[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ อนามัย => ข้อความที่เริ่มโดย: เงาฝัน ที่ 12 เมษายน 2553 08:13:07



หัวข้อ: เมื่อลูกข้าพเจ้าป่วยด้วยโรคร้ายแรงแล
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 12 เมษายน 2553 08:13:07

(http://images.thaiza.com/26/26_20070830143304..jpg)

เมื่อลูกข้าพเจ้าป่วยด้วยโรคร้ายแรงและเรื้อรัง
โดย นางศิราณี เอกัคคตาจิต 38/31บ้านธรรมรัตน์
ซอยธานี11 ถ.ธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000
โทร ,แฟ็ค 044-615040

ครอบครัวเรามีลูก 4คน ผู้ชายล้วน พ่อบ้านชื่อ นพ.ศิริพงษ์ เอกัคคตาจิต รับราชการทำงานที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ จบแพทย์จุฬารุ่น 24 ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ ซี 9 ข้าพเจ้าเป็นแม่บ้านเต็มขั้น และความไม่เที่ยงก็เกิดขึ้น เช้าวันที่26 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 ตื่นเช้ามาดูลูกคนที่ 3 ชื่อศักดา เอกัคคตาจิต เขาบอกยืนได้ขาข้างเดียว เจ็บข้อเท้าและเข่ามาก เราก็ไม่คิดว่าเป็นอะไรมาก เป็นจังหวะใกล้จะเปิดเทอมแรกของการเข้ามหาวิทยาลัย เขาเรียนแพทย์ศิริราชโดยสอบเข้าโคต้า แพทย์ศิริราช และสอบแข่งขันวิชาเคมีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2539 ไปนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลศิริราช 2อาทิตย์ หมอบอกให้ยาแก้ปวด แล้วดูอาการ ให้ใช้ไม้เท้าไปเรียนได้ 2อาทิตย์ ปรากฏว่าอาการกำเริบเจ็บขยายมาที่หัวไหล่ทั้ง2ข้าง ต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งนี้หมอตรวจอาการแล้วถามข้าพเจ้าว่ามีลูกกี่คน ตอบว่ามี 4คน คนโตทำงานแล้ว คนที่2 เรียนแพทย์ขอนแก่น คนป่วยเป็นคนที่3 รู้สึกหมอที่ถามมีสีหน้าดีขึ้นเพราะเขารู้แล้วว่าโรคที่ลูกเป็นอยู่นี้เข้าข่ายปวดข้อจูวีหน่ายรูมาตอย เพราะเจ็บข้อก่อนอายุ 17 ปีซึ่งค่อนข้างร้ายแรง เพราะแม้สถิติการรักษาต่างประเทศก็ยาก มีให้ได้ก็ยาแก้ปวดเท่านั้น เป็นมากหลายปีหน่อยก็จะพิการได้ หมอที่รักษาเขาก็บอกให้แม่ทำใจ และให้ยาแก้ปวดมากินที่บ้าน ความรู้สึกของแม่แทบล่มสลาย วันแล้ววันเล่าไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น จุกปวดกระเพาะอาหารขนาดหนักเพราะกินยาแก้ปวด กินยาเคลือบกระเพาะอาหารเต็มที่ ก็ยังเจ็บท้องอยู่ นรกบนดินเป็นเช่นนี้เอง กินยาแก้ปวดข้ออย่างแรงเช้าเย็นแก้ได้ชั่วคราวต้องกินประจำแม้ปวดกระเพาะอาหารก็ต้องกิน เจาะเลือดค่าอีเอสอาร์อยู่ระหว่าง50-90 มม.ต่อชม.ซึ่งค่าปรกติไม่เกิน 20 มม.ต่อชม.

กินยามากจนถึงหูอื้อแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นช่วงนี้เขาก็ไปอยู่วัดกับหลวงพ่อ 5-6เดือน ทำเรื่องลาเรียน 1ปีระยะนี้ขาเริ่มลีบเพราะเจ็บข้อเท้ามากต้องนอนกับที่ เราเป็นชาวพุทธช่วงไหนที่จิตมีสมาธิก็อธิฐานขอให้ลูกได้พบหนทางรักษาที่ถูกต้องด้วยเถิดจะได้หยุดยาแก้ปวดนี้เสียที ชีวิตที่เหลืออยู่นี้จะขวนขวายทำแต่ความดี แล้วโชคก็มาถึง วันที่7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 ดร.พรพรรณและคุณเฉซึ่งเป็นญาติกับอาจารย์นิศา เชนะกุล ได้มาที่บ้านเพื่อไปกราบหลวงปู่ที่วัดเขาน้อย เขามาเห็นลูกชายป่วยเขาก็แนะนำให้ทานนมธัญญพืช และน้ำผักปั่นที่มีคุณค่าอาหารโดยทานนมธัญญพืชก่อนอาหารวันละ1แก้วและน้ำผักปั่นวันละ4-5แก้วทานได้20วันหมอก็ให้เจาะอีเอสอาร์ดูปรากฏว่าอีเอสอาร์ลดเหลือ36มม.ต่อชม.

ลูกชายก็ร้องออกมาว่าเขาคงรอดตายและหายได้จากการทานอาหารนี้ก็เริ่มมีกำลังใจรับประทานนมธัญญพืชและน้ำผักปั่นมากขึ้นกินนมธัญญพืชและน้ำผักปั่นอย่างละ6-7แก้วทุกวันและแช่น้ำร้อนสลับกับน้ำเย็นอย่างละ3นาทีและเริ่มไปอยู่วัดอีกเพื่อจะได้อยู่กับธรรมชาติ นอนหัวค่ำ(3ทุ่ม)และรับประทานเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด พอทานได้ 1เดือนก็หยุดยาทุกชนิด อีเอสอาร์ก็ลดลงเรื่อยๆ เหลือ 20มม.ต่อชม. ต่อมาก็เหลือ 12 ก็เท่ากับคนปกติ เจาะอีกครั้งหนึ่งก่อนไปเรียนวันที่1มิถุนายน 2541ค่าอีเอสอาร์เท่ากับ1มม.ต่อชม. เม็ดเลือดแดงจาก 33% เป็น 48% เม็ดเลือดขาวจาก 13500 ก็เหลือ 6500 พอไปเรียนได้ 5-6 เดือน เขาก็สามารถบริจาคเลือดให้กับโรงพยาบาลศิริราชได้ ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดแม้นเพื่อนหมอด้วยกันก็รู้สึกเหมือนปาฎิหาริย์ใครจะคาดคิดว่าจะหายจากโรคด้วยอาหาร




(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line17/reply-00000028350.gif)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกข้าพเจ้าป่วยด้วยโรคร้ายแรงแล
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 12 เมษายน 2553 08:40:34

(http://look4health.emarket.sme.go.th/ezcatfiles/look4health/img/pictures/n/N-025_S_nutrition_side.jpg)
(http://www.n3k.in.th/images/stories/0/women/health/1-113.jpg)

ข้าพเจ้าจึงต้องการเผยแพร่ให้ผู้ที่มีอาการปวดข้อเรื้อรังลองมาดื่มน้ำผักปั่น และนมธัญพืช อย่างละ8-12แก้วต่อวันเพื่อไม่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากในการซื้อยาแก้ปวดข้อและยาป้องกันโรคกระเพาะอาหารเป็นแผล ซึ่งต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศทำให้เสียดุลย์การค้าระหว่างประเทศ และให้นอนแต่หัวค่ำ 3ทุ่ม ทำจิตใจให้เบิกบาน นั่งสมาธิ ถ่ายอุจจาระทุกวันโดยกินอาหารที่มีกากใย ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านขบวนการปรุงแต่ง ได้แก่เมล็ดธัญพืช ผักสด ผลไม้สด ไข่ขาว ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ สัตว์ปีก กินแต่เนื้อ ปลาโดยนึ่งหรือต้มไม่ควรทอด เพราะจะมีไขมันมาก ไม่กินอาหารกระป๋องเพราะต้อง ผ่านขบวนการปรุงแต่ง ทำให้เสียคุณค่าอาหาร ไม่นอนอยู่ใกล้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยอย่าให้มีเครื่องทีวี ,วิทยุ,เครื่องคอมพิวเตอร์และตู้เย็นอยู่ในห้องนอน ออกกำลังกาย ทำกายภาพบำบัด เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อลีบ ก็อาจหายจากโรคปวดข้อเรื้อรังและไม่มีความพิการของแขนขาข้างที่ปวดข้อได้โดยปกติ

