[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
17 พฤษภาคม 2567 04:33:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - Prof.Zam: “เราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ ถึงจะมีสันติภาพ” ในปาตานี/ชายแดนใต้  (อ่าน 87 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 15:28:56 »

Prof.Zam: “เราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ ถึงจะมีสันติภาพ” ในปาตานี/ชายแดนใต้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-12 12:56</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>Prof.Zam นักวิจัยสันติภาพและผู้ประสานงานเครือข่ายศึกษาความขัดแย้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งคำถามถึงการสร้างสันติภาพในบริบทปาตานี/ชายแดนใต้ ชี้อุปสรรคใหญ่ของการสร้างวัฒนธรรมสันติภาพ มีอำนาจกดทับและความยุติธรรมไม่มี ประชาชนเห็นแตกต่างกันและการไม่มีเอกภาพ กระบวนการเจรจาที่เชื่องช้า ไม่เรียนรู้อดีตและต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง ถ้าจะให้เร็วต้องสมดุลทั้งสองฝ่าย ความครอบคลุมจึงสำคัญและมี Road Map บอกสิ่งที่อยากจะบรรลุ เสนอ 8 ข้อที่ต้องทำเพื่อสร้างปาตานีใหม่ (Patani Baru) ที่มีสันติภาพ</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53110832543_f09074ed3c_o_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">Kamarulzaman Askandar หรือ Prof.Zam ผู้ประสานงานการวิจัยและการศึกษาเพื่อสันติภาพที่ Universiti Sains Malaysia (REPUSM) และยังเป็นผู้ประสานงานระดับภูมิภาคสำหรับเครือข่ายศึกษาความขัดแย้งแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEACSN) ผู้สนับสนุนกิจกรรมสร้างสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งขัน</span></p>
<p>แม้ว่า กระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับตัวแทนขบวนการ BRN เพื่อหาทางออกจาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานขณะนี้ ดูเหมือนจะยังไม่คืบหน้าอะไร เพราะไม่รู้เมื่อไหร่ประเทศไทยจะได้ตั้งรัฐบาลซักที</p>
<p>แต่สำหรับคนในพื้นที่ชายแดนใต้/ปาตานีแล้ว ตลอดระยะเวลา 10 ปีของกระบวนการพูดคุยสันติภาพ(เริ่มตั้งแต่ปี 2556) นั้น ได้สร้างการเรียนรู้และบทเรียนมาพอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการ แม้กระทั่งคนที่อยู่ในกระบวนการพูดคุยเองในฐานะหุ้นส่วนสันติภาพ </p>
<p>ส่วนหนึ่งก็มาจากการสนับสนุนชุดข้อมูล/ความรู้/ข้อคิด/ข้อเสนอแนะ ฯลฯ ของนักวิชาการคนสำคัญอย่าง “Kamarulzaman Askandar” ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไม่รู้จัก แต่คนในพื้นที่จะเรียกกันว่า Prof.Zam </p>
<p>Prof.Zam เป็นผู้ประสานงานการวิจัยและการศึกษาเพื่อสันติภาพที่ Universiti Sains Malaysia (REPUSM) และยังเป็นผู้ประสานงานระดับภูมิภาคสำหรับเครือข่ายศึกษาความขัดแย้งแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEACSN) เขาสนับสนุนกิจกรรมสร้างสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาเจะห์ อินโดนีเซีย มินดาเนา ฟิลิปปินส์ และภาคใต้ของไทย</p>
<p>ในโอกาสที่ สถาบันปาตานีเพื่อการวิจัยและพัฒนามนุษย์ (INSANI) สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) และเครือข่ายผู้นำอิสลามปาตานี (JAKIP) จัดงานระดมทุนจัดตั้ง “กองทุนองค์กรภาคประชาสังคมปาตานี” (BINA Patani) เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้เชิญ Prof.Zam มาให้ความรู้เรื่อง “บทบาทของสันติศึกษาในการสร้างวัฒนธรรมสันติภาพ”</p>
<p>การบรรยายครั้งนี้มีเนื้อหาน่าสนใจต่อความพยายามในการสร้างสันติภาพ/สันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี แม้ Prof.Zam จะบอกว่ารู้สึกลำบากใจที่จะพูดถึงเรื่องความขัดแย้งและสันติภาพ ในฐานะคนมาเลเซียที่ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกับคนที่อยู่ในพื้นที่ขัดแย้งโดยตรง</p>
<h2 style="text-align: center;"><span style="color:#3498db;"><strong>0 0 0</strong></span></h2>
