[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 พฤษภาคม 2567 00:58:20 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: KAGUYAHIME ( คากุยาฮิเมะ )  (อ่าน 3018 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.8 Firefox 3.6.8


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2553 23:50:49 »



KAGUYAHIME ( คากุยาฮิเมะ )/ เจ้าหญิงต้นไม้ไผ่

แปลและเรียบเรียงโดย : สุขุมาลย์..
           
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว  ในหมู่บ้านที่สงบเงียบแห่งหนึ่ง   
มีตากับยายอาศัยอยู่กันสองคนผัวเมีย...
ตาและยายมีอาชีพสานตระกร้าไผ่ขาย   

ทุก ๆ วันตามีหน้าที่ไปตัดไผ่บนเขาเอามาให้ยาย   
แล้วยายก็เอาไผ่ที่ตาหามาให้มาสานเป็นตระกร้า
เป็นอย่างนี้เรื่อยมาและเมื่อยายสานตะกร้าได้มากแล้ว       
ตาก็จะเป็นผู้นำเอาไปขายในเมือง     
ตระกร้าของยายกับตามีชื่อเสียงมาก 
เพราะตาเข้าใจเลือกไม้ไผ่ จะเรียกได้ว่า
วิธีเลือกไม้ไผ่ของตาเก่งยิ่งกว่ามืออาชีพเสียอีก...


           
 วันหนึ่งตาขึ้นเขาเพื่อไปตัดไม้ไผ่ตามปกติ   
ขณะที่ตาเดินเลือกไม้ไผ่อยู่ในดงไผ่   
ตาเหลือบไปเห็นต้นไผ่ประหลาดอยู่ต้นหนึ่ง
ที่โคนของต้นไผ่มีแสงอะไรก็ไม่รู้เป็นประกาย
วูบวาบ...วูบวาบส่องแสง เรืองรองอยู่

"..อะไรกันนี่  ต้นไผ่ประหลาด มีแสงประหลาด ดี...วุ้ย.." ตาอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
       
ว่าแล้วด้วยความที่ตาอยากจะรู้ว่ามันมีอะไรอยู่ข้างในถึงส่องแสงได้    ตาจึงตัดต้นไผ่ต้นนั้นทันที...
       
พอไผ่แยกออกจากกัน   ตาก็ต้องเบิกตาจนโต   
แล้วเอามือทาบอกด้วยความตกใจเพราะตรงรอยแยกที่โดนตัดออกไป   
ปรากฏมีเด็กหญิงตัวน้อยน่ารัก หน้าตาผ่องใสสวยงามนอนมองตาอยู่   
ตามองตะลึงตะลานกับความสวยงาม   น่าเอ็นดูของแม่หนูน้อย   
ถ้าจะให้ตาเปรียบเทียบอะไรกับความงามที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้แล้ว   
ตาคงจะเปรียบความสวยงามและความน่ารักของแม่หนูน้อยผู้นี้ว่า
สวยงามยิ่งกว่าพระจันทร์เต็มดวงที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้านั่นเสียอีก



"..ทำไมถึงสวยงาม  น่าเอ็นดู แบบนี้นะ.."
ตารีบอุ้มเด็กหญิงคนนั้นอย่างทนุถนอม    แล้วตรงดิ่งกลับมาบ้าน
 พอมาถึงประตูบ้าน    ตาก็ตะโกนเรียกยายด้วยเสียงอันดัง   
ด้วยความดีใจและตื่นเต้นอย่างเหลือทน

"..ยายๆ..มาดูอะไร นี่สิ..เด็กคนนี้เกิดมาจากต้นไผ่ข้าเห็นมากับตาของข้าเลยแหละ..ยาย!!!!......."

"..โอ้..โอ้..โอ้..ทำไม..สวยงามน่าเอ็นดู อย่างนี้..ล่ะตา.." ยายให้เป็น ดีอกดีใจ..

"..เราไม่มีลูก พระเจ้าคงเมตตาประทานลูกมาให้เรานะตา.."   
ทั้งสองนึกขอบคุณพระเจ้าที่มอบสิ่งที่น่ายินดีที่สุดอันนี้มาให้..
           
