หัวข้อ: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 19 กันยายน 2553 17:55:54 (http://kongming.net/11/i/p/port_lg/Created-Male-072.jpg) คำคมเด็ดๆ จาก โก้วเล้ง จะมีชีวิตอยู่โดยทรงคุณค่าเป็นที่ลำบากก็จริง จะตายให้มีคุณค่ายิ่งยากเข็ญกว่ามากนัก เรื่องที่สวยงามมักเป็นเช่นฟองสบู่อยู่เสมอมา ปรากฏวูบก็หายวับ หากคิด จะฝืนกำลังไปเหนี่ยวรั้งมันไว้ที่แลกได้มา มักเป็นความเจ็บช้ำและเคราะห์กรรมเสมอ ความรักนับเป็นเรื่องพิสดารที่สุดจริงๆ มันบางครั้งสามารถบันดาลให้คนโง่เขลา กลายเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องที่สุด แต่บางครั้งกลับสามารถบันดาลให้คนชาญฉลาด กลายเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาได้ มีเรื่องบางประการ มาตรว่าท่านปฏิเสธไม่ไปขบคิด แต่พาลต้องครุ่นคิดอยู่ทุกเวลา มนุษย์ไม่มีทางข่มกลั้นความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไว้ได้ตลอดกาลนาน ...นี่เองบางทีเป็นการเจ็บปวดประการหนึ่งในหลายๆประการของชีวิตคนเรา ชั่วชีวิตมนุษย์...สิ่งที่บันดาลให้หดหู่ รันทด มิใช่การจำพราก...หากเป็นการอยู่ร่วม เพราะหากไม่เคยอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพรากได้ สวยงามเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบเท่านั้น มีแต่ความจริง จึงเป็นนิรันดร์ ...แต่ก็มีคนว่าเราเพียงสามารถกุมช่วงเวลาที่สวยงามเพียงชั่ววูบไว้ได้ก็พอแก่ใจแล้ว ความจริงที่เป็นนิจนิรันดร์ทิ้งให้เป็นนิจนิรันดร์ต่อไป เราไม่แยแสสนใจเลย ความรักแท้จริงแล้วเป็นอารมณ์ความรู้สึกระดับพื้นฐานชนิดหนึ่งของมนุษยชาติ ทั้งเป็นชนิดที่เก่าแก่ที่สุดด้วย..หากปราศจากความรัก ก็จะไม่มีมนุษยชาติ (http://add.klonthaiclub.com/images/2654e125d9e2932c0611df9b.jpg) ความรักเป็นสิ่งงดงาม งดงามประหนึ่งดอกกุหลาบ แต่ทว่ามันมีหนาม... กุหลาบที่ไร้หนามในโลกนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือมิตรภาพ เมื่อคิดเสพสุขอันหวานชื่นของความรัก ก็ต้องเตรียมใจสำหรับกล้ำกลืน ความกลัดกลุ้มและปวดร้าวจากความรักด้วย คนเรามีแต่ตอนคิดใคร่จะได้ที่สุด จึงหวาดกลัวจะสูญเสียเป็นที่สุด ความรู้สึกที่ บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายเยี่ยงนี้ ก็เป็นจุดอ่อนหนึ่งในจำนวนมากหลายของมนุษย์เรา ที่น่าเศร้าคือท่านยิ่งรุ่มร้อนปรารถนาจะได้ความหวังจะสูญเสียก็ยิ่งมากมาย ในโลกความจริง มีเรื่องอับจนปัญญาอยู่มากหลาย มิว่าผู้ใดต่างมิอาจเหนี่ยวรั้ง ขัดขืนได้...เยี่ยงนี้แม้เจ็บปวดรันทด แต่หากยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องคิดหาวิธีมาสลัดความ ความเจ็บปวดรันทดของตัวเองออกไปให้ได้ โชคและเคราะห์ ความจริงพิสดารยิ่ง หากท่านพบพานเรื่องเคราะห์ร้าย อย่าได้ตัดพ้อ ตำหนิ อย่าได้ท้อแท้ แม้นับว่าท่านถูกเคราะห์จู่โจมจนล้มลงก็หาเป็นไร ไม่ ขอเพียงยังมีชีวิต ท่านก็ต้องยังมีเวลาทรงกายขึ้นยืนได้ รอยขาดของเสื้อผ้าเย็บปะได้ แต่บาดแผลในหัวใจมิว่าผู้ใดก็ไม่อาจเย็บสมาน มนุษย์มีชีวิตอยู่ด้วยการเปลี่ยนแปลง