<p>“เมื่อพูดถึงสันติภาพก็ต้องพูดถึงความขัดแย้ง เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน เพื่อทำความเข้าใจวัฒนธรรมสันติภาพ ก็ต้องทำความเข้าใจวัฒนธรรมของความขัดแย้งและการใช้ความรุนแรง</p>
<p>อะไรคือการสร้างสันติภาพ คิดว่าพี่น้องหลายคนคงจะรู้และรู้สึกได้ในฐานะคนที่อยู่ในปาตานี</p>
<p>ถ้าดูอย่างผิวเผิน สันติภาพก็คือการไม่มีความรุนแรง ไม่มีสงคราม แต่เพียงพอหรือยังที่จะอธิบายความหมายของสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สันติภาพไม่ใช่แค่ไม่มีความรุนแรง</span></h2>
<p>สันติภาพไม่ได้หมายถึงการไม่มีความรุนแรง ทั้งทางโดยตรงและทางอ้อม ทั้งจากการกระทำของฝ่ายหนึ่งต่ออีกฝ่ายหนึ่ง แต่ยังรวมถึงการไม่มีความรุนแรงในเชิงโครงสร้างในสังคมที่ส่งผลทำให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง การกดดัน การข่มเหงรังแกหรือการฆาตกรรมคนในสังคมนั้นขึ้นมา </p>
<p>สิ่งที่เราไม่ต้องการคือความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เราไม่ต้องการกฎหมายที่กดขี่สังคม เราไม่ต้องการกฎหมายทหารหรือกฎอัยการศึกที่บังคับใช้ในสังคมอย่างเข้มงวด ถ้าเราต้องการสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องมีกลไกจัดการความขัดแย้ง</span></h2>
<p>สันติภาพคือสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงการมีความยุติธรรม เราจะดูว่าสังคมของเรามีความยุติธรรมหรือไม่ ไม่ใช่ดูเพียงแค่ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่หมายถึงการได้รับความยุติธรรมอย่างต่อเนื่องยาวนานมาเป็นสิบเป็นร้อยปีและตลอดไป 
สังคมจำเป็นต้องมีความยุติธรรม มีกลไกที่จะจัดการและแก้ปัญหาความขัดแย้ง ไม่ว่าความขัดแย้งนั้นจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ตาม</p>
<p>เมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้น เราจะมีกี่วิธีการในการจัดการความขัดแย้ง เรามีกลไกอะไรบ้างที่เราสร้างขึ้นเพื่อจะหาทางออกจากความขัดแย้ง </p>
<h2><span style="color:#3498db;">ถ้ายังรู้สึกหวาดกลัว เราก็ยังไม่มีสันติภาพ</span></h2>
<p>การสร้างสันติภาพอ้างอิงถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของมนุษย์ Human Security </p>
<p>ในสังคมเรามีความรู้สึกหวาดกลัวหรือไม่ ถ้ายังมีความรู้สึกหวาดกลัวก็หมายความว่าเรายังไม่มีสันติภาพ ความกลัวคืออะไร ความกลัวเป็นเหตุทำให้สังคมสร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน เพราะเรากลัวความไม่ปลอดภัย</p>
<p>เราจะพูดคุยเราก็หวาดกลัว ที่ปาตานีเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้นที่เราสามารถพูดคุยกันเรื่องนี้ได้ เมื่อก่อนเราจะพูดคุยเรื่องความขัดแย้งและสันติภาพอย่างเปิดเผยไม่ได้ เพราะเรากลัว ยิ่งมีกฎหมายควบคุมเราอยู่เราก็ไม่สามารถส่งเสียงในสิ่งที่เราต้องการได้ </p>
<p>เราเป็นอิสระจากความกลัวหรือไม่ เราสามารถทำตามความปรารถนาได้หรือไม่ เราไม่มีความเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ เรามีส่วนร่วมในสังคมหรือไม่</p>
<h2><span style="color:#3498db;">มีอิสระเสรีทางด้านอัตลักษณ์และศักดิ์ศรี</span></h2>
<p>เราเคยได้ยินมาว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยากจนที่สุดในประเทศ นั่นแสดงว่าเราไม่มีความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการพัฒนา ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการมีสันติภาพ</p>
<p>ท้ายที่สุดก็คืออัตลักษณ์และศักดิ์ศรีของเราเป็นอย่างไร อัตลักษณ์ของเราคือความเป็นมลายูอิสลามปาตานี เรามีอิสรเสรีอย่างไรในการที่จะแสดงออกทางด้านอัตลักษณ์ และมีศักดิ์ศรีในฐานะอัตลักษณ์แห่งชาติ หรือไม่ นี่คือเงื่อนไขหนึ่งของการมีสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">วัฒนธรรมสันติภาพกับวัฒนธรรมความรุนแรง </span></h2>
<p>วัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติของสังคม เมื่อมีความขัดแย้งก็จะมีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ในสังคม</p>
<p>เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วมีทหารตำรวจเข้ามาจัดการ หรือมีการตอบโต้ขึ้นมาก็เป็นเรื่องปกติ นี่คือวัฒนธรรมของความรุนแรง คือมีปฏิบัติการแล้วมีการต่อต้านหรือตอบโต้ขึ้นมา</p>
