔๕  เดิมสถานที่ตั้งวัดนี้มีฝูงช้างป่าอาศัยและลงเล่นน้ำ พระฝ่ายอรัญวาสี แวะมาพักผ่อนประจำ ชาวบ้านจึงพากันสร้างที่พักถวายพระ  ช้างจึงให้ที่ หลีกไป  จึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดช้างให้”  

ต่อมาสมัยอยุธยา พ.ศ.๒๑๒๘ มีการรบที่ทุ่งบางแก้ว สมเด็จพระนเรศวรโปรดเกล้าฯ ให้พระราชมนู เป็นแม่ทัพหน้า ซึ่งพระราชมนูได้ใช้วัดช้างให้เป็นที่ตั้งทัพทหารจำนวน ๑๐,๐๐๐ นาย ออกลาดตระเวนดูกองกำลังของพระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นไม่ปรากฏหลักฐานว่าเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาหรือเป็นวัดร้าง  การรบครั้งนี้ เป็นการรบแบบกองโจร ครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทย  สมเด็จพระนเรศวรกองทัพไทยได้รับชัยชนะ  หลังจากมีชัยชนะเหนือกองทัพพม่าสมเด็จพระนเรศวรก็โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ ทรงโปรดให้นำพระราชทรัพย์มาปฏิสังขรณ์วัด พระราชมนูให้พ่อครูดาบพลอยใช้เรือกระแชงไปขนทองคำและพัสดุที่จำเป็นจากกรุงศรีอยุธยา มีช่างสิบหมู่มาช่วยบูรณะอุโบสถ หลังสิ้นแผ่นดินของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชมนูซึ่งขณะนั้นมีบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดี ที่สมุหพระกลาโหมได้ลาออกจากราชการและออกบวชที่วัดช้างให้ และได้บวชไม่สึกจนสิ้นอายุขัย ศิษย์และชาวบ้านจึงสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิทรงกลม (ระฆังคว่ำ) บรรจุอัฐิขึ้น หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏหลักฐานอีก จนกระทั่งเสียกรุงศรีอยุธยาจึงถูกทิ้งเป็นวัดร้าง

สำหรับพระราชมนู หรือ ต่อมาคือเจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดี เป็นขุนศึกและสมุหพระกลาโหมคนสำคัญในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชมนู เกิดเมื่อไรและมีชื่อใดไม่ปรากฏ แต่ได้ติดตามสมเด็จพระนเรศวรมหาราชคราวประกาศอิสรภาพ จึงสันนิษฐานว่าครอบครัวของพระราชมนูอาจถูกกวาดต้อนคราวเสียกรุงฯครั้งที่ ๑ ได้มีการกล่าวไว้ในพงศาวดารว่าพระราชมนูเป็นทหารที่เก่งกล้าและมีความสามารถ นอกจากนั้นยังเป็นทหารคู่พระทัยของสมเด็จพระนเรศวรอีกด้วย ซึ่งพระราชมนูมักออกศึกเคียงคู่พระนเรศวรในการตีเมืองต่างๆ เสมอ และสามารถชนะกลับมาได้เกือบทุกครั้ง รวมถึงศึกยุทธหัตถีที่ตำบลหนองสาหร่ายอีกด้วย  ภายหลังพระราชมนูได้รับการโปรดเกล้าฯ จากสมเด็จพระนเรศวรให้เป็นออกญาพระสมุหกลาโหม แต่ประวัติของพระราชมนูมีอยู่น้อยมาก เพราะมีการกล่าวถึงในพงศาวดารไม่กี่เล่ม

พระราชมนูนั้น เคยรับพระราชบัญชาให้ไปตีเมืองๆหนึ่ง (ปัจจุบันอยู่ในเขตพม่า) ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่ ในครั้งยังมียศเป็นคุณพระ ตอนนั้นองค์ดำเกรงว่าทัพน้อยของพระราชมนูจะไม่อาจเอาชัย จึงส่งทัพหลวงออกตามไปช่วย ปรากฏว่าเมื่อทัพหลวงไปถึง เมืองนี้ก็แตกเสียแล้ว ทัพหลวงไม่ต้องเข้าช่วยแต่อย่างใด นอกจากนี้ พระราชมนูยังมีความบ้าบิ่นอย่างที่ใครๆ ในยุคนั้นไม่กล้า คือการขัดรับสั่งของพระนเรศวรในคราวตามเสด็จศึกพระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งพระราชมนูขัดรับสั่งถอนทัพโดยกล่าวว่า "การรบกำลังติดพัน กลัวว่าถอยแล้วจะเป็นเหตุให้ข้าศึกตามตี"  เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระองค์จึงได้ปูนบำเหน็จให้พระราชมนูขึ้นเป็น เจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดี ที่สมุหพระกลาโหม พระราชทานพานทอง น้ำเต้าทอง เจียดทองซ้ายขวา กระบี่ ฝวักทองและเครื่องอุปโภคต่างๆ

ในปี พ.ศ.๒๔๗๒ นายแรม นางใย ขำพักตร์ ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบูรณะวัดขึ้นมาใหม่  ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ “วัดช้าง” จนถึงปัจจุบัน

วัดช้างได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๓ ได้หนังสือรับรองสภาพวัดใหม่ ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอ่างทอง



ที่ข้างเจดีย์มีป้ายเขียนไว้ว่า "...อุบาสิกามณีจัน...เจ้านางปิ่นทิพย์..."




ขอขอบคุณที่มา (ข้อมูล)
       - วัดช้าง (ช้างให้) ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง
       - วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
       - ไทยรัฐออนไลน์

850

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ตุลาคม 2566 16:30:43 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
นมัสการเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง วัดท่าอิฐ จ.อ่างทอง
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 8211 กระทู้ล่าสุด 09 กันยายน 2557 18:06:15
โดย Kimleng
จิตรกรรมวัดเขียน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 1 5024 กระทู้ล่าสุด 21 พฤษภาคม 2558 16:14:34
โดย Kimleng
หลวงพ่อไพฑูรย์ กันตธัมโม วัดโล่ห์สุทธาวาส ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 629 กระทู้ล่าสุด 22 พฤษภาคม 2562 16:09:53
โดย ใบบุญ
ความเป็นมาของชื่อ จ.อ่างทอง
สุขใจ ห้องสมุด
ฉงน ฉงาย 0 543 กระทู้ล่าสุด 09 มิถุนายน 2564 01:11:30
โดย ฉงน ฉงาย
วัดคำหยาด ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 179 กระทู้ล่าสุด 10 กันยายน 2566 15:54:36
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.265 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 29 พฤศจิกายน 2566 11:01:49