มนุษย์พ่ายแพ้ต่อชะตากรรมที่ตนเองเลือกเสมอ บนเรือนร่างของทุกคน ต่างก็มีเชือกเส้นที่มองไม่เห็นอยู่เส้นหนึ่ง ในชั่วชีวิตส่วนใหญ่ของผู้คนต้องถูกพันธนาการด้วยเชือกที่มองไม่เห็นเส้นนี้ ถึงแม้บาดแผลบนร่างกายของคนเรา อาจมีได้ นับร้อยนับพันแห่ง... แต่รอยแผลในหัวใจ กลับมีอยู่เพียงรอยเดียว และที่ตรงนั้นเอง... ที่เขารู้สึกว่าเปราะบางที่สุด ถูกทำร้ายได้ง่ายที่สุด แม้ว่าปากแผลจะปิดไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อไรที่มีอะไรมาสะกิดทำให้เราหวนคิดกลับไป...อาการก็จะกำเริบเจ็บปวดขึ้นมาอีก และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เขากลัวเสียงดนตรีอย่างที่สุด ในชั่วชีวิตของคนเรา ความจริงมีเรื่องราวที่ มิว่าผู้ใดก็ต้องอับจนปัญญา นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชั่วชีวิต... เป็นความเจ็บปวดสุดซึ้งที่สุด ของชั่วชีวิต พบพานกับเรื่องเช่นนี้... ท่านไม่มีปัญญากระเสือกกระสนดิ้นรน ไม่มีปัญญาต่อสู้ขัดขืนไม่มีปัญญาปฏิเสธตัดรอนเลย แม้นับว่าท่านยินยอมให้ร่างกาย เป็นผุยผงตกอเวจีไปชั่วกัปกัลป์ยังคงไม่อาจเหนี่ยวรั้งที่ท่านสูญเสียให้กลับมาได้ อาจบางทีท่าน... ความจริงมิเคยได้มันมาเลยตลอดกาลนาน ลูกผู้ชายมีบ้างพึงกระทำ บ้างไม่พึงกระทำ บางเรื่องบางประการ หากท่านทราบว่ามิสามารถทำได้ ยังมิอาจไม่กระทำ (http://www.trytodream.com/image/marn.gif) ที่มา http://th.wikiquote.org (http://th.wikiquote.org) www tairomdham.net/index.php/topic,2117.0.html หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 11:43:12 (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/734/34734/images/kol.jpg) รวมปรัชญาวาทะจากวรรณกรรมของโกวเล้ง ชีวิต ความแค้น ความเหงา โลก เหล้า ความรัก ประวัติโกวเล้ง โกวเล้งมีชื่อจริงว่า โสงเอี๋ยวฮว่า เกิดเมื่อพ.ศ.2481 ที่ฮ่องกงแต่มาโตที่ไต้หวัน (Xiong Yaohua) เจ้าของนามปากกา "โกวเล้ง” (Gu Long) มีฐานะยากจนต้องทำงานหาเงินเรียนหนังสือเอง จนกระทั่งจบมหาวิทยาลัยตั้นเจียง Tamkang University (วิทยาลัยภาษาต่างประเทศแห่งไต้หวัน) โก้วเล้งเข้าทำงานแรกเป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดยูซีสของคณะที่ปรึกษาทหารอเมริกันในกรุงไทเป ของไต้หวันทำให้มีโอกาสเก็บเกี่ยวหาความรู้ด้านวรรณกรรมและนวนิยายตะวันตก ในปี 2503 เขาตีพิมพ์นิยายเรื่องแรกคือ "The Vault of Heaven and the Sword of Divinity” โดยใช้นามปากกาว่า "โกวเล้ง” ในช่วงแรก ๆ นิยายของเขายังเป็นแนวบู๊ล้างแค้นธรรมดา จึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก และนิยายส่วนใหญ่ไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย จากนั้นโกวเล้งก็พัฒนาฝีมือมาเรื่อย สร้างแนวการเขียนใหม่ เน้นความรู้สึก ความขัดแย้งทางจิตใจและความคิดของตัวละคร แทรกคติเตือนใจ แฝงปรัชญาชีวิต แบบ"คุณธรรมน้ำมิตร" รวมทั้งการเดินเรื่องแบบบทภาพยนตร์ และใช้เทคนิคการเดินเรื่องแบบภาพยนตร์ จนกลายเป็นแนวทางของตัวเอง