Rocket Media Lab : เผยครูเอาด้วยขอปรับปรุงห้องน้ำ ไม่อยากอยู่เวร เลิกประกันเกรด และเพิ่มเงินเดือน
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-01-15 23:46</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>Rocket Media Lab : รายงาน</p>
<p>ภาพปก : แฟ้มภาพ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เนื่องในวันครูแห่งชาติ Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถามครูผู้สอน ป.1 - ม.6 ทั่วประเทศ เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ในโรงเรียน การเรียนการสอน และนักเรียน พบว่า เสียงส่วนใหญ่อยากให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำ กฎที่ครูไม่ชอบมากที่สุดคือการแต่งกายประจำวัน อยากให้ยกเลิกนโยบายการประกันเกรด ปลอด 0 ร. มส. ไม่อยากอยู่เวรนอกเวลาสอน และอยากให้เพิ่มเงินเดือน</p>
<div class="summary-box">
<ul>
<li>จากแบบสำรวจความเห็นของครูทั่วประเทศ เสียงส่วนใหญ่อยากให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำ 134 คน คิดเป็น 44.22% รองลงมาคือห้องเรียน 70 คน คิดเป็น 23.10% ตามด้วยห้องสมุด 23 คน คิดเป็น 7.59%</li>
<li>ส่วนกฎของโรงเรียนที่ครูไม่ชอบมากที่สุด พบว่าคือการแต่งกายประจำวัน มีผู้ตอบข้อนี้มากที่สุด 74 คน คิดเป็น 24.42% รองลงมาคือ การเช็คชื่อก่อนเข้าแถว และการใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) 63 คน คิดเป็น 20.79% และอื่นๆ 56 คน คิดเป็น 18.48% เช่น การเข้าเวรเสาร์-อาทิตย์ การสแกนนิ้วหลังเลิกเรียน และมีจำนวนหนึ่งที่ตอบว่าไม่มีปัญหากับกฎระเบียบ</li>
<li>สิ่งที่ครูไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด พบว่าครูไม่อยากให้นักเรียนเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนมากที่สุด 101 คน คิดเป็น 33.33% รองลงมาคือการพูดจาหยาบคาย 88 คน คิดเป็น 29.04% ตามด้วยการล้อเลียนเรื่องกายภาพ เพศ ชาติพันธุ์ สำเนียง 54 คน คิดเป็น 17.82% </li>
<li>ส่วนสิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารโรงเรียนทำที่สุด พบว่า ครูอยากให้ยกเลิกนโยบายการประกันเกรด ปลอด 0 ร. มส. นักเรียนมากที่สุด 123 คน คิดเป็น 40.59% รองลงมา คือไม่เลือกปฏิบัติ 100 คน คิดเป็น 33 % ยกเลิกการส่งไปอบรมที่ไม่จำเป็น 34 คน คิดเป็น 11.22% </li>
<li>สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำมากที่สุด พบว่า ครูอยากให้ลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงมากที่สุด 146 คน คิดเป็น 48.18% รองลงมาเป็น เพิ่มค่าตอบแทนครู 62 คน คิดเป็น 20.46% ปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ 38 คน 12.54% </li>
</ul>
</div>
<p>เนื่องในวันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุกปี
Rocket Media Lab ร่วมกับ
มูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถามครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 9 – 15 มกราคม 2567 เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ในโรงเรียน การเรียนการสอน นักเรียน โดยผลสำรวจมีดังนี้</p>
<p>จากจำนวนครูที่ตอบแบบสอบถามออนไลน์ทั่วประเทศทั้งหมด 303 คน พบว่า เป็นเพศชาย 71 คน หญิง 220 คน LGBTQ+ 7 คน และไม่ต้องการระบุเพศ 5 คน ในจำนวนนี้แยกเป็นครูระดับชั้นประถมศึกษา 118 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษา 171 คน และ ปวช. 14 คน และเมื่อแยกพื้นที่ของครูที่ตอบแบบสอบถามตามภาคจะพบว่า เป็นครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด 114 คน คิดเป็น 37.62% รองลงมาคือภาคกลาง 74 คน คิดเป็น 24.42% ตามด้วยภาคเหนือ 70 คน คิดเป็น 23.10% ภาคใต้ 36 คน คิดเป็น 11.88% ภาคตะวันตก 5 คน คิดเป็น 1.65% และภาคตะวันออก 4 คน คิดเป็น 1.32%</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สถานที่ใดในโรงเรียนที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด</span></h2>
<p>จากคำถามข้อแรกที่ถามว่าสถานที่ใดที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า ครูอยากให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำมากที่สุด โดยตอบสูงถึง 134 คน คิดเป็น 44.22% รองลงมาคือห้องเรียน 70 คน คิดเป็น 23.10% ห้องสมุด 23 คน คิดเป็น 7.59% โรงอาหาร 22 คน คิดเป็น 7.26% สนามกีฬา 19 คน คิดเป็น 6.27% ห้องพยาบาล 14 คน คิดเป็น 4.62% ห้องพักครู 11 คน คิดเป็น 3.63% และอื่นๆ 10 คน คิดเป็น 3.30% เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ที่จอดรถ อาคารเรียน และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53466119109_d0f40221d2_b.jpg" /></p>
<p>นอกจากนี้ยังพบว่าไม่ว่าจะเป็นครูชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือ ปวช. ต่างก็เลือกให้ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายภาคก็พบว่าครูทุกภาคต่างลงความเห็นเหมือนกันว่าอยากให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำมากที่สุด </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">กฎที่ครูไม่ชอบที่สุด</span></h2>
<p>จากคำถามว่ากฎของโรงเรียนเรื่องใดที่ครูไม่ชอบมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า ครูไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด 74 คน คิดเป็น 24.42% รองลงมาคือ การเช็คชื่อก่อนเข้าแถว และการใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) 63 คน คิดเป็น 20.79% การแต่งกายผ้าไทย 47 คน คิดเป็น 15.51% และอื่นๆ 56 คน คิดเป็น 18.48% เช่น การเข้าเวรเสาร์-อาทิตย์ การสแกนนิ้วหลังเลิกเรียน และมีจำนวนหนึ่งที่ตอบว่าไม่มีปัญหากับกฎระเบียบ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53465941328_c6463cdd24_b.jpg" /></p>
<p>หากมองรายภาค พบว่าการต้องใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) เป็นกฎที่ครูในภาคกลางไม่ชอบที่สุด ส่วนการเช็คชื่อก่อนเข้าแถวเป็นกฎที่ครูภาคเหนือไม่ชอบมากที่สุด ส่วนการแต่งกายผ้าไทยเป็นกฎที่ครูภาคใต้ไม่ชอบมากที่สุด หากมองในรายสังกัดของโรงเรียน ทั้งครูโรงเรียนรัฐและเอกชนไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด นอกจากนี้หากมองครูประถมและมัธยม พบว่าครูประถมไม่ชอบการเช็คชื่อก่อนเข้าแถวเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนครูมัธยมยังคงยกให้การแต่งกายประจำวันเป็นกฎที่ไม่ชอบมากที่สุด</p>