<p>ความรุนแรงเป็นธรรมชาติหนึ่งของชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะบางทีเราเองก็ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ในครอบครัวหรือในสังคม </p>
<p>แล้วอะไรบ้างที่เราต้องทำเพื่อปฏิเสธวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรง ในที่นี้ให้เรามุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งที่รากเหง้า</span></h2>
<p>ตามความหมายของ UNESCO วัฒนธรรมสันติภาพคือวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ คุณค่า พฤติกรรมที่เคารพถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคลหรือเชื้อชาติ ศักดิ์ศรีเหล่านี้ต้องได้รับการเคารพจากผู้อื่น </p>
<p>ผู้ผลักดันสันติภาพทุกคนต้องผลักดันสันติภาพตั้งแต่คนเล็กๆ ไปจนถึงคนใหญ่คนโต ต้องป้องกันความขัดแย้งเพราะเป็นสาเหตุหนึ่งของความรุนแรงที่เรามองเห็นได้อย่างเปิดเผย แต่ไม่ได้หมายความว่าความขัดแย้งทั้งหมดจะเป็นสาเหตุของความรุนแรง</p>
<p>ดังนั้น เพื่อจะแก้ปัญหาความขัดแย้งแบบเบ็ดเสร็จ เราจำเป็นต้องค้นหาสาเหตุรากเหง้าว่าอะไรคือต้นเหตุของความขัดแย้ง เราต้องมีวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่รากเหง้า</p>
<h2><span style="color:#3498db;">แต่รัฐกับขบวนการมองต่างกัน</span></h2>
<p>ผมติดตามกระบวนการสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มชาวมลายูปัตตานีที่มีคนในขบวนการต่าง ๆ เป็นตัวแทน พบว่า บนโต๊ะพูดคุยยังไม่มีผลลัพธ์อะไรมากนัก เพราะอะไร ผมก็จะตอบว่า แม้ทั้งสองฝ่ายจะนั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้อ่านหนังสือหน้าเดียวกัน เพราะฝ่ายรัฐไทยมองสถานการณ์ในปาตานีเป็นเรื่องความไม่สงบ จึงแก้ปัญหาโดยนำทหารและกฎหมายทหารเข้ามาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย ด้วยการกดความรุนแรงเอาไว้</p>
<p>ถามว่า สิ่งเหล่านี้จะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้หรือไม่ มองอย่างผิวเผินอาจจะใช่ แต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ </p>
<p>แล้วตัวแทนของรัฐบาลไทย และ ฝ่ายขบวนการมองความขัดแย้งอย่างไร </p>
<p>ฝ่ายขบวนการมองความขัดแย้งในมุมของความยุติธรรมว่า ความยุติธรรมถือเป็นสาเหตุรากเหง้าหนึ่งของความขัดแย้ง สุดท้ายก็ต้องการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นเพื่อมุ่งไปสู่การมีสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องจัดการความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์</span></h2>
<p>เรามองว่า จำเป็นต้องจัดการกับความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ (historical injustices) เราต้องเชื่อมโยงกับสถานการณ์ในอดีตสมัยรัฐปาตานีเสียเอกราชเมื่อปี ค.ศ.1976 กระทั่งเกิดกลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อจะกอบกู้รัฐ อัตลักษณ์และศักดิ์ศรีของปาตานีกลับคืนมา จากนั้นก็เกิดประวัติศาสตร์การกดขี่ข่มเหงนานเท่าที่มีการลุกขึ้นสู้ของขบวนการ</p>
<p>สิ่งเหล่านี้เราต้องมีการจัดการและมองว่าเป็นปัญหารากเหง้า แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายที่นั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน แต่มีมุมมองที่ต่างกัน ผลลัพธ์ก็จะไม่เกิดขึ้น </p>
<h2><span style="color:#3498db;">เราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ ชีวิตถึงจะมีสันติภาพ</span></h2>
<p>ดังนั้น เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาที่รากเหง้าของความขัดแย้ง ไม่ใช่มองแค่ว่าพลเมืองปาตานียากจน ก็แค่แจกเงินหรือสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นมา ถามว่าจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ไหมถ้ามีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้น </p>
<p>ชีวิตเราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ เมื่อเรามีสิ่งก่อสร้างแล้วชีวิตเราจะมีความสุข ทั้งที่วิธีการนั้นต้องพึ่งพาคนอื่นมาสร้างให้เพื่อความสุขของเรา ผมคิดว่าไม่ </p>