ผลงานของโกวเล้งโดดเด่นในการนำเสนอเรื่องราวธรรมดาในชีวิตมนุษย์ ได้อย่างลึกซึ้ง ซ่อนปรัชญาคมคาย สะท้อนเบื้องลึกของจิตใจมนุษย์ผ่านภาษาที่สวยงาม อีกทั้งโกวเล้งยังมีความสามารถในการสร้างบุคลิกภาพของตัวละครได้ชัดเจน มีเลือดเนื้อและมีอารมณ์ความรู้สึกสมจริง แม้โกวเล้งจะรู้สึกขมขื่นในฐานะที่เป็น “นักเขียนนิยายกำลังภายใน” ซึ่งสายตาของคนทั่วไปในสมัยนั้นมองว่าด้อยค่า มิใช่วรรณกรรม ภายหลังเมื่อรูปแบบการเขียนของเขาถูกลอกเลียนโดยนักเขียนรุ่นใหม่ ผลงานของเขาจึงเสื่อมความนิยมลง ประกอบกับนิสัยใจกว้าง คบคนทุกระดับ รักสุรา นารี แม้จะมีรายได้จากงานเขียน แต่เขาก็ใช้มันไปกับการนี้จนไม่เหลือ ทุกคราวที่สุข เศร้า เหงา หรือทำงานจำต้องยกจอกสุราขึ้นดื่ม มีผู้แปลหนังสือของโกวเล้งหลายทานเช่น ว.ณ. เมืองลุง,น.นพรัตน์ , แก้วชาย ธรรมาชัย, ไพโรจน์ อยู่มณเทียร และอีกหลายท่าน ที่นำมาลงนี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ........... "โก้วเล้ง" ถือเป็นนักเขียนกำลังภายในชื่อกระฉ่อน ได้ชื่อว่าแหวกแนวนิยายกำลังภายในรุ่นเก่าอย่างสิ้นเชิง เน้นพฤติกรรมตัวละคร ความขัดแย้งระหว่างบุคคล ความขัดแย้งภายในอารมณ์ของตัวละคร และความขัดแย้งในเหตุการณ์ เรื่อง"พิฆาตทรชน" ได้รับการตอบรับจากคอนิยายทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นการเริ่มต้นใช้นามปากกา"โก้วเล้ง"อย่างจริงจัง ช่วงต่อมานับเป็นยุคทองของโก้วเล้งแสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะ โก้วเล้งเขียนเรื่อง เซียวฮื่อยี้ได้รับความนิยมจนกลายเป็นนักเขียนมือหนึ่งของไต้หวันผลงานโดดเด่นที่สุดของเขาคือเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น สำหรับผลงานในช่วงพ.ศ.2513 มีผลงานมากมาย ชอลิ่วเฮียง-เล็กเซี่ยวหงส์-อินทรีผงาดฟ้า-ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่-จอมดาบหิมะแดง-ซาเสียวเอี้ย-จับอิดนึ้ง-เหยี่ยวนรกทะเลทราย-ทวนทมิฬ-ตะขอจำพราก ฯลฯ และยังผลงานของโก้วเล้งไปสร้างเป็นภาพยนตร์โด่งดังไปทั่ว ชีวิตส่วนตัวของโก้วเล้ง มีภรรยา 3 คน มีบุตร 2 คน โก้วเล้งนับเป็นคนที่มีคุณธรรมน้ำมิตร คบหาคนทุกระดับ นิยมชมชอบ 3 สิ่ง คือเพื่อน สุรา นารี ทำให้เขาไม่ค่อยมีทรัพย์สินที่มั่นคง ถึงแม้มีรายได้มหาศาลจากการเขียนหนังสือ ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเขาใช้เงินจำนวนมากกับการเที่ยวราตรีและดื่มสุรา โก้วเล้งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2528 ที่โรงพยาบาลซันจวิน กรุงไทเป ด้วยโรคตับแข็งเพราะการดื่มสุราหนัก รวมอายุ 48 ปี ในงานศพของโก้วเล้ง ฉีเส้าเฉียน ดาราหนังชื่อดัง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของโก้วเล้ง ถึงขนาดขนขวดเหล้าเอ็กซ์โอ 49 ขวดไปใส่ในโลงศพเพื่อเป็นการคารวะนักเขียนอมตะผู้นี้ หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 12:21:22 (http://chatkun.igetweb.com/article/art_487882.jpg) รำพึงในคืนค่ำ - คนผู้หนึ่งไม่อาจหนีตัวเองได้ ความผิดพลาดของตัวเอง ความเสียใจของตัวเอง