<p>
หมายเหตุ</p>
<p>
การแต่งกายประจำวัน คือการกำหนดชุดการแต่งกายของครูในแต่ละวัน เช่น วันจันทร์ - ชุดข้าราชการ (สีกากี) วันอังคาร - ชุดเสื้อกีฬา วันพุธ - ชุดสุภาพ วันพฤหัส - ชุดลูกเสือ เป็นต้น </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด</span></h2>
<p>ส่วนคำถามที่ว่าอะไรคือสิ่งที่ครูไม่อยากให้นักเรียนทำมาที่สุด พบว่าครูไม่อยากให้นักเรียนเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนมากที่สุด 101 คน คิดเป็น 33.33% รองลงมาคือการพูดจาหยาบคาย 88 คน คิดเป็น 29.04% ตามด้วยการล้อเลียนเรื่องกายภาพ เพศ ชาติพันธุ์ สำเนียง 54 คน คิดเป็น 17.82% การนินทาครูลงโซเชียลมีเดีย 17 คน คิดเป็น 5.61% การโพสต์คลิป/ภาพถ่ายของครูลงโซเชียลมีเดีย 15 คน คิดเป็น 4.95% การถึงเนื้อถึงตัว 15 คน คิดเป็น 4.95% และอื่นๆ 13 คน คิดเป็น 4.29% เช่น นักเรียนมาสาย การไม่ตั้งใจเรียน และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53466223545_2738f17fde_b.jpg" /></p>
<p>หากพิจารณารายภาค พบว่าครูภาคเหนือและภาคใต้ไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด เช่นเดียวกันกับการจำแนกตามสังกัดของโรงเรียน ครูโรงเรียนเอกชนไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด นอกจากนี้ครูประถมให้การพูดจาหยาบคายเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สิ่งที่ครูอยากได้มากที่สุด</span></h2>
<p>ส่วนคำถามถึงอะไรคือสิ่งที่ครูอยากได้มากที่สุด พบว่า ครูอยากให้เพิ่มเงินเดือน/ค่าวิทยฐานะมากที่สุด 149 คน คิดเป็น 49.17% รองลงมาคือ มาตรฐานการขึ้นเงิน 45 คน คิดเป็น 14.85% ค่าสื่อการสอน 32 คน คิดเป็น 10.56% ค่าทำงานล่วงเวลา 25 คน คิดเป็น 8.25% รถโรงเรียนอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมนอกสถานที่ 13 คน คิดเป็น 4.29% ค่าอยู่เวร 10 คน คิดเป็น 3.30% เพิ่มค่าเบี้ยเลี้ยง 6 คน คิดเป็น 1.98% ค่าอินเทอร์เน็ต 5 คน คิดเป็น 1.65% และอื่นๆ 18 คน คิดเป็น 5.94% เช่น ขอให้มีเจ้าหน้าที่การเงิน พัสดุ โดยตรง ขอขวัญและกำลังใจ การลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน และการบรรจุข้าราชการเมื่ออายุงานถึงเกณฑ์</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53464893437_b95dd7c0f0_b.jpg" /></p>
<p>นอกจากนี้พบว่า ไม่ว่าจะครูประถม-มัธยม ครูโรงเรียนรัฐ-เอกชน ครูทุกภาค และทุกเพศ ต่างก็เลือกให้การเพิ่มเงินเดือน/ค่าวิทยฐานะเป็นสิ่งที่ครูอยากได้มากที่สุด</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สิ่งที่ครูไม่อยากให้มีมากที่สุด </span></h2>
<p>คำถามที่ว่าสิ่งที่ครูไม่อยากให้มีมากที่สุด พบว่าครูไม่อยากอยู่เวรนอกเวลาเรียนมากที่สุด 124 คน คิดเป็น 40.92% รองลงมาคืองานการเงิน 37 คน คิดเป็น 12.21% งานพัสดุ 33 คน คิดเป็น 10.89% งานประกันคุณภาพ 19 คน คิดเป็น 6.27% งานธุรการ 17 คน คิดเป็น 5.61% งานอบรม 15 คน คิดเป็น 4.95% งานพิธีการ 12 คน คิดเป็น 3.96% งานวัดผลประเมินผล 3 คน คิดเป็น 0.99% งานทะเบียน 2 คน คิดเป็น 0.66% งานทะเบียนนักเรียน 2 คน คิดเป็น 0.66% งานโภชนาการ 2 คน คิดเป็น 0.66% งานสารสนเทศ 2 คน คิดเป็น 0.66% งานอนามัย 2 คน คิดเป็น 0.66% งานอาคารสถานที่ 1 คน คิดเป็น 0.33% และอื่นๆ 32 คน คิดเป็น 10.56% เช่น งาน PLC (การทำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ) และส่วนใหญ่ตอบว่า ทุกงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53465941183_b8d07bc76a_b.jpg" /></p>
<p>นอกจากนี้ยังพบว่า ครูทุกภาคทุกระดับชั้นเลือกไม่อยากอยู่เวรนอกเวลามากที่สุด ในขณะที่อันดับสองนั้น หากดูรายภาคจะพบว่าภาคเหนือเป็นเรื่องงานพัสดุ ส่วนภาคใต้เป็นเรื่องงานการเงินกับงานการประกันคุณภาพที่มีการเลือกในจำนวนเท่ากัน</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">กิจกรรมที่ครูไม่อยากให้มีที่สุด</span></h2>
<p>สำหรับคำถามที่ว่า กิจกรรมที่ครูไม่อยากให้มีมากที่สุด พบว่ากิจกรรมพานักเรียนไปแข่งขันนอกสถานที่เป็นกิจกรรมที่ครูไม่อยากให้มีที่สุด 80 คน คิดเป็น 26.40% ตามมาด้วยกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ 48 คน คิดเป็น 15.84% สมุดบันทึกความดี 42 คน คิดเป็น 13.86% กิจกรรมวันพ่อวันแม่ 37 คน คิดเป็น 12.21% กิจกรรมค่ายธรรมะ 30 คน คิดเป็น 9.90% กิจกรรมหน้าเสาธง 12 คน คิดเป็น 3.96% กิจกรรมสวดมนต์ 11 คน คิดเป็น 3.63% กิจกรรมจิตอาสา 5 คน คิดเป็น 1.65% และอื่นๆ 38 คน คิดเป็น 12.54% เช่น กีฬาสี กิจกรรม PLC (การทำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ) กิจกรรมแนะแนว งานประเมิน และบางส่วนตอบว่าไม่มีกิจกรรมไหนที่ไม่อยากให้มี</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53466223510_6959f0c7de_b.jpg" /></p>
<p>เมื่อพิจารณาสัดส่วนผู้เลือกกิจกรรมพานักเรียนไปแข่งขันนอกสถานที่พบว่า เป็นครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปีมากที่สุด 25 คน คิดเป็น 31.25% สัดส่วนน้อยที่สุดคือ ครูที่ทำงานน้อยกว่า 1 ปี มี 1 คน คิดเป็น 1.25% โดยที่อันดับ 2 เป็นครูซึ่งทำงานมาแล้ว 5-10 ปี มี 17 คน คิดเป็น 21.25% อันดับ 3 เป็นครูที่ทำงานมาแล้ว 15-20 ปี 16 คน คิดเป็น 20% ของผู้ที่เลือกคำตอบนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">วิชาที่ครูอยากให้ยกเลิกที่สุด</span></h2>
<p>ส่วนคำถามที่ว่าวิชาที่ครูอยากให้ยกเลิกมากที่สุด พบว่าวิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด บำเพ็ญประโยชน์เป็นวิชาที่ครูอยากยกเลิกมากที่สุด 114 คน คิดเป็น 37.62% รองลงมาคือ วิชาชุมนุม/ชมรม 57 คน คิดเป็น 18.81% วิชาหน้าที่พลเมือง 46 คน คิดเป็น 15.18% วิชานาฏศิลป์ 18 คน คิดเป็น 5.94% วิชาพุทธศาสนา 12 คน คิดเป็น 3.96% วิชาพลศึกษา 4 คน คิดเป็น 1.32% และอื่นๆ 52 คน คิดเป็น 17.16% เช่น สุขศึกษา ศิลปะ และส่วนใหญ่เขียนตอบว่าไม่มีวิชาที่อยากยกเลิก</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53466118994_dcd9bb53d2_b.jpg" /></p>