(http://www.look4thailand.com/healthy/wp-content/uploads/2009/10/IMG_9434.JPG)

สูตรน้ำผักปั่น

ผักกาดหอม 2 ใบ (กล้ามเนื้อกระดูก เส้นเอ็น และทำให้ปอดแข็งแรง)
คื่นฉ่าย 2 ก้าน (ช่วยการหมุนเวียนโลหิตและหลอดเลือดแข็งแรง)
มะเขือเทศ 1 ลูก (เม็ดเลือดแข็งแรง)
หอมใหญ่ 1/4 ลูก ( หัวใจ แข็งแรง)
น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ ( ให้พลังงานรวม)
มะนาว 1 ลูก (ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน)
แอปเปิ้ล 1 ลูก (ให้พลังงานสำรองม้ามสูงมาก)
น้ำเปล่า 2-4 แก้ว

วิธีล้างผัก
ข้อควรระวังเรื่องการล้างสารพิษตกค้าง


น้ำส้มสายชู 1ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1ลิตร แช่ผัก 1 กก. นาน 45 นาที กรณีพืช ผักและผลไม้มากควรใช้อ่างใบใหญ่ และแช่พืช ผักในอ่างที่ผสมน้ำส้มสายชู แล้ว เมื่อล้างเสร็จแล้วปั่นกินได้เลยผักที่เหลือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ปั่นวันหลัง

ปั่นส่วนผสมทั้งหมดแล้วต้องกินทันทีถ้าจะเก็บไว้กินต้องแช่ตู้เย็นไว้ ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 1วัน


สูตรนมธัญพืช

1. เม็ดบัว 1 ส่วน

2. ลูกเดือย 1 ส่วน

3. ข้าวกล้อง 1 ส่วน

วิธีทำ

แช่เม็ดบัว และลูกเดือยในน้ำร้อน 2 ชม. แล้วนำไปต้มจนสุกประมาณ ครึ่งชม. หุงข้าวกล้องจนสุก แล้วเอามาอย่างละ1 ขีดหรือ 100 กรัม ปั่นจนเข้ากันดีใส่น้ำสะอาดต้มสุกพออุ่นพร้อมกัน จะได้นมธัญพืชที่มีคุณค่าอาหารดื่มได้เลย แต่มันจะจืด ถ้าใส่นมไวตามิ้นคนให้เข้ากันจะได้นมธัญพืชที่หวานตามจำนวนที่ใส่ตามต้องการ ถ้าต้องการเก็บเม็ดบัวและลูกเดือยที่ต้มสุกแล้วเอาไว้ปั่นกับข้าวกล้องวันหลังให้แช่ไว้ตู้เย็นช่องแข็งจะเก็บไว้ได้นาน




(http://diary.yenta4.com/diary_folder/82329/82329_uploaded/Line/line1/59990.GIF)



เอกสารอ้างอิง

ดร. รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์ ความรู้เบื้องต้นเรื่องสุขภาพและธรรมชาติ
โดยชมรมบ้านสุขภาพสมุทรปราการและระยอง

เอกสารเผยแพร่ ปี 2540
โทร 02-3944267  

Credit by : http://hospital.moph.go.th/Bureerum/myson.html (http://hospital.moph.go.th/Bureerum/myson.html)
Pics by : Google

ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย
อนุโมทนาค่ะ



(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line17/reply-00000028348.gif)




หัวข้อ: Re: เมื่อลูกข้าพเจ้าป่วยด้วยโรคร้ายแรงและเรื้อรัง
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 12 เมษายน 2553 09:10:23



(:SY:) (:SY:) (:SY:)



(http://img1.imagehousing.com/100411/13629dacbc8af204d1192575d3477669.gif)