ความรับผิดชอบของตัวเอง ล้วนแต่หนีไม่ได้ เนื่องเพราะนั่นคล้ายเป็นเงาของตัวเอง ซึ่งติดตามตนไปทุกแห่งหน ไม่อาจหนีรอดได้เด็ดขาด - คนเสเพล ปีศาจสุรา มิเห็นที่ใดไม่ดี นั่นยังประเสริฐกว่าวิญญูชนจอมปลอม สวมหน้ากากออกหลอกลวงมากมายนัก หรือมิใช่ ? - ตอนนั้น เป็นเวลาที่ความรู้สึกเปราะบางที่สุดคนเรา เมื่ออยู่ในความว้าเหว่เปราะบาง มักจะกล่าววาจา ที่กระทั่งตัวเองก็นึกไม่ถึงจะเปล่งออกมาจากปากได้... - สุราอยู่ในจอก โคมไฟริบหรี่แสงเลือนราง มีสุราเหลืองขุ่น นี่มิใช่สุราดี แต่สุราดีหรือเลวหาได้อยู่ที่ตัวมันไม่... ...กลับอยู่ที่ท่านดื่มมันเวลาใด ? หากเป็นคนที่คับแค้นรันทดจนสุดซึ้ง มาตรว่าเป็นเมรัยรสเลิศในดินแดน ยามล่วงล้ำลำคอก็ขมฝาดจนบอกไม่ถูก - หากคนคุ้นเคยกับความเงียบเหงาว้าเหว่มาเนิ่นนานจนชาชินอย่างนั้น สำหรับกับมันแล้ว การรอคอยมิใช่เป็นการปวดร้าวทรมานอีกเลย (http://www.trytodream.com/image/marn.gif) หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 12:58:08 (http://img389.imageshack.us/img389/6193/pen145zb2.gif) เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว มีปราชญ์ผู้ทรงภูมิปัญญาท่านหนึ่ง กล่าวคำพูดที่ยากลืมเลือนตลอดกาล ท่านบอกว่า น้ำมิตรเกิดจากการสั่งสม แต่ความรักอุบัติอย่างกะทันหัน น้ำมิตรต้องผ่านการทดสอบของเวลา แต่ความรักมักบังเกิดในชั่วพริบตา ชั่วพริบตานั้นเจิดจ้าจำรัสปานใด สวยสดงดงามเพียงไหน ชั่วพริบตานั้นจะคงอยู่เป็นนิรันดร์ (http://img440.imageshack.us/img440/817/th432708r3jauu1wvzuv0.gif) ความหมายของชีวิตคือ ต่อสู้สืบไปไม่หยุด ขอเพียงท่านเข้าใจประการนี้ ชีวิตของท่าน ก็มิใช่ไร้ความหมายอีก ความคับแค้นลำเค็ญในชีวิตคน ความจริงเป็นการรอคอยให้ผู้คนไปสยบพิชิตด้วยตนเอง (http://img440.imageshack.us/img440/817/th432708r3jauu1wvzuv0.gif) มีเรื่องมากหลาย ที่พอจะบันดาลให้ผู้คนแก่ชรา คิดคะนึงหาสามารถบันดาลคนแก่ชรา เจ็บช้ำกังวลก็สามารถบันดาลให้คนแก่ชรา หากความทะเยอทะยานของผู้คนยิ่งใหญ่เกินไป มากหลายเกินไป ก็ต้องชรารวดเร็วยิ่งขึ้น ความทะเยอทะยาน ที่จริงก็เป็นความทุกข์ทรมาน ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ (http://ilovepenguin.exteen.com/images/pen1_49.gif) หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 13:27:29 โอ... สุดยอดมาก ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 13:29:36 (http://img389.imageshack.us/img389/6193/pen145zb2.gif) ..ความจริงข้าพเจ้าไม่ใช่รักการดื่มสุราที่สุด ข้าพเจ้ามิได้ชมชอบรสชาติของสุรา หากแต่เป็นเพื่อนในวงสุรา และ บรรยากาศในวงสุรา บรรยากาศเช่นนี้ มีแต่สุราจึงสร้างขึ้นได้ .. “เพราะเหตุใดสุรากับความเศร้าหมองจึงแยกกันไม่ออก สุราขังอยู่ในลำไส้ น้ำตาคั่งค้างอยู่ในหัวใจ ...” (http://img440.imageshack.us/img440/817/th432708r3jauu1wvzuv0.gif) ใบหน้าของมนุษย์เรา ความจริงก็เป็นหน้ากาก