<p>ในการป้องกันความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงและการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่รากเหง้า โดยใช้ความร่วมมือ การเจรจา การประนีประนอมและการยอมรับความแตกต่างในสังคม ถือเป็นแก่นแท้ของวัฒนธรรมสันติภาพ </p>
<p>เรารู้อยู่แล้วว่า การจะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ต้องใช้วิธีการพูดคุยร่วมกันและไม่ใช้ความรุนแรง เพราะหากมีการใช้ความรุนแรงมันก็จะทำลายกันทั้งสองฝ่าย</p>
<h2><span style="color:#3498db;">เป้าหมายหลักของการศึกษาสันติภาพ</span></h2>
<p>1. การเรียนรู้และปลูกฝังความตระหนัก ความห่วงใยและพฤติกรรมที่สามารถนำไปสู่ความสัมพันธ์ สภาพที่ดี และมีโครงสร้างทางสังคมที่สงบสุข</p>
<p>เหตุที่ต้องสร้างความตระหนักก็เพราะผลของการใช้ความรุนแรงจะนำไปสู่พฤติกรรมที่จะส่งผลด้านลบที่ร้ายแรง และพฤติกรรมด้านลบก็มาจากมุมมองทัศนคติด้านลบนั่นเอง ซึ่งเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนผ่านทัศนคติของเราไปสู่มุมมองที่ดีกว่า </p>
<p>2. การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม </p>
<p>3. สร้างวัฒนธรรมแห่งความเคารพและความสมานฉันท์ในสังคม</p>
<p>4. ปลูกฝังความสงบสันติภาพภายใน ซึ่งต้องเริ่มจากภายในของตัวเราเองก่อน ถ้าภายในตัวเราเองไม่มีความสันติ แล้วครอบครัวเรา สังคมเรา และประเทศของเราจะมีสันติภาพได้อย่างไร </p>
<p>5. ละทิ้งรูปแบบความคิดและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่สันติหรือมีการใช้กำลัง</p>
<p>6. เปลี่ยนวิธีคิด ทัศนคติ และค่านิยมของสังคม</p>
<p>7. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดหรือเพิ่มความรุนแรงของความขัดแย้ง</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สร้างวัฒนธรรมสันติภาพ ในบริบทของปาตานี</span></h2>
<p>นี่เป็นชุดข้อมูลความรู้ในภาพรวมทั่วไปที่ผมใช้สอนนักศึกษา แต่ในการศึกษาสันติภาพนั้นมีอะไรบ้างที่เราต้องทำ การศึกษาสันติภาพสามารถนำไปสร้างวัฒนธรรมสันติภาพที่ปาตานีได้อย่างไร </p>
<p>ในบริบทของปาตานี เราคงไม่สามารถนำยุทธศาสตร์เหล่านั้นมาใช้ได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่ต้องพิจารณาบริบทในภาคสนามด้วย เพราะสถานการณ์ในสนามจะเป็นตัวกำหนด</p>
<p>เรารับรู้ว่า ปาตานีเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน และมีการใช้อาวุธมายาวนาน เป็นความขัดแย้งทางสังคมและทางอาวุธที่ยืดเยื้อ แต่ไม่ได้รับความสนใจจากโลกซักเท่าไหร่? </p>
<p>คนนอกไม่ค่อยรับรู้เรื่องราวในปาตานีหรือในประเทศไทยมากนัก นี่ก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะการที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ ถ้ามีความเห็นจากภายนอก จากสังคมโลกก็จะส่งผลสะเทือนได้ แต่ขอโทษปัตตานีไม่ได้สำคัญมากสำหรับคนภายนอก ทำให้เราไม่ค่อยเห็นการช่วยเหลือจากภายนอกเข้ามาในปาตานีมากสักเท่าไหร่</p>
<h2><span style="color:#3498db;">อำนาจที่กดทับ ความยุติธรรมไม่มี</span></h2>
<p>บริบทของปาตานี ประกอบด้วย</p>
<p>ㆍอัตลักษณ์ ค่านิยมและความต้องการของคนชายขอบ เป็นสิ่งที่เรารับรู้กัน เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้และปกป้องก่อนที่มันจะพังทลายไปมากกว่านี้
ㆍมีกฎหมายและโครงสร้าง (อำนาจ) รวมถึงโครงสร้างด้านความมั่นคงที่กดทับอยู่ ซึ่งคนมาเลเซียเวลาเดินทางมาปาตานีก็จะรู้สึกตกใจ เพราะมีด่านตรวจเยอะมาก ทั้งด่านตำรวจ ด่านทหารและด่านอื่นๆ นี่คือภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นที่นี่
ㆍขาดความยุติธรรมและความเป็นอยู่ที่ดี คนที่ก่อเหตุรุนแรงหรือก่อความไม่สงบ (เมื่อถูกดำเนินคดี) มีการให้ความยุติธรรมกับพวกเขาอย่างไร ซึ่งประเด็นนี้ค่อนข้างที่จะอ่อนไหว 
ความเห็นที่แตกต่างและการไม่มีเอกภาพ
ㆍมีความหลากหลายของตัวแสดงในพื้นที่ ทั้งในเรื่องความหวัง เรื่องเล่าและเป้าหมายสุดท้ายที่แตกต่างกันและขัดแย้งกัน</p>
<p>ลองถามตัวเองดูว่า คนอิสลามมลายูปาตานีเป็นเอกภาพหรือไม่ นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งเพราะความหลากหลายนั้นสร้างความลำบากใจในการที่จะแก้ปัญหาได้ เพราะแต่ละคนมีเรื่องราวของตัวเองและมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน </p>
