สวดมนต์อย่างเดียวสามารถไปพระนิพพานได้หรือไม่
ถาม : ถ้าอารมณ์จิตชอบสวดมนต์ภาวนาจะพอไหมคะ..? ตอบ : เหลือเฟือเลยจ้ะ การสวดมนต์ภาวนา ถ้าสวดเป็นไปพระนิพพานได้ง่ายที่สุด
ให้ตั้งใจยกจิตขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพาน แล้วอธิษฐานสวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา ถ้ายังไม่จบเราจะไม่ลง
เมื่อมีงานให้ทำ ใจจะเกาะอยู่ที่พระนิพพานได้นาน
พวกที่ได้มโนมยิทธิให้ลองสังเกตดูว่า อารมณ์พระนิพพานจริง ๆ นั้น ยังไม่ใช่อารมณ์ใจที่แท้จริงของเรา
เพราะฉะนั้น..เราจึงเกาะได้น้อย เกาะได้ไม่นาน บางทีไม่ทันจะรู้ตัว ก็หล่นลงมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
เมื่อรู้ตัวแล้วถึงค่อยขึ้นไปใหม่
แต่ถ้าหากว่ามีงานทำอยู่ พอจิตมีงานทำ มีอะไรให้เกาะ ก็ทรงตัวอยู่ตรงนั้น เพราะเราตั้งใจว่า ถ้ายังสวดมนต์ไม่จบ
เราจะไม่ลง ทำลักษณะนั้นบ่อย ๆ แล้วขยายเวลาให้ยาวขึ้นไปเรื่อย ๆ หาเรื่องสวดมนต์ให้มาก ๆ บทหน่อย
พออยู่ไปนานเข้าจิตจะชินกับอารมณ์พระนิพพาน พอชินก็จะเกาะพระนิพพานได้นานขึ้น ไม่ใช่ขึ้นไปวินาทีหนึ่ง
ยังไม่ทันจะได้เห็นหน้าพระก็หล่นลงมาแล้ว
ถามว่าสวดมนต์อย่างเดียวพอที่จะไปพระนิพพานไหม ? ถ้าทำเป็นก็พอ ถ้าอยากจะทำในลักษณะทิพจักขุญาณ
เวลาสวดมนต์ก็ให้นึกถึงตัวหนังสือไปด้วย "อิติปิโส ภควาฯ" ให้เห็นเป็นคำ ๆ ไปเลย ถ้าเห็นได้ชัดเจนเท่าไร
เวลาเราดูผีดูเทวดา เราก็จะเห็นได้ชัดเจนเท่านั้น กลายเป็นว่าทำเป็นไหม ? ทำเป็นก็ทำได้ทุกคน ใช้ได้ทุกอย่าง
อย่าลืมว่า กรรมฐาน ๔๐ นั้น ที่อารมณ์ทรงตัวจริง ๆ คือ อานาปานสติ และกสิณ ๑๐ อารมณ์อื่น
จะเป็นอารมณ์พิจารณาบ้าง อารมณ์แค่อุปจารสมาธิบ้าง อารมณ์แค่ปฐมฌานบ้าง แต่ว่าที่หลวงพ่อวัดท่าซุง
สอนพวกเรามา ท่านจับเป็นฌาน ๔ หมด ต่อสมาบัติ ๘ ให้เลยด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้น..
จึงขึ้นอยู่กับเราว่าทำเป็นไหม ? ถ้าทำเป็น แม้แต่การสวดมนต์ก็สามารถดัดแปลงใช้งานได้ทั้งหมด…
__________________
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