ตายายทั้งคู่ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงดูเด็กหญิงที่เกิดมาจากต้นไผ่
ประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหินก็ว่าได้
 แล้วเด็กที่พระเจ้าประทานมาให้ตาและยาย    ก็โตวันโตคืน
 ยิ่งโตก็ยิ่งสวย   ยิ่งโตก็ยิ่งงามเลิศสวยอย่างไม่มีที่ติ   
ตาและยายเห็นลูกสาวสวยงามก็อยากจะหาซื้อเสื้อเสื้อผ้าดีๆ ให้ลูกสาวสวมใส่
แต่ตากับยายเป็นคนยากจน จึงไม่มีเงินทองมากมายพอที่จะซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้ได้

โบว์ โบว์ โบว์ โบว์ โบว์
           
แต่แล้วในวันหนึ่งขณะที่ตากำลังตัดต้นไผ่อยู่   ก็มีเสียงดัง
 "..จา..ริ้ง.... กริ้ง......." ดังมาจากต้นไผ่
แล้วก็มีเงินทองมากมายไหลออกมา



"..ไชโยๆๆ..มีเงินซื้อ เสื้อผ้าได้แล้ว...ไชโยๆๆ...."
ตาร้องด้วยความดีใจเมื่อตามีเงินทองมากมายแล้ว
 ก็รีบหาซื้อเสื้อผ้าให้ลูกสาวมากมายและเมื่อลูกสาวได้สวมใส่เสื้อผ้าราคา
แพง   ก็มีราศรียิ่งสวยงามมากขึ้นไปอีกหลายเท่า
และจากนั้นพอลูกสาวโตขึ้นมาอีกนิด เงินทองก็ไหลออกมาจากไผ่ให้ตาทีหนึ่ง
 พอโตขึ้นมาอีกหน่อยเงินทองก็ไหล ฃออกมาจากไผ่ให้ตาทีหนึ่ง
เป็นอยู่อย่างนี้มาตลอด..เหมือนต้นไผ่จงใจจะมอบเงินทองให้ตา
เพื่อที่จะให้เป็นค่าเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมาจากต้นไผ่คนนี้
อย่างไรอย่างนั้นเลย  ตาและยายจึงกลายเป็นผู้ร่ำรวยขึ้นมาทันตาเห็น
ทั้งสองมีใจเมตตาปราณีเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นใครตกทุกข์ได้ยากก็จะแบ่งเงินทองทีได้มาจากต้นไผ่แบ่งแจกจ่ายให้เสมอ

 
     
ความสวยงามของเด็กที่เกิดมาจากต้นไผ่ผู้นี้ขึ้นชื่อลือชาไปทั่ว
จนใคร ๆ ตั้งฉายาให้กับนางว่า "...คากุยา ฮิเมะ.."
คือสวยเหมือนแสงของพระจันทร์เต็มดวง  เป็นเจ้าหญิงแห่งความสวยงาม 
มีคนมากมายดั้นด้นกันมาจากทั่วทุกสารทิศ  เพื่อมาขอยลโฉมความงามของคากุยา
ฮิเมะกันสักครั้ง   และเมื่อได้เห็นแล้ว.   

"..ขอ คากุยา ฮิเมะ ให้เป็นภรรยาของข้าเถิด.."
พวกผู้ชายที่ได้เห็นคากุยา ฮิเมะจะพูดกันแบบนี้ทุกคนไป นั่นแหละ...
 
ยายจึงเข้าไปหาและแอบกระซิบบอกกับคากุยาฮิเมะว่า

"ตากับยายน่ะรักและเป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน
การที่เจ้าจะต้องแต่งงานและออกเรือนไปนั้น
ตากับยายก็แสนจะขื่นขมและทรมานใจเป็นที่สุด
มีอยู่อย่างเดียวที่ตากับยายหวังก็คือ
อยากจะให้เจ้ามีความสุข มาก ๆ อย่างเดียวเท่านั้นจริง ๆ "
           
คากุยา ฮิเมะ ยังไม่มีความคิดที่จะมีคู่
นางจึงออกกลอุบายบอกกับลูกชายของเจ้าเมืองและมหาเศรษฐีทั้งห้าคนว่า

"..เอาอย่างนี้แล้วกันถ้าผู้ใด อยากจะได้ข้าเป็นภรรยา
ผู้นั้นจะต้องไปหาของกำนัลที่ข้าต้องการมากำนัลให้กับข้าได้เป็นคนแรกแล้ว
ข้าจะยอมเป็นภรรยาของผู้นั้นทันที..." 