<p>ถ้าเราอยากเดินหน้าไปด้วยกัน เราจะไม่ถูกกีดกันจากคนนอกเลย แต่เราจะถูกสกัดขัดขาจากพวกเราด้วยกันเอง แม้แต่การนำปัญหาขึ้นไปคุยบนโต๊ะเจรจาสันติภาพ ใครหรือกลุ่มไหนจะเป็นผู้นำปัญหาเหล่านั้นขึ้นไปพูดคุย ก่อนหน้านี้เรามีกลุ่ม MARA Patani ตอนนี้ก็เป็น BRN แล้วกลุ่มอื่น ๆ ที่รู้สึกว่าถูกกันออกไป เขาไม่อยากจะเป็นผู้นำด้วยดอกหรือ</p>
<p>ในขณะที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายของฝ่ายต่าง ๆ ในสังคมปาตานีนั้น แล้วกลุ่มที่อยู่บนโต๊ะเจรจาสันติภาพ ถือเป็นตัวแทนที่จะนำพาความปรารถนาของคนปาตานีโดยรวมทั้งหมดหรือไม่</p>
<h2><span style="color:#3498db;">หาจุดร่วมได้ ถ้าไม่สุดโต่งเกินไป</span></h2>
<p>มีความแตกแยกในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มภาคประชาสังคมที่แยกเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แต่ละกลุ่มก็มีวาระของตัวเอง และยังมีเรื่องช่องว่างระหว่างวัย กลุ่มอูลามะ (ผู้รู้ศาสนา) ก็แบบหนึ่ง คนรุ่นใหม่ก็แบบหนึ่ง ไม่นับความคิดที่แตกต่างกันระหว่างชายหญิงที่มีอยู่แล้ว</p>
<p>จริงๆ แล้วความแตกต่างหลากหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีถ้าสามารถหาจุดร่วมที่มีพลังได้ และสามารถเป็นตัวแทนเสียงของสังคมปาตานีได้ แต่ในความเป็นจริง ถ้าเรื่องแตกต่างกันนั้นแสดงออกถึงความสุดโต่งเกินเลย มันก็จะทำลายความพยายามของเราไป</p>
<p>เพราะเหตุนี้ผมจึงบอกว่า ความหลากหลาย เรื่องเล่าที่ต่างกัน พร้อมกับเป้าหมายสุดท้ายที่แตกต่างกันมันก็จะเป็นปัญหา</p>
<h2><span style="color:#3498db;">กระบวนการเจรจาสันติภาพที่เชื่องช้า</span></h2>
<p>สุดท้าย ㆍ กระบวนการเจรจาสันติภาพเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่สมดุล ไม่ครอบคลุมและไม่มีแผนที่นำทาง(Road Map) และจุดจบที่ชัดเจน </p>
<p>ทำไมถึงบอกว่า กระบวนการสันติภาพล่าช้า ซึ่งผมก็พูดตามที่ผมมองเห็น ถ้าจะโกรธก็โกรธได้ จุดเริ่มต้นของกระบวนการสันติภาพเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2556 แม้มีการพบปะพูดคุยกันอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วในแบบที่ไม่เป็นทางการ </p>
<p>ถามว่า ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันปี 2566 เกิดผลลัพธ์อะไรบ้าง กระบวนการพูดคุยสันติภาพที่เริ่มต้นด้วยขบวนการ BRN ต่อมาก็เป็นกลุ่ม MARA Patani แล้วก็กลับมาที่ขบวนการ BRN อีกครั้ง และกระบวนการพูดคุยตอนนี้ก็เดินไปหยุดไป</p>
<p>ถึงแม้ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก ซึ่งอาจส่งผลในทางบวกมากขึ้นในภายภาคหน้า และผมก็ไม่ได้คิดว่าความพยายามที่ต่อเนื่องยาวนานมานั้นจะว่างเปล่า 
ไม่เรียนรู้อดีต และต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทุกครั้ง</p>
<p>กระบวนการสันติภาพก็เหมือนกับการสร้างบ้านที่ต้องสร้างทีละขั้นทีละตอน เริ่มจากการวางรากฐานก่อน จากนั้นก็สร้างสิ่งต่างๆตามมา สุดท้ายเราก็หวังว่าสามารถที่จะสร้างบ้านขึ้นมา 1 หลังได้ ทั้งหมดนี้คือ 1 กระบวนการซึ่งผมไม่มีปัญหากับกระบวนการนี้ ตราบเท่าที่เราสามารถเรียนรู้จากกระบวนการก่อนหน้านี้ แต่ปัญหาคือเราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ซ้ำยังสร้างปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการพูดคุยแล้วก็กลับไปเริ่มต้นใหม่อีก นี่คือปัญหา</p>
<p>กระบวนการที่เชื่องช้าเราจะทำอย่างไรที่จะเร่งให้เร็วขึ้น ผมรู้ว่าฝ่ายมาเลเซียต้องการจะเร่งให้เร็วเพราะมาเลเซียเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้ในฐานะผู้อำนวยความสะดวก มาเลเซีย0ต้องการที่จะให้มีผลลัพธ์จากกระบวนการพูดคุยนี้ให้เร็ว</p>
<p>ถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ถ้าจะไปให้เร็ว ต้องมีความสมดุลทั้งสองฝ่าย</span></h2>
<p>ผมเห็นด้วยที่จะให้มีกระบวนการที่รวดเร็ว เพราะเป็นความทุกข์ยากของคนปาตานีที่ต้องการให้มีการแก้ปัญหาให้ได้ในที่สุด แต่เราจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าการแก้ปัญหาไม่มีความสมดุล เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดจากการกดดันของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และมีความได้เปรียบมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งมากเกินไป </p>
<p>นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี การแก้ปัญหาที่ไม่ดีมันเลวร้ายกว่าการไม่แก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหาที่ไม่ดีเราก็ต้องแก้ไขหรือยกเลิก ซึ่งก็ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นเราอย่าเร่งรีบเกินไปจนกระทั่งว่าเป็นเหตุให้เกิดการตัดสินใจที่ทำให้เราเสียเปรียบ นี่คือ กระบวนการสันติภาพที่ล่าช้าและไม่สมดุล</p>
<p>บนโต๊ะพูดคุยสันติภาพ ทั้ง 2 ฝ่ายก็มีปัญหาเรื่องจำนวนคณะพูดคุยแต่ละฝ่าย มีปัญหาเรื่องวิธีการพูดคุย และเรื่องอื่น ๆ ที่เห็นแล้วไม่สมดุลกัน ซึ่งการเจรจาก็ต้องทำให้สมดุลกันทั้งสองฝ่าย และการสร้างความสมดุลกันนั้นก็คือ อย่ามีแต่ฝ่ายขบวนการแต่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนจากสังคมโดยรวมด้วย</p>
<p>แต่เมื่อเรามีความแตกแยกกัน ซึ่งมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ส่งผลทำให้กลุ่มขบวนการที่เข้าร่วมเจรจากับฝ่ายรัฐจะรู้สึกว่าไม่มีเพื่อนหรือผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง ก็ทำให้เกิดความอ่อนแอ เพราะต่างก็มีเรื่องเล่าของตัวเองแตกต่างกันไป นี่คือเรื่องหนึ่งที่เราต้องมาช่วยกันคิด </p>
<h2><span style="color:#3498db;">กระบวนการสันติภาพที่ครอบคลุมจึงสำคัญ</span></h2>
<p>Inclusivity ความครอบคลุมจึงสำคัญ ไม่ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มขบวนการเท่านั้น แต่จะต้องเชื่อมโยงกับสังคมโดยรวมอย่างไร รวมถึงภาคประชาสังคมก็ต้องร่วมอยู่ในเรื่องนี้ด้วย และต้องไม่ปฏิเสธหรือกีดกันกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง </p>
<p>เราอย่าเลือกเฉพาะเพื่อนเราเท่านั้น เพราะการที่จะเดินไปข้างหน้าได้นั้นจะไว้ใจแค่เพื่อนเรา ส่วนคนอื่น ๆ นั้นเป็นศัตรูไม่ได้ </p>
<p>กระบวนการเจรจาสันติภาพถ้าไม่มีฝ่ายขบวนการทุกกลุ่มเข้าร่วมก็จะมีปัญหาเช่นกัน ยิ่งมีเฉพาะฝ่ายที่อ้างว่า ฉันนี่แหละที่เป็นตัวแทนของทุกคน สามารถทำได้ทุกอย่าง ฉันจะเป็นผู้นำเอง คนที่ไม่ตามฉันก็จะเป็นตัวป่วน </p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องมี Road Map บอกสิ่งที่เราอยากจะบรรลุ</span></h2>
<p>เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะนำไปสู่ความครอบคลุมได้นั้น ก็คือจะต้องมี Road Map (แผนที่นำทาง) ที่ชัดเจน </p>
<p>Road Map จำเป็นต้องมี เพราะบางครั้งผมก็ไม่แน่ใจว่ากระบวนการสันติภาพจะไปทางไหน บางครั้งเวลาใครถามว่าอะไรที่เราอยากจะบรรลุ คำตอบคือยังไม่แน่นอน จะให้แน่นอนได้เมื่อไหร่ก็หลังจากที่เราพยายามทำมันขึ้นมา แต่เราก็พยายามมาแล้วหลายปี ในขณะที่สังคมก็ประสบกับความทุกข์ยากอยู่ ต้องการหาทางออก เพราะฉะนั้นเราต้องจริงจังเรื่องนี้ และจุดจบที่ชัดเจนจะต้องมี </p>
<p>สิ่งที่ผมพูดนี้ ไม่ได้เจาะจงไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เจาะจงไปที่ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายรัฐบาลไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนและครอบคลุม เพราะฝ่ายรัฐบาลไทยก็ยังมีความแตกแยกและมีความต้องการที่แตกต่างกันของฝ่ายต่างๆ กันอยู่ ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายทหาร รวมถึงสำนักพระราชวัง</p>
<p>รัฐบาลใหม่ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ ซึ่งผมก็คิดว่ารัฐบาลใหม่ก็จะมีแนวทางของเขา เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมกันคิดว่าอะไรคือจุดจบปลายทางที่ชัดเจน ที่เราจะต้องไปให้ถึง</p>
<h2><span style="color:#3498db;">จะต้องทำอะไรต่อไป....?  ใน 8 ข้อ</span></h2>
<p>เราจะย้อนกลับไปที่วัตถุประสงค์เดิมของเวทีวันนี้ คือ การศึกษาสันติภาพจะสามารถสร้างวัฒนธรรมสันติภาพที่ปาตานี เราจะรวมเป็นความหวังใหม่ในการสร้างปาตานีใหม่ (Patani Baru) </p>
<p>เพราะเราต้องการสร้างสิ่งใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องมองหาสิ่งที่เรามีอยู่ เพราะฉะนั้นผมจึงกล่าวถึงบริบทของปาตานี เพื่อที่จะเติมเต็มในสิ่งที่ขาดไป และต้องรวมแนวทาง/ยุทธศาสตร์ที่ดีกว่า ให้สามารถหนุนเสริมเราในการสร้าง Patani Baru ที่สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับเราได้</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สร้างปาตานีใหม่ (Patani Baru) ที่มีสันติภาพ</span></h2>
<p>เป้าหมายของทั่วไปของการศึกษาสันติภาพคืออะไร</p>
<p>1. ย้อนดูคุณค่าและเป้าหมายหลักของสันติศึกษา ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทและค่านิยมของชุมชนปาตานีเพื่อสร้างวัฒนธรรมสันติภาพในเวอร์ชันปาตานี รวมถึงประวัติศาสตร์ ที่มีอยู่ในพื้นที่ </p>
<p>2. ทำให้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานของ "หลักการแห่งสันติภาพสำหรับชุมชนปาตานี" ซึ่งเคารพในอัตลักษณ์ คุณค่า ศักดิ์ศรี ความต้องการและความหวังของชุมชนชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูปาตานี</p>
<p>เมื่อเราจะสร้าง Patani Baru เรามีหลักการที่กล่าวถึงเฉพาะ Patani Baru ที่มีสันติภาพว่าคืออะไรและมีปัจจัยอะไรที่สามารถส่งเสริมการสร้างสันติภาพปาตานี </p>
<p>3. ทำหลักการนี้เป็นพื้นฐานในการสร้าง Patani Baru ที่สงบสุข มั่งคั่ง และสง่างาม เป็นหลักการพื้นฐานในการสร้าง Patani Baru ที่มีสันติภาพ มีความรุ่งเรืองและมีศักดิ์ศรีของปาตานีใหม่ ไม่ใช่ปาตานีเก่าและไม่ใช่ปาตานีปัจจุบัน </p>
<h2><span style="color:#3498db;">ยกตัวอย่างกรณี Aceh Baru </span></h2>
<p>ทุกท่านต้องค้นหาให้ได้ว่า อะไรบ้างที่ต้องมีใน Patani Baru ที่จะเป็นฐานของทั้งหมดที่ผมได้กล่าวไว้</p>
<p>ผมมีเพื่อนที่อาเจ๊ะห์ (ประเทศอินโดนีเซีย) เมื่อก่อนผมไปอาเจ๊ะห์บ่อย ได้เรียนรู้จากพวกเขาเยอะและได้สนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่อาเจ๊ะห์ หนึ่งในโปรแกรมที่เราได้ทำ คือการก่อตั้งหน่วยงานหนึ่งชื่อว่า Konsosial Aceh Baru : KAB เมื่อครั้งยังมีความขัดแย้งอยู่</p>
<p>โดยทำกิจกรรมที่เราเรียกว่า Scenario Building Workshop ที่จะให้สังคมอาเจ๊ะห์ได้พูดคุยกันว่า อาเจ๊ะห์ในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่แก้ปัญหาความขัดแย้งก็จะเป็นอาเจ๊ะห์ที่ล้มเหลวแหลกลาน แต่เราพยายามเลี่ยงได้ เพราะเรามีทางเลือกอื่นๆ นั่นคือ Aceh Baru </p>
<p>ถ้าเราทำ Patani Baru เราจะต้องทำอะไรบ้าง ผมหวังว่าทางผู้จัดคงจะรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะมาศึกษาว่า อะไรที่จำเป็นสำหรับ Patani Baru ที่มีสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">พัฒนาและเผยแพร่แนวคิดในทุกระดับการศึกษา</span></h2>
<p>4. พัฒนาและเผยแพร่ "หลักสันติ" และแนวคิด "Patani Baru" ในทุกระดับการศึกษา - โรงเรียน มหาวิทยาลัย ทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบที่ไม่เป็นทางการ</p>
<p>เมื่อไหร่ ที่เราจะพัฒนาและเผยแพร่ "หลักสันติ" และแนวคิด "Patani Baru" ในทุกระดับการศึกษา</p>
<p>ต้องเริ่มที่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับกลางจนถึงระดับสูง รวมทั้งการศึกษาในระบบคือโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และการศึกษานอกระบบคือการศึกษาที่จัดการโดยองค์กรพัฒนาเอกชน/ภาคประชาสังคม และอื่น ๆ เพื่อฝึกอบรมคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาปกติ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ที่จะนำไปสู่ความปรารถนาของแนวคิดสันติภาพของปาตานีใหม่ (Patani Baru)</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องสามัคคีและมีส่วนร่วมของทุกกลุ่ม</span></h2>
<p>5. ชิด ๆ กัน (ขยับแถวให้ชิดกัน)... ต้องกลับไปคิดว่า เราจะหลีกเลี่ยงความแตกต่างกันได้อย่างไร แล้วมามุ่งเน้นความสามัคคีกัน สร้างการมีส่วนร่วมของทุกกลุ่มทุกระดับ เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือปาตานีที่มีสันติภาพ ปาตานีที่ไม่มีความหวาดกลัว ปาตานีที่มีคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเองด้วยอัตลักษณ์ความเป็นมลายูอิสลามของเรา</p>
