[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
13 พฤษภาคม 2567 17:41:13 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - หนี้สินเกษตรกร กับปัญหา PM 2.5 ในภาคการเกษตร  (อ่าน 28 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 มีนาคม 2567 23:26:36 »

หนี้สินเกษตรกร กับปัญหา PM 2.5 ในภาคการเกษตร
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-03-08 22:15</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>เพ็ญนภา หงษ์ทอง</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภาคเกษตรเป็นต้นกำเนิดที่สำคัญของฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน โดยมี “การเผา” เป็นปัจจัยสำคัญ หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะลดความรุนแรงของปัญหา PM 2.5 ด้วยการควบคุมการเผาในภาคเกษตร ทั้งด้วยการ “สั่ง” และ “ส่งเสริม” ให้หยุดเผา แต่นโยบายเหล่านั้นไม่อาจส่งผลในทางปฏิบัติ ตราบที่รัฐมองไม่เห็นว่า “การเผา” ในภาคเกษตรเป็นปัญหาโครงสร้าง ที่เชื่อมโยงไปถึงหนี้สินเกษตรกร ไม่ใช่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะแก้ไขได้ด้วยมาตรการเฉพาะหน้า</p>
<p>ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ซึ่งใช้ดาวเทียมในการตรวจวัดจุดความร้อน พบว่าปี 2566  ซึ่งเป็นปีที่สถานการณ์มลพิษทางอากาศของประเทศไทยรุนแรงสุดในรอบ 5 ปี โดยเฉพาะ 4 เดือนแรก ที่ชาวไทยมีจำนวนวันที่อากาศสะอาดให้สูดลมหายใจกันลึกๆ ได้น้อยมาก เป็นปีที่มีจำนวนจุดความร้อนในภาคเกษตรสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเมื่อจำแนกร้อยละของจุดความร้อนตามพื้นที่เกษตรก็พบว่าพบมากสุดในพื้นที่นาข้าว ทั้งข้าวนาปีและนาปรัง  รองลงมาคือในไร่ข้าวโพด และไร่อ้อย สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่พบว่าข้าว ข้าวโพด และ อ้อย เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่มีการเผามากที่สุด </p>
<p>สิ่งที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยายามทำเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีต้นกำเนิดจากภาคการเกษตรคือ การรรณรงค์ให้ลดและเลิกการเผา เช่น กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินโครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร โดยเน้นการอบรมเกษตรกรและสร้างเครือข่ายเกษตรปลอดการเผา กรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินการส่งเสริมการไถกลบและผลิตปุ๋ยอินทรีย์ กรมการข้าว ลดการเผาตอซังข้าว สำนักงานเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมดำเนินโครงการส่งสเริมระบบวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน  การเฝ้าระวังการเผาซากวัชพืช และวัสดุทางการเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน กรมปศุสัตว์ ส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ให้นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาสร้างมูลค่าเพิ่มทดแทนการเผาทิ้ง แต่การเผาในพื้นที่การเกษตรก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมาตรการการลดการเผาที่กล่าวมานั้นไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการเผาได้
การจะลดการเผาในภาคเกษตรให้ได้ผล ต้องเข้าใจหลักการและเหตุผลที่เกษตรกรต้องทำการเผาในพื้นที่เกษตรของตนเองก่อน</p>
<p>การเผาเป็นกิจกรรมทางการเกษตรที่เกษตรมักทำในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว อาจจะก่อนหรือหลังการเก็บเกี่ยว ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการปลูกพืชชนิดใด พื้นที่นาข้าว ชาวนาจะเผาตอซังฟางข้าว ก่อนไถเตรียมดิน เพื่อความสะดวกในการไถเตรียมดิน สำหรับการเพาะปลูกข้าวในฤดูต่อไป ไร่อ้อย จะมีทั้งการเผาก่อนและหลังเก็บเกี่ยว การเผาก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อความสะดวกในการตัดอ้อยและลดต้นทุนค่าจ้างตัด ส่วนการเผาหลังเก็บเกี่ยวจะทำเพื่อเผาใบอ้อยที่อยู่ในไร่ เพื่อป้องกันไฟไหม้ในช่วงอ้อยแตกหน่อใหม่ หรือเพื่อความสะดวกในการไถเตรียมดิน ในกรณีจะรื้อตออ้อยเพื่อปลูกอ้อยรอบใหม่ ส่วนไร่ข้าวโพด เกษตรกรจะเผาต้นและใบข้าวโพดในแปลงหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อความสะดวกในการไถเตรียมดิน</p>
<p>แล้วทำไมถึงต้องเผา ทั้งที่ปัจจุบันมีเครื่องจักรและเทคโนโลยีทางการเกษตรให้ใช้มากมาย คำตอบคือเพราะการเผาใช้ต้นทุนถูกกว่ามากทั้งต้นทุนด้านการเงินและแรงงาน เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี ทั้งรถไถกลบ ทั้งแทรกเตอร์ที่ช่วยเตรียมดินได้ดี ทั้งรถเกี่ยวผลผลิต การเผายังสะดวก และทำให้ร่นระยะเวลาในการทำการเกษตรได้ ฐานะการเงินของเกษตรกรไทยที่ยังวนเวียนติดกับดักภาระหนี้สินอย่างชนิดที่หาทางออกไม่ได้ สิ่งไหนที่ลดต้นทุนการผลิตได้สิ่งนั้นย่อมเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด</p>
<p>ตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าปี 2556-2564 เกษตรกรไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 20,000 – 23,000 บาท ขณะที่รายจ่ายต่อเดือนซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 17,000 บาทต่อเดือน ยังไม่รวมการชำระหนี้สินที่แบกอยู่เต็ม 2 บ่า ปี 2556 2564 หนี้สินเฉลี่ยของครัวเรือนเกษตรกรไทยอยู่ที่ 168,119 – 311,098 บาท โดยมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเป็นเจ้าหนี้หลัก</p>
