มาดูพระอภิธรรมกันให้ชัดๆ
จะได้หาย งง ในสภาพพระนิพพาน
ลองดูกันครับ ว่าจะเชื่อคุณแถพลศักดิ์ หรือจะเชื่อพระอภิธรรมดี
ความน่าเชื่อถือได้ ควรจะเชื่ออันไหนมากกว่ากัน ?
สภาพของนิพพาน
พระอภิธรรม
ปริจเฉทที่ ๖ รูปสังคหวิภาค หน้าที่ : 84
เมื่อกล่าวโดยสามัญญลักษณะสภาพของนิพพานมีเพียง ๑ คือ อนัตตลักษณะ เพราะนิพพานเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า ปราศจากตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่มีการเกิดแก่ เจ็บ ตาย ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่นิพพาน ไม่มีอนิจจลักษณะ เพราะนิพพานเป็นสิ่งที่เที่ยง มั่นคง ยั่งยืน ไม่แปรผัน และนิพพาน ไม่มีทุกขลักษณะ เพราะนิพพานเป็นสิ่งที่ทนอยู่ได้ ด้วยว่า ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ และด้วยเหตุที่นิพพานเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า จึงมีสภาพที่ทน อยู่ หรือดำรงคงอยู่ในสภาพที่ว่างเปล่านั้นตลอดไป ไม่มีอะไรที่จะมาปรุงแต่งให้ กลายเป็นไม่ว่างได้
วิเสสลักษณะ ของนิพพาน มีเพียง ๓ ประการ คือ ลักษณะ รสะ ปัจจุปัฏฐาน เท่านั้น ไม่มีปทัฏฐาน
สนฺติ ลกฺขณา มีความสุขสงบจากเพลิงทุกข์ เป็นลักษณะ
อจฺจุต รสา มีความไม่แตกดับ เป็นกิจ (สัมปัตติรส)
อนิมิตฺต ปจฺจุปฎฺฐานา ไม่มีนิมิตเครื่องหมาย เป็นอาการปรากฏ
นิสฺสรณ ปจฺจุปฏฺฐานา มีความออกไปจากภพ เป็นผล
ปทฏฺฐานํ น ลพฺภติ ไม่มีเหตุใกล้ให้เกิด (เพราะนิพพานเป็นธรรม ที่พ้นจากเหตุ จากปัจจัยทั้งปวง)
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณอันยิ่งใหญ่ พ้นแล้วจากตัณหาเครื่อง ร้อยรัด ตรัสรู้ ธรรมส่วนหนึ่ง ธรรมที่ไม่ตาย ธรรมที่เที่ยง ธรรมที่ปัจจัยอะไร ๆ ปรุงแต่งไม่ได้ ธรรมที่ไม่มีสิ่งใดจะประเสริฐยิ่งกว่า ธรรมนั้น คือ นิพพาน
สภาพของนิพพาน ๕ ประการ ที่กล่าวข้างต้น มีความหมายดังนี้ คือ
๑. ปทํ แปลว่า นิพพานเป็นส่วนหนึ่ง เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่งที่เข้าถึงได้ และมีอยู่โดยเฉพาะ ไม่คลุกเคล้าด้วยโลกียธรรม
๒. อจฺจุตํ แปลว่า นิพพาน เป็นธรรมที่ไม่ตาย ไม่มีความเกิด และไม่มี ความตาย ไม่มีแตกดับ
๓. อจฺจนฺตํ แปลว่า ธรรมที่เที่ยง คือก้าวล่วงขันธ์ ๕ ที่เป็นอดีต และ อนาคต หมายความว่า เป็นธรรมที่พ้นจากกาลทั้ง ๓ ได้แก่ นิพพาน
๔. อสงฺขตํ แปลว่า นิพพาน ไม่ได้ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัย หมายความว่า นิพพานนี้ไม่ใช่ จิต เจตสิก รูป เพราะ จิต เจตสิก รูป นั้นเป็น ธรรมที่เกิดขึ้นโดยมีปัจจัยปรุงแต่ง สภาวธรรมที่ปราศจากการปรุงแต่ง ชื่อว่า อสังขตะ ได้แก่ นิพพาน
บัญญัติ ก็เป็นอสังขตธรรมเหมือนกัน แต่ในที่นี้กล่าวเฉพาะ ธรรมที่เป็นปรมัตถ บัญญัติไม่ใช่ปรมัตถธรรม ฉะนั้นอสังขตธรรม ในที่นี้จึงหมายถึง นิพพาน แต่อย่างเดียว
๕. อนุตฺตรํ แปลว่า นิพพาน เป็นธรรมที่ประเสริฐอย่างที่ไม่มีธรรมใด ๆ จะเทียมเท่า
ขอโหวตหน่อย .....