<p>ทำไมเราจะไม่สามารถทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันนี้ได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องคิด โดยต้องเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกันเพื่อพูดคุยกัน</p>
<p>6. สนับสนุนและช่วยเหลือกระบวนการสันติภาพปาตานีในทุกระดับ เพราะเรามีกระบวนการสันติภาพ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น </p>
<p>เราไม่มีกระบวนการสันติภาพอื่น ๆ อีก ถึงแม้ว่าจะมีการพบปะพูดคุยกับกลุ่มอื่น ๆ บ้างก็ตาม แต่กระบวนการสันติภาพที่เป็นทางการที่มีผู้เกี่ยวข้อง 2 ฝ่ายและมีฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกก็เป็นกระบวนการเดียวเท่านั้น เป็นกระบวนการที่โอบกอดเราเอาไว้และต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากพวกเราทุกคน</p>
<p>ขอให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้มีกระบวนการพูดคุยที่ประสบความสำเร็จ และมีผลลัพธ์ที่ดีสำหรับพวกเราทุกคน</p>
<h2><span style="color:#3498db;">เคารพผู้จากไปและสร้างแหล่งอ้างอิงสันติภาพปาตานี</span></h2>
<p>7.เคารพ หวงแหนและชื่นชมการต่อสู้ของผู้จากไป แต่บางทีเราก็ลืมผลงานที่พวกเขาได้ทิ้งไว้ให้เราได้อยู่อย่างมีความสุขในทุกวันนี้ ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเหล่านั้นได้เสียสละมากน้อยแค่ไหนในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ และ</p>
<p>8. จัดตั้งพิพิธภัณฑ์สันติภาพปาตานีเพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับสันติภาพปาตานี และหน่วยงานที่จะติดตามการพัฒนาของ Patani Baru เพื่อให้เกิดความคิดเห็นที่เป็นบวก แม้ว่านิทรรศการหรือการจัดแสดงต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่แล้วนั้นถือว่าดีมาก แต่จำเป็นต้องมีพื้นที่อ้างอิงถึงความพยายามในการต่อสู้เพื่อสันติภาพในปาตานีที่กว้างขึ้น รวมถึงทุก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปาตานี</p>
<p>จำไว้ว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างสถานการณ์กับพฤติกรรมและทัศนคติ ถ้าต้องการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น เราต้องมีทัศนคติที่ดีกว่า มีความคิดที่ดีกว่าและมีความสันติมากกว่า ซึ่งเราสามารถทำได้ และพยายามทำให้เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์สันติภาพปาตานี</p>
<p><span style="color:#3498db;">*ฟังบรรยายเต็มระหว่างนาที 30.00 ถึง นาที 1.11.30 </span><span style="color:#3498db;">ตามลิงค์นี้</span><span style="color:#3498db;"> </span></p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงานพิเ
บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[การเงิน] - SME D Bank เตรียมสินเชื่อ 2,000 ล.หนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยว ปลุกศก.ชายแดนใต้
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 219 กระทู้ล่าสุด 16 มีนาคม 2565 14:22:54
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวด่วน] - นายกฯ เป็น ปธ.มอบเงินทดแทนประกันชีวิต จนท.ชายแดนใต้
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 169 กระทู้ล่าสุด 06 กรกฎาคม 2565 05:28:56
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - &quot;สร้างอนาคตไทย&quot; ผนึก &quot;ยาวอหะซัน&quot; สู้เลือกตั้ง จ.ชายแดนใต้ มั่นใจ กวาด ส.ส.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 144 กระทู้ล่าสุด 25 มกราคม 2566 00:45:27
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - The Motive เมื่อคนใน 'ชายแดนใต้/ปาตานี' ลุกขึ้นมาสื่อสารหวังเป็นส่วนหนึ่งของกระบว
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 94 กระทู้ล่าสุด 28 ตุลาคม 2566 23:07:18
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - DSI ชายแดนใต้ แจ้งข้อกล่าวหา 'เพจพ่อบ้านใจกล้า' ผิด พ.ร.บ.คอมฯ และฉ้อโกงประชาชน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 57 กระทู้ล่าสุด 08 มกราคม 2567 19:51:22
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.232 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 04 พฤษภาคม 2567 14:36:12