<p>การจะลดหรือเลิกการเผาพื้นที่จึงเป็นเรื่องยาก เพราะมันหมายถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น </p>
<p>การจะทำให้เกษตรกรลดหรือเลิกเผาจะเกิดขึ้นได้จริงต่อเมื่อมีมาตรการจูงใจที่ส่งผลบวกต่อการลดหนี้สินหรือเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ไม่ใช่เพียงการรณรงค์ด้วยมาตรการของกระทรวงเกษตรดังกล่าวมาข้างต้น ซึ่งประเด็นนี้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ได้ลุกขึ้นมาทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว โดยใช้ปัจจัยทางการเงินมาสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรไร่อ้อยเลิกเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยว มาตรการที่สำคัญคือมาตรการราคาที่มีการกำหนดให้ค่าส่วนต่างระหว่างอ้อยสดกับอ้อยเผาใบหรือบางครั้งเรียกว่าอ้อยไฟไหม้แตกต่างกันอย่างชัดเจน นอกจากจะกำหนดราคาโดยวัดค่าความหวาน (CCS) ซึ่งอ้อยสดจะมีค่าความหวานสูงกว่าอ้อยเผาใบทำให้โรงงานซื้อในราคาสูงกว่าแล้ว เกษตรกรที่ตัดอ้อยสดยังได้รับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ 120 บาท ต่อตันอ้อยอีกด้วย นอกจากนี้อุตสาหกรรมน้ำตาลยังมีมาตรการจูงใจอื่นๆ ให้กับเกษตรกร เช่น โรงงานน้ำตาลมิตรผลรับซื้อใบอ้อยอัดก้อนจากเกษตรกรในราคาตันละ 1,000 บาท เพื่อนำไปใช้ผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล เปลี่ยนใบอ้อยที่เคยถูกเกษตรกรเผาทิ้งให้กลายเป็นแหล่งรายได้เสริม แน่นอนว่าทำให้การเผาในไร่อ้อยลดปริมาณลง</p>
<p>ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไร่อ้อยและน้ำตาล เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรเองก็พร้อมที่จะลดและเลิกการเผา หากมันช่วยลดต้นทุนการผลิตและทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้น </p>
<p><strong>ปัจจุบันการทำไร่อ้อยแบบปลอดการเผายังคงเกิดขึ้นในพื้นที่จำกัด ซึ่งเกษตรกรไร่อ้อยเองเคยออกมาบอกว่าการทำไร่อ้อยแบบปลอดการเผาจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น หากได้รับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการเช่าซื้อเครื่องจักร เช่นรถตัดอ้อยสด หรือรถไถขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องสับใบอ้อย ไปจนถึงการสนับสนุนพันธุ์อ้อยที่กาบใบหลุดร่วงง่าย </strong>
 
ในส่วนของไร่ข้าวโพดและนาข้าว ยังไม่พบว่ามีการเชื่อมโยงปัญหารายได้และหนี้สินเกษตรกรเข้ากับปัญหาการเผา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ PM 2.5 อย่างเป็นระบบ มีเพียงบริษัท SCG ที่ดำเนินโครงการรับซื้อฟางข้าวจากชาวนาเพื่อลดปัญหาการเผาฟางข้าว โดยจะนำฟางไปใช้เป็นพลังงานทดแทนในโรงงานปูนซีเมนต์  ซึ่งพบว่ามีการทำโครงการร่วมกับชาวนาบางกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรบางส่วนนำฟางข้าวมาเพาะเห็ดฟาง สร้างรายได้เสริม  แต่กิจกรรมเหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐในฐานะส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา PM 2.5 จากภาคเกษตรอย่างเป็นระบบ</p>
<p><strong>ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่แสดงเห็นว่าการขับเคลื่อนของภาครัฐเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 ควรต้องเริ่มจากการเปลี่ยนทัศนคติในการมองปัญหาฝุ่นจากการเผาไหม้ในภาคเกษตร จากปัญหาสิ่งแวดล้อม ให้เป้นปัญหาโครงสร้างของภาคเกษตร ซึ่งเกี่ยวโยงกับปัญหานี้สินเกษตรกรก่อนจึงจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด </strong> 
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทคhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108357
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ไทยรัฐ] - 14 เมษายน วันครอบครัว กับปัญหา “ครอบครัวไทย” และการเลี้ยงลูกไม่ถูกวิธี
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 134 กระทู้ล่าสุด 14 เมษายน 2566 10:06:50
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงมูโนะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 390 กระทู้ล่าสุด 02 สิงหาคม 2566 14:49:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - องค์กรพิทักษ์สัตว์เรียกร้องให้เพิ่มเรื่องสวัสดิภาพสัตว์และห้ามใช้ยาปฏิชีวน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 402 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 15:31:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - คาดแบงก์พาณิชย์ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 307 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:04:42
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวเด่น] - ย้อนดูกรณีนักการเมือง “พรรคก้าวไกล” กับปัญหา “คุกคามทางเพศ” ที่สังคมตั้งคำถาม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 65 กระทู้ล่าสุด 12 ตุลาคม 2566 12:49:24
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.186 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 08 เมษายน 2567 02:59:12