เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« เมื่อ: 02 เมษายน 2553 14:18:34 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 14:42:18 » |
|
ความตาย โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทุกคนเกิดมาแล้วล้วนต้องตาย "ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล ทั้งบัณฑิต ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า"
แทบทุกคนเคยได้รับรู้ความหมายของข้อความข้างต้นนี้อยู่แล้ว แทบทุกคนเคยพูดออกจากปากคนเองมาแล้ว แม้จะไม่ต้องเป็นคำๆ แต่ก็มีความหมายตรงกันกับข้อความข้างต้นนี้ ทั้งยังเป็นการพูดชนิดที่เรียกว่าติดปากอีกด้วย คือพูดอยู่เสมอ ได้รู้ได้เห็นการตายของผู้ใดทีไร ก็มักจะอุทานเป็นการปลงด้วยความหมายดังกล่าวแทบทั้งนั้น
นี่เป็นเพราะทุกคนมีความรู้อยู่แก่ใจว่า ทุกคนเกิดมาต้องตาย ไม่มีสักคนเดียวที่จะหนีความตายพ้น นับว่าทุกคนมีความได้เปรียบอยู่ประการหนึ่งที่มีความรู้นี้ติดตัวติดใจอยู่ แต่แทบทุกคนก็มีความเสียเปรียบอยู่ประการหนึ่ง ที่ไม่เห็นค่าไม่เห็นประโยชน์ของความรู้นี้ จึงมิได้ใส่ใจเท่าที่ควร ปล่อยปละละเลย รู้จึงเหมือนไม่รู้ สิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์จึงเหมือนเป็นสิ่งไม่มีค่า
ควรหัดตายก่อนตายไว้เสมอ
ความรู้ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายเป็นสิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ แม้ใส่ใจในความรู้นี้ให้เท่าที่ควร ก็จะสามรถนำให้เกิดคุณเกิดประโยชน์แก่ตนเองได้มหาศาล ไม่มีคุณไม่มีประโยชน์ใดอาจจะเปรียบปานได้
เพื่อเสริมส่งความรู้นี้ให้บังเกิดคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ตนเองและแก่ส่วนรวม ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาทั้งหลาย ท่านจึงคงสอนให้หัดตายเสียก่อนถึงเวลาตายจริง ท่านสอนให้หัดตายไว้เสมอ อย่างน้อยก็ควรวันละหนึ่งครั้ง ครั้งละ 5 นาที 10 นาทีเป็นอย่างน้อย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 เมษายน 2553 15:06:12 โดย เงาฝัน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sometime
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 14:47:13 » |
|
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก (:LOVE:)เพื่อเป็นความไม่ประมาทให้หมั่นนึกถึงความตายทุก ๆ ลมหายใจเข้า - ออก (บางครั้ง)นึกถึงความตายอยู่เสมอแต่แต่เวลาคิดอยู่พรุ่งนี้ยังมีลมหายใจอยู่อีกหรือเปล่า ?