<p>เมื่อพิจารณาครูที่อยากให้ยกเลิกวิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด บำเพ็ญประโยชน์ พบว่า ทุกช่วงอายุการทำงานเลือกตอบข้อนี้เป็นสัดส่วนมากที่สุด ครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปี มี สัดส่วน 29.76% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 15 ปี- 20 ปี มี 39.02% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 10 ปี -15 ปี มี 37.25% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 5-10 ปี มี 40.48% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ 1-5 ปี มี 42.55% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ น้อยกว่า 1 ปี มี 44.74% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารโรงเรียนทำที่สุด</span></h2>
<p>สำหรับคำถามที่ว่าสิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารโรงเรียนทำที่สุด พบว่า ครูอยากให้ยกเลิกนโยบายการประกันเกรด ปลอด 0 ร. มส. ของนักเรียนมากที่สุด 123 คน คิดเป็น 40.59% รองลงมา คือไม่เลือกปฏิบัติ 100 คน คิดเป็น 33 % ยกเลิกการส่งไปอบรมที่ไม่จำเป็น 34 คน คิดเป็น 11.22% ไม่ใช้ให้ทำงานส่วนตัว 32 คน คิดเป็น 10.56% อื่นๆ 14 คน คิดเป็น 4.62% เช่น รับฟังความคิดเห็นของครู มีแผนในการทำงาน บางคนเขียนตอบว่า ทุกข้อรวมกัน </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53466118989_6fed047d9b_b.jpg" /></p>
<p>เมื่อพิจารณาครูที่ตอบว่าต้องการให้ยกเลิกนโยบายประกันเกรด พบว่า จากผู้ตอบ 123 คน เป็นครูมัธยมมากที่สุด 87 คน หรือคิดเป็น 50.29% ของครูมัธยมทั้งหมด 171 คน ครูประถม 30 คน หรือคิดเป็น 25.42% ของครูประถมทั้งหมด 118 คน ครู ปวช. 6 คน หรือคิดเป็น 42.85% ของครูปวช.ทั้งหมด 14 คน หากจำแนกผู้ที่เลือกข้อนี้ตามระยะเวลาในการทำงาน พบว่า ครูที่ทำงานมานานมากกว่า 20 ปี มีสัดส่วนมากที่สุด 30 คน คิดเป็น 24.59% ของครูที่เลือกข้อนี้ รองลงมา ครูที่ทำงาน 1-5 ปี 24 คน คิดเป็น 19.67% อันดับ 3 ครูที่ทำงาน 15- 20 ปี 19 คน คิดเป็น 15.57% </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำที่สุด</span></h2>
<p>จากคำถามที่ว่าสิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำมากที่สุด พบว่า ครูอยากให้ลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงมากที่สุด 146 คน คิดเป็น 48.18% รองลงมาเป็นการเพิ่มค่าตอบแทนครู 62 คน คิดเป็น 20.46% ปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ 38 คน 12.54% เพิ่มจำนวนครูให้เหมาะสมกับนักเรียน 35 คน 11.55% มีระบบรับเรื่องร้องเรียนตรงถึงรัฐมนตรี 9 คน 2.97% และอื่นๆ เช่น เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน เพื่อจัดการเอกสารที่ไม่จำเป็นกับการสอน</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53465801681_e72473d236_b.jpg" /></p>
<p>เมื่อพิจารณาเฉพาะการลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงพบว่า เป็นครูที่ทำงานมานานกว่า 20 ปีมากที่สุด 37 คน คิดเป็น 25.34% รองลงมา ครูที่ทำงานมาแล้ว 10-15 ปี 28 คน คิดเป็น 19.17% อันดับ 3 ครูที่ทำงานน้อยกว่า 1 ปี 23 คน คิดเป็น 15.75% </p>
<div class="note-box">
<p>ดูข้อมูลที่
https://rocketmedialab.co/database-teacher-q1-2024 </p>
</div>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/01/107645