ลูกชายของเจ้าเมืองและมหาเศรษฐีทั้งห้าคน
เมื่อได้ฟังชื่อของของกำนัลที่คากุยา ฮิเมะต้องการแล้ว
ก็รีบออกเดินทางไปหาของกำนัลเหล่านั้นในทันที
           
คนแรกมีนามว่า " อิชิ สุคุรี โนะ มีโกะ " นางให้ไปที่ "เท็น ชิ คุ" (ประเทศอินเดีย)
ให้ไปเอา "อิ ชิ โนะ ฮะ จิ" (อ่างหินของพระพุทธเจ้า) มากำนัลนาง
         
อิชิสุคุรี โนะมิโกะ เดินทางไป
แต่ไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นก็ต้องย้อนกลับ   
เพราะระยะทางไกลมาก
 
ความที่ชายหนุ่มยังไม่หมดความพยายามเรื่องอยากจะได้
คากุยาฮิเมะ..จึงไปเอา "อิ ชิ โนะ ฮา จิ " ของปลอมกลับมาให้กับคาคุยา ฮิเมะ..
           
แต่เมื่อนางได้เห็นอ่างหินของ อิชิ สุคุรี โนะ มีโกะ เท่านั้น   
นางก็รู้ทันทีว่าเป็นของปลอม   "อ่างหิน ของพระพุทธเจ้าน่ะ...ไม่เปลื้อนโคลนตมอย่างนี้หรอก
จะต้องส่องแสงเป็นประกายสวยงาม อันนี้เป็นของปลอม
 
เมื่อท่านเอาของปลอมมาหลอกข้า
ข้าจึงมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการเป็นภรรยาของเจ้าได้
ท่านจงกลับไปเถิด......."     
อิชิสุคุรี โนะ มีโกะ ให้เป็นเสียใจกับการกระทำของตน
จึงจำยอมถอยกลับเมืองไปเป็นคนแรก........
         
แล้วก็มาถึงคนที่สองมีนามว่า " คุรา โมจิ โนะ มิโกะ " นางให้ไปที่ "โฮราย ยามา " 
ให้ไปเอา " ทามะ โนะ เอ ดะ " (กิ่งไม้ทอง ที่ออก ดอก เป็นลูกแก้ว)มากำนัล   

ชายหนุ่มก็ออกเรือเดินทางไปโฮรายยาม่า   
แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะไปหาทามะ โนะ เอดะได้ที่ไหน   หาอยู่นานก็ไม่พบ
ชายหนุ่มจึงออกอุบายโดยป่าวประกาศหาช่างผีมือ
รวบรวมช่างฝีมือได้หลายคนและว่าจ้างให้ประดิษฐ์ทามะ โนะ เอดะของปลอมให้
และด้วยความเก่งกาจของช่างฝีมือทั้งหลาย  ทามะ โนะเอดะ
ก็ออกมาได้อย่างสวยงามประณีต มองอย่างไรก็มองไม่ออกว่าเป็นของปลอม....

คุรา โมะจิ โนะ มิโกะก็รีบเอา "ทามะ โนะ เอดะ "
ที่สร้างเสร็จมาให้กับ คากุยา ฮิเมะ
และคิดว่านางคงไม่มีทางมองออกว่าเป็นของปลอมได้ จึงรีบทวงสัญญา
และก็เป็นอย่างที่ชายหนุ่มคิด   เพราะ คากุยา ฮิเมะ ก็ไม่สามารถมองออกว่า
เจ้าทามะ โนะ เอดะ ที่วางอยู่ข้างหน้านางนี้เป็นของปลอมหรือของจริง   

ความที่นางยังไม่อยากมีคู่
นางจึงคิดอุบายบอกของกำนัลที่ไม่มีทางที่จะหาได้ 
แต่เมื่อมีคนหามาให้นางจนได้   

นางจึงนั่งอึ้ง   
คราวนี้เห็นทีว่านางจะต้องจำยอมเป็นภรรยาของคุรา โมะจิ โนะ มิโกะแน่แล้วหรือไฉน       
และแล้วขณะที่ คากุยา ฮิเมะ กำลังจนแต้ม
หาข้อปฏิเสธไม่ได้อยู่นั้น   

พวกช่างฝีมือ ที่สร้าง ทามา โนะ เอดะ
ก็ยกพวกแห่กันออกมาและตรงเข้าต่อว่าต่อขาน คุรา โมะจิ โนะ มิโกะกันใหญ่ว่า 

"พวกเราสร้างทามะ โนะ เอดะ ให้กับเจ้าแล้ว
แต่พวกข้าทาส บริวารของเจ้าไม่ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้กับพวกเรา   
เจ้าเป็นผู้สั่งให้ทำ ฉะนั้นจงรีบจ่ายค่าเหนื่อยมาให้กับพวกเรา เดี๋ยวนี้ !!!!!!......"
           