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 เมษายน 2553 14:55:53 โดย บางครั้ง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 14:54:24 » |
|
พิจารณาความกลัวตายช่วยให้จิตใจเกิดเมตตา
การหัดตายนั้นบางคนบางพวกน่าจะเริ่มด้วยหัดคิดถึงสภาพเมื่อตนกำลังจะถูกประหัตประหารให้ถึงตายจนได้ แม้จะกลัวแสนกลัว แม้จะพยายามกระเสือกกระสนช่วยตนเองให้รอดพ้นได้อย่างไร ก็หารอดพ้นไม่ด้วยความทรมานทั้งกายทั้งใจ
การหัดตายด้วยเริ่มตั้งแต่ความกลัวตายแบบทารุณโหดร้ายเช่นนี้ มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ จักสามารถ อบรมบ่มนิสัย ที่แม้เหี้ยมโหดอำมหิตปราศจากเมตตากรุณาต่อชีวิตร่างกายผู้อื่นให้เปลี่ยนแปลงได้
ความคิดที่จะประหัตประหารเขาเพื่อผลได้ของตนจักเกิดได้ยาก หรือจักเกิดไม่ได้เลย เพราะความการพยายามหัดให้รู้สึกหวาดกลัวการถูกประหัตประหารผลาญชีวิตนั้น เมื่อทำเสมอๆ ก็จะมีผลเป็นความเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่จะต้องหวาดกลัวเช่นเดียวกัน ความเมตตาปรานีชีวิตผู้อื่นสัตว์อื่นก็จะเกิดขึ้นได้ แม้จะไม่เคยเกิดมาก่อน ซึ่งก็เป็นการเมตตาปรานีชีวิตตนเองไปพร้อมกันด้วยอย่างแน่นอน
ผู้ประหัตประหารเขา แม้จะได้สิ่งที่มุ่ง แต่ผลที่แท้จริงอันจะเกิดจากกรรมคือการประหัตประหารที่ได้ประกอบกระทำลงไปนั้น จักเป็นทุกข์โทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก เหมือนผลของยาพิษร้าย กรรมนั้นเมื่อทำแล้วก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลแก่ชีวิตและร่างกายย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว เราเป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพระพุทธศาสนา พึงมีปัญญาเชื่อให้จริงจังถูกต้อง ในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมเถิด จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง : http://variety.thaiza.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81_1212_156695_1212_.htmlอนุโมทนาค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 15:05:18 » |
|
ระลึกถึงความตายสบายนัก...พระไพศาล วิสาโล สำหรับคนทั่วไป ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับความตาย เพราะความตายไม่เพียงพรากเราไปจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารักและหวงแหนเท่านั้น หากยังนำมาซึ่งความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างยิ่งยวดก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดไป ความตายที่ไม่เจ็บปวดจึงเป็นยอดปรารถนาของคนทุกคนรองลงมาจากความปรารถนาที่จะเป็นอมตะ แต่ความจริงที่เที่ยงแท้แน่นอนก็คือเราทุกคนต้องตาย...
ความตายเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็จริงแต่ใครบ้างที่จะยอมรับความจริงข้อนี้ได้ ด้วยเหตุนี้ผู้คนเป็นอันมากจึงพยายามหนีความตายออกไปให้ไกลที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามไม่นึกถึงมันโดยทำตัวให้วุ่น หาไม่ก็ปล่อยให้ใจเพลิดเพลินไปกับความสุขและการเสพ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมีชีวิตราวกับลืมตาย ดังนั้นจึงไม่พอใจหากมีใครพูดถึงความตายให้ได้ยิน ถือว่าเป็นอัปมงคล คำว่า "ความตาย" กลายเป็นคำอุจาดที่แสลงหู ต้องเปลี่ยนไปใช้คำอื่นที่ฟังดูนุ่มนวล เช่น "จากไป" หรือ "สิ้นลม"
ทั้งๆ ที่รู้ว่าจจะต้องตายไม่ช้าก็เร็ว แต่แทนที่จะเตรียมตัว เตรียมใจไว้ล่วงหน้า คนส่วนใหญ่เลือกที่จะ "ไปตายเอาดาบหน้า" คือ ความตายมาถึงเมื่อไร ค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้ขอสนุกหรือขอหาเงินก่อน ผลก็คือ เมื่อความตายมาปรากฏอยู่เบื้องหน้า จึงตื่นตระหนก ร่ำร้อง ทุรนทุราย ต่อรอง ผัดผ่อน ปฏิเสธผลักไสไขว่คว้าขอความช่วยเหลือ แต่ถึงตอนนั้นก็ยากที่จะมีใครช่วยเหลือได้ เตรียมตัวเตรียมใจเพียงใด ก็ได้รับผลเพียงนั้น แต่ถ้าเตรียมมามากก็ผ่านความตายได้อย่างสงบราบรื่น ถ้าเตรียมมาน้อยก็ทุกข์ทรมานแสนสาหัสกว่าจะหมดลม หากความตายเปรียบเสมือนการสอบ ก็เป็นการสอบที่ ยุติธรรมอย่างยิ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sometime
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 15:07:35 » |
|
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก ......................................ความตาย.......................... (บางครั้ง)ถ่ายรูปเกี่ยวกับความตายไว้เยอะเลย บางคนพอพูดถึงความมักจะส่ายหน้าหนี แต่เข้าหนีความจริงไม่พ้น มัจจุราชคอยเราอยู่ทุกหน
แห่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 15:26:49 » |
|
จะว่าไปชีวิตนี้ทั้งชีวิตก็คือโอกาสสำหรับการเตรียมตัวสอบครั้งสำคัญนี้ สิ่งที่เราทำมาตลอดชีวิตล้วนมีผลต่อการสอบดังกล่าว ไม่ว่าการคิด พูด หรือทำ ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม การกระทำแม้เพียงเล็กน้อยไม่เคยสูญเปล่าหรือเป็นโมฆะ ที่สำคัญก็คือการสอบดังกล่าวมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีการแก้ตัวหรือสอบซ่อม หากสอบพลาดก็มีทุกข์ทรมานเป็นผลพวงจนสิ้นลม
ความตายเป็นสิ่งน่ากลัวสำหรับผู้ใช้ชีวิตอย่างลืมตายหรือคิดแต่จะไปตายเอาดาบหน้า แต่จะไม่น่ากลัวเลยสำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี อันที่จริงถ้ารู้จักความตายอยู่บ้าง ก็จะรู้ว่าความตายนั้นมิใช่แค่ "วิกฤต" เท่านั้น แต่ยังเป็น "โอกาส" อีกด้วย กล่างวคือเป็นวิกฤตในทางกาย แต่เป็นโอกาสในทางจิตวิญญาณในขณะที่ร่างกายกำลังแตกดับ ดิน น้ำ ลม ไฟ กำลังเสื่อมสลาย หากวางใจได้อย่างถูกต้อง ก็สามารถพบกับความสงบ ทุกขเวทนาทางกายมิอาจบีบคั้นบั่นทอนจิตใจได้ มีผู้คนเป็นนจำนวนมากได้สัมผัสกับความสุขและรู้สึกโปร่งเบาอย่างยิ่งเมื่อป่วยหนักในระยะสุดท้าย เพราะความตายมาเตือนให้เขาปล่อยวางสิ่งต่างๆที่เคยแบกยึดเอาไว้ หลายคนหันหน้าเข้าหาธรรมะจนค้นพบความหมายของชีวิตและความสุขที่แท้ ขณะที่อีกหลายคนเมื่อรู้ว่าเวลาเหลือน้อยแล้วก็หันมาคืนดีกับคนรักจนไม่เหลือสิ่งที่ค้างคาใจใดๆ และเมื่อความตายมาถึง มีคนจำนวนไม่น้อยที่จากไปอย่างสงบ โดยมีสติรู้ตัวกระทั่งนาทีสุดท้าย ยิ่งไปกว่านั้น มีบางท่านที่เห็นแจ้งในเรื่องสัจธรรมจากทุกขเวทนาอันแรงกล้าที่ปรากฏเฉพาะหน้า จนเกิดปัญญาสว่างไสว และปล่อยวางจากความยึดติดถือมั่นในสิ่งทั้งปวง บรรลุธรรมขั้นสูงได้ในขณะที่หมดลมนั้นเอง
สำหรับผู้ใฝ่ธรรม ความตายจึงไม่ใช่ศัตรู หากคือครูที่เคี่ยวเข็ญให้เราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง คอยกระตุ้นเตือนให้เราอยู่อย่างไม่ประมาท และไม่ หลงเพลิดเพลินกับสิ่งที่มิใช่สาระของชีวิต ขณะเดียวกันก็สอนแล้วสอนเล่าให้เราเห็นแจ้งในสัจธรรมของชีวิต ว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ไม่มีอะไรน่ายึดถือ และไม่มีอะไรที่ยึดถือเป็นของเราได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ยิ่งใกล้ความตายมากเท่าไร คำสอนของครูก็ยิ่งแจ่มชัดและเข้มข้นมากเท่านั้น หากเราสลัดความดื้อดึงให้ทันท่วงที นาทีสุดท้ายของเราจะเป็นนาทีที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ ท่านพุทธทาสภิกขุเรียกนาทีนั้นว่า "นาทีทอง" : http://www.oknation.net/blog/people/2008/05/12/entry-1อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7861
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 15:42:53 » |
|
สาธุครับ
พูดจากใจ ได้เห็นหัวข้อตอนแรก
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
ผมคิดในใจ
ฉันยังไม่รู้จัก แล้วก็ยังไม่อยากรู้จักมันด้วย
๕๕๕๕
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
B l a c k B e a r : T h e D i a r y
|
|
|
sometime
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 02 เมษายน 2553 15:57:49 » |
|
จะว่าไปชีวิตนี้ทั้งชีวิตก็คือโอกาสสำหรับการเตรียมตัวสอบครั้งสำคัญนี้ สิ่งที่เราทำมาตลอดชีวิตล้วนมีผลต่อการสอบดังกล่าว ไม่ว่าการคิด พูด หรือทำ ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม การกระทำแม้เพียงเล็กน้อยไม่เคยสูญเปล่าหรือเป็นโมฆะ ที่สำคัญก็คือการสอบดังกล่าวมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีการแก้ตัวหรือสอบซ่อม หากสอบพลาดก็มีทุกข์ทรมานเป็นผลพวงจนสิ้นลม
ความตายเป็นสิ่งน่ากลัวสำหรับผู้ใช้ชีวิตอย่างลืมตายหรือคิดแต่จะไปตายเอาดาบหน้า แต่จะไม่น่ากลัวเลยสำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี อันที่จริงถ้ารู้จักความตายอยู่บ้าง ก็จะรู้ว่าความตายนั้นมิใช่แค่ "วิกฤต" เท่านั้น แต่ยังเป็น "โอกาส" อีกด้วย กล่างวคือเป็นวิกฤตในทางกาย แต่เป็นโอกาสในทางจิตวิญญาณในขณะที่ร่างกายกำลังแตกดับ ดิน น้ำ ลม ไฟ กำลังเสื่อมสลาย หากวางใจได้อย่างถูกต้อง ก็สามารถพบกับความสงบ ทุกขเวทนาทางกายมิอาจบีบคั้นบั่นทอนจิตใจได้ มีผู้คนเป็นนจำนวนมากได้สัมผัสกับความสุขและรู้สึกโปร่งเบาอย่างยิ่งเมื่อป่วยหนักในระยะสุดท้าย เพราะความตายมาเตือนให้เขาปล่อยวางสิ่งต่างๆที่เคยแบกยึดเอาไว้ หลายคนหันหน้าเข้าหาธรรมะจนค้นพบความหมายของชีวิตและความสุขที่แท้ ขณะที่อีกหลายคนเมื่อรู้ว่าเวลาเหลือน้อยแล้วก็หันมาคืนดีกับคนรักจนไม่เหลือสิ่งที่ค้างคาใจใดๆ และเมื่อความตายมาถึง มีคนจำนวนไม่น้อยที่จากไปอย่างสงบ โดยมีสติรู้ตัวกระทั่งนาทีสุดท้าย ยิ่งไปกว่านั้น มีบางท่านที่เห็นแจ้งในเรื่องสัจธรรมจากทุกขเวทนาอันแรงกล้าที่ปรากฏเฉพาะหน้า จนเกิดปัญญาสว่างไสว และปล่อยวางจากความยึดติดถือมั่นในสิ่งทั้งปวง บรรลุธรรมขั้นสูงได้ในขณะที่หมดลมนั้นเอง
สำหรับผู้ใฝ่ธรรม ความตายจึงไม่ใช่ศัตรู หากคือครูที่เคี่ยวเข็ญให้เราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง คอยกระตุ้นเตือนให้เราอยู่อย่างไม่ประมาท และไม่ หลงเพลิดเพลินกับสิ่งที่มิใช่สาระของชีวิต ขณะเดียวกันก็สอนแล้วสอนเล่าให้เราเห็นแจ้งในสัจธรรมของชีวิต ว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ไม่มีอะไรน่ายึดถือ และไม่มีอะไรที่ยึดถือเป็นของเราได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ยิ่งใกล้ความตายมากเท่าไร คำสอนของครูก็ยิ่งแจ่มชัดและเข้มข้นมากเท่านั้น หากเราสลัดความดื้อดึงให้ทันท่วงที นาทีสุดท้ายของเราจะเป็นนาทีที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ ท่านพุทธทาสภิกขุเรียกนาทีนั้นว่า "นาทีทอง" : http://www.oknation.net/blog/people/2008/05/12/entry-1อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ สำหรับผู้ใฝ่ธรรม ความตายจึงไม่ใช่ศัตรู หากคือครูที่เคี่ยวเข็ญให้เราดำเนินชีวิตอย่างถูก ต้อง คอยกระตุ้นเตือนให้เราอยู่อย่างไม่ประมาท และไม่ หลงเพลิดเพลินกับสิ่งที่มิใช่สาระของชีวิต ขณะเดียวกันก็สอนแล้ว สอนเล่าให้เราเห็นแจ้งในสัจธรรมของชีวิต ว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ไม่มีอะไรน่ายึดถือ และไม่มีอะไรที่ยึดถือเป็นของเราได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ยิ่งใกล้ความตายมากเท่าไร คำสอนของครูก็ยิ่งแจ่มชัดและเข้มข้นมากเท่านั้น หาก เราสลัดความดื้อดึงให้ทันท่วงที นาทีสุดท้ายของเราจะเป็นนาทีที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำไปสู่ความ พ้นทุกข์ได้ ท่านพุทธทาสภิกขุเรียกนาทีนั้นว่า "นาทีทอง"
ถูกต้องน่ะคร๊า..............................บ (:LOVE:)ถูกต้องน่ะคร๊า..............................บ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 เมษายน 2553 15:59:31 โดย บางครั้ง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2553 14:09:04 » |
|
ความรู้เกี่ยวกับการตาย ตายคือ...
คำว่าตาย นั้นหรือ ก็คือติ แล้วเอาอิ เป็นอายะ ตะผสม ได้ความหมาย เป็นไตรลักษณ์ ประจักษ์คม มันทรุดโทรม เปลี่ยนสลาย ให้พิศดู
ใช้ปัญญา สอดส่อง จะมองเห็น สิ่งทั้งสาม มันซ่อนเร้น เห็นอดสู สิ่งประจำ สังขาร ให้หมั่นดู แล้วจะรู้ การวางใจ ได้ละวาง
..............................................
ตายมี ๒ อย่าง ....................................
คำว่าตาย ของคนเรา ที่เข้าใจ คือหลับใหล ใจขาด ไม่อาจฟื้น วิญญาณปราศ กายทรุด ดุจท่อนฟืน ไปภพอื่น วิญญาณลับ ไม่กลับมา
นี่คือตาย ที่เราเขา เข้าใจกัน แต่ตายนั้น มีสอง ต้องศึกษา ตายที่หนึ่ง เรียกว่า ปฏิจฉันนะมรณา(ตายแบบเปิดเผย) อาสัญญา ที่เราผอง ไม่ต้องการ
คือตายเน่า ไม่ฟื้น คืนมาได้ ตายขาดใจ ไปแน่ คนแห่หาม อันนี้เรียก ปฏิจฉันนะ- มรณาม ทั่วเขตคาม ใครก็รู้ ดูน่ากลัว
ตายอีกแบบ ที่เรานั้น ดันไม่เห็น ตายทั้งเป็น ที่หายใจ ไม่สลัว ตายแบบนี้ มีค่ำเช้า เราไม่กลัว ทุกท่วนทั่ว ให้รู้ไว้ ตายทุกวัน
ตายแบบนี้ เรียกว่า อัปปฏิจฉันนะ (ตายแบบไม่เปิดเผย) ตายจะจะ ยิ่งร้าย ตายสุขสันต์ หายใจไป ตายไป ให้รู้กัน เพราะทุกวัน เราเกิดดับ นับไม่พอ
ในตัวเรา มีตายเกิด เปิดสลับ หมั่นคอยนับ ลมหมายใจ กันไว้หนอ หากเจริญ สัมปชัญญะ สติคลอ หมั่นยุบหนอ พองหนออยู่ จะรู้ตาย
.................................
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2553 14:24:12 » |
|
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก พระพุทธเจ้าทรงให้นึกถึงความตาย
พระพุทธองค์ ทรงให้ ได้ระลึก ตรึกตรองนึก ถึงความตาย ให้หลายครั้ง คือเจริญ สติ วิปัสสนัง เห็นพลัง แห่งเกิดดับ รับปัญญา
พระอานน์ ทูลถวาย ได้ระลึก ตริตรองนึก ความตาย ในสังขาร์ ทั้งเจ็ดวัน ได้ดำริ พิจารณา องค์พุทธา บอกว่าน้อย ยังด้อยไป
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
หากคิดถึง ความตาย สบายนัก มักหักรัก หักหลง ในสงสาร ขจัดมืด โมหันต์ อันธกาล ทำให้หาญ หายสะดุ้ง ไม่นุงนัง
หมั่นเจริญ สมาธิ จิตแก่กล้า ให้ปัญญา แทงทะลุ จะสุขัง สติพร้อม คุมเสริม เพิ่มพลัง จะลุกยืน นั่งหนอ ก็สบาย
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
อานิสงส์การพิจาณาความตาย
ผู้ที่พิจารณาความตาย จะสบายเพราะ...
เพราะจะไม่ ประมาท พลาดในวัย จะตั้งใจ ร่ำเรียน เพียรศึกษา เพราะว่ารู้ ชีวิตนี้ มีมรณา ที่โอบอ้า รอเราอยู่ เป็นคู่กาย
จะไม่ได้ ประมาททุน บุญกุศล จะเพิ่มพล ความดี ที่เฉิดฉาย จะสั่งสม บุญญา มาสู่กาย จะไม่ได้ เผลอไผล ใจมืดมน
จะเป็นผู้ เทคแคร์ ดูแลจิต ทุกนาที ชีวิตใจ ไม่สับสน จะเป็นผู้ สง่า กว่าหลายคน ประเสริฐล้น ความตาย ได้พิจารา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มิถุนายน 2553 09:55:52 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: เพิ่มภาพค่ะ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2553 14:36:55 » |
|
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก ............................................ ดอกไม้พระอรหันต์ ...........................
อันดอกไม้ พระอรหันต์ นั้นคือศพ ตัดชาติภพ เวียนว่าย ได้สุขสันต์ เพราะเห็นศพ เหมือนเห็นตาย ได้ผลพลัน เพราะเกิดปัญ-ญาญาณ ท่านเห็นจริง
หากเราทำ ได้เด่น เช่นอรหันต์ คงสักวัน สักภพ ประสบหนิง เกิดปัญญา สว่าง ทางรู้จริง สุขแอบอิง กุศลสร้าง ทางนิพพาน
............................
บุพพกิจ บุพพกรณ์ ก่อนตาย
หากเราสามารถตั้งสติได้ ก่อนตาย จะต้อง เตรียมตัวอย่างไรดี..? ........................
กิจก่อนตาย ตั้งใจ รู้ไว้เถิด ตายจะเกิด กับเราเขา เข้าสุสาน ต้องเตรียมใจ ไว้ย้อน ก่อนถึงวัน เพราะฉะนั้น เตรียมกายใจ ไว้ดังนี้
อันที่หนึ่ง ละห่วงนอก จะบอกให้ ทำจิตใจ ให้สว่าง สร้างวิถี จงสละ ความติดยึด ประพฤติดี อันใดมี ที่ทำให้ ใจหมองมัว
เช่นเรือกสวน ไร่นาหนอง พ้องลูกหลาน จะสละ ทุกด้าน กันสลัว คุมสติ ให้เจิดจ้า จงอย่ากลัว อย่าเมามัว ติดทรัพย์สิน ก่อนสิ้นใจ
อันที่สอง ต้องสละ ในสังขาร์ ทิ้งกายา ตัดบ่วง อย่าหน่วงไว้ ให้คิดว่า ธรรมดา ต้องลาไป อย่าห่วงใย ทั้งกายจิต พินิจดู
อันที่สาม ตามติด ให้คิดย้อน ถึงกาลก่อน ตอนทำบุญ ทุ่มทุนสู้ คิดถึงทาน ถึงศีล ถิ่นเฟื่องฟู ให้ใจรู้ เรื่องกุศล พ้นภัยพาน
หากทำย้อน ก่อนตาย ได้เช่นนี้ จิตจะมี แต่สุข สนุกสนาน จะไปดี สู่ปรโลก ไม่โศกกันต์ จะชื่นบาน มีคติ ที่สวยงาม ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 เมษายน 2554 10:17:06 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: เพิ่มภาพค่ะ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2553 14:46:17 » |
|
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก ....................................... ความตาย ในอีกความหมายหนึ่งคือ....ผู้ที่ไม่ประมาท ชื่อว่าผู้ไม่ตาย .......................
ผู้ตั้งใจ ไม่ประมาท ประกาศชัด ผู้ฝึกหัด ฝึกสติ มิเผลอไผล ผู้ดำริ พิจารณา สังขารนัย ผู้ตั้งใจ ลดเลิกละ ประพฤติธรรม
นี่นะแหละ จงรู้ ผู้ไม่ตาย ความดีได้ ตามพจนะ ของพระสัมม์ ไม่ตายจาก ความดี ที่ได้ทำ ชีวิตงาม ธรรมค้ำจุน อุ่นสบาย
......................................
ความตายในอีกความหมายหนึ่งคือ...ผู้ประมาท ชื่อว่า ผู้ตายแล้ว
หากผู้ที่ ยังประมาท พลาดพลั้งผิด ไม่ได้คิด ก่อทุน บุญกุศล ปล่อยชีวิต กับกาลเวลา พามืดมล หนีไม่พ้น ห่างหาย ตายจากดี
..........................................
พระไตรลักษณ์ อุปัตติ ที่เกิดขึ้น อย่าไปฝืน ต้องรับรู้ เป็นครูใหญ่ อุปาทะ ตั้งอยู่ แล้วดับไป ต้องเข้าใจ สติดู รู้เท่าทัน
อย่าไปยึด ไปติด จิตฝังผูก ถึงจะทุกข์ อย่าตีโผย หรือโหยหัน หากมีสุข อย่าลิงโลด โปรดรู้กัน เพราะสักวัน มันก็ไป ให้รู้ตาม ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2553 15:19:57 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤษภาคม 2553 15:47:04 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: เพิ่มภาพค่ะ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กำลังโหลด...