[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 พฤษภาคม 2567 16:10:08 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
กระบวนการ NEW AGE


.:::

เปลี่ยนแง่คิด ชีวิตเปลี่ยน เข้าใจพลังงานที่ขับเคลื่อนจักรวาลว่าเป็นพลังงานความรัก

:::.
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปลี่ยนแง่คิด ชีวิตเปลี่ยน เข้าใจพลังงานที่ขับเคลื่อนจักรวาลว่าเป็นพลังงานความรัก  (อ่าน 1894 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5081


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 18.0.1025.162 Chrome 18.0.1025.162


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 27 เมษายน 2555 03:03:51 »



by Kornkarn Bhamarapravati on Wednesday, July 13, 2011 at 12:50am

ผู้ เขียนถูกเลี้ยงมาให้อยู่กับความกลัวคนที่เขาสอนให้เรากลัวก็ไม่รู้ตัวว่าให้ อะไรกับเรา กลัวพ่อแม่ไม่รัก กลัวครูไม่รัก  กลัวสอบไม่ได้ที่ ๑  (แล้วแม่จะไม่รัก) กลัวเอ็นไม่ติด กลัวพ่อแม่เสียใจ   ทางศาสนาก็บอกว่าเราเกิดมาใช้กรรม (เกิดมาก็ติดลบแล้ว  เมื่อไหร่จะใช้หมด)  ตอนนี้ก็มีข่าวภัยธรรมชาติ น้ำจะท่วม แผ่นดินไหว  สึนามิจะมา  เลยมานั่งคิดว่านี่หรือคือชีวิต ติดอยู่กับความกลัว
 
เคยถามลูกชายว่า เขาเกิดมาทำไม เขาบอกว่าเกิดมาเพื่อหาประสพการณ์
 
ได้ ยินจากผู้รู้ต่างประเทศว่า จิตเดิมแท้ของเรานั้นยิ่งใหญ่มากค่า  แต่เรามาเกิดเป็นมนุษย์โดยมีข้อจำกัดของม่านกำบังระหว่างมิติโลกกับ  "บ้านที่จากมา" พลังงานจากรังสีคอสมิคในปัจจุบันลดความหนาของม่าน  ทำให้บางคน หรือรุ่นเด็กๆ สัมผัสข้อมูลต่างมิติ ข้อมูลข้ามชาติภพ  ข้อมูลสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้มากขึ้น  การสัมผัสนี้เดิมได้มาโดยผู้ปฏิบัติจิตขั้นสูง เช่นนักบวช  แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่มนุษย์โลกทุกคนเข้าสู่โค้งสุดท้ายแห่งการกลับบ้าน  จะเดินช้า เดินเร็ว หรือเดินวนไปมาเท่านั้น  แต่เป็นการกลับบ้านที่บ้านมาอยู่กับเรา  ไม่ใช่การกลับบ้านที่ต้องทิ้งสังขารคืนแม่พระธรณี   คือเมื่อจิตสั่นสะเทือนระดับละเอียด  ไม่เปลืองพลังงานในการยึดติดอารมณ์ทั้งหลาย  เป็นผู้สังเกตการณ์ความเป็นไปโดยไม่ต้องตัดสิน อยู่กับปัจจุบันขณะ  ไม่ยึดอัตตาแห่งมายาสามมิตินี้  จิตเต็มไปด้วยความรักตนเองรักผู้อื่นโดยไม่ตัดสินเขา และรักสรรพสิ่ง  นั่นคือบ้านลงมาหาเรา  ทุกอย่างจะสัมผัสได้เองไม่ต้องไปขอให้ใครดูให้  เปรียบดังอยู่ในดินแดนทิพย์ขณะมีร่างกายเนื้อบนโลกมนุษย์นั่นเอง  ตอนนี้คิดว่าเด็กอายุ ๑๗ รู้สัจจธรรมมากกว่าแม่แล้วค่ะ  กำลังคิดว่าเราเกิดมาเพื่อหาประสพการณ์จริงๆใช่ไหม
 
จริงๆ  แล้วเราไม่ได้รับความทุกข์ยากในชีวิตเพื่อใช้หนี้กรรมหรอกค่ะ  มันเป็นจุดหักเหที่ทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงตามธรรมชาติของจักรวาล  สำหรับคนที่เกิดการตื่นรู้ขึ้นมา  เชื่อหรือไม่ว่าเราเป็นคนวางอุปสรรคเหล่านั้นไว้ในแผนชีวิต  แต่เมื่อเกิดมาอยู่ในพลังงานหนักที่ครอบคลุมโลกเราจะ...ลืมแผนเหล่านั้น  ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าเมื่อเจอข้อสอบเราเลือกวางกำลังใจอย่างไร  จะคิดดีในพลังงานความรักว่ามีน้ำตั้งครึ่งแก้ว หรือคิดลบถามแต่ทำไมๆ  จึงถูกขโมยน้ำไป
 
จิตวิญญาณลงมาเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อทำงานทาง จิตวิญญาณชิ้นหนึ่ง  หรือเรียนรู้ประสพการณ์เพื่อเพิ่มเติมให้กับแก่นของจิตวิญญาณ (core soul)  ซึ่งไม่สูญสลายหลังความตายในมิติแห่งมนุษย์ กรรมเป็นบทบาทในการใช้ชีวิต  ข้อบังคับในโลกมิติที่สามนี้เป็นสองขั้ว (duality) มีขาวกับดำ ผิดและถูก  ชั่วและดี เมื่อเราเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์  ไม่เสียพลังงานชีวิตไปกับการตัดสินใคร  ก็ไม่รับพลังงานจากผู้อื่นทั้งหยาบและละเอียดมาแปดเปื้อนสนามพลังงานของตน  จึงรักษาความถี่การสั่นสะเทือนของตนเองไว้ได้ง่าย  โอกาสจะพัฒนาความสั่นสะเทือนของจิตให้ละเอียดขึ้นก็เกิดง่ายเพราะจะดึงดูด ญาติธรรมความถี่ใกล้เคียงกัน (soul family) มาเสริมกันโดยธรรมชาติ  เหมือนคลื่นเฟสเดียวกันรวมกันได้แอมพลิจูดที่สูงขึ้นนั่นเอง Law of  Attraction ช่วยนำกัลยาณมิตรมาพบกันส่งเสริมกันค่ะ
 
เหตุการณ์ ต่างๆในโลกปัจจุบันดึงอารมณ์ร่วมของผู้เสพย์ข่าวให้ดำดิ่งลงสู่ความกลัว  ซึ่งเป็นคลื่นสั่นสะเทือนระดับต่ำทำให้จิตเศร้าหมอง  จักรวาลมีกฏแห่งแรงดึงดูด กฏนี้ไม่รู้จักคำว่าไม่เอา ไม่ชอบ  คุณมีอารมณ์ร่วมเรื่องใดจักรวาลจัดให้ในไม่นาน  ดังนั้นแทนที่จะกลัวปฏิวัติรัฐประหาร  ลองนึกว่าขอขอบคุณในความสบสุขที่จะมีมาสู่บ้านเมือง  แทนที่จะกลัวภัยพิบัติธรรมชาติ  มานึกว่าขอขอบคุณในความสมดุลธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ที่จะมาถึงดีไหมคะ
 
ถ้า จิตเราสั่นสะเทือนต่ำๆ กว่าจักรวาลจะดึงดูดมาก็มี time lag  นานจนจำไม่ได้แล้ว แต่ถ้าจิตสั่นสะเทือนสูงขึ้น เช่นความรักความเมตตา  ไม่ติดอารมณ์ฝ่ายลบ จะดึงดูดได้เร็วขึ้นค่ะ  ตัวอย่างคือหลวงพ่อหลวงปู่ผู้ทรงคุณทั้งหลาย  ท่านเมตตาอย่างเดียวลูกศิษย์ลูกหาไม่เคยอดไงคะ

 (:LOVE:)https://www.facebook.com/groups/AscensionThailand/doc/375640322451444/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.441 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 26 กุมภาพันธ์ 2567 10:37:54