แล้วเรื่องก็แตกเข้าจนได้คากูยา ฮิเมะ จึงรอดตัวไปอีกหน....
           
คนที่สามมีนามว่า " อาเบ้ โนะ มีมูระจี่ " 
นางสั่งให้ไปที่ " โมโรโกะชิ โนะ คุนิ"  (ประเทศจีน)
ให้ไปหา"ฮี เนสึมิ โนะ คาวา โคโลโม" ( เสื้อที่ทำมาจาก ขนของหนูไฟ)  มากำนัล   
       
ชายหนุ่มไม่ได้ไปด้วยตัวเอง
แต่ทุ่มเทเงินทองมากมายจ้างวานให้ข้าทาษบริวารไปหามาให้
แล้วข้าทาษบริวารก็ออกเดินทางไป โมโรโกะชิ โนะ คุนิ
ตามคำสั่งและแล้วจากนั้นมาหลายเดือนพวกข้าทาษบริวารก็กลับมา
พร้อมด้วย  "ฮี เนสึมิ โนะ คาวา โคโลโม"  ที่คากุยา ฮิเมะต้องการเป็นของกำนัล

"โอ้ โอ้..นี้หรือเสื้อที่ทำมาจากขนของหนูไฟ 
ข้าชนะแล้ว   ฮ่าๆๆๆ...คาคุยาฮิเมะจะต้องเป็นของข้า ฮ่าๆๆๆ"
 อาเบ้ โนะ มีมูระจี่ให้เป็นดีอกดีใจอย่างเหลือคณานับ   รีบเอาฮีเนสึมิ
โนะคาวา โคโลโมมาให้คาคุยาฮิเมะและเมื่อนางได้เห็นเสื้อตัวนั้นก็เอ่ยว่า   

" เอาเสื้อที่เจ้าบอกว่าเป็น ฮีโนะ เนสึมิ โนะ คาวา โคโลโมตัวนี้ลงเผาไฟ   
ถ้าไม่ไหม้ก็คงจะต้องเป็นของจริง"
         
แล้วอาเบ้ โนะ มีมูระจี่ ก็เอาฮีเนสึมิ โนะคาวา
โคโลโมเผาไฟทันที   แต่เมื่อโดนไฟเข้าเท่านั้น 
ก็มอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไปต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว           
อาเบ้ โนะ มีมูระจี่จึงจำต้องถอยออกไปอีกคนหนึ่ง
       
คนที่สี่ชื่อ " โอโตโม่ โนะ ไดนาคอง"
นางสั่งให้ไปหาสร้อยลูกแก้วห้าลูกที่มีประกายแสงแวววาวของพญานาคมากำนัล
และพญานาคตัวนี้อาศัยอยู่ในทะเลเป็นเทพเจ้าแห่งทะเล     
ชายหนุ่มออกเรือไปในทันที   
ชายหนุ่มคิดการใหญ่โตจะไปพิชิตพญานาคแย่งเอาสร้อยลูกแก้วมาให้ได้
         
หลายเดือนผ่านไปกับการเดินทาง 
แล้ววันหนึ่งเรือก็โดนพายุมรสุมพัดกระหน่ำอย่างหนัก
เรือโอนเอนไปตามลมมรสุมที่มากระทบ จนน่ากลัวว่าจะล่มแน่แล้ว

"โอ้ย..ช่วยด้วย..ช่วย พวกข้าด้วย !!!!!!!..."   
พวกลูกเรือร้องกันให้ระงมด้วยความรักตัวกลัวตาย
         
โอโตโม่ โนะ ไดนาคองรีบเกาะขอบเรือเอาไว้แน่นตัวสั่นไปหมด
เพราะความกลัว แล้วอยู่ ๆ

กัปตันประจำเรือก็ตะโกนแข่งกับพายุที่กำลังโหมกระหน่ำว่า

"..เพราะท่านมีความคิดที่ผิดคิดลบหลู่จ้าวแห่งทะเล 
ท่านคิดอาจหาญเกินกาล  จึงโดนลงโทษ   พวกเราต้องตายกันแน่ ๆ คราวนี้ !!!!!!!!..."
         
