. (ต่อ)
การบำบัดอาพาธด้วยธรรมโอสถของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ตามบันทึกของ พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
ในปี ๒๔๙๒ เป็นต้นมา นับแต่วันเข้าพรรษาผ่านไป พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ก็เริ่มไม่สบายอาการก็รู้สึกจะหนักขึ้นทุกวัน ๆ เมื่อถึงเดือนที่ ๑ ผ่านไป อาการของท่านไม่มีเบาขึ้นเลย ถึงกับพระอาจารย์ผู้เป็นศิษย์อยู่แถวใกล้ได้มาพยาบาลท่านกันเป็นจำนวนมาก อาการของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ก็มีแต่ทรงกับทรุดเท่านั้น ต่อมา อาพาธของท่านก็พอจะค่อยยังชั่วขึ้นหน่อย ท่านไม่ฉันยาแม้ว่าลูกศิษย์จะถวายเท่าไร ๆ ท่านก็ไม่ฉัน
ท่านบอกแก่ทุกคนว่า ต้นไม้ที่มันตายยืนต้นอยู่แล้ว จะเอาน้ำไปรดเท่าไรจะให้มันเกิดใบอีกไม่ได้หรอก อายุของเรามันก็ถึงแล้ว* ครั้นเมื่อใกล้จะออกพรรษาเหลืออีกประมาณ ๑๐ วัน ท่านได้บอกพระที่อยู่ใกล้ชิดว่า “ชีวิตของเราใกล้จะสิ้นแล้วให้รีบส่งข่าวไปบอกแก่คณาจารย์ที่เป็นศิษย์เรา ทั้งใกล้และไกลให้รีบมาประชุมกันที่บ้านหนองผือนี้ เพื่อจะได้มาฟังธรรมะเป็นครั้งสุดท้าย”
บรรดาพระที่อยู่ใกล้ชิดก็ได้จดหมายบ้าง โทรเลขบ้างตามคำสั่ง บรรดาศิษย์ทั้งหลายเมื่อรับทราบต่างก็ได้บอกข่าวแก่กันต่อ ๆ จนทั่ว เมื่อการปวารณาออกพรรษาแล้วต่างองค์ก็รีบเดินทางมุ่งหน้ามาหา พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ยังบ้านหนองผือ เป็นเป้าหมายเดียวกัน ด้วยความห่วงใยต่อ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ครั้นถึงวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ของปี พ.ศ. ๒๔๙๒ อันเป็นวันที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ลุกขึ้นเดินไปไหนไม่ได้เป็นวันแรก บรรดาศิษยานุศิษย์ได้เข้าไปประชุมพร้อมกัน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้ลุกนั่งแสดงธรรมะให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายฟังอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง เนื้อความโดยสรุปคือ
“การปฏิบัติจิตถือเป็นเรื่องสำคัญ การทำจิตให้สงบถือเป็นกำลัง การพิจารณาอริยสัจ ถือเป็นการถูกต้อง การปฏิบัติข้อวัตรมีการฉันหนเดียว เป็นต้น เป็นทางพระอริยะ ผู้เดินผิดทางย่อมไม่ถึงที่หมายคือ พระนิพพาน”
ถึงแม้พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จะพำนักอยู่บ้านหนองผือเป็นเวลา ๕ ปี แต่เจตนากลับเป็น
“เราจะไม่มรณภาพที่นี่ เพราะถ้าเราตายที่นี่แล้ว คนทั้งหลายก็จะพากันมามาก จะพากันฆ่าเป็ดฆ่าไก่ฆ่าสัตว์ทั้งหลาย เนื่องด้วยศพของเราจะทำให้ชาวบ้านเป็นบาป สมควรที่จะจัดให้เราไปมรณภาพในจังหวัดสกลนครเถิด”
* พระอาจารย์วิริยัง สิรินธโร กล่าวว่า “ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของชีวิต ท่านได้พยากรณ์ชีวิตของท่านให้แก่ศิษย์ฟังแทบทุกองค์อยู่แล้ว ท่านพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าล่วงเลยมาเป็นเวลานานถึง ๑๐ ปี”
เรื่อง ”พยากรณ์” นี้ ปรากฏในหนังสือ “อัตตโนประวัติ” พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี ซึ่งท่านได้เขียนอัตตโนประวัติเมื่อปี ๒๕๑๗ ดังนี้
"เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๙ จำพรรษาที่บ้านทุ่งมะข้าว ตำบลแม่ปั๋ง ร่วมกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พรรษานี้ เราต่างก็ตั้งใจปรารภความเพียรจนเต็มความสามารถของตน ๆ แม้เหตุการณ์บางอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภายนอกหรือเนื่องด้วยอุบายในทางธรรม ใครมีอะไรเกิดขึ้นเกือบจะเรียกได้ว่ารู้ด้วยกันทั้งนั้น พรรษานี้ท่านอาจารย์ได้พยากรณ์อายุของท่านอย่างถูกต้อง..."
ข้อมูล :
วิถีแห่งการปฏิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, ผนวก : ธรรมโอสถ (๔), เสถียร จันทิมาธร, นสพ.ข่าวสด น. ๓๐ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