หน้ากากที่สามารถเปลี่ยนแปรไปกับสิ่งแวดล้อมและอารมณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้ใดสามารถสังเกตความลับที่แฝงอยู่ในใจของคนผู้นั้นออกจากสีหน้า มีหน้ากากเยี่ยงไร จะประณีตพิสดารเทียบเท่าใบหน้ามนุษย์ได้ ศักดิ์ศรียิ่งสูงส่ง ตำแหน่งฐานะยิ่งสูงส่ง หน้ากากที่สวมอยู่มักยิ่งไม่มีผู้คนสามารถมองทะลุเข้าไปได้ (http://img440.imageshack.us/img440/817/th432708r3jauu1wvzuv0.gif) “ ไม่มีการอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพราก ... หากไม่เคยหลั่งน้ำตาให้กับการจำพราก ไหนเลยล่วงรู้ถึงความสดชื่นของการอยู่ร่วม..” * คนที่ผิดหวังในความรัก หากทราบว่าผู้อื่นถูกทอดทิ้งเช่นกัน ความเจ็บปวดจะลดน้อยลงได้บ้าง * * คนที่เสียการพนัน เมื่อเห็นผู้อื่นเสียมากกว่ามันหลายเท่า จิตใจย่อมปลอดโปร่งกว่าเดิมได้บ้าง * (http://ilovepenguin.exteen.com/images/pen1_49.gif) หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 13:35:50 ..ความจริงข้าพเจ้าไม่ใช่รักการดื่มสุราที่สุด ข้าพเจ้ามิได้ชมชอบรสชาติของสุรา หากแต่เป็นเพื่อนในวงสุรา และ บรรยากาศในวงสุรา บรรยากาศเช่นนี้ มีแต่สุราจึงสร้างขึ้นได้ .. และนี่คือหนึ่งในคำพูดยอดฮิทของวงเหล้า ตั้งแต่ระดับบน จน ระดับล่าง ต่างชอบพูดคำนี้ในวงสุรา หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 14:27:43 (http://img389.imageshack.us/img389/6193/pen145zb2.gif) ท่านหากบังเกิดความรักต่อคนผู้หนึ่งอย่างจริงใจ ท่านจะพบว่าบุคคลที่ท่านห่วงใยกังวลที่สุด หาใช่ตนเอง หากแต่เป็นคนรักของท่าน นี่คือรักแท้ เนื่องเพราะในโลกมีความรักความผูกพันเช่นนี้ มนุษยชาติจึงสืบทอดมาตราบเท่าทุกวันนี้ (http://img440.imageshack.us/img440/817/th432708r3jauu1wvzuv0.gif) “ หากคิดโลมลูบความหอมละมุนของความรัก ก็ต้องแบกทานความเหน็ดเหนื่อยและรันทดท้อจากความรักด้วย” (http://img440.imageshack.us/img440/817/th432708r3jauu1wvzuv0.gif) วาจาบางประการ ก็มีแต่ดื่มสุรามากหลายจอกแล้วจึงบอกออกมาได้ บางครั้งดื่มกันสองคนจึงสมใจ มากอีกผู้หนึ่งก็จะรู้สึกแออัดเกินไปแล้ว ดื่มสุราให้เมามาย มิใช่เป็นเรื่องยากเย็นอย่างไร แต่คนที่มีความเศร้าเสียใจยิ่งยาก จำนวนการเมามายก็ยิ่งยากตาม ยิ่งคิดดื่มให้เมา กลับพานเป็นไม่เมาง่ายดายไปแล้ว (http://ilovepenguin.exteen.com/images/pen1_49.gif) Credit by : http://chatkun.igetweb.com/index.php?mo=5&qid=531063 (http://chatkun.igetweb.com/index.php?mo=5&qid=531063) : อกาลิโกโฮม : ใต้ร่มธรรมดอทเน็ท ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย อนุโมทนาสาธุค่ะ หัวข้อ: Re: ธรรมะในยุทธจักร จากโกวเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 พฤศจิกายน 2553 15:18:47 (http://img70.imageshack.us/img70/9862/99pe.jpg) http://www.youtube.com/v/hlofI9AiliY?fs=1&hl=en_US ความหมายของชีวิตคือ ต่อสู้สืบไปไม่หยุด ขอเพียงท่านเข้าใจประการนี้ ชีวิตของท่าน ก็มิใช่ไร้ความหมายอีก ความคับแค้นลำเค็ญในชีวิตคน ความจริงเป็นการรอคอยให้ผู้คนไปสยบพิชิตด้วยตนเอง |