เมื่อ โอโตโม่ โนะ ไดนาคอง
ได้ฟังดังนั้นความกลัวตายและคิดเหมือนที่กับตันเรือพูดว่า เทพเจ้าแห่งทะเล
ทรงพิโรธจึงนั่งลงก้มกราบขอโทษ  "..ข้าคิดผิดไปแล้ว ..ยกโทษให้กับข้าด้วย.."

และในทันทีที่ชายหนุ่มกล่าวขอโทษจบลง เหมือนปาฏิหาริย์
พายุมรสุมก็กลับหยุดสงบนิ่งเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เมื่อจำต้องกลับมาทั้งมือเปล่า   โอโตโม่ โนะ ไดนาคอง
จึงไม่กล้ากลับไปหาคากุยา ฮิเมะ และจำต้องถอยกลับไปอีกคนตามระเบียบ......
           
คนสุดท้ายมีนามว่า "อิโซโนะ คามิ"   
นางให้ไปเอา  "โค ยะซุ่ย ไค"
(เป็นเปลือกหอยชนิดหนึ่งเป็นของ สำคัญของนกนางแอ่นจะซ่อนเอาไว้ในรัง
เชื่อกันว่าถ้าได้ครอบครองจะอธิฐานขออะไรก็ได้)  มากำนัล
         
ชายหนุ่มเที่ยวหาค้นตามรังนกนางแอ่นไปทั่วเมือง 
ก็มาเจอะรังนกนางแอ่นรังหนึ่งอยู่บนชายคาของปราสาทหลังหนึ่ง 
ด้วยรังนกนางแอ่นรังนี้อยู่สูงมาก  อิโซโนะคามิ
จึงสร้างกระเช้าเทียบไม้แล้วปีนขึ้นไป

แล้วขณะที่ชายหนุ่มกำลังขมักขเม้นควานล้วงหาโคยะซุ่ยไค อยู่ 
สายเชือกที่ผูกกระเช้าเกิดขาดหลุดจากกัน 
ชายหนุ่มเลยหล่นลงมากระแทกลงกับพื้นอย่างแรง   
ทำให้บาดเจ็บสาหัส เกือบตายก็ว่าได้ 
เลยไม่สามารถที่จะหาของกำนัลต่อไปได้
         
ตามเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นของชายหนุ่มทั้งห้าคน   
ทุก ๆ คนทำผิดพลาด ไม่มีใครทำได้สำเร็จเลยสักคน   
ทุก ๆ คนก็จำต้องยอมเลิกราและเลิกหวังที่อยากจะได้คากุยา ฮิเมะ เป็นภรรยาิ 
ต่างถอยทัพกลับไปหมดทุกถ้วนหน้า     

คากุยา ฮิเมะจึงได้กลับมาสู่ความสงบเงียบและความสุขแบบเก่า ๆ
ที่เคยได้รับอีกวาระหนึ่ง  นางให้สุดแสนจะดีใจเป็นอย่างที่สุด....
แต่ความสวยงามของคากุยาฮิเมะนั้นก็ยังคงล่ำลือต่อไปเรื่อย ๆ 
จนในที่สุดก็ไปเข้าถึงพระโสตของ มิกาโด  โชกุนผู้ครองนครเข้า
           
มิกาโดโชกุนจึงสั่งให้ทหารถือสารมาที่ปราสาทของคากุยาฮิเมะ   
ในพระราชสารมีเนื้อความว่า 
ต้องการที่จะได้คากุยาฮิเมะเป็นสนมอีกคนหนึ่ง
ถ้าตากับยายยกให้ ตนผู้เป็นถึงโชกุนเจ้าครองนครแล้วก็จะแต่งตั้งให้ตาได้เป็นอำมาตย์
และได้เข้าไปอาศัยอยู่ในวัง รับรองว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายจนตลอดชีวิต
           
ตาและยายเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ
ตาถึงกับรำพึงว่า " ข้านี่น่ะหรือ? จะได้เป็นถึงอำมาตย์ทีเดียว "
         
แต่ คากุยา ฮิเมะ นั้นถึงกับนั่งก้มหน้าลงร้องให้คร่ำครวญ เสียใจอย่างสุดที่จะประมาณได้ 
" ยายจ๋า..ตาจ๋า ..ได้โปรดเถิด อย่าให้ข้าจำต้องจากที่นี่ไปเลย ให้ข้าได้อยู่ใกล้ ๆ ตากับยายเถิด"   
ยายเมื่อได้ฟัง คากุยาฮิเมะคร่ำครวญเช่นนั้น

"โถ โถ..ลูกรักเราสองคนไม่หวังความร่ำรวยอะไรเลยสักนิด
เอาตามความต้องการของเจ้าเป็นที่ตั้งนั่นแหละดีที่สุด...
อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้สิ "
ตากับยายจึงตอบปฏิเสธการที่จะให้คากุยาฮิเมะเป็นสนมของมิกาโดโชกุนไปแต่ในวันนั้น.....
       
แล้วเวลาแห่งความสุขก็ผ่านมาเรื่อยๆ     
จนฤดูใบไม้ผลิกลับมาเยือนอีกวาระหนึ่ง     
บนท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้แลเห็นดวงจันทร์ส่องแสงเรืองรองสวยงาม
แช่งกับเสียงของแมลงที่หรีดหริ่งเรไรกันให้เจื่อยแจ้วมาจากสวนในปราสาท 
แต่คากุยา ฮิเมะไฉนเล่า  ในช่วงนี้เวลานางเห็นดวงจันทร์บนท้องฟ้า   
นางจะทอดถอนใจและร่ำไห้น้ำตานองหน้า
         
ตาเอ่ยถามยายว่า "คากุยา ฮิเมะเป็นอะไร  เจ็บไข้ได้ป่วยหรือไฉน"
ตาและยายเห็นอาการแบบนั้นของนาง ก็ให้เป็นห่วงเหลือประมาณ
 
แต่คากุยาฮิเมะก็ยังคงมองดวงจันทร์และร่ำให้เสียอกเสียใจทุกค่ำคืนเรื่อย
มา   แล้วตากับยายก็สุดที่จนทนมองดูนางร้องให้อยู่ได้     
"..ทำไมเวลามองดวงจันทร์แล้ว  เจ้าถึงเศร้าโศกเสียใจมากมายอย่างนั้น.."
       
คากุยา ฮิเมะจึงกล่าวกับตาและยายด้วยน้ำตานองหน้าว่า....
"ข้ามีชาติกำเนิดมาจากดวงจันทร์  เขากำหนดให้ข้ามาเติบโตที่บนโลกนี้   
แต่ในคืนยือ โกะ ยา (วันที่ดวงจันทร์ขึ้นเต็มดวง) ที่จะมาถึงคราวหน้านี้ 
ฮื่อ ๆ ๆ เขาจะจัดขบวนมารับข้ากลับ  ฮื่อๆ ๆ  ข้ายังอยากจะอยู่ที่นี่   
แต่มันเป็นข้อกำหนด เขากำหนดให้ข้าอยู่ได้เท่านี้  ฮื่อ ๆ ๆ
ข้าจำเป็นจะต้องกลับไป  ฮื่อ ๆ ๆ ๆ........

   
   
ตาและยายตกใจกับการที่คากุยาฮิเมะจำจะต้องจากไปและอยากจะหาทางปกป้อง   
จึงนำเรื่องทั้งหมดไปกราบทูลมิกาโด (โชกุนผู้ครองเมือง)     
มิกาโดโชกุนผู้นี้ก็มีความหวังที่อยากจะได้ คากุยา ฮิเมะมาเป็นสนมอยู่ก่อนแล้ว
ก็ให้เป็นตกกระใจ จัดการให้พวกทหารประจำเมืองไปตั้งป้อมคุ้มครองปราสาทของคากุยา ฮิเมะ
 
และแล้วคืนดวงจันทร์เต็มดวงยือโกะยาก็มาถึง   อยู่ ๆ
ก็มีแสงสาดส่องเป็นลำลงมาจากดวงจันทร์ 
บนแสงที่ส่องลงมานั้นมีขบวนรับกลับของนางฟ้า นั่งอยู่บนก้อนเมฆลอยต่ำลงมา
             
พวกทหารประจำเมืองที่ได้รับคำสั่งจาก มิกาโด
โชกุนให้ปกป้อง คากุยา ฮิเมะ
ก็ยิงธนูเข้าสาดใส่ขบวนนางฟ้ากันให้อย่างจัาละหวั่น..แล้ว....

"ปี..ก๊าตโตะ..ปิกะ..ปิกะ..."
เป็นแสงสว่างจ้าเหมือนแสงฟ้าผ่าก็สาดเข้าตาของทหารที่กำลังตั้งหน้าตั้งตา
ระดมยิงธนูกันอยู่นั้น    อะไรกันนี่
 
ทหารทุกคนจำต้องยอมหยุดการยิงธนูลงอย่างกระทันหัน
เพราะตาของทหารทั้งหมดทุกคนมองไม่เห็นอะไรกันเลย ให้ตายเถอะ
         
ตาและยายเห็นเหตุการณ์ุที่เกิดขึ้นว่า   ทหารต้องแพ้แน่นอนแล้ว 
จึงรีบวิ่งออกมาอ้อนวอนทั้งน้ำตากับขบวน นางฟ้าว่า

"....ได้โปรดอย่านำ คากุยา ฮิเมะกลับไปเลย  ได้โปรดเถิด  ฮื่อ ๆๆ.." 
แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะหยุด การจากไปของคากุยา ฮิเมะครั้งนี้ได้
 
นางจำเดินตามและขึ้นนั่งบนแท่นที่เตรียมไว้ต้อนรับของขบวนนางฟ้าที่มารับจากดวงจันทร์...

"ตาจ๋า..ยายจ๋า..ข้าขอโทษ  ที่ไม่สามารถจะอยู่ที่นี่ กับตาและยายต่อไปได้..
ขอบคุณที่เลี้ยงดูข้าอย่างดีมาตลอด  ข้ามีความสุขมาก..ลาก่อน
ขอให้ตาและยายจงมีแต่ ความสุข ลาก่อน...."
     
แล้วขบวนนางฟ้าจากดวงจันทร์กับคากุยา ฮิเมะก็ค่อยๆลอยสูงขึ้น ๆ ช้า ๆ
มุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ ตาและยายแหงนคอมองขบวนของคากุยาฮิเมะด้วยความอาลัยอาวรอย่างที่สุด

"...ลาก่อน คากุยา ฮิเมะ.. ลาก่อน...."   ตาและยาย โบกมือลา....

" ลาก่อน..ตาและยาย   ลาก่อน .."



 คากุยา ฮิเมะเหลียวกลับมาโบกมือลาตาและยาย ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
แล้วคากุยา ฮิเมะกับขบวนนางฟ้าของดวงจันทร์ก็ค่อย ๆ
จางหายเข้าไปในดวงจันทร์ของคืนยือ โกะ ยาในที่สุด

ลาก่อน.....คากุยา ฮิเมะ

ลาก่อน  เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ลาก่อน.........
       
และแล้วข่าวลือความสวยงามของคากุยา ฮิเมะ ก็กระฉ่อน 
จนไปเข้าหูของพวกลูกท่านหลานเธอของเจ้าเมืองตามแคว้นต่างๆ
และพวกมหาเศรษฐีทั้งหลายเข้าจนได้
           
มีลูกชายของเจ้าเมืองและมหาเศรษฐี มารุมแย่งขอคากุยา ฮิเมะทีเดียวรวมห้าคน

"ให้คากุยา ฮิเมะกับข้าเถอะ ข้าร่ำรวย นางจะอยู่อย่างสุขสบายและมีความสุข ข้าขอสัญญา..."
ตาและยายดีใจที่มีคนร่ำรวยและลูกผู้มีอำนาจมาเสนอยื่นความสุขและความสบายให้กับคากุยาฮิเมะ   
แต่เล่นมากันทีเดียวเลยตั้งห้าคน...

"..ข้ามีลูกสาวแค่คนเดียว ไม่รู้จะแบ่งให้ท่านจนครบทุกคนได้อย่างไร..."
ตาส่ายหน้า นั่งถอนหายใจกลุ้มใจอย่างเหลือกำลัง


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2553 23:55:04 »

คุ้น ๆ เหมือนเคยอ่านเจอในการ์ตูนญี่ปุ่น

แต่ไม่น่าใช่ในโดราเอม่อน เพราะโดราเอม่อนจะชอบพูดถึง โมโมทาโร่

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2553 02:03:10 »

คนวาดคนเดียวกะอิคคิวซังงงงงงงงงงงงงงงงง...........................................คร้าบบผม
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2553 02:18:59 »



ลานเส้นเหมือนจริง ๆ ด้วย


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.554 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 26 กุมภาพันธ์ 2567 15:24:31