ถ้าเชื่อพลศักด์ กด * 1
ถ้าเชื่อพระอภิธรรม กด *2
ข้อสงสัยข้อนี้ผมยินดีตอบ ทั้งๆที่ตอบออกไป คงจะมีคนเข้าใจน้อยมาก แต่เมื่อเขาฝึกปฏิบัติไปเรื่อยๆ เขาจะเขาใจเอง
พึงระลึกว่า ผมตอบ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคุณนะครับ เพราะคุณมีทิฏฐิมานะ ไม่ยอมรับแม้แต่เรื่องเดียว ทั้งๆที่จนมุมในทุกเรื่อง ผมตอบเพราะมันเป็นประโยชน์กับผู้อื่นนะครับ
คุณกำลังงงเรื่องจิตและขันธ์ จิตสังขารของคุณ กับขันธ์ 5 ของคุณ มันคนละเรื่องกัน จิตสังขาร และแม้แต่นิพพานซึ่งเป็นจิตบริสุทธิ์หรือจิตปภัสสร ล้วนเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า จิตไม่เคยตาย ใครก็ฆ่าไม่ได้ ฆ่าได้แต่ขันธ์หรืออายตนะที่จิตไปอาศัยอยู่
อนัตตา = สิ่งที่เป็นขันธ์ 5 (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับจิต(สังขาร) ซึ่งเป็นอาทิสมานกายหรือกายทิพย์
อัตตา = สิ่งที่เป็นธรรมขันธ์ ไม่ใช่นิพพานจิต
1. นิพพานเป็นจิต นิพพานจิตชี้ไม่ได้ ชี้ได้แต่ธรรมกาย ซึ่งเป็นอายตนะนิพพาน หรือขันธ์ที่จิตปภัสสรสร้างขึ้น
2. พระพุทธเจ้าตรัสกับพระมหากัสสปะว่า “...กัสสปะ ตถาคตมีธรรมจักษุครรภ์อันถูกต้อง และ
นิพพานจิต ลักษณะที่แท้จริง ย่อมไม่มีลักษณะ"
2. พระนาคเสน มหาเถระ พระอรหันต์สมัยพุทธปรินิพพานไป ๕๐๐ ปี ผู้ตอบปัญหาพระเจ้ามิลินทราชา กล่าวว่า:
..... พระพุทธเจ้ามีจริง แต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานดับขันธ์แล้ว ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน เหมือนเปลวไฟที่ดับแล้วก็ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน อาจชี้ได้เพียงพระธรรมกาย ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
........(ตัวที่ชี้ให้ดูไม่ได้คือ จิต ตัวที่ชี้ให้ดูได้ คือ ธรรมกาย ซึ่งเป็นอายตนนพพาน)..... นิพพานมีอยู่จริง แต่ว่าไม่มีใครอาจแสดงให้เห็นได้ว่า นิพพานมีสี สัณฐาน เล็ก ใหญ่ ยาว สั้น อย่างไร
เปรียบเหมือน ลม ที่มีอยู่จริง แต่ก็ไม่มีใครสามารถ แสดงลมให้เห็นด้วย สี สัณฐาน เล็ก ใหญ่ ยาว สั้น ได้
...... นิพพานเป็นของไม่ควรกล่าวว่าเกิดขึ้นแล้ว หรือยังไม่เกิด จักต้องเกิด ไม่ควรกล่าวว่าเป็นอดีต อนาคต หรือปัจจุบัน
ไม่ควรกล่าวว่า เป็นของต้องเห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู รู้ด้วยจมูก ลิ้นกาย อย่างใดเลย.........
......นิพพานเป็นของต้องรู้ด้วยใจ พระอริยสาวกผู้ปฏิบัติชอบแล้วย่อมได้เห็นนิพพาน ด้วยใจอันบริสุทธิ์ อันสงบประณีต อันเที่ยงตรง ไม่มีเครื่องกั้นกาง อันไม่มีอามิส ....
...... นิพพานไม่มีของเปรียบ ไม่อาจชี้รูป หรือสัณฐาน วัย ประมาณ แห่งนิพพานได้ด้วยอุปมา หรือด้วยเหตุ หรือด้วยปัจจัย หรือด้วยนัย .....
...... นิพพานธาตุ อันสงบ อันเป็นสุข อันประณีตนั้นมีอยู่ ผู้ปฏิบัติชอบ เมื่อพิจารณาสังขารตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็กระทำให้แจ้งนิพพานธาตุด้วยปัญญา.....
...... ที่ตั้งของนิพพานไม่มี นิพพานไม่ได้ตั้งอยู่ในทิศใด แต่นิพพานมี ผู้ปฏิบัติชอบ เมื่อเห็นความตั้งขึ้นและเสื่อมไปของสังขารทั้งหลายด้วยโยนิโสมนสิการแล